Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

07 สิงหาคม 2554 สงครามโน๊ตบุ้ก รายย่อยเดี้ยง!! (( กำไรต่อเครื่องเฉลี่ย 300-500 บาท)) เอเซอร์ดันปรับพอร์ตเน้น"มิด-ไฮเอนด์"บาลานซ์กำไร

สงครามโน๊ตบุ้ก รายย่อยเดี้ยง!! (( กำไรต่อเครื่องเฉลี่ย 300-500 บาท)) เอเซอร์ดันปรับพอร์ตเน้น"มิด-ไฮเอนด์"บาลานซ์กำไร

สงครามโน๊ตบุ้ก รายย่อยเดี้ยง!! (( กำไรต่อเครื่องเฉลี่ย 300-500 บาท)) เอเซอร์ดันปรับพอร์ตเน้น"มิด-ไฮเอนด์"บาลานซ์กำไร
ประเด็นหลัก

แหล่ง ข่าวจากวงการคอมพิวเตอร์เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เดือนที่ผ่านมา กลุ่มร้านค้าปลีกรายย่อยได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ แบรนด์ดังเกือบทุกแบรนด์ขอให้ปรับโครงสร้างกำไรสินค้า โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กให้สูงขึ้นเพื่อช่วยเหลือร้านค้ารายเล็กให้ค้าขายได้และ อยู่รอดในธุรกิจไอที เพราะเดิมกำไรจากการขายสินค้าไอทีค่อนข้างสูง แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ลดลงต่อเนื่องจนเหลือไม่กี่ร้อยบาท ในเบื้องต้นคาดว่าสินค้าลอตใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดปลายไตรมาส 3 จะมีราคาขายปลีกในทุกช่องทางสูงขึ้นประมาณ 5% เดิมตั้งราคา 19,900 บาท อาจขยับขึ้นเป็น 20,900 บาท เป็นต้น

__________________________________________________________

สงคราม"โน๊ตบุ้ก"ถล่มรายย่อยเดี้ยง เอเซอร์ดันปรับพอร์ตเน้น"มิด-ไฮเอนด์"บาลานซ์กำไร

ร้าน ค้าปลีกสินค้า "ไอที" ดิ้นหนีตาย รวมกลุ่มยื่นข้อเสนอขอความช่วยเหลือ "คอมพิวเตอร์แบรนด์ดัง" ขยับ "มาร์จิ้น" โน้ตบุ๊ก คาดปลายไตรมาส 3 สินค้ารุ่นใหม่-ลอตใหม่ขึ้นราคา 5% "เลอโนโว" ยอมรับรายย่อยอยู่ยากแต่ช่วยได้ไม่เยอะ หวั่นกระทบกำลังซื้อ ผู้บริโภค ฟาก "เอเซอร์" ใช้วิธีเพิ่มรุ่นเพิ่มความหลากหลายสินค้าระดับกลาง-บน ดันร้านค้าปรับพอร์ตขายโน้ตบุ๊กราคา 2 หมื่นอัพมากขึ้น


แหล่ง ข่าวจากวงการคอมพิวเตอร์เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เดือนที่ผ่านมา กลุ่มร้านค้าปลีกรายย่อยได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ แบรนด์ดังเกือบทุกแบรนด์ขอให้ปรับโครงสร้างกำไรสินค้า โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กให้สูงขึ้นเพื่อช่วยเหลือร้านค้ารายเล็กให้ค้าขายได้และ อยู่รอดในธุรกิจไอที เพราะเดิมกำไรจากการขายสินค้าไอทีค่อนข้างสูง แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ลดลงต่อเนื่องจนเหลือไม่กี่ร้อยบาท ในเบื้องต้นคาดว่าสินค้าลอตใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดปลายไตรมาส 3 จะมีราคาขายปลีกในทุกช่องทางสูงขึ้นประมาณ 5% เดิมตั้งราคา 19,900 บาท อาจขยับขึ้นเป็น 20,900 บาท เป็นต้น

"ต้องประเมินอีกทีว่าผลกระทบ กับยอดขายและคอนซูเมอร์มากน้อยขนาดไหน หากปรับราคาขึ้นแล้ว ผู้บริโภคซื้อน้อยลงก็ต้องกระทบร้านค้าอยู่ดี แต่ตอนนี้ร้านค้าขอความร่วมมือมาเราก็ช่วยเหลือ เพราะถ้าร้านค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ มิเช่นนั้นจะกระทบกันหมด"

ด้านนายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การขอความร่วมมือของกลุ่มผู้ค้ารายย่อยเกิดจากการขายสินค้าไอที โดยเฉพาะการจำหน่ายโน้ตบุ๊กในปัจจุบันมีกำไรน้อยมาก เฉลี่ย 300-500 บาท เนื่องจากสินค้ามีความแมสมากขึ้น ผู้ค้ารายใหญ่ที่สั่งซื้อจำนวนมากมีโอกาสอยู่รอดมากกว่า ขณะที่ร้านเล็กซึ่งมีกว่า 1,000 รายทั่วประเทศประสบปัญหาต้องขอความร่วมมือให้เจ้าของแบรนด์ช่วยเหลือ

สำหรับ เลอโนโวอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าสินค้ารุ่นใดสามารถปรับราคาได้บ้าง แต่คงขึ้นได้ไม่กี่ร้อยบาทส่วนใหญ่เป็นสินค้ารุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาด ซึ่งปกติสินค้ารุ่นใหม่จะมีราคาแพงกว่ารุ่นที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ดังนั้นผู้บริโภคจึงไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมากนัก

"ร้านค้าราย ย่อยไม่ได้มีเงื่อนไขว่า แบรนด์ใดไม่ช่วยเหลือจะดำเนินการอย่างไร แต่เราก็ต้องให้ความช่วยเหลือ ถ้าเขาอยู่ไม่ได้ เราก็อยู่ไม่ได้ แต่หากขึ้นราคามากจนผิดปกติก็ไม่ได้ เพราะผู้บริโภคจะไม่ซื้อสินค้าอยู่ดี ทุกอย่างเป็นกลไกลทางการตลาด"

นายบุญชัย เงาวิศิษฏ์กุล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ คอนซูเมอร์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า กลุ่มร้านค้ารายย่อยเข้ามาคุยกับเอเซอร์เช่นกัน เนื่องจากประสบปัญหาจากสภาพการแข่งขันตัดราคาทำให้ได้กำไรไม่คุ้มค่ากับต้น ทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งกำไรสินค้าไอทียังลดลงตามแนวโน้มราคาสินค้าที่ลดลง เช่นปีที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยโน้ตบุ๊กอยู่ที่ 22,000 บาท มีกำไร 6-7% แต่ปีนี้ลดลงเหลือ 19,000 บาท

สำหรับแนวทางของบริษัทคือ ผลักดันให้ร้านค้าขายสินค้าระดับกลางถึงบนมากขึ้น หรือโน้ตบุ๊กราคาตั้งแต่ 20,000 บาท เนื่องจากกำไรสูงกว่าจากเดิมร้านค้ารายย่อยเน้นขายโลว์เอนด์เป็นหลัก โดยในครึ่งปีหลังเอเซอร์จะเพิ่มรุ่นและความหลากหลายของสินค้าระดับกลางถึงบน มากขึ้นเพื่อช่วยเหลือดีลเลอร์ คาดว่า ในสิ้นปีจะมียอดขายสินค้าระดับกลางถึงบนคิดเป็นสัดส่วน 40% รุ่น โลว์เอนด์ 60% จากปัจจุบันสินค้าระดับกลางขึ้นไปมีสัดส่วนการขาย 30%

"สิ่งที่ เราฟีดแบ็กร้านค้าคือ ให้โฟกัสสินค้าระดับกลางมากขึ้น เพราะการเพิ่มมาร์จิ้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก สุดท้ายเป็นเรื่องของการแข่งขันในตลาดอยู่ดี เพราะตลาดเป็นตัวกำหนดโครงสร้างของราคาและการแข่งขัน"

ขณะที่นายนิธิ พัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัทเดียวกันเสริมว่า การเพิ่มกำไรไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะธุรกิจไอทีมีการแข่งขันสูงมาก หากไม่มีการควบคุมราคาสินค้าทุกช่องทางจำหน่ายอย่างดี ปัญหาการ ตัดราคาจะยังมีเหมือนเดิม แม้จะขยับกำไรสูงขึ้น โดยปัจจุบันกำไรของโน้ตบุ๊ก รุ่นทั่วไปโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7-10% รุ่นไฮเอนด์อยู่ที่ 15-20%

"ลูกค้า อาจได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น แต่อีกด้านถือเป็นการช่วยร้านค้ารายเล็กที่ไม่มีสายป่านยาว สุดท้ายขึ้นกับสภาพการแข่งขันอยู่ดี การช่วยเหลือตรงนี้ช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น"

ปัจจุบันเอเซอร์มีดี ลเลอร์หลัก ๆ ในต่างจังหวัดภูมิภาคละ 20-30 ราย มี นโยบายราคาเดียวเหมือนกันทั้งประเทศ รวมถึงมีการนำระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการสินค้ามาใช้กับร้านค้าดีลเลอร์ทั้ง หมดทำให้ควบคุมราคาขายในทุก ช่องทางจำหน่ายได้

ประชาชาติธุรกิจ


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.