21 พฤศจิกายน 2559 กสทช.ชี้ กรณีร้านสะดวกซื้อ “7- Eleven” ที่มีเครือข่ายมากกว่า 9,000 สาขาทั่วประเทศ ได้ยุติการจำหน่ายบัตรเติมเงิน “1-2-Call” และบริการเติมเงิน 1-2-Call มาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา ยังผลให้ผู้ใช้บริการมือถือหลายสิบล้านรายได้รับความเดือดร้อน
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้จากปรากฏเป็นข่าวทางสื่อโดยทั่วไป กรณีร้านสะดวกซื้อ “7- Eleven” ที่มีเครือข่ายมากกว่า 9,000 สาขาทั่วประเทศ ได้ยุติการจำหน่ายบัตรเติมเงิน “1-2-Call” และบริการเติมเงิน 1-2-Call มาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา ยังผลให้ผู้ใช้บริการมือถือหลายสิบล้านรายได้รับความเดือดร้อน
___________________________________________________
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 นายณัฐพล โรจน์ถาวร ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (สทช.) ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศากรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค
นายณัฐพลกล่าวว่า เป็นการยื่นเรื่องให้ กสทช.ตรวจสอบกรณีร้าน 7-Eleven ได้ยุติการจำหน่ายบัตรเติมเงิน(ซิมการ์ด) และบริการเติมเงินวัน-ทู-คอล (1-2-Call) ของค่ายเอไอเอส ทำให้ผู้บริโภคผู้ใช้บริการด้านโทรคมนาคมได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริการโทรคมนาคม และมีความยากลำบากในการเสาะหาตู้เติมเงินในหลายๆ พื้นที่
ทั้งนี้จากปรากฏเป็นข่าวทางสื่อโดยทั่วไป กรณีร้านสะดวกซื้อ “7- Eleven” ที่มีเครือข่ายมากกว่า 9,000 สาขาทั่วประเทศ ได้ยุติการจำหน่ายบัตรเติมเงิน “1-2-Call” และบริการเติมเงิน 1-2-Call มาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา ยังผลให้ผู้ใช้บริการมือถือหลายสิบล้านรายได้รับความเดือดร้อน
ทั้งนี้ทราบว่า เป็นผลมาจากเซเว่นต้องการขอปรับค่าการตลาดหรือมาร์จิ้นขึ้นจาก 5% เป็น 7% เพื่อให้เทียบเท่ารายอื่นแม้รายได้และมาร์จิ้นที่ได้รับจากค่ายดังกล่าว จากจะสูงกว่าค่ายอื่นๆ เป็นเท่าตัวก็ตาม และเมื่อไม่สามารถเจรจาตกลงได้จึงยุติการให้บริการเติมเงินมือถือวัน-ทู-คอลทันที ด้วยเหตุนี้ สทช. จึงต้องการให้ กสทช. ตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน
http://www.naewna.com/business/243645
ไม่มีความคิดเห็น: