Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

08 มีนาคม 2555 ป.ป.ช. ชี้ กสทช. รับแจกไอโฟนเสี่ยงผิดกฎหมาย++ สุภิญญาส่วนของขวัญจากภายนอกเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช.

ป.ป.ช. ชี้ กสทช. รับแจกไอโฟนเสี่ยงผิดกฎหมาย++ สุภิญญาส่วนของขวัญจากภายนอกเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช.


ประเด็นหลัก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเด็นเหล่านี้ ป.ป.ช.ยังไม่เคยวินิจฉัยว่ามีความผิดชัดเจน แต่จะมีประโยชน์ในทางป้องไม่ให้เจ้าหน้าที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำความผิด เท่านั้น ไม่ได้ต้องการออกกฎหมายมาเพื่อฟาดฟันใคร แต่หากมีใครฟ้องร้อง ก็ต้องไต่สวน


ด้าน นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวถึงกรณี กสทช. รับไอโฟนว่า ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เป็นเรื่องปกติที่มีหน่วยงานมาสวัสดีปีใหม่ แต่กรณีที่เป็นข่าว อาจเป็นกรณีที่บริษัทมือถือรายหนึ่ง มาสวัสดีปีใหม่ และนำพระแก้วมรกตมามอบให้ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นถุงใส่โทรศัพท์มือถือไอโฟนรุ่นใหม่


ส่วน ประเด็นที่มีการแจกโทรศัพท์ ในงานเลี้ยงปีใหม่นั้น ที่จัดวันที่ 13 ม.ค. 55 ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด เพราะดำเนินการโดยสำนักงาน แต่วันนั้นได้ไปร่วมและนำของไปจับสลากด้วย ด้วยใช้เงินตัวเอง และส่งให้ทีมสำนักงานนำไปจับสลาก ส่วนของขวัญที่นำมาไม่ทราบว่ามาจากไหนบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นจากกรรมการและผู้บริหาร กสทช. ส่วนของขวัญจากภายนอกเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช.

_________________________________________________________

ป.ป.ช. ชี้ กสทช. รับแจกไอโฟนเสี่ยงผิดกฎหมาย

ป.ป.ช. ชี้ กสทช. รับ "ไอโฟน" เข้าข่ายผิดกฎหมาย เหตุมูลค่าสูงกว่า 3 พันบาท ด้านผู้บริหารเอไอเอส เผยการแจกของให้หน่วยงานเป็นเรื่องปกติของบริษัทเอกชน...

เมื่อวัน ที่ 8 มี.ค. นายเมธี ครองแก้ว กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวว่า มาตรการ 103 เขียนว่า ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใด รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินโดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่ ป.ป.ช.กำหนด ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐ หมายถึงคนที่ได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งหากรับจากบริษัทเฉยๆ ไม่ใช่ตัวบุคคล อาจไม่เข้าข่าย แต่โดยเจตนารมย์ กฎหมาย ป.ป.ช.ต้องการป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำประพฤติมิชอบ

ตาม ประกาศ ป.ป.ช. ข้อ 5(2) เรื่องหลักเกณฑ์ทัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2543 กำหนดห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาจากบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่ญาติในมูลค่าในการับแต่ละบุคคล แต่ละโอกาสไม่เกิน 3 พันบาท ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ม.122 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต

ส่วนกรณี ที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ระบุว่า เป็นตัวแทนบริษัทนั้นๆ มอบให้ในงานจัดเลี้ยง โดย กสทช. ไม่ได้ร้องขอนั้น นายเมธี กล่าวว่า หากตั้งไว้ที่ถนนและเจ้าหน้าที่ กสทช. เดินผ่าน อย่างนี้ไม่ผิด แต่หากมีบุคคลเดินเข้ามาให้ และรับไว้ ผิดตามมาตรา 103 แน่นอน หากมีคนมาฟ้องร้อง และกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องดูว่ามีเจตนาหรือไม่ ซึ่งการที่ กสทช.ที่เป็นหน่วยที่มีผลได้เสียโดยตรงกับบริษัทโทรคมนาคมนั้น นับว่ามีความเสี่ยงมาก แต่คงไม่สามารถวินิจฉัยได้นอกจากกรรมการที่ประชุมป.ป.ช. ขณะเดียวกัน คิดว่ามีความสุ่มเสี่ยง แม้เลขาฯ กสทช. จะบอกว่าเป็นความสมัครใจของค่ายบริษัทนั้นๆ ก็ตาม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเด็นเหล่านี้ ป.ป.ช.ยังไม่เคยวินิจฉัยว่ามีความผิดชัดเจน แต่จะมีประโยชน์ในทางป้องไม่ให้เจ้าหน้าที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำความผิด เท่านั้น ไม่ได้ต้องการออกกฎหมายมาเพื่อฟาดฟันใคร แต่หากมีใครฟ้องร้อง ก็ต้องไต่สวน


ด้าน นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวถึงกรณี กสทช. รับไอโฟนว่า ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เป็นเรื่องปกติที่มีหน่วยงานมาสวัสดีปีใหม่ แต่กรณีที่เป็นข่าว อาจเป็นกรณีที่บริษัทมือถือรายหนึ่ง มาสวัสดีปีใหม่ และนำพระแก้วมรกตมามอบให้ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นถุงใส่โทรศัพท์มือถือไอโฟนรุ่นใหม่

ทั้ง นี้ ส่วนตัวไม่ได้รับไว้ และแจ้งว่าไม่สามารถรับได้ เพราะขัดกับข้อกฎหมาย ป.ป.ช. และเป็นจุดยืน หรือจริยธรรมส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ค่ายมือถือยังบอกว่าให้ลองเอาไปใช้ดูก่อน แต่ได้ปฏิเสธไป ซึ่งค่ายมือถือก็นำกลับไป โดยทีมงานหน้าห้องเห็นชัดเจน ส่วนบริษัทจะไปพบกรรมการคนอื่นด้วยหรือไม่นั้นไม่ทราบ

ส่วนประเด็น ที่มีการแจกโทรศัพท์ ในงานเลี้ยงปีใหม่นั้น ที่จัดวันที่ 13 ม.ค. 55 ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด เพราะดำเนินการโดยสำนักงาน แต่วันนั้นได้ไปร่วมและนำของไปจับสลากด้วย ด้วยใช้เงินตัวเอง และส่งให้ทีมสำนักงานนำไปจับสลาก ส่วนของขวัญที่นำมาไม่ทราบว่ามาจากไหนบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นจากกรรมการและผู้บริหาร กสทช. ส่วนของขวัญจากภายนอกเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช.

นางสาวสุภิญญา กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวหากถูกตรวจสอบก็จะเป็นเรื่องใหญ่แน่อน ซึ่งในส่วนของสำนักงาน กสทช. ในวันนั้นหากพิสูจน์ได้จริงว่าเกี่ยวพันกับค่ายมือถือก็อาจมีความเสี่ยง แต่ต้องให้เลขาธิการ กสทช. ชี้แจ้งข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งการประชุมบอร์ดสัปดาห์หน้าอาจได้หารือแนวทางป้องกันในอนาคตว่าจะเป็น อย่างไรบ้าง และหากมีกระบวนการตรวจสอบใดๆ ขึ้นมา ฝ่ายเกี่ยวข้องก็ต้องชี้แจงกันไป

นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า เคยเสนอให้ กสทช.ทำกรอบจริยธรรมองค์กร บางเรื่องที่ไม่ขัดกรอบกฎหมาย แต่ขัดกรอบจริยธรรม ก็ต้องดูกันว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นบทเรียนป้องกันในอนาคต เพื่อรักษาจริยธรรมและภาพลักษณ์ในฐานะที่เป็นองค์กรกำกับดูแล เพราะอนาคตอาจมีเรื่องให้เกิดข้อสงสัยได้อีก

ขณะที่ นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า การให้เป็นของขวัญเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกวันนี้ลูกค้าวีไอพีก็มีของแบบนี้ให้เหมือนกัน ทั้งนี้ หาก กสทช. กำหนดกฎไว้ว่าไม่รับของที่มีมูลค่าเกิน 3 พัน แล้วไม่รับก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนการร่วมจับสลากหากเป็นงานปีใหม่ของใครเป็นเรื่องปกติของบริษัท แต่หากจับได้แล้วไม่เอาก็เป็นเรื่องของเค้าเหมือนกัน เหมือนเป็นของชำร่วยจากบริษัทเอกชน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวต่อว่า บริษัทไม่เคยมีนโยบายว่าจะให้หรือไม่ให้ใคร ฝ่ายไหนดูแลใครอยู่เป็นคนจัดการกันไป เป็นงบประมาณของแต่ละฝ่ายจัดการ ซึ่งข่าวที่ออกมา คิดว่าไม่น่าใช่เรื่องใหญ่ หากพิจารณาแล้วรับไม่รับก็แล้วแต่ อย่างไรก็ตาม ควรไปวุ่นวายเรื่องใหญ่อย่าง 3จี ว่าจะเกิดหรือไม่เกิดดีกว่า.

ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/243926

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.