19 เมษายน 2558 (บทความ) จังหวะก้าวต่อไป "ดีแทค" New Chapter หลังกรณีคีย์แมนยกทัพออก // รุกทำตลาด 4G เพิ่มขึ้นบนเป้าหมายในการยึดตำแหน่งแชมป์ 4G ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่ 2.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
ประเด็นหลัก
มากกว่าการเขย่าขวัญและกำลังใจของทีมที่เหลืออยู่ การขาด "คีย์แมน" ที่รับผิดชอบในตำแหน่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนไทยไม่มากก็น้อยย่อมมีผลต่อการขับเคลื่อนองค์กรของ "ซีอีโอใหม่" หมาด ๆที่เพิ่งประกาศว่าจะเร่งขยายเครือข่ายและรุกทำตลาด 4G เพิ่มขึ้นบนเป้าหมายในการยึดตำแหน่งแชมป์ 4G ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่ 2.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
จากเป้าหมายข้างต้นใช่หรือไม่ว่า "ดีแทค"จะกลับมาเล่นเกมบุกมากขึ้น หลังลดดีกรีลงมาอยู่ในระดับ "ประคองตัว" มาพักใหญ่
หากดูประวัติซีอีโอใหม่ "ดีแทค" นับว่าไม่ธรรมดาจากอดีตเจ้าของบริษัทสตาร์ตอัพเล็ก ๆ ด้านบรอดแบนด์ในประเทศสวีเดนที่มีผลงานเข้าตาจน "เทเลนอร์" เข้าไปซื้อกิจการ เปลี่ยนบทบาทจากเจ้าของมาเป็นผู้บริหารมืออาชีพและนั่งเป็นซีอีโอ "ดิจิ" ที่มาเลเซียอยู่ 8-9 เดือน ก่อนจะได้รับการทาบทามให้มากุมบังเหียนดีแทคในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญในการสร้างรายได้ให้บริษัทแม่เป็นอันดับต้น ๆ
_____________________________________________________
จังหวะก้าวต่อไป "ดีแทค" New Chapter หลังกรณีคีย์แมนยกทัพออก
การเปลี่ยนแปลงถือเป็นเรื่องปกติ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนงาน กลยุทธ์ที่ได้วางไว้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการดำเนินงานทั้งด้านการตลาดและการบริการ ในฐานะสถาบันองค์กรที่มีระบบการบริหารจัดการที่เข้มแข็งและยั่งยืน โดยเฉพาะการบริหารงานบุคคลที่มีระบบการจัดการ สืบทอดแผนงาน หรือ Succession Plan ที่เข้มแข็งและต่อเนื่อง
และขอให้ความมั่นใจว่า "ดีแทค" ยึดมั่นและทุ่มเทสร้างเสริมศักยภาพองค์กรให้แข็งแกร่งขึ้นในทุกวัน เพื่อให้บุคลากรทั้ง 5 พันกว่าคน และทีมผู้บริหารมีเป้าหมายเดียวกันในการให้บริการที่ดีที่สุดกับลูกค้า
ข้อความข้างต้นเป็นคำชี้แจงของ"ดีแทค"ต่อกรณีผู้บริหารระดับสูงลาออกพร้อมกันหลายคนซึ่ง"ประชาชาติธุรกิจ"นำเสนอในเวอร์ชั่นออนไลน์บนเว็บไซต์ www.prachachat.net (อ่าน >>ฟ้าผ่าที่ "ดีแทค" คีย์แมนยกทัพลาออก ) ไปตั้งแต่คืนวันศุกร์ (3 เม.ย.) ที่ผ่านมา
ไม่มีใครปฏิเสธว่า การเปลี่ยนแปลงหรือการลาออกเป็นเรื่องปกติ แต่ย่อมห่างไกลคำว่า ธรรมดา เมื่อเป็นการลาออกหมู่ จนอาจเรียกว่าปิดตำนานทีมสร้างแบรนด์แฮปปี้และดีแทคในอดีตเลยก็น่าจะได้
ไม่ว่าจะเป็น ดร.เกษชญง สกาวรัตนานนท์,วัชรพงษ์ ศิริพากย์, ปกรณ์ พรรณเชษฐ์, ชัยยศ จิรบวรกุล และอีกบางส่วนในระดับรองลงไปที่ยื่นใบลาออกในคราวนี้ ล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญในยุคพลิกฟื้นองค์กร ร่วมกับคู่หูโคซีอีโอ "ซิคเว่ เบรคเก้-วิชัย เบญจรงคกุล" ทั้งสิ้น (ธนา เธียรอัจฉริยะ อดีตคีย์แมนสำคัญยุคนั้นลาออกไปก่อนเมื่อ 5 ปีที่แล้วด้วยเหตุผลว่า ต้องการไปหาความท้าทายใหม่ๆ)
ทีมที่เหลืออยู่ต่อมา ผ่านมาแล้ว 2 ซีอีโอ (ทอเร่ จอห์นเซ่น, จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์) หากไม่นับ "ซิคเว่" ที่มานั่งรักษาการซีอีโอในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ก่อนได้คนใหม่ "ลาร์ โอเคะ นอร์ลิ่ง" ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อ 1 เม.ย. 2558
จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ทั้งหมดตัดสินใจลาออกในจังหวะเดียวกับที่ "ซิคเว่" อำลาตำแหน่งรักษาการซีอีโอพอดี แม้จะยังไม่มีผลเป็นทางการในทันที เพราะ "ซิคเว่" ขอให้อยู่ช่วยส่งต่องานให้คนใหม่ในช่วงเปลี่ยนผ่านต่อไปอีก 2-3 เดือน
มากกว่าการเขย่าขวัญและกำลังใจของทีมที่เหลืออยู่ การขาด "คีย์แมน" ที่รับผิดชอบในตำแหน่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนไทยไม่มากก็น้อยย่อมมีผลต่อการขับเคลื่อนองค์กรของ "ซีอีโอใหม่" หมาด ๆที่เพิ่งประกาศว่าจะเร่งขยายเครือข่ายและรุกทำตลาด 4G เพิ่มขึ้นบนเป้าหมายในการยึดตำแหน่งแชมป์ 4G ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่ 2.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
จากเป้าหมายข้างต้นใช่หรือไม่ว่า "ดีแทค"จะกลับมาเล่นเกมบุกมากขึ้น หลังลดดีกรีลงมาอยู่ในระดับ "ประคองตัว" มาพักใหญ่
หากดูประวัติซีอีโอใหม่ "ดีแทค" นับว่าไม่ธรรมดาจากอดีตเจ้าของบริษัทสตาร์ตอัพเล็ก ๆ ด้านบรอดแบนด์ในประเทศสวีเดนที่มีผลงานเข้าตาจน "เทเลนอร์" เข้าไปซื้อกิจการ เปลี่ยนบทบาทจากเจ้าของมาเป็นผู้บริหารมืออาชีพและนั่งเป็นซีอีโอ "ดิจิ" ที่มาเลเซียอยู่ 8-9 เดือน ก่อนจะได้รับการทาบทามให้มากุมบังเหียนดีแทคในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญในการสร้างรายได้ให้บริษัทแม่เป็นอันดับต้น ๆ
ดีเอ็นเอ" มวยรอง (Underdog) ในอดีตที่ไม่มีคู่แข่งรายใดมองข้ามได้ บุคลิกแบรนด์ "ใจดี" อันเป็นที่มาของแบรนด์ขวัญใจมหาชนในอดีตจะเป็นเช่นไร อะไรจะยังอยู่ อะไรจะเปลี่ยนไป"
จังหวะก้าวของ "ดีแทค" นับจากนี้จึงน่าสนใจยิ่ง
,,,
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1428552593
มากกว่าการเขย่าขวัญและกำลังใจของทีมที่เหลืออยู่ การขาด "คีย์แมน" ที่รับผิดชอบในตำแหน่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนไทยไม่มากก็น้อยย่อมมีผลต่อการขับเคลื่อนองค์กรของ "ซีอีโอใหม่" หมาด ๆที่เพิ่งประกาศว่าจะเร่งขยายเครือข่ายและรุกทำตลาด 4G เพิ่มขึ้นบนเป้าหมายในการยึดตำแหน่งแชมป์ 4G ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่ 2.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
จากเป้าหมายข้างต้นใช่หรือไม่ว่า "ดีแทค"จะกลับมาเล่นเกมบุกมากขึ้น หลังลดดีกรีลงมาอยู่ในระดับ "ประคองตัว" มาพักใหญ่
หากดูประวัติซีอีโอใหม่ "ดีแทค" นับว่าไม่ธรรมดาจากอดีตเจ้าของบริษัทสตาร์ตอัพเล็ก ๆ ด้านบรอดแบนด์ในประเทศสวีเดนที่มีผลงานเข้าตาจน "เทเลนอร์" เข้าไปซื้อกิจการ เปลี่ยนบทบาทจากเจ้าของมาเป็นผู้บริหารมืออาชีพและนั่งเป็นซีอีโอ "ดิจิ" ที่มาเลเซียอยู่ 8-9 เดือน ก่อนจะได้รับการทาบทามให้มากุมบังเหียนดีแทคในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญในการสร้างรายได้ให้บริษัทแม่เป็นอันดับต้น ๆ
_____________________________________________________
จังหวะก้าวต่อไป "ดีแทค" New Chapter หลังกรณีคีย์แมนยกทัพออก
การเปลี่ยนแปลงถือเป็นเรื่องปกติ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนงาน กลยุทธ์ที่ได้วางไว้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการดำเนินงานทั้งด้านการตลาดและการบริการ ในฐานะสถาบันองค์กรที่มีระบบการบริหารจัดการที่เข้มแข็งและยั่งยืน โดยเฉพาะการบริหารงานบุคคลที่มีระบบการจัดการ สืบทอดแผนงาน หรือ Succession Plan ที่เข้มแข็งและต่อเนื่อง
และขอให้ความมั่นใจว่า "ดีแทค" ยึดมั่นและทุ่มเทสร้างเสริมศักยภาพองค์กรให้แข็งแกร่งขึ้นในทุกวัน เพื่อให้บุคลากรทั้ง 5 พันกว่าคน และทีมผู้บริหารมีเป้าหมายเดียวกันในการให้บริการที่ดีที่สุดกับลูกค้า
ข้อความข้างต้นเป็นคำชี้แจงของ"ดีแทค"ต่อกรณีผู้บริหารระดับสูงลาออกพร้อมกันหลายคนซึ่ง"ประชาชาติธุรกิจ"นำเสนอในเวอร์ชั่นออนไลน์บนเว็บไซต์ www.prachachat.net (อ่าน >>ฟ้าผ่าที่ "ดีแทค" คีย์แมนยกทัพลาออก ) ไปตั้งแต่คืนวันศุกร์ (3 เม.ย.) ที่ผ่านมา
ไม่มีใครปฏิเสธว่า การเปลี่ยนแปลงหรือการลาออกเป็นเรื่องปกติ แต่ย่อมห่างไกลคำว่า ธรรมดา เมื่อเป็นการลาออกหมู่ จนอาจเรียกว่าปิดตำนานทีมสร้างแบรนด์แฮปปี้และดีแทคในอดีตเลยก็น่าจะได้
ไม่ว่าจะเป็น ดร.เกษชญง สกาวรัตนานนท์,วัชรพงษ์ ศิริพากย์, ปกรณ์ พรรณเชษฐ์, ชัยยศ จิรบวรกุล และอีกบางส่วนในระดับรองลงไปที่ยื่นใบลาออกในคราวนี้ ล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญในยุคพลิกฟื้นองค์กร ร่วมกับคู่หูโคซีอีโอ "ซิคเว่ เบรคเก้-วิชัย เบญจรงคกุล" ทั้งสิ้น (ธนา เธียรอัจฉริยะ อดีตคีย์แมนสำคัญยุคนั้นลาออกไปก่อนเมื่อ 5 ปีที่แล้วด้วยเหตุผลว่า ต้องการไปหาความท้าทายใหม่ๆ)
ทีมที่เหลืออยู่ต่อมา ผ่านมาแล้ว 2 ซีอีโอ (ทอเร่ จอห์นเซ่น, จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์) หากไม่นับ "ซิคเว่" ที่มานั่งรักษาการซีอีโอในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ก่อนได้คนใหม่ "ลาร์ โอเคะ นอร์ลิ่ง" ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อ 1 เม.ย. 2558
จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ทั้งหมดตัดสินใจลาออกในจังหวะเดียวกับที่ "ซิคเว่" อำลาตำแหน่งรักษาการซีอีโอพอดี แม้จะยังไม่มีผลเป็นทางการในทันที เพราะ "ซิคเว่" ขอให้อยู่ช่วยส่งต่องานให้คนใหม่ในช่วงเปลี่ยนผ่านต่อไปอีก 2-3 เดือน
มากกว่าการเขย่าขวัญและกำลังใจของทีมที่เหลืออยู่ การขาด "คีย์แมน" ที่รับผิดชอบในตำแหน่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนไทยไม่มากก็น้อยย่อมมีผลต่อการขับเคลื่อนองค์กรของ "ซีอีโอใหม่" หมาด ๆที่เพิ่งประกาศว่าจะเร่งขยายเครือข่ายและรุกทำตลาด 4G เพิ่มขึ้นบนเป้าหมายในการยึดตำแหน่งแชมป์ 4G ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่ 2.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
จากเป้าหมายข้างต้นใช่หรือไม่ว่า "ดีแทค"จะกลับมาเล่นเกมบุกมากขึ้น หลังลดดีกรีลงมาอยู่ในระดับ "ประคองตัว" มาพักใหญ่
หากดูประวัติซีอีโอใหม่ "ดีแทค" นับว่าไม่ธรรมดาจากอดีตเจ้าของบริษัทสตาร์ตอัพเล็ก ๆ ด้านบรอดแบนด์ในประเทศสวีเดนที่มีผลงานเข้าตาจน "เทเลนอร์" เข้าไปซื้อกิจการ เปลี่ยนบทบาทจากเจ้าของมาเป็นผู้บริหารมืออาชีพและนั่งเป็นซีอีโอ "ดิจิ" ที่มาเลเซียอยู่ 8-9 เดือน ก่อนจะได้รับการทาบทามให้มากุมบังเหียนดีแทคในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญในการสร้างรายได้ให้บริษัทแม่เป็นอันดับต้น ๆ
ดีเอ็นเอ" มวยรอง (Underdog) ในอดีตที่ไม่มีคู่แข่งรายใดมองข้ามได้ บุคลิกแบรนด์ "ใจดี" อันเป็นที่มาของแบรนด์ขวัญใจมหาชนในอดีตจะเป็นเช่นไร อะไรจะยังอยู่ อะไรจะเปลี่ยนไป"
จังหวะก้าวของ "ดีแทค" นับจากนี้จึงน่าสนใจยิ่ง
,,,
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1428552593
ไม่มีความคิดเห็น: