Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

22 มกราคม 2558 กสทช.ออกประกาศให้ผู้ใช้ซิมแบบเติมเงิน ลงทะเบียนซิมแสดงตัวตน ตั้งแต่ 1 ก.พ.-31 ก.ค.58 หากไม่มาลงทะเบียนซิมจะไม่สามารถใช้งานได้ โดยให้ค่ายมือถือตัดสัญญาณ

ประเด็นหลัก


   
       นอกจากนี้ กสทช.ยังได้เดินหน้าแก้ปัญหาผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน (พรีเพด) ที่ไม่ได้ลงทะเบียนแสดงตัวตนบางส่วนเพื่อนำเบอร์ดังกล่าวโทร.ไปหลอกลวงประชาชน หรือนำไปเป็นชนวนในการจุดระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจัง ด้วยการออกประกาศให้โอเปอเรเตอร์ทั้ง 5 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ต้องให้ลูกค้าระบบพรีเพดของแต่ละบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 90 ล้านเลขหมายที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน มาลงทะเบียนแสดงตัวตนให้เสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ หากประชาชนรายใดฝ่าฝืนโอเปอเรเตอร์สามารถตัดสัญญาณได้ทันที ทำให้ประชาชนโทร.ออกไม่ได้ ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ได้ เหลือเพียงการรับสายเพียงอย่างเดียว โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้ และต้องลงทะเบียนผู้ใช้ระบบพรีเพดให้เสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 31 ก.ค.
   


_____________________________________________________













บังคับผู้ใช้ซิมแบบเติมเงิน ลงทะเบียนแสดงตัวตน


กสทช.ออกประกาศให้ผู้ใช้ซิมแบบเติมเงิน ลงทะเบียนซิมแสดงตัวตน ตั้งแต่ 1 ก.พ.-31 ก.ค.58 หากไม่มาลงทะเบียนซิมจะไม่สามารถใช้งานได้ ...

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 ราย ได้แก่ เอไอเอส ดีแทค ทรู ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม ได้ข้อสรุปว่า กสทช. จะออกประกาศให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน หรือพรีเพด ทุกประเภทต้องลงทะเบียนซิมเพื่อแสดงตัวตน ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 กรกฎาคมนี้ โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ภายใน 6 เดือน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การลงทะเบียนซิมดังกล่าว เกี่ยวข้องกับเรื่องการโทรศัพท์หลอกลวงประชาชนทำให้เสียทรัพย์สิน และจับตัวผู้กระทำความผิดไม่ได้ และเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้วย ผู้ใช้ซิมเติมเงินสามารถนำบัตรประชาชนมาแสดงตัวตน เพื่อลงทะเบียนได้ที่ศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้บริการอยู่ และจะเพิ่มในส่วนเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย และร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นด้วย ส่วนเบอร์ที่ไม่ลงทะเบียน จะไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม เป็นต้นไป

ปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการซิมเติมเงินที่ไม่ลงทะเบียน 90 ล้านหมายเลข ลงทะเบียนแล้ว 1 ล้าน 6 แสนหมายเลข ขณะที่ ผู้ให้บริการฯ ทั้ง 5 ราย ยินดีปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เพราะที่ผ่านมา กสทช.ไม่ได้ให้อำนาจบังคับใช้กับผู้ให้บริการ ส่วนที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การจ่ายเงินคูปองดิจิตอลทีวี ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอความเห็นมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสุ่มตรวจหากไม่พบข้อผิดพลาดก็ให้จ่ายเงินได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น สุ่มตรวจนับ ร้อยละ 30 ของคูปอง ไม่พบข้อผิดพลาด ให้จ่ายเงินร้อยละ 70


http://www.thairath.co.th/content/476247


___________________________



'หมอลี่' ค้านปิดซิมเติมเงิน หลังเลยกำหนดลงทะเบียน



กรรมการ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ชี้มาตรการบังคับลงทะเบียนซิมต้องไม่ลงโทษผู้บริโภค ย้ำควรเน้นทำก่อนเปิดใช้งาน ไม่ใช่อนุญาตผู้ให้บริการ ปิดซิม หลังถึงกำหนดวันที่ 31 ก.ค.2558...

นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปิดเผยว่า การลงทะเบียนซิม เป็นข้อกำหนดตามประกาศ กสทช. ที่มีมาตั้งแต่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. โดยต้องการให้มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการก่อนการเปิดใช้บริการ เพื่อทราบตัวตนของผู้ใช้เลขหมายนั้นๆ อันจะส่งผลดีทั้งด้านความมั่นคงปลอดภัย

เนื่องจากจะทำให้สามารถติดตามตัวผู้รับผิดชอบกรณีมีการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในทางที่ก่อปัญหา ขณะเดียวกันก็ส่งผลดีในด้านการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการด้วย กรณีประสบปัญหาจากการใช้บริการก็สามารถใช้สิทธิร้องเรียน หรือแสดงตนเพื่อเรียกร้องสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้บริการคงสิทธิเลขหมาย หรือ การย้ายค่ายคงเบอร์เดิม ก็มีข้อบังคับว่าผู้ใช้พรีเพดจะต้องจดทะเบียนซิมก่อน

กรรมการ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคฯ กล่าวต่อว่า มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่ กทช. และ กสทช. ต้องการบังคับต่อผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการเป็นหลัก กล่าวคือ ผู้ให้บริการเป็นผู้มีหน้าที่ต้องดำเนินการขอให้ผู้มาซื้อซิมหรือเปิดใช้บริการแสดงตน เช่นเดียวกับกรณีของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบจ่ายรายเดือน หรือโพสเพดโดยผู้ไม่ยินยอมแสดงตัวตนย่อมไม่สามารถเข้าใช้บริการได้

"ปัญหาคือผู้ให้บริการหรือผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยพากันละเลยหน้าที่ดังกล่าวมาโดยตลอด ยอมเปิดซิมโดยไม่ต้องมีการลงทะเบียน จนเกิดสภาพการณ์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คือผู้ใช้บริการ prepaid ทั้งหมดเกือบ 90 ล้านเลขหมายล้วนไม่มีการลงทะเบียน" นายแพทย์ประวิทย์ กล่าว

สถานการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากการปล่อยปละละเลยทั้งของผู้ให้บริการและสำนักงาน กสทช. เนื่องจากเป็นอำนาจของเลขาธิการสำนักงาน กสทช. ที่จะออกคำสั่งบังคับต่อผู้ประกอบการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดบริการใหม่ระบบ 3G นั้น ในส่วนของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เคยมีนโยบายชัดว่าจะต้องเริ่มต้นทำเรื่องการลงทะเบียนซิมอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดินพอกหางหมูซ้ำรอยเดิม แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองทั้งจากผู้ให้บริการและสำนักงาน กสทช.

ส่วนกรณีที่กำหนดวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 ว่าหากผู้ใดไม่มาแสดงตนลงทะเบียนก็อนุญาตให้ผู้ให้บริการระงับบริการหรือ ปิดซิม ได้ ทั้งบริการเสียงและบริการข้อมูล โดยการปิดซิมจะดำเนินการไปเรื่อยๆ จนกว่าผู้ใช้บริการจะมาลงทะเบียน ผมคิดว่าข้อกำหนดนี้ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคและขัดต่อหลักกฎหมาย คำถามที่สำคัญก็คือ อำนาจระงับบริการนั้นจะทำบนฐานกฎหมายใด นอกจากนี้ต้องเข้าใจว่า การที่คนเขาใช้บริการอยู่แล้วถูกตัดไปเป็นเรื่องที่ละเมิดสิทธิและส่งผลกระทบมากกว่าการกำหนดเป็นเงื่อนไขให้ดำเนินการก่อนเข้าสู่บริการ ดังนั้นยืนยันว่าควรหามาตรการบังคับที่ไม่เป็นการละเมิดสิทธิ เช่น ตั้งเงื่อนไขว่าจะเติมเงินไม่ได้หากไม่ลงทะเบียน.


http://www.thairath.co.th/content/476256




______________________

กสทช.เตรียมออกประกาศคิดค่าโทร.ตามจริง บังคับลงทะเบียนซิมก่อน 31 ก.ค.หากฝ่าฝืนถูกระงับการโทร.


กสทช.เตรียมออกประกาศคิดค่าโทร.ตามจริง บังคับลงทะเบียนซิมก่อน 31 ก.ค.หากฝ่าฝืนถูกระงับการโทร.
กสทช.เตรียมออกประกาศให้โอเปอเรเตอร์คิดค่าโทร.ตามจริง หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับทางปกครองไม่เกิน 5 ล้านบาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาท เผยระหว่างที่รอทำประชาพิจารณ์ และนำเสนอสู่กฤษฎีกา มั่นใจโอเปอเรเตอร์จะมีโปรโมชันทางเลือก หรือโมเดลการคิดค่าโทร.เป็นวินาทีออกมาทันวันแห่งความรักแน่นอน ส่วนความคืบหน้าเรื่องการลงทะเบียนของผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือระบบพรีเพด กสทช.จะออกประกาศบังคับให้ทุกคนลงทะเบียนให้หมดภายใน 31 ก.ค.นี้ เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคง และหลอกลวง หากใครไม่ลงทะเบียนจะถูกระงับการโทร.ออก
   
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช.ได้มีมติเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยอาศัยการใช้เครือข่าย หรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ พ.ศ. ... เพื่อเป็นมาตรการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค และไม่ให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมดำเนินการใดๆ ในการที่จะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยอาศัยการใช้เครือข่าย หรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ
   
       เช่น การคิดค่าโทรศัพท์ที่ไม่เป็นจริงตามการใช้งาน การได้รับซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือแจกฟรี แต่ถูกเรียกเก็บการใช้บริการทั้งที่ไม่ได้ใช้บริการ การถูกคิดค่าบริการเสริมจากการได้รับข่าวสารบันเทิง และข้อความโฆษณาต่างๆ ผ่านทางเอสเอ็มเอส โดยที่ไม่ได้สมัครใช้บริการ การถูกผู้ให้บริการเปลี่ยนเงื่อนไขบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ โดยให้ กสทช. มีอำนาจสั่งระงับการดำเนินการดังกล่าวของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมได้ และให้มีอำนาจสั่งปรับทางปกครองได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาท ตลอดเวลาที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งต่อผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งได้
   
       “เรื่องนี้หลังจากได้ทำประชาพิจารณ์ และเสนอต่อกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว จะมีผลบังคับให้โอเปอเรเตอร์ต้องคิดค่าโทร.เป็นจริงตามการใช้งาน แต่ระหว่างที่รอประกาศนี้บังคับใช้ เราจะต้องให้โอเปอเรเตอร์ออกโปรโมชันทางเลือกคิดค่าโทร.เป็นวินาที หรืออาจจะได้ข้อสรุปถึงรูปแบบการคิดค่าโทร.เป็นวินาทีได้ก่อน ซึ่งคาดว่าวาเลนไทน์นี้ต้องมีข่าวดี เราจะคืนความรักให้แก่ประชาชน”
   
       นอกจากนี้ กสทช.ยังได้เดินหน้าแก้ปัญหาผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน (พรีเพด) ที่ไม่ได้ลงทะเบียนแสดงตัวตนบางส่วนเพื่อนำเบอร์ดังกล่าวโทร.ไปหลอกลวงประชาชน หรือนำไปเป็นชนวนในการจุดระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจัง ด้วยการออกประกาศให้โอเปอเรเตอร์ทั้ง 5 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ต้องให้ลูกค้าระบบพรีเพดของแต่ละบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 90 ล้านเลขหมายที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน มาลงทะเบียนแสดงตัวตนให้เสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ หากประชาชนรายใดฝ่าฝืนโอเปอเรเตอร์สามารถตัดสัญญาณได้ทันที ทำให้ประชาชนโทร.ออกไม่ได้ ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ได้ เหลือเพียงการรับสายเพียงอย่างเดียว โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้ และต้องลงทะเบียนผู้ใช้ระบบพรีเพดให้เสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 31 ก.ค.
   
       อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ผ่านมา กสทช. ได้มีการออกกฎเกณฑ์เพื่อกำหนดให้โอเปอเรเตอร์ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการตามประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การจัดสรร และบริหารเลขหมายโทรคมนาคมแล้วก็ตาม แต่โอเปอเรเตอร์ไม่มีอำนาจในการระงับการโทร.ออกได้ เนื่องจากไม่มีอำนาจชัดเจน หรือการออกคำสั่งจาก กสทช.จึงเกรงว่าผู้ใช้บริการจะฟ้องร้อง ดังนั้น เมื่อ กสทช.มีการออกหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อให้อำนาจดังกล่าวแก่โอเปอเรเตอร์แล้ว ก็มั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคง และปลอดภัยในทรัพย์สินต่อประชาชน หลังจากที่ กสทช.ถูกสอบถามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ
   
       สำหรับการลงทะเบียน ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ตามจุดบริการที่ กสทช.ทำร่วมกับโอเปอเรเตอร์กว่า 5 หมื่นจุดทั่วประเทศ ได้แก่ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี ศูนย์บริการของโอเปอเรเตอร์ สำหรับซิมพรีเพดที่เปิดใช้งานแล้ว หรือที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สำหรับลูกค้าพรีเพดที่ซื้อซิมการ์ดใหม่ และเร็วๆ นี้จะเพิ่มจุดให้บริการในธนาคารกรุงไทยด้วย โดยใช้เพียงบัตรประชาชนในการลงทะเบียนด้วยแอปพลิเคชัน 2 แชะ ที่จุดบริการดังกล่าว ไม่ต้องใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านอย่างที่ผ่านมาอีกต่อไป หากเป็นต่างด้าวให้ใช้หนังสือเดินทางในการลงทะเบียน
   


http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000007968&Keyword=%A1%CA%B7

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.