18 มกราคม 2558 samart.วัฒน์ชัย ระบุ เป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท หนึ่งในนั้นคือ กลุ่มธุรกิจไอ-โมบาย 1 หมื่น 3 พันล้านบาท มีแผนเปิดตัวมือถือ i-mobile สมาร์ทโฟน 25 รุ่น
ประเด็นหลัก
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท จะมาจากสายธุรกิจกลุ่มไอซีที 1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น ร้อยละ 40 /กลุ่มธุรกิจไอ-โมบาย 1 หมื่น 3 พันล้านบาท จะเน้นกลยุทธ์ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยจะพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการคอนเทนต์ในรูปแบบเจาะกลุ่ม และมีแผนเปิดตัวมือถือไอ-โมบาย สมาร์ทโฟน 25 รุ่น คาดว่ากำไรของกลุ่มไอซีที และไอ-โมบายจะทำสถิติสูงสุดในปีนี้ รวมทั้งธุรกิจอื่น รวมกันอีก 7,000 ล้านบาท และจะลงทุนในรูปแบบพลังงานดั้งเดิม จากโรงไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกจากขยะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานน้ำ โดยเจรจากับรัฐบาลลาว และพลังงานแสงอาทิตย์ อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทสามารถยู-ทรานซ์
_____________________________________________________
กลุ่มสามารถเล็งขยายธุรกิจหนุนดิจิตอลอีโคโนมี-4G
กลุ่มสามารถ เตรียมขยายธุรกิจด้านเทคโนโลยี ขานรับนโยบายดิจิตอลอีโคโนมี การเข้าสู่เออีซี และ4จี ขณะที่ ปี 2558 ตั้งเป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท จากกลุ่มไอซีที ไอ-โมบาย ส่วนกลุ่มซอฟต์แวร์ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาล...
ในปี 2558 บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น มีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการขนส่ง หรือ ยู-ทรานส์ อย่างชัดเจน โดยตั้งเป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 2557 ร้อยละ 20-30 จากปัจจัยการผลักดันเศรษฐกิจผ่านนโยบายดิจิตอล อีโคโนมีของภาครัฐ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี แนวโน้มการขยายเครือข่ายการสื่อสารจาก 3จี สู่ 4จี และทีวีดิจิตอล
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท จะมาจากสายธุรกิจกลุ่มไอซีที 1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น ร้อยละ 40 /กลุ่มธุรกิจไอ-โมบาย 1 หมื่น 3 พันล้านบาท จะเน้นกลยุทธ์ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยจะพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการคอนเทนต์ในรูปแบบเจาะกลุ่ม และมีแผนเปิดตัวมือถือไอ-โมบาย สมาร์ทโฟน 25 รุ่น คาดว่ากำไรของกลุ่มไอซีที และไอ-โมบายจะทำสถิติสูงสุดในปีนี้ รวมทั้งธุรกิจอื่น รวมกันอีก 7,000 ล้านบาท และจะลงทุนในรูปแบบพลังงานดั้งเดิม จากโรงไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกจากขยะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานน้ำ โดยเจรจากับรัฐบาลลาว และพลังงานแสงอาทิตย์ อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทสามารถยู-ทรานซ์
ด้าน นายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถเทเลคอม กล่าวว่า พร้อมลงทุนด้านเทคโนโลยี ในส่วนโครงสร้างพื้นฐานด้านซอฟต์แวร์ ที่เป็นหนึ่งในโครงสร้างของดิจิตอลอีโคโนมี แต่ขอรอดูรายละเอียดและความชัดเจนของภาครัฐก่อน.
http://www.thairath.co.th/content/475492
____________________________
ตั้งเป้ารายได้แสนล้าน "สามารถ"ฉลอง60ปีบุกธุรกิจใหม่
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2558 เป็นปีที่สามารถมีอายุครบ 60 ปี จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการประกาศตัวรุกเข้าสู่ธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานและขนส่ง (Utilities & Transportations) เต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจพลังงาน ธุรกิจควบคุมการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Control) และธุรกิจก่อสร้าง
“การแตกธุรกิจของกลุ่มสามารถจากโทรคมนาคมสู่ธุรกิจใหม่ เป็นการลดความเสี่ยง หลังเรามีประสบการณ์ในแวดวงโทรคมนาคมมากว่า 60 ปี พบว่าเป็นธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง และได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงตลอด รวมทั้งปัจจัยการเมือง ขณะที่ธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจพลังงาน หรือก่อสร้าง มีความมั่นคงมากกว่า ไม่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ตอนเริ่มต้นอาจยาก แต่เมื่อเดินหน้าได้แล้ว สามารถสร้างรายได้ให้อย่างมั่นคง”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มสามารถได้เปิดแถลงทิศทางธุรกิจในปี 2558 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 60 ปี จึงมีการประกาศแผนงานระยะยาวเป็นครั้งแรก ตั้งเป้ารายได้ภายในปี 2563 หรือภายใน 5 ปีข้างหน้า กลุ่มสามารถจะมีรายได้รวมแตะ 100,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องอาศัยการปรับโครงสร้างองค์กรอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นี้ การขยายงาน รวมทั้งขยายธุรกิจไปสู่แนวทางใหม่ๆ เพื่อการเติบโตให้ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้
นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า สำหรับปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นปีแห่งความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจ แต่กลุ่มสามารถก็สามารถทำยอดเติบโตของรายได้ราว 15% สูงกว่ารายได้ปี 2556 ที่ 22,434 ล้านบาท โดยตัวเลขชัดเจนต้องรอแจ้งผลประกอบการกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อน
ส่วนปีนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้ของกลุ่มสามารถจะทะลุ 30,000 ล้านบาท โดยจะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งสำคัญและสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง เพราะมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานและขนส่งอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจพลังงานโดยมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าจากขยะในหลายจังหวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษา รวมทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในกัมพูชาและลาว โดยปัจจุบันกลุ่มสามารถลงทุนโรงไฟฟ้าผลิตจากน้ำมันในกัมพูชา เพื่อป้อนโรงงานปูนซีเมนต์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ หากโครงการทุกอย่างเป็นไปตามเป้า ยอดการลงทุนของกลุ่มสามารถจะทะลุ 100,000 ล้านบาททันที เพราะจะเป็นการลงทุนในโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ระดับ 2,000 เมกะวัตต์ ถือเป็นการลงทุนที่สูงที่สุดนับแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยมีกำหนดประกาศเกี่ยวกับแผนการลงทุนอย่างชัดเจนภายในไตรมาสแรกของปีนี้.
http://www.thairath.co.th/content/475286
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท จะมาจากสายธุรกิจกลุ่มไอซีที 1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น ร้อยละ 40 /กลุ่มธุรกิจไอ-โมบาย 1 หมื่น 3 พันล้านบาท จะเน้นกลยุทธ์ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยจะพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการคอนเทนต์ในรูปแบบเจาะกลุ่ม และมีแผนเปิดตัวมือถือไอ-โมบาย สมาร์ทโฟน 25 รุ่น คาดว่ากำไรของกลุ่มไอซีที และไอ-โมบายจะทำสถิติสูงสุดในปีนี้ รวมทั้งธุรกิจอื่น รวมกันอีก 7,000 ล้านบาท และจะลงทุนในรูปแบบพลังงานดั้งเดิม จากโรงไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกจากขยะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานน้ำ โดยเจรจากับรัฐบาลลาว และพลังงานแสงอาทิตย์ อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทสามารถยู-ทรานซ์
_____________________________________________________
กลุ่มสามารถเล็งขยายธุรกิจหนุนดิจิตอลอีโคโนมี-4G
กลุ่มสามารถ เตรียมขยายธุรกิจด้านเทคโนโลยี ขานรับนโยบายดิจิตอลอีโคโนมี การเข้าสู่เออีซี และ4จี ขณะที่ ปี 2558 ตั้งเป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท จากกลุ่มไอซีที ไอ-โมบาย ส่วนกลุ่มซอฟต์แวร์ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาล...
ในปี 2558 บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น มีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการขนส่ง หรือ ยู-ทรานส์ อย่างชัดเจน โดยตั้งเป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 2557 ร้อยละ 20-30 จากปัจจัยการผลักดันเศรษฐกิจผ่านนโยบายดิจิตอล อีโคโนมีของภาครัฐ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี แนวโน้มการขยายเครือข่ายการสื่อสารจาก 3จี สู่ 4จี และทีวีดิจิตอล
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เป้ารายได้รวม 3 หมื่นล้านบาท จะมาจากสายธุรกิจกลุ่มไอซีที 1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น ร้อยละ 40 /กลุ่มธุรกิจไอ-โมบาย 1 หมื่น 3 พันล้านบาท จะเน้นกลยุทธ์ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยจะพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการคอนเทนต์ในรูปแบบเจาะกลุ่ม และมีแผนเปิดตัวมือถือไอ-โมบาย สมาร์ทโฟน 25 รุ่น คาดว่ากำไรของกลุ่มไอซีที และไอ-โมบายจะทำสถิติสูงสุดในปีนี้ รวมทั้งธุรกิจอื่น รวมกันอีก 7,000 ล้านบาท และจะลงทุนในรูปแบบพลังงานดั้งเดิม จากโรงไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกจากขยะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานน้ำ โดยเจรจากับรัฐบาลลาว และพลังงานแสงอาทิตย์ อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทสามารถยู-ทรานซ์
ด้าน นายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถเทเลคอม กล่าวว่า พร้อมลงทุนด้านเทคโนโลยี ในส่วนโครงสร้างพื้นฐานด้านซอฟต์แวร์ ที่เป็นหนึ่งในโครงสร้างของดิจิตอลอีโคโนมี แต่ขอรอดูรายละเอียดและความชัดเจนของภาครัฐก่อน.
http://www.thairath.co.th/content/475492
____________________________
ตั้งเป้ารายได้แสนล้าน "สามารถ"ฉลอง60ปีบุกธุรกิจใหม่
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2558 เป็นปีที่สามารถมีอายุครบ 60 ปี จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการประกาศตัวรุกเข้าสู่ธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานและขนส่ง (Utilities & Transportations) เต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจพลังงาน ธุรกิจควบคุมการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Control) และธุรกิจก่อสร้าง
“การแตกธุรกิจของกลุ่มสามารถจากโทรคมนาคมสู่ธุรกิจใหม่ เป็นการลดความเสี่ยง หลังเรามีประสบการณ์ในแวดวงโทรคมนาคมมากว่า 60 ปี พบว่าเป็นธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง และได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงตลอด รวมทั้งปัจจัยการเมือง ขณะที่ธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจพลังงาน หรือก่อสร้าง มีความมั่นคงมากกว่า ไม่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ตอนเริ่มต้นอาจยาก แต่เมื่อเดินหน้าได้แล้ว สามารถสร้างรายได้ให้อย่างมั่นคง”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มสามารถได้เปิดแถลงทิศทางธุรกิจในปี 2558 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 60 ปี จึงมีการประกาศแผนงานระยะยาวเป็นครั้งแรก ตั้งเป้ารายได้ภายในปี 2563 หรือภายใน 5 ปีข้างหน้า กลุ่มสามารถจะมีรายได้รวมแตะ 100,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องอาศัยการปรับโครงสร้างองค์กรอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นี้ การขยายงาน รวมทั้งขยายธุรกิจไปสู่แนวทางใหม่ๆ เพื่อการเติบโตให้ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้
นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า สำหรับปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นปีแห่งความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจ แต่กลุ่มสามารถก็สามารถทำยอดเติบโตของรายได้ราว 15% สูงกว่ารายได้ปี 2556 ที่ 22,434 ล้านบาท โดยตัวเลขชัดเจนต้องรอแจ้งผลประกอบการกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อน
ส่วนปีนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้ของกลุ่มสามารถจะทะลุ 30,000 ล้านบาท โดยจะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งสำคัญและสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง เพราะมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานและขนส่งอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจพลังงานโดยมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าจากขยะในหลายจังหวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษา รวมทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในกัมพูชาและลาว โดยปัจจุบันกลุ่มสามารถลงทุนโรงไฟฟ้าผลิตจากน้ำมันในกัมพูชา เพื่อป้อนโรงงานปูนซีเมนต์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ หากโครงการทุกอย่างเป็นไปตามเป้า ยอดการลงทุนของกลุ่มสามารถจะทะลุ 100,000 ล้านบาททันที เพราะจะเป็นการลงทุนในโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ระดับ 2,000 เมกะวัตต์ ถือเป็นการลงทุนที่สูงที่สุดนับแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยมีกำหนดประกาศเกี่ยวกับแผนการลงทุนอย่างชัดเจนภายในไตรมาสแรกของปีนี้.
http://www.thairath.co.th/content/475286
ไม่มีความคิดเห็น: