11 ตุลาคม 2558 DTAC มีลูกค้าที่ใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อยู่ประมาณ 3 แสนราย โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานประจำราว 1 แสนราย ขณะที่แจ๋วมีลูกค้าประมาณ 100,000 ราย โดยมีปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้น 10% ต่อเดือน
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าที่ใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อยู่ประมาณ 3 แสนราย โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานประจำราว 1 แสนราย ขณะที่แจ๋วมีลูกค้าประมาณ 100,000 ราย โดยมีปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้น 10% ต่อเดือน
_____________________________________________
“ดีแทค” เผยเดือน พ.ย.เตรียมเปิดโอนเงินอี-วอลเล็ตข้ามค่าย
นายปานเทพ นิลสินธพ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานผลิตภัณฑ์บริการทางการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค
“ดีแทค” เร่งเครื่องไฟแนนเชียลเซอร์วิส หวังเติบโต 30% จากปีที่ผ่านมา หลังจับมือกับ MOL ในการเปิดให้บริการเติมเงินเกม และแจ๋ว บริการโอนจ่ายเงินผ่านเลขหมายโทรศัพท์มือถือ ก่อนปลายปีเปิดระบบโอนเงินข้ามค่ายระหว่างเอไอเอส ดีแทค และทรู เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
นายปานเทพ นิลสินธพ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานผลิตภัณฑ์บริการทางการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดีแทคหันมาให้ความสำคัญต่อธุรกิจไฟแนนเชียลเซอร์วิสมากยิ่งขึ้น จากการทยอยเปิดตัวบริการต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา
“หลังจากดีแทคเข้าไปซื้อกิจการเพย์สบายตั้งแต่ปี 2004 ก็ได้นำเพย์สบายมาเป็นตัวช่วยหลักในการทำธุรกิจทางด้านบริการการเงินของดีแทค เพียงแต่ว่าในปัจจุบันจะมีการเพิ่มเติมบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ามากยิ่งขึ้น”
ปัจจุบัน ดีแทคแบ่งกลุ่มบริการทางการเงินออกเป็น 3 ส่วน คือ บริการรับชำระค่าบริการผ่านออนไลน์ (เปย์เมนต์ เกตเวย์) บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-วอลเล็ต) และบริการแจ๋วไว้สำหรับรับโอนเงินผ่านตัวแทน
โดยในส่วนของบริการเปย์เมนต์ เกตเวย์ นั้น ดีแทคตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 2,900 ล้านบาท และถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตขึ้นตามปริมาณการใช้งานบัตรเครดิตของผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้งานอยู่ที่ราว 3% ในขณะที่ต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาใช้งานบัตรเครดิตสูงถึง 38%
ในกลุ่มของบริการเปย์เมนต์ เกตเวย์ ดีแทคมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ให้บริการหลักที่มีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกัน เพราะแต่ละรายก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป อย่างเปย์สบายจะโดดเด่นในเรื่องของการรับชำระค่าซื้อสินค้าออนไลน์ในกลุ่มของแฟชั่น
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ในกลุ่มของบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการในฝั่งของโอเปอเรเตอร์ จะมีการเปิดบริการโอนเงินข้ามกระเป๋าระหว่าง ดีแทค เอไอเอส และทรู ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558
ทั้งนี้ ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าที่ใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อยู่ประมาณ 3 แสนราย โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานประจำราว 1 แสนราย ขณะที่แจ๋วมีลูกค้าประมาณ 100,000 ราย โดยมีปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้น 10% ต่อเดือน
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000111998
ทั้งนี้ ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าที่ใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อยู่ประมาณ 3 แสนราย โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานประจำราว 1 แสนราย ขณะที่แจ๋วมีลูกค้าประมาณ 100,000 ราย โดยมีปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้น 10% ต่อเดือน
_____________________________________________
“ดีแทค” เผยเดือน พ.ย.เตรียมเปิดโอนเงินอี-วอลเล็ตข้ามค่าย
นายปานเทพ นิลสินธพ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานผลิตภัณฑ์บริการทางการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค
“ดีแทค” เร่งเครื่องไฟแนนเชียลเซอร์วิส หวังเติบโต 30% จากปีที่ผ่านมา หลังจับมือกับ MOL ในการเปิดให้บริการเติมเงินเกม และแจ๋ว บริการโอนจ่ายเงินผ่านเลขหมายโทรศัพท์มือถือ ก่อนปลายปีเปิดระบบโอนเงินข้ามค่ายระหว่างเอไอเอส ดีแทค และทรู เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
นายปานเทพ นิลสินธพ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานผลิตภัณฑ์บริการทางการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดีแทคหันมาให้ความสำคัญต่อธุรกิจไฟแนนเชียลเซอร์วิสมากยิ่งขึ้น จากการทยอยเปิดตัวบริการต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา
“หลังจากดีแทคเข้าไปซื้อกิจการเพย์สบายตั้งแต่ปี 2004 ก็ได้นำเพย์สบายมาเป็นตัวช่วยหลักในการทำธุรกิจทางด้านบริการการเงินของดีแทค เพียงแต่ว่าในปัจจุบันจะมีการเพิ่มเติมบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ามากยิ่งขึ้น”
ปัจจุบัน ดีแทคแบ่งกลุ่มบริการทางการเงินออกเป็น 3 ส่วน คือ บริการรับชำระค่าบริการผ่านออนไลน์ (เปย์เมนต์ เกตเวย์) บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-วอลเล็ต) และบริการแจ๋วไว้สำหรับรับโอนเงินผ่านตัวแทน
โดยในส่วนของบริการเปย์เมนต์ เกตเวย์ นั้น ดีแทคตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 2,900 ล้านบาท และถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตขึ้นตามปริมาณการใช้งานบัตรเครดิตของผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้งานอยู่ที่ราว 3% ในขณะที่ต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาใช้งานบัตรเครดิตสูงถึง 38%
ในกลุ่มของบริการเปย์เมนต์ เกตเวย์ ดีแทคมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ให้บริการหลักที่มีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกัน เพราะแต่ละรายก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป อย่างเปย์สบายจะโดดเด่นในเรื่องของการรับชำระค่าซื้อสินค้าออนไลน์ในกลุ่มของแฟชั่น
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ในกลุ่มของบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการในฝั่งของโอเปอเรเตอร์ จะมีการเปิดบริการโอนเงินข้ามกระเป๋าระหว่าง ดีแทค เอไอเอส และทรู ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558
ทั้งนี้ ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าที่ใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อยู่ประมาณ 3 แสนราย โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานประจำราว 1 แสนราย ขณะที่แจ๋วมีลูกค้าประมาณ 100,000 ราย โดยมีปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้น 10% ต่อเดือน
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000111998
ไม่มีความคิดเห็น: