Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

05 มิถุนายน 2556 เครือข่ายพลเมืองเน็ต ชี้ บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง กับเด็ก!! รัฐต้องป้องข้อมูลส่วนตัวเด็กให้ดีเพราะนำไปสู่ประโยชน์จากข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า



ประเด็นหลัก




ดร.นคร กล่าวว่า บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง บนโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ  เพราะผู้ให้บริการมักนำเสนอระบบที่เอื้อให้ผู้ใช้งานรายบุคคลและองค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลในระบบประมวลผลตามความต้องการของผู้ใช้ โดยผู้ให้บริการบางรายได้แสวงหาประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและมีการจำหน่ายข้อมูลเหล่านั้นเพื่อการพาณิชย์และเป้าหมายอื่น  ดังนั้นเครือข่ายพลเมืองเน็ตและแนวร่วมนักวิชาการด้านสิทธิส่วนบุคคล อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ก่อนเสนอกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร  เพื่อกำหนดแนวทางที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย โดยจะเน้นพิเศษไปยังสถานศึกษา เป็นหลัก



"สิ่งที่มุ่งไปยังมหาวิทยาลัยและโรงเรียน เพราะว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่อ่อนไหวของนักเรียน นักศึกษา ทั้งข้อมูลด้านการเรียนและอีเมล์ส่วนตัว มองว่าบริษัทเอกชนผู้ให้บริการคลาวด์ฯ กำลังใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพของการทำกำไรทางธุรกิจที่ต้องแลกกับสิทธิส่วนบุคคลของนักเรียนนักศึกษาเหล่านี้ ทั้งนี้ ภาครัฐควรจะดำเนินการเพื่อยับยั้งการทำธุรกิจในลักษณะนี้ด้วย" ดร.นคร กล่าว



อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารจะเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์หมด ดังนั้นสิทธิของประชาชนจะเข้าไปสู่สิทธิอิเล็กทรอนิกส์ แต่การเข้าถึงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เด็กและเยาวชนค่อนข้างอ่อนไหว และบางครั้งการยินยอมให้มีการเข้าถึงข้อมูลแค่เพียงมุ่งหวังเพื่อจะเข้าใช้บริการเท่านั้น ดังนั้นผู้บริหารโรงเรียนจะต้องกำหนดแนวทางในการทำงานให้แก่ผู้ให้บริการคลาวด์ฯ อย่างชัดเจน และทำข้อตกลงในการใช้ข้อมูลของนักเรียนเฉพาะเพื่อการศึกษาเท่านั้น เป็นต้น


______________________________________





"เครือข่ายพลเมืองเน็ต"วอนรัฐป้องข้อมูลส่วนตัวเด็ก



แนะภาครัฐเร่งหามาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวด้านข้อมูลบนโลกออนไลน์ ชี้ นักเรียนนักศึกษาอ่อนไหวมีความเสี่ยงสูงสุด หลังพบผู้ให้บริการคลาวด์ฯ บางรายแสวงหากำไร เครือข่ายพลเมืองเน็ต เล็งเสนอแผนป้องกันต่อกระทรวงไอซีที


วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท เครือข่ายพลเมืองเน็ต (Thai Netizen Network) และองค์กร Safe Gov  จัดเสวนาโต๊ะกลม เพื่อหารือเกี่ยวกับ "สิทธิส่วนบุคคลออนไลน์ ประเด็นที่ต้องทบทวนในทุกภาคส่วนของสังคม" โดย ดร.นคร เสรีรักษ์ ที่ปรึกษานโยบายของเครือข่ายพลเมืองเน็ต อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านเสรีภาพแห่งข้อมูล ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี และนายเจฟฟ์ กูลด์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธินักเรียนนักศึกษาจากองค์กร Safe Gov  เป็นวิทยากร



ดร.นคร กล่าวว่า บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง บนโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ  เพราะผู้ให้บริการมักนำเสนอระบบที่เอื้อให้ผู้ใช้งานรายบุคคลและองค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลในระบบประมวลผลตามความต้องการของผู้ใช้ โดยผู้ให้บริการบางรายได้แสวงหาประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและมีการจำหน่ายข้อมูลเหล่านั้นเพื่อการพาณิชย์และเป้าหมายอื่น  ดังนั้นเครือข่ายพลเมืองเน็ตและแนวร่วมนักวิชาการด้านสิทธิส่วนบุคคล อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ก่อนเสนอกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร  เพื่อกำหนดแนวทางที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย โดยจะเน้นพิเศษไปยังสถานศึกษา เป็นหลัก



"สิ่งที่มุ่งไปยังมหาวิทยาลัยและโรงเรียน เพราะว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่อ่อนไหวของนักเรียน นักศึกษา ทั้งข้อมูลด้านการเรียนและอีเมล์ส่วนตัว มองว่าบริษัทเอกชนผู้ให้บริการคลาวด์ฯ กำลังใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพของการทำกำไรทางธุรกิจที่ต้องแลกกับสิทธิส่วนบุคคลของนักเรียนนักศึกษาเหล่านี้ ทั้งนี้ ภาครัฐควรจะดำเนินการเพื่อยับยั้งการทำธุรกิจในลักษณะนี้ด้วย" ดร.นคร กล่าว



อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารจะเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์หมด ดังนั้นสิทธิของประชาชนจะเข้าไปสู่สิทธิอิเล็กทรอนิกส์ แต่การเข้าถึงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เด็กและเยาวชนค่อนข้างอ่อนไหว และบางครั้งการยินยอมให้มีการเข้าถึงข้อมูลแค่เพียงมุ่งหวังเพื่อจะเข้าใช้บริการเท่านั้น ดังนั้นผู้บริหารโรงเรียนจะต้องกำหนดแนวทางในการทำงานให้แก่ผู้ให้บริการคลาวด์ฯ อย่างชัดเจน และทำข้อตกลงในการใช้ข้อมูลของนักเรียนเฉพาะเพื่อการศึกษาเท่านั้น เป็นต้น



ด้าน นายเจฟฟ์ กูลด์ กล่าวว่า การขยายตัวของระบบคลาวด์ฯ ในโรงเรียนกำลังเป็นที่วิตกทั่วโลก และปัญหานี้เป็นความท้าทายอันดับต้นๆ ของผู้บริหารโรงเรียน เพราะการใช้งานจะต้องมีความปลอดภัยมั่นคง 100% หลายโรงเรียนในประเทศไทยและโรงเรียนในประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังวางแผนเปลี่ยนถ่ายไปใช้อีเมล์แบบคลาวด์ และใช้บริการการจัดเก็บข้อมูลเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ถือเป็นแนวโน้มที่ดี เพราะจะพัฒนาทักษะและความสามารถของนักเรียนนักศึกษาด้วย

http://www.dailynews.co.th/technology/209578

________________________________





______________________________________





จี้รัฐคุมเข้มข้อมูลเยาวชน ห่วง 'คลาวด์' เปิดช่องโหว่สิทธิส่วนบุคคล


เครือข่ายพลเมืองเน็ต จับมือองค์กรด้านสิทธินักเรียน นักศึกษา จัดเสวนาถกประเด็นความปลอดภัยด้านสิทธิส่วนบุคคลจากการใช้งานคลาวด์ คอมพิวติ้ง หวังสถานศึกษาปกป้องข้อมูลจากการใช้งานของเยาวชน...

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เครือข่ายพลเมืองเน็ต (Thai Netizen Network) ร่วมกับองค์กร Safe Gov ได้จัดเสวนาโต๊ะกลม เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการปกป้องคุ้มครองสิทธิส่วนบุคลของเยาวชน โดยเฉพาะความเป็นส่วนตัวด้านข้อมูล จากแนวโน้มปัจจุบันที่สถานศึกษามีการใช้งานระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง อย่างแพร่หลาย โดยมีการขยายการใช้งานไปในสถานศึกษาทั้งในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษากว่าร้อยแห่งทั่วประเทศ

นายนคร เสรีรักษ์ ที่ปรึกษานโยบาย เครือข่ายพลเมืองเน็ต เปิดเผยว่า บริการคลาวด์ คอมพิวติ้งนั้น เอื้อให้ผู้ใช้งานทั้งรายบุคคลและองค์กร สามารถจัดเก็บข้อมูลในระบบประมวลผลได้จริง แต่ผู้ให้บริการบางรายก็แสวงหาผลประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ทั้งยังนำไปจำหน่ายข้อมูลในการพาณิชย์และเป้าหมายอื่นๆ อีกด้วย เครือข่ายพลเมืองเน็ตและแนวร่วมนักวิชาการด้านสิทธิส่วนบุคคล ได้ทำการศึกษาและเตรียมจัดทำข้อเสนอต่อรัฐบาลไทย เพื่อกำหนดแนวทางที่เข้มงวดในการควบคุมการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการเก็บข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์และโดยเฉพาะการใช้ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ภายในสถาบันการศึกษา

"ความกังวลส่วนหนึ่งของเรามุ่งไปที่มหาวิทยาลัยและโรงเรียน ซึ่งครอบครองข้อมูลที่อ่อนไหวของนักเรียน นักศึกษาจำนวนมาก ทั้งข้อมูลด้านการเรียนและแม้กระทั่งอีเมล์ส่วนตัว มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทเอกชนผู้ให้บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง กำลังใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพของการทำกำไรทางธุรกิจ ซึ่งต้องแลกกับสิทธิส่วนบุคคลของนักเรียน นักศึกษาเหล่านี้ และเราเชื่อว่าภาครัฐควรจะดำเนินการเพื่อยับยั้งการทำธุรกิจในลักษณะนี้โดยเร็ว" นายนคร กล่าว

ที่ปรึกษานโยบายเครือข่ายพลเมืองเน็ต กล่าวอีกว่า ผู้บริหารสถานศึกษาควรกำหนดแนวทางในการทำงานแก่ผู้ให้บริการคลาวด์ คอมพิวติ้งอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นหนทางเดียวที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ปกครองและนักเรียนได้ว่าจะไม่มีการแสวงหาประโยชน์โดยผิดไม่ชอบธรรม อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยถือว่ามีการใช้อินเทอร์เน็ตในกระบวนการเรียนการสอนอย่างกว้างขวาง มีการแจกแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ให้แก่เด็กนักเรียนหลายแสนคนทั่วประเทศ จึงควรแน่ใจว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของเยาวชนนั้น จะไม่ถูกนำไปใช้แสวงหาประโยชน์อย่างไร้จริยธรรม

นายเจฟฟ์ กูลด์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธินักเรียน นักศึกษา จากองค์กร Safe Gov กล่าวว่า การขยายตัวของคลาวด์ คอมพิวติ้ง ในโรงเรียนกำลังเป็นที่วิตกไปทั่วโลก ปัญหาดังกล่าวถือเป็นความท้าทายอันดับต้นๆ ของบรรดาผู้บริหารโรงเรียน โดย SafeGov ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางของผู้ให้บริการด้านไอทีและอุตสาหกรรม ซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมให้ภาคเอกชน มีแนวทางการใช้งานคลาวด์ คอมพิวติ้ง อย่างมีความรับผิดชอบ

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธินักเรียนนักศึกษาจากองค์กร Safe Gov กล่าวอีกว่า หลายโรงเรียนในประเทศไทยและโรงเรียนในประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังวางแผนเปลี่ยนถ่ายไปใช้อีเมล์แบบคลาวด์ และใช้บริการการจัดเก็บข้อมูลเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ถือเป็นแนวโน้มที่ดี เนื่องจากนักพัฒนาการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ต่างตระหนักถึงประโยชน์มหาศาลของระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่มีต่อการศึกษาและสังคม โดยนักเรียนนักศึกษาจะได้ใช้พัฒนาระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง เป็นฐานในการพัฒนาทักษะที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม การใช้ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ในโรงเรียนจะต้องมีความปลอดภัยและมั่นคง 100% แต่พบว่าปัจจุบันมีด้านมืดแฝงอยู่ ซึ่งนักเรียนนักศึกษาอาจยังไม่ตระหนักถึง เพราะการใช้ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ในโรงเรียน จะเอื้อให้ผู้ให้บริการสามารถรวบรวมข้อมูลของนักเรียน นักศึกษาจากเนื้อหาในอีเมล์ พฤติกรรมการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต และการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์ต่างๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้พัฒนาโฆษณาและสิ่งจูงใจต่างๆ ได้ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการศึกษาจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกัน

"ผู้ปกครองและบุตรหลาน ควรจะได้รับการรับประกันว่า โรงเรียนต่างๆ นั้นจะไม่ใช้ข้อมูลของนักเรียนอย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเพื่อเป้าหมาย หรือสถานการณ์ใดก็ตาม ข้อมูลส่วนตัวนั้นมีค่า และผู้บริหารของโรงเรียนจะต้องระมัดระวังในการป้องกันนักเรียนจากการถูกรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคล" นายกูลด์ กล่าว.

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/349312

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.