Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

12 กุมภาพันธ์ 2556 ทริสฯให้เครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน TRUE ที่ BBB+ เหตุเสียงระบบสัปทาน 2G หมดอายุ!!! // TRUEONLINE เร่ง PROMOTION ออนไลน์ไม่สะดุด


ประเด็นหลัก



อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต จากทรูออนไลน์ เดินหน้าบุกตลาดทั่วไทย ประเดิมแคมเปญร่วมฉลองตรุษจีน มอ[ประสบการณ์ความเร็วไม่สะดุดทั้งในและนอกบ้าน สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่เมื่อสมัครแพ็กเกจอัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต จากทรูออนไลน์ ความเร็ว 10-200 เมก ราคาเริ่มต้นเพียง 599 บาท รับฟรี WiFi by TrueMove H 30 ชม./เดือน  ให้ท่องเน็ตกว่า 100,000 ฮอตสปอตทั่วประเทศ พร้อม WiFi Router ให้ออนไลน์ไม่สะดุดทุกที่ในบ้าน รวมทั้งแนะนำภาพยนตร์โฆษณา “ออนไลน์ไม่สะดุด” โดยศิลปินดาวรุ่ง “กรีน AF5” - อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ลูกค้าทรูออนไลน์รับสิทธิพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคมนี้ ที่ทรูช้อป ทรูพาร์ทเนอร์ และทรูออนไลน์ แคร์ เซ็นเตอร์ 1686



แคมเปญ “ออนไลน์ไม่สะดุด” จากทรูออนไลน์ เริ่มตั้งแต่ 5 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2556 เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร ทรูออนไลน์ แคร์เซ็นเตอร์ 1686 หรือที่ทรู ช้อปทุกสาขา ทรูพาร์ทเนอร์ www.trueonline.com หรือ www.facebook.com/byTrueOnline




ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 7,800 ล้านบาทของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)ที่ระดับ “BBB-" ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB" พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB-" โดยแนวโน้มยังคง “Negative" หรือ “ลบ"


อันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจร ตลอดจนความแข็งแกร่งทางการตลาดในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) และธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก รวมทั้งการที่บริษัทมีโครงข่ายโทรคมนาคมที่ให้บริการภายใต้เทคโนโลยีที่หลากหลาย และความคาดหวังว่าผู้ถือหุ้นใหญ่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัท อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวมีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลัก ตลอดจนความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้านโทรคมนาคมและคดีฟ้องร้องที่ยังไม่สิ้นสุด ความเสี่ยงจากการขยายการลงทุนที่รวดเร็วในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการที่บริษัทมีภาระหนี้จำนวนมาก

ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative" หรือ “ลบ" สะท้อนอัตราส่วนกำไรที่อ่อนแอลงและความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จากสัมปทาน 2 จีที่จะหมดอายุในปี 2556 อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2557 หรือสถานะทางธุรกิจของบริษัทได้รับผลกระทบเชิงลบจากการสิ้นสุดของสัมปทาน 2 จี





 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)
          อันดับเครดิตองค์กร: BBB
          อันดับเครดิตตราสารหนี้:
          TRUE13NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 BBB-
          TRUE144A: หุ้นกู้มีประกัน 6,183 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB
          TRUE144B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB-
          TRUE151A: หุ้นกู้มีประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB
          TRUE16OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB-
          หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 7,800 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 BBB-
          แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative





___________________________



ทริสฯให้เครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน TRUE ที่ BBB+ แนวโน้ม Negative



ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 7,800 ล้านบาทของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)ที่ระดับ “BBB-" ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB" พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB-" โดยแนวโน้มยังคง “Negative" หรือ “ลบ"


อันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจร ตลอดจนความแข็งแกร่งทางการตลาดในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) และธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก รวมทั้งการที่บริษัทมีโครงข่ายโทรคมนาคมที่ให้บริการภายใต้เทคโนโลยีที่หลากหลาย และความคาดหวังว่าผู้ถือหุ้นใหญ่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัท อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวมีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลัก ตลอดจนความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้านโทรคมนาคมและคดีฟ้องร้องที่ยังไม่สิ้นสุด ความเสี่ยงจากการขยายการลงทุนที่รวดเร็วในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการที่บริษัทมีภาระหนี้จำนวนมาก

ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative" หรือ “ลบ" สะท้อนอัตราส่วนกำไรที่อ่อนแอลงและความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จากสัมปทาน 2 จีที่จะหมดอายุในปี 2556 อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2557 หรือสถานะทางธุรกิจของบริษัทได้รับผลกระทบเชิงลบจากการสิ้นสุดของสัมปทาน 2 จี

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับกลับมาที่ “Stable" หรือ “คงที่" หากการลงทุนในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่สร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทได้ในระยะยาว และโครงสร้างเงินทุนของบริษัทมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวดีขึ้น

TRUE เป็นผู้นำในการให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรของประเทศ ธุรกิจหลักของบริษัททั้ง 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจโครงข่ายสายสัญญาณ (Wireline) ซึ่งดำเนินงานโดยทรูออนไลน์ กลุ่มธุรกิจไร้สาย (Wireless) หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช ซึ่งดำเนินงานโดยทรูโมบาย และกลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) โดยทรูวิชั่นส์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในสัดส่วน 27% 62% และ 11% ตามลำดับ

บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่เข้มแข็งในตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากการมีเครือข่ายที่ครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทยังสะท้อนถึงการเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุด รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลำดับที่ 3 นอกจากนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของประเทศไทยที่มีการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย และมีสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทประมาณ 65% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

บริษัทได้ขยายการลงทุนในโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จีอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2554 โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555 ทรูมูฟ เอช มีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 2.5 ล้านราย กลุ่มทรูโมบายมีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เติบโตขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากธุรกิจบริการด้านข้อมูล (Non-voice) ที่เติบโตอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทปรับลดลงจากต้นทุนด้านโครงข่ายและค่าใช้จ่ายในการเพิ่มผู้ใช้บริการที่ปรับสูงขึ้นมากเช่นกัน ส่งผลให้บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงหากบริษัทไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการได้ตามที่คาดในระยะปานกลาง

ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการให้บริการของบริษัทจะเติบโตประมาณตัวเลขหนึ่งหลักในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยรายได้จากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการด้านข้อมูลจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 อยู่ที่ 18.8% ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวจะยังคงได้รับแรงกดดันด้านการแข่งขันในปี 2556 และน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในปี 2557 หลังจากที่บริษัทได้โอนย้ายผู้ใช้บริการจำนวนพอสมควรไปยังโครงข่าย 3จีซึ่งมีต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับภาครัฐต่ำกว่า

บริษัทมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงในระยะสั้น เนื่องจากสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท) จะหมดอายุลงในเดือนกันยายนปี 2556 โดยที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงว่าการหมดอายุของสัมปทานดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อการให้บริการลูกค้าในระบบ 2 จีของบริษัท รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับบริษัทในการนำคลื่น 1800 MHz กลับมาให้บริการ และต้นทุนในการให้บริการบนโครงข่าย 2 จี ซึ่งจะอยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของ กสท

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะเพิ่มภาระหนี้พร้อมกับการเพิ่มทุนเพื่อรักษาโครงสร้างเงินทุนและสภาพคล่องไม่ให้อ่อนแอลงไปกว่าระดับปัจจุบัน เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.6 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2556-2558 ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูงมากในช่วงปี 2556-2557 เนื่องจากบริษัทยังคงมีความต้องการเงินกู้เพื่อขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และโครงข่ายเคเบิลอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หลังจากนั้นบริษัทน่าจะเริ่มทยอยชำระคืนเงินกู้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq05/1588374

_____________________________________



ทริสฯจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน 'บ. ทรู คอร์ปอเรชั่น' ที่ระดับ BBB-/Negative



ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 7,800 ล้านบาทของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-”

ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB-” โดยแนวโน้มยังคง “Negative” หรือ “ลบ” อันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจร ตลอดจนความแข็งแกร่งทางการตลาดในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) และธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก รวมทั้งการที่บริษัทมีโครงข่ายโทรคมนาคมที่ให้บริการภายใต้เทคโนโลยีที่หลากหลาย และความคาดหวังว่าผู้ถือหุ้นใหญ่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัท อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวมีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลัก ตลอดจนความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้านโทรคมนาคมและคดีฟ้องร้องที่ยังไม่สิ้นสุด ความเสี่ยงจากการขยายการลงทุนที่รวดเร็วในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการที่บริษัทมีภาระหนี้จำนวนมาก ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนอัตราส่วนกำไรที่อ่อนแอลงและความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จากสัมปทาน 2 จีที่จะหมดอายุในปี 2556 อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2557 หรือสถานะทางธุรกิจของบริษัทได้รับผลกระทบเชิงลบจากการสิ้นสุดของสัมปทาน 2 จี อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับกลับมาที่ “Stable” หรือ “คงที่” หากการลงทุนในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่สร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทได้ในระยะยาว และโครงสร้างเงินทุนของบริษัทมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวดีขึ้น
          บริษัททรู คอร์ปอเรชั่นเป็นผู้นำในการให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรของประเทศ ธุรกิจหลักของบริษัททั้ง 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจโครงข่ายสายสัญญาณ (Wireline) ซึ่งดำเนินงานโดยทรูออนไลน์ กลุ่มธุรกิจไร้สาย (Wireless) หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช ซึ่งดำเนินงานโดยทรูโมบาย และกลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) โดยทรูวิชั่นส์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในสัดส่วน 27% 62% และ 11% ตามลำดับ
       
 บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่เข้มแข็งในตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากการมีเครือข่ายที่ครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทยังสะท้อนถึงการเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุด รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลำดับที่ 3 นอกจากนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของประเทศไทยที่มีการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย และมีสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทประมาณ 65% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
         
บริษัทได้ขยายการลงทุนในโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จีอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2554 โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555 ทรูมูฟ เอช มีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 2.5 ล้านราย กลุ่มทรูโมบายมีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เติบโตขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากธุรกิจบริการด้านข้อมูล (Non-voice) ที่เติบโตอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทปรับลดลงจากต้นทุนด้านโครงข่ายและค่าใช้จ่ายในการเพิ่มผู้ใช้บริการที่ปรับสูงขึ้นมากเช่นกัน ส่งผลให้บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงหากบริษัทไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการได้ตามที่คาดในระยะปานกลาง
         
ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการให้บริการของบริษัทจะเติบโตประมาณตัวเลขหนึ่งหลักในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยรายได้จากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการด้านข้อมูลจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 อยู่ที่ 18.8% ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวจะยังคงได้รับแรงกดดันด้านการแข่งขันในปี 2556 และน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในปี 2557 หลังจากที่บริษัทได้โอนย้ายผู้ใช้บริการจำนวนพอสมควรไปยังโครงข่าย 3จีซึ่งมีต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับภาครัฐต่ำกว่า
       
 บริษัทมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงในระยะสั้น เนื่องจากสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท) จะหมดอายุลงในเดือนกันยายนปี 2556 โดยที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงว่าการหมดอายุของสัมปทานดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อการให้บริการลูกค้าในระบบ 2 จีของบริษัท รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับบริษัทในการนำคลื่น 1800 MHz กลับมาให้บริการ และต้นทุนในการให้บริการบนโครงข่าย 2 จี ซึ่งจะอยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของ กสท
         
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะเพิ่มภาระหนี้พร้อมกับการเพิ่มทุนเพื่อรักษาโครงสร้างเงินทุนและสภาพคล่องไม่ให้อ่อนแอลงไปกว่าระดับปัจจุบัน เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.6 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2556-2558 ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูงมากในช่วงปี 2556-2557 เนื่องจากบริษัทยังคงมีความต้องการเงินกู้เพื่อขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และโครงข่ายเคเบิลอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หลังจากนั้นบริษัทน่าจะเริ่มทยอยชำระคืนเงินกู้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

          บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)
          อันดับเครดิตองค์กร: BBB
          อันดับเครดิตตราสารหนี้:
          TRUE13NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 BBB-
          TRUE144A: หุ้นกู้มีประกัน 6,183 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB
          TRUE144B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB-
          TRUE151A: หุ้นกู้มีประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB
          TRUE16OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB-
          หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 7,800 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 BBB-
          แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=168517:------bbb-negative&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524


____________________________-



ทรูออนไลน์เปิดตัวแคมเปญ “ออนไลน์ไม่สะดุด”



อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต จากทรูออนไลน์ เดินหน้าบุกตลาดทั่วไทย ประเดิมแคมเปญร่วมฉลองตรุษจีน มอ[ประสบการณ์ความเร็วไม่สะดุดทั้งในและนอกบ้าน สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่เมื่อสมัครแพ็กเกจอัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต จากทรูออนไลน์ ความเร็ว 10-200 เมก ราคาเริ่มต้นเพียง 599 บาท รับฟรี WiFi by TrueMove H 30 ชม./เดือน  ให้ท่องเน็ตกว่า 100,000 ฮอตสปอตทั่วประเทศ พร้อม WiFi Router ให้ออนไลน์ไม่สะดุดทุกที่ในบ้าน รวมทั้งแนะนำภาพยนตร์โฆษณา “ออนไลน์ไม่สะดุด” โดยศิลปินดาวรุ่ง “กรีน AF5” - อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ลูกค้าทรูออนไลน์รับสิทธิพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคมนี้ ที่ทรูช้อป ทรูพาร์ทเนอร์ และทรูออนไลน์ แคร์ เซ็นเตอร์ 1686

นายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล ผู้อำนวยการบริหาร ธุรกิจทรูออนไลน์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ปีนี้ ทิศทางการดำเนินธุรกิจของทรูออนไลน์ ยังให้ความสำคัญเรื่องการขยายบริการอัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ตสู่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ ด้วยเงินลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท เพื่อติดตั้งโครงข่าย ครอบคลุมมากกว่า 4 ล้านครัวเรือน (Homepass)  ใน 61 จังหวัด  ด้วยเทคโนโลยีเคเบิ้ลอินเทอร์เน็ต DOCSIS 3.0 ที่พร้อมรองรับการให้บริการ Triple Play ตามยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ ของกลุ่มทรู รวมถึงการนำจุดเด่นของบริการในกลุ่ม สร้างมูลค่าเพิ่มให้ลูกค้า ซึ่งปีนี้ ทรูออนไลน์ ประเดิมด้วยแคมเปญ ออนไลน์ไม่สะดุด เพื่อร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน โดยนำความโดดเด่นฐานะผู้นำตลาด บรอดแบนด์ มอบประสบการณ์ความเร็วทุกที่ทุกเวลาทั้งในบ้าน นอกบ้าน ให้คุ้มยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าแพ็กเกจอัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ตจากทรูออนไลน์ ความเร็ว 10 -200 เมก ราคาเริ่มต้นเพียง 599 บาท รับฟรี WiFi 30 ชม./เดือน ให้ท่องเน็ตเร็วสูงไร้สายนอกบ้านครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพฯ  ปริมณฑลและต่างจังหวัด ด้วยจุดเชื่อมต่อกว่า 100,000 จุด ทั่วประเทศ และมอบ WiFi Router ให้เพลินกับการเล่นเน็ตได้ไม่สะดุดทุกที่ในบ้าน

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มการรับรู้แคมเปญนี้ไปสู่ลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต จากทรูออนไลน์ จัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ในชื่อชุด ‘ออนไลน์ไม่สะดุด’ ความยาว 30 วินาที โดยมีศิลปินดาวรุ่ง “กรีน AF5” - อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์คอนเวอร์เจนช์และใช้บริการอัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต จากทรูออนไลน์อย่างสะดวกสบาย ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงของขวัญสุดคุ้มจากทรูออนไลน์ในเทศกาลตรุษจีนนี้

แคมเปญ “ออนไลน์ไม่สะดุด” จากทรูออนไลน์ เริ่มตั้งแต่ 5 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2556 เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร ทรูออนไลน์ แคร์เซ็นเตอร์ 1686 หรือที่ทรู ช้อปทุกสาขา ทรูพาร์ทเนอร์ www.trueonline.com หรือ www.facebook.com/byTrueOnline







 http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1360309619&grpid=03&catid=06&subcatid=0600


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.