14 พฤษภาคม 2557 กลุ่มสามารถเผยQ1/57รายได้6,364ลบ (เฉพาะ i-mobile มีรายได้ 3,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 32 เปอร์เซนต์ กำไรสุทธิ 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซนต์ )
ประเด็นหลัก
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,364 ล้านบาท กำไรสุทธิ 403 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น่าพึงพอใจทั้งรายได้และกำไร คือ 20 เปอร์เซนต์ และ15 เปอร์เซนต์ ตามลำดับ โดย บมจ.สามารถไอ-โมบาย มีรายได้ 3,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 32 เปอร์เซนต์ กำไรสุทธิ 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซนต์ และบมจ.สามารถเทลคอม มีรายได้รวม 2,077 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนเช่นกัน หากเทียบเฉพาะกำไรที่ได้จากการดำเนินงานโดยไม่นับรวมกำไรอื่นๆ เช่น การจำหน่ายหรือเปลี่ยนแปลงเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อการค้า นอกจากนี้ กลุ่มสามารถเทลคอมยังมีรายได้ประจำเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซนต์ คิดเป็นสัดส่วน 35 เปอร์เซนต์ของรายได้ทั้งหมด
______________________________________
กลุ่มสามารถเผยQ1/57รายได้6,364ลบ. 'ไอ-โมบาย'ทุบสถิติยอดขายมือถือทะลุกว่าล้านเครื่อง
กลุ่มสามารถเผยQ1/57รายได้6,364ลบ. 'ไอ-โมบาย'ทุบสถิติยอดขายมือถือทะลุกว่าล้านเครื่อง
วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2014 เวลา 12:46 น. ชุติมณฑน์ คำภา (+) ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ
พิมพ์
altกลุ่มบริษัทสามารถแจ้งผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2557 มีรายได้รวม 6,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซนต์ กำไรสุทธิรวม 403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซนต์ สะท้อนการเติบโตที่ต่อเนื่องของทุกสายธุรกิจในเครือ โดยกลุ่มไอ-โมบาย ได้ทุบสถิติยอดขายมือถือทะลุกว่า 1 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสเดียว กลุ่มเทลคอมเซ็นสัญญาเพิ่มได้กว่าพันล้านบาท รวมมูลค่าโครงการในมือปัจจุบันเกือบ 7 พันล้านบาท อีกทั้งในวันที่ 15 พ.ค นี้ วันทูวัน คอนแทคส์ จะนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ย้ำความเป็นผู้นำในตลาดคอลล์เซ็นเตอร์ และพร้อมขยายธุรกิจสู่ CLMV
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,364 ล้านบาท กำไรสุทธิ 403 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น่าพึงพอใจทั้งรายได้และกำไร คือ 20 เปอร์เซนต์ และ15 เปอร์เซนต์ ตามลำดับ โดย บมจ.สามารถไอ-โมบาย มีรายได้ 3,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 32 เปอร์เซนต์ กำไรสุทธิ 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซนต์ และบมจ.สามารถเทลคอม มีรายได้รวม 2,077 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนเช่นกัน หากเทียบเฉพาะกำไรที่ได้จากการดำเนินงานโดยไม่นับรวมกำไรอื่นๆ เช่น การจำหน่ายหรือเปลี่ยนแปลงเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อการค้า นอกจากนี้ กลุ่มสามารถเทลคอมยังมีรายได้ประจำเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซนต์ คิดเป็นสัดส่วน 35 เปอร์เซนต์ของรายได้ทั้งหมด
“แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมือง แต่ก็ยังมีกระแส Smart Phone และ Digital TV เข้ามาเป็นปัจจัยบวกในการกระตุ้นตลาด ฉุดให้ยอดขายไอ-โมบาย Smart Phone พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยในไตรมาสแรก สามารถจำหน่ายมือถือ Smart Phone และ Feature Phone ไปแล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง ทั้งราคาขายเฉลี่ยก็ขยับสูงขึ้นถึง 16 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ กลุ่มสามารถยังพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจ Digital TV ไม่ว่าจะเป็นงานติดตั้งโครงข่ายสถานีซึ่งอยู่ระหว่างการประมูล การจำหน่ายอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิตอล และการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ DTV on Mobile แบรนด์แรกของโลก ซึ่งตั้งเป้ายอดขายไว้ถึง 1.5 ล้านเครื่องในปีนี้ รวมรายได้ที่คาดว่าจะได้จากการจำหน่ายเสาอากาศ, Set-top box และโทรศัพท์มือถือดิจิตอลทีวี ในปี 57 ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นธุรกิจส่งออกมือถือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพม่า ซึ่งมีการเร่งลงทุนด้านเครือข่ายการสื่อสาร ถือเป็นโอกาสในการขยายตลาดมือถือครั้งสำคัญ
ส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มสามารถเทลคอม ซึ่งงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับงานโครงการ ก็สามารถเซ็นสัญญาโครงการใหม่ได้เพิ่มเติมในไตรมาสแรก มูลค่า 1,152 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการในมือ ณ ปัจจุบัน เกือบ 7 พันล้านบาท และยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ซึ่งเป็นเป้าหมายในการ
ประมูลของบริษัทฯ ในปีนี้อีกกว่า 17,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในไตรมาส 2 มีโอกาสค่อนข้างสูงในการได้งานเพิ่มอีกราว 7,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการใหม่และโครงการส่วนต่อขยายขององค์กรต่างๆ อาทิ บมจ. ท่าอากาศยานไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมที่ดิน และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น
ด้านกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและการเดินทาง Utilities & Transportation โดยการนำของบริษัท สามารถ ยู-ทรานส์ ในไตรมาสแรก ปี 57 มีรายได้จากศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ CATS และโรงไฟฟ้ากัมปอต รวมกันกว่า 520 ล้านบาท ทั้งยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ Air traffic Management ของวิทยุการบินฯ ในไตรมาสแรก จำนวน 145 ล้านบาท จากมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาท และมีรายได้จากบริษัท เทด้า ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือมูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้ราว 230 ล้านบาท จึงถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำที่แข็งแกร่งให้แก่กลุ่มสามารถ
สุดท้าย กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ซึ่งแม้จะเป็นธุรกิจย่อย แต่ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นทั้ง 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัย โดย บจก. วิชั่นส์แอนด์ซิเคียวริตี้ซิสเต็ม ได้เซ็นสัญญาเพิ่มเติมกับการท่าฯ มูลค่า 120 ล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจคอลล์เซนเตอร์ โดย บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ ซึ่งจะเข้าเทรดหุ้นในตลาดเอ็มเอไอในวันที่ 15 พ.ค นี้ ก็มีทิศทางการเติบโตที่สดใส ทั้งตลาดในประเทศและใน CLMV ซึ่งกำลังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบัน วันทูวัน ครองส่วนแบ่งตลาดบริการ Outsourced Call Center ประเภทCustomer Services กว่า 20 เปอร์เซนต์ โดยมีลูกค้ารายองค์กรหลากหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจสายการบิน, ประกัน, รถยนต์ เป็นต้น คาดรายได้ปี 57 กว่า 1,000 ล้านบาท และอีกหนึ่งธุรกิจซึ่งคาดว่าจะเป็นดาวรุ่งของปี 57 คือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายชุดอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิตอล ซึ่งนอกจากการปลุกกระแสโดยช่องรายการใหม่ๆ แล้ว ยังจะได้รับผลพวงจากการแจกคูปองในปีนี้จำนวนกว่า 11 ล้านใบโดย กสทช. จึงมั่นใจว่าบริษัทสามารถวิศวกรรมจะสร้างยอดขายเสาอากาศและกล่องรับสัญญาณได้ถึง 2 ล้านชุดในปี57 คิดเป็นรายได้ราว 2,000 ล้านบาท”
นายวัฒน์ชัยกล่าวสรุปว่า “การบริหารงานด้วยความรอบคอบ และการสร้างสมดุลย์ของแหล่งรายได้ เป็นสิ่งที่กลุ่มสามารถให้ความสำคัญมาโดยตลอด เราจึงมีการจัดแบ่งสายธุรกิจที่ชัดเจน มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งลูกค้ารัฐ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน และผู้บริโภครายย่อย ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นในการขยายฐานรายได้ประจำให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน และความพร้อมในการลงทุนเมื่อโอกาสมาถึง”
“กลุ่มบริษัทสามารถ” มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจร ภายใต้บริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท และมี 4 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) และล่าสุด บริษัท .วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน)
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=230838:q1576364-&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524#.U3Mkfi_-vaE
ไม่มีความคิดเห็น: