09 กันยายน 2557 ขสมก.นเรศ ระบุ กำลังอยู่ในช่วงทดสอบระบบ WIFI ระหว่าง ก.ย .- ธ.ค. 2557 บนเส้นทางบนท้องถนนเพื่อหาความเสถียรภาพของสัญญาณ คาดว่าประชาชนจะได้ใช้งานก็ช่วงต้นปี 2558
ประเด็นหลัก
ตามข้อมูล นเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) เปิดเผยว่า การติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายบนรถโดยสารสาธารณะของ ขสมก. กำลังอยู่ในช่วงทดสอบระบบ ระหว่าง ก.ย .- ธ.ค. 2557 ทั้งนี้ ต้องทดสอบเส้นทางบนท้องถนนเพื่อหาความเสถียรภาพของสัญญาณ คาดว่าประชาชนจะได้ใช้งานก็ช่วงต้นปี 2558
ไวไฟฟรี 'ดี-ไม่ดี' ทดลองดู
หลังจากกลายเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อนรับกระแสโซเชียลเอาใจคนรุ่นใหม่ ไวไฟบนรถประจำทางกลายเป็นหัวข้อให้ ทีมงาน Astv ผู้จัดการ Live ลงพื้นที่สอบถามความเห็นจากประชาชน และโดยมากก็เห็นพ้องว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ทว่าปัญหาคือจะทำได้จริงหรือไม่ และความของอินเทอร์เน็ตก็สมกับที่กล่างอ้างไว้เพียงใด เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าสู่ยุค 3G ความเร็วของอินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่มีการโฆษณาไว้
______________________________
'ไวไฟฟรีบนรถเมล์' ประชานิยม สังคมก้มหน้า!
ขสมก. ตีธงเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการนำร่องให้บริการไวไฟฟรีบนรถประจำทางยูโรทู จำนวน 200 คัน เดินเครื่องเปิดใช้งานอย่างเต็มสูบเริ่มใช้งานจริงต้นปีหน้าเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์โดยเฉพาะ ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายคืนความสุขสู่ประชาชนของภาครัฐ ภายใต้การบริหารประเทศของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่แน่ใจของขวัญชิ้นนี้จะถูกใจประชาชนกันมากน้อยเพียงใด
ตามข้อมูล นเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) เปิดเผยว่า การติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายบนรถโดยสารสาธารณะของ ขสมก. กำลังอยู่ในช่วงทดสอบระบบ ระหว่าง ก.ย .- ธ.ค. 2557 ทั้งนี้ ต้องทดสอบเส้นทางบนท้องถนนเพื่อหาความเสถียรภาพของสัญญาณ คาดว่าประชาชนจะได้ใช้งานก็ช่วงต้นปี 2558
ไวไฟฟรี 'ดี-ไม่ดี' ทดลองดู
หลังจากกลายเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อนรับกระแสโซเชียลเอาใจคนรุ่นใหม่ ไวไฟบนรถประจำทางกลายเป็นหัวข้อให้ ทีมงาน Astv ผู้จัดการ Live ลงพื้นที่สอบถามความเห็นจากประชาชน และโดยมากก็เห็นพ้องว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ทว่าปัญหาคือจะทำได้จริงหรือไม่ และความของอินเทอร์เน็ตก็สมกับที่กล่างอ้างไว้เพียงใด เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าสู่ยุค 3G ความเร็วของอินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่มีการโฆษณาไว้
ธราดล ภาสดา ช่างแอร์ เผยว่า ตนเองใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำโดยเฉพาะเวลาเดินทาง หากมีการใช้บริการฟรีจริงก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองด้วย ทว่าในส่วนของไวไฟฟรีบริเวณป้ายรถเมล์ของ กทม. นั้นเขามองว่า อาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์นัก แต่ไวไฟฟรีบนรถเมล์ของ ขสมก. น่าจะได้ทดลองใช้
“มันก็ดีนะครับ จะได้ไม่ได้ต้องเวลาใช้จ่ายตังค์เยอะมากมาย ถ้าเปิดให้ใช้ก็ใช้ครับ เล่นเน็ตบ่อยอยู่แล้ว ตัวผมก็มีโปรเน็ตอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่ามันเป็นประโยชน์สำหรับประชาชน ถ้ามีก็อยากใช้ แต่ถ้ามีที่ป้ายรถเมล์ก็อาจจะไม่ได้ใช้นัก คือใช้แต่เวลาที่จำเป็นเท่านั้นมากกว่า”
ทางด้านของ สุชาดา ตั้งสมบัติไพบูลย์ ครูโรงเรียนวัดดุสิตก็เห็นว่า การมีไวไฟบทรถเมล์ฟรีนั้นเป็นสิ่งที่ดีและทำให้เกิดความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสาร สามารถดูข่าวสารอัปเดตข้อมูลได้อย่างรวดเร็วขึ้น เธอมองว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตได้ใช้งาน แต่ปัญหาที่กังวลคือเรื่องความเร็วที่แม้ประเทศจะเข้าสู่ยุค 3จี แต่ความเร็วอินเทอร์เน็ตกลับไม่ได้เร็วเท่าที่ควร
“หลังจากมีการออกข่าวว่ามี 3 จีแล้ว แต่ความเร็วจริงๆมันไม่ถึง ก็คิดว่า ถ้าดำเนินการแบบนี้ก็อยากให้ทำจริงๆ ไม่ใช่โกหกประชาชนแล้วประชาชนก็ใช้จ่ายไปแต่ก็ได้ความเร็วไม่ถึงตามที่กำหนดไว้ ส่วนที่ป้ายรถจริงๆ บางคนก็อาจจะไม่ได้ใช้ซึ่งถ้ามีทุกที่ไม่จำเป็นต้องมีแต่เฉพาะแต่จุดตรงป้ายรถเมล์ เราคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์มากกว่า คนจะใช้ก็ใช้ได้เลย”
ขณะที่ อรัญญา สุกวรรณวิทย์ นักเรียนโรงเรียนวัดบวร มองว่า การมี ไวไฟ บนรถเมล์นั้นมีส่วนช่วยในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทำให้สามารถใช้ช่วงเวลาบนรถเมล์ไปกับการบ้าน หาข้อมูลได้อีกด้วย ทว่าผู้ใช้งานก็ควรมีสติในการใช้งานโดยควรใช้งานแต่พอดี
“ทุกวันนี้ต้องใช้เวลาบนรถเมล์นานก็มีใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงาน ทำการบ้านหาข้อมูลหาความรู้บ้าง หรือเบื่อๆก็เล่นเกมส์ แต่ปัญหาคือไม่แรง ถ้ามีก็อยากให้มันแรงด้วย คือมันมีทั้งดีและไม่ดี บางทีถ้ามีที่ป้ายรถเมล์มันก็อาจจะทำให้เราเสียสมาธิขึ้นรถไม่ทัน และอาจจะทำให้เราไม่สนใจคนอื่น”
ท่องโซเชียลทันใจได้ทุกที
หลายเสียงมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทาง ขสมก. จะเปิดให้บริการไวไฟฟรีบนรถเมล์ เช่นเดียวกัน พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรรายการไอทีชื่อดัง แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังกล่าว “ประเทศไทยก็ไม่ได้ใหม่กับไวไฟแล้ว เรามีฮอตสปอตเป็นแสนจุดแล้ว ในแง่ของการใช้งาน จะเป็นร้านกาแฟ เป็นโรงแรมเราก็มีไวไฟตั้งเยอะแยะ ถามว่ารถเมล์เล่นได้ไหม? ถ้ามันมีน่ะะดีมาก แต่คำถามคือมันจะเร็วได้แค่ไหน?”
ซึ่งข้อมูลเรื่องความเร็วต้องอดใจรอทาง ขสมก. เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตาม ความเร็วที่ประกาศต่อสาธารณะในแง่ของการใช้งานจริงอาจถูกลดทอนลงบ้าง นั่นเป็นเพราะเราใช้งานแบบแชร์อินเทอร์เน็ตกัน พงศ์สุข ยกตัวอย่าง ไวไฟบนเครื่องบินจะทำการลิงก์กับดามเทียมใช้แบนด์วิธสูงความเร็วก็จะสูง แต่ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาด้วย แต่สำหรับรถเมล์อาจจะใช้ระบบ 3จี นั่นเท่ากับว่า ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องแชร์กันความเร็วกันไป
ทั้งนี้ อยู่ที่ระยะห่างของเสาสัญญาณด้วยถ้าใกล้หน่อยก็จะได้เปรียบเรื่องความเร็วกว่าผู้ที่อยู่ไกลออกไป
“เป็นสูตรที่ทั้งโลกรู้ เพียงแต่ว่าแมสเซจการตลาด เป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง เพราะเราต้องหารความเร็วอินเทอร์เน็ตจากคนอื่นที่ใช้ด้วย เพราะทรัพยากรอินเทอร์เน็ตเป็นทรัพยากรที่จำกัด เพราะว่ามันไม่ใช่ไพรเวตไลน์ ลิงค์ตรงเข้าเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจากอัตราค่าใช้จ่ายหารเฉลี่ยมาแล้ว และทุกคนจ่ายไหวในราคา 199, 399, 599 ฯลฯ”
นโยบายดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการให้บริการประชาชนเพื่อเข้าถึงข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย และประหยัดค่าใช้จ่าย ในเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ต้องรอพิสูจน์กันว่าแง่การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร
พงศ์สุข ยกตัวอย่างเมืองที่ให้บริการไวไฟฟรีกับประชาชน “ที่ผมทราบ.. มหานครนิวยอร์กเปลี่ยนตู้โทรศัพท์สาธารณะที่คนไม่ใช้แล้วเป็นจุดให้บริการไวไฟ มันก็เลยทำให้เวลาเดินไปตามท้องถนนมันก็เลยมีไวไฟแทบจะทุกจุดทุกที่ กรุงเทพฯ เองไม่ได้เป็นเมืองที่น้อยหน้านะ กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในมหานครไวไฟทั่วโลกนะ ถ้าเทียบกับฮอตสปอตที่ปล่อย”
อยากได้ของดีต้องจ่ายตังค์
“แต่! เราอย่าเสพติดความฟรีจนเคยชิน คือบริการที่ดีคือบริการที่คิดเงิน ส่วนบริการที่ฟรีคือบริการที่พอใช้ได้เท่านั้นเอง ไม่ได้ซีเรียส ใช้ได้เยอะ” พงศ์สุข กล่าว
อย่างไรก็ตาม อินเทอร์เน็ตถือเป็นปัจจัยหนุ่งที่จำเป็นต่อผู้คนบนโลก เป็นสิ่งที่ประเทศที่เจริญแล้วต้องเร่งพัฒนารองรับการใช้งานของประชาชน
“ทุกประเทศที่เจริญแล้วให้ความสำคัญกับอินเทอร์เทอร์เน็ตหมด เพราะมันคือการพาประชาชนไปเข้าถึงองค์ความรู้ สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายและประหยัดขึ้นสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ต แน่นอนมันก็ต้องมีอุปกรณ์พื้นฐาน รัฐบาลไหนก็คงไม่ได้แจกประชาชน เราต้องหากันเอง เพียงแต่ว่ารุ่นไหนที่แต่จะคนจะใช้ได้ ไอโฟน ไอโมบาย ก็แล้วแต่ว่าคนจะใช้อะไร แต่รวมแล้วเป็นมาตรฐานเดียวกัน การเชื่อมต่อเน็ตด้วยไวไฟยังคงเป็นมาตรฐานสากลอยู่”
อย่างไรก็ตาม การเปิดให้ประชาชนใช้งานไวไฟฟรีบนรถประจำทางไม่ได้ช่วยส่งเสริมให้พวกเขาหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะตามที่ทาง ขสมก. มุ่งหวังเสียเท่าไหร่
“ตามร้านกาแฟเขาติดไวไฟเพื่อให้คนนั่งนานขึ้น สั่งกันเยอะขึ้น ร้านกาแฟบางร้านจะมีเทคนิคว่าสั่งกาแฟแล้วได้พาสเวิร์ดตามเวลา 1 แล้ว 1 ชม. ถ้าอยากได้อีก ต้องซื้อเพิ่ม เป็นเทคนิคของการให้ไวไฟฟรีในร้านกาแฟ ต้องการให้คนคิดถึงเค้า
“ถ้าเรานึกถึงไวไฟฟรีเราคงไม่ขึ้นรถเมล์ ถ้าเราอยากทำงาน เราคงไม่ขึ้นไปทำงานบนรถเมล์แต่ถ้าเราอยากทำงานจะวิ่งเข้าร้านกาแฟ หรือวิ่งเข้าจุดที่มันให้บริการได้ ไวไฟฟรีบนรถเมล์มันคล้ายๆ กับไวไฟฟรีในห้างฯ คนอยู่ในห้างแล้ว เดินๆ อยู่ไม่รู้จะทำอะไร เปิดทดลงใช้ไวไฟดูเสียหน่อย ลองเล่นดู ถ้าเร็วก็เล่นต่อ ถ้าไม่เร็วก็หยุด บนรถเมล์ก็คงเป็นภาพเดียวกัน”
แน่นอน ไม่ได้เป็นการดึงดูดประชาชนให้หันมาขึ้นรถเมล์มากขึ้น เป็นเพียงกิจกรรมตัวเลือกระหว่างการเดินทาง
“มีคนอีกมากเขาก็ไม่อยากเสียค่าเน็ต มองเป็นกลุ่มเป้าหมายคนขึ้นรถเมล์ เราจะมามองคนกลุ่มบนไม่ได้ว่ามีซิมใช้อยู่แล้วเปิดอินเทอร์เน็ตอันลิมิตไม่ได้ ซิมเติมตังค์กลัวเน็ตหมดก็มีเหมือนกัน เป็นเรื่องดีที่ ขสมก. คิดเรื่องนี้ขึ้นมา สิ่งที่ต้องถามต่อเรื่องความเร็ว แต่เชื่อว่าเกิดความสะดวกสะบายต่อกลุ่มคนมีรายได้น้อย เพราะ 90 เปอร์เซ็นต์ของประเทศใช้งานมือถือแบบพรีเพด ซื้อบัตรเติมเงิน ก็ถือว่าทำขึ้นมาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของรถเมล์มีไวไฟฟรีได้ใช้”
ถามเรื่องเรื่องการโจรกรรมข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อไวไฟสาธารณะ พงศ์สุข เปิดเผยว่าเป็นปัญหาที่มีอัตราเกิดค่อนข้างต่ำแต่ก็ต้องใช้งานด้วยความระมัดระวัง ถ้าเป็นการเชื่อมต่อที่ต้องใส่รหัสผ่านนั้นค่อนข้างปลอดภัย แต่บางครั้งอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีตั้งไอดีหลอกให้เข้าไปใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรีแล้วล้วงข้อมูลก็มี ตรงนี้ผู้ใช้งานต้องระมัดระวัง
….....................................
เรื่องโดย ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Live
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000103191
ตามข้อมูล นเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) เปิดเผยว่า การติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายบนรถโดยสารสาธารณะของ ขสมก. กำลังอยู่ในช่วงทดสอบระบบ ระหว่าง ก.ย .- ธ.ค. 2557 ทั้งนี้ ต้องทดสอบเส้นทางบนท้องถนนเพื่อหาความเสถียรภาพของสัญญาณ คาดว่าประชาชนจะได้ใช้งานก็ช่วงต้นปี 2558
ไวไฟฟรี 'ดี-ไม่ดี' ทดลองดู
หลังจากกลายเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อนรับกระแสโซเชียลเอาใจคนรุ่นใหม่ ไวไฟบนรถประจำทางกลายเป็นหัวข้อให้ ทีมงาน Astv ผู้จัดการ Live ลงพื้นที่สอบถามความเห็นจากประชาชน และโดยมากก็เห็นพ้องว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ทว่าปัญหาคือจะทำได้จริงหรือไม่ และความของอินเทอร์เน็ตก็สมกับที่กล่างอ้างไว้เพียงใด เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าสู่ยุค 3G ความเร็วของอินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่มีการโฆษณาไว้
______________________________
'ไวไฟฟรีบนรถเมล์' ประชานิยม สังคมก้มหน้า!
ขสมก. ตีธงเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการนำร่องให้บริการไวไฟฟรีบนรถประจำทางยูโรทู จำนวน 200 คัน เดินเครื่องเปิดใช้งานอย่างเต็มสูบเริ่มใช้งานจริงต้นปีหน้าเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์โดยเฉพาะ ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายคืนความสุขสู่ประชาชนของภาครัฐ ภายใต้การบริหารประเทศของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่แน่ใจของขวัญชิ้นนี้จะถูกใจประชาชนกันมากน้อยเพียงใด
ตามข้อมูล นเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) เปิดเผยว่า การติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายบนรถโดยสารสาธารณะของ ขสมก. กำลังอยู่ในช่วงทดสอบระบบ ระหว่าง ก.ย .- ธ.ค. 2557 ทั้งนี้ ต้องทดสอบเส้นทางบนท้องถนนเพื่อหาความเสถียรภาพของสัญญาณ คาดว่าประชาชนจะได้ใช้งานก็ช่วงต้นปี 2558
ไวไฟฟรี 'ดี-ไม่ดี' ทดลองดู
หลังจากกลายเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อนรับกระแสโซเชียลเอาใจคนรุ่นใหม่ ไวไฟบนรถประจำทางกลายเป็นหัวข้อให้ ทีมงาน Astv ผู้จัดการ Live ลงพื้นที่สอบถามความเห็นจากประชาชน และโดยมากก็เห็นพ้องว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ทว่าปัญหาคือจะทำได้จริงหรือไม่ และความของอินเทอร์เน็ตก็สมกับที่กล่างอ้างไว้เพียงใด เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าสู่ยุค 3G ความเร็วของอินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่มีการโฆษณาไว้
ธราดล ภาสดา ช่างแอร์ เผยว่า ตนเองใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำโดยเฉพาะเวลาเดินทาง หากมีการใช้บริการฟรีจริงก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองด้วย ทว่าในส่วนของไวไฟฟรีบริเวณป้ายรถเมล์ของ กทม. นั้นเขามองว่า อาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์นัก แต่ไวไฟฟรีบนรถเมล์ของ ขสมก. น่าจะได้ทดลองใช้
“มันก็ดีนะครับ จะได้ไม่ได้ต้องเวลาใช้จ่ายตังค์เยอะมากมาย ถ้าเปิดให้ใช้ก็ใช้ครับ เล่นเน็ตบ่อยอยู่แล้ว ตัวผมก็มีโปรเน็ตอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่ามันเป็นประโยชน์สำหรับประชาชน ถ้ามีก็อยากใช้ แต่ถ้ามีที่ป้ายรถเมล์ก็อาจจะไม่ได้ใช้นัก คือใช้แต่เวลาที่จำเป็นเท่านั้นมากกว่า”
ทางด้านของ สุชาดา ตั้งสมบัติไพบูลย์ ครูโรงเรียนวัดดุสิตก็เห็นว่า การมีไวไฟบทรถเมล์ฟรีนั้นเป็นสิ่งที่ดีและทำให้เกิดความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสาร สามารถดูข่าวสารอัปเดตข้อมูลได้อย่างรวดเร็วขึ้น เธอมองว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตได้ใช้งาน แต่ปัญหาที่กังวลคือเรื่องความเร็วที่แม้ประเทศจะเข้าสู่ยุค 3จี แต่ความเร็วอินเทอร์เน็ตกลับไม่ได้เร็วเท่าที่ควร
“หลังจากมีการออกข่าวว่ามี 3 จีแล้ว แต่ความเร็วจริงๆมันไม่ถึง ก็คิดว่า ถ้าดำเนินการแบบนี้ก็อยากให้ทำจริงๆ ไม่ใช่โกหกประชาชนแล้วประชาชนก็ใช้จ่ายไปแต่ก็ได้ความเร็วไม่ถึงตามที่กำหนดไว้ ส่วนที่ป้ายรถจริงๆ บางคนก็อาจจะไม่ได้ใช้ซึ่งถ้ามีทุกที่ไม่จำเป็นต้องมีแต่เฉพาะแต่จุดตรงป้ายรถเมล์ เราคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์มากกว่า คนจะใช้ก็ใช้ได้เลย”
ขณะที่ อรัญญา สุกวรรณวิทย์ นักเรียนโรงเรียนวัดบวร มองว่า การมี ไวไฟ บนรถเมล์นั้นมีส่วนช่วยในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทำให้สามารถใช้ช่วงเวลาบนรถเมล์ไปกับการบ้าน หาข้อมูลได้อีกด้วย ทว่าผู้ใช้งานก็ควรมีสติในการใช้งานโดยควรใช้งานแต่พอดี
“ทุกวันนี้ต้องใช้เวลาบนรถเมล์นานก็มีใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงาน ทำการบ้านหาข้อมูลหาความรู้บ้าง หรือเบื่อๆก็เล่นเกมส์ แต่ปัญหาคือไม่แรง ถ้ามีก็อยากให้มันแรงด้วย คือมันมีทั้งดีและไม่ดี บางทีถ้ามีที่ป้ายรถเมล์มันก็อาจจะทำให้เราเสียสมาธิขึ้นรถไม่ทัน และอาจจะทำให้เราไม่สนใจคนอื่น”
ท่องโซเชียลทันใจได้ทุกที
หลายเสียงมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทาง ขสมก. จะเปิดให้บริการไวไฟฟรีบนรถเมล์ เช่นเดียวกัน พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรรายการไอทีชื่อดัง แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังกล่าว “ประเทศไทยก็ไม่ได้ใหม่กับไวไฟแล้ว เรามีฮอตสปอตเป็นแสนจุดแล้ว ในแง่ของการใช้งาน จะเป็นร้านกาแฟ เป็นโรงแรมเราก็มีไวไฟตั้งเยอะแยะ ถามว่ารถเมล์เล่นได้ไหม? ถ้ามันมีน่ะะดีมาก แต่คำถามคือมันจะเร็วได้แค่ไหน?”
ซึ่งข้อมูลเรื่องความเร็วต้องอดใจรอทาง ขสมก. เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตาม ความเร็วที่ประกาศต่อสาธารณะในแง่ของการใช้งานจริงอาจถูกลดทอนลงบ้าง นั่นเป็นเพราะเราใช้งานแบบแชร์อินเทอร์เน็ตกัน พงศ์สุข ยกตัวอย่าง ไวไฟบนเครื่องบินจะทำการลิงก์กับดามเทียมใช้แบนด์วิธสูงความเร็วก็จะสูง แต่ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาด้วย แต่สำหรับรถเมล์อาจจะใช้ระบบ 3จี นั่นเท่ากับว่า ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องแชร์กันความเร็วกันไป
ทั้งนี้ อยู่ที่ระยะห่างของเสาสัญญาณด้วยถ้าใกล้หน่อยก็จะได้เปรียบเรื่องความเร็วกว่าผู้ที่อยู่ไกลออกไป
“เป็นสูตรที่ทั้งโลกรู้ เพียงแต่ว่าแมสเซจการตลาด เป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง เพราะเราต้องหารความเร็วอินเทอร์เน็ตจากคนอื่นที่ใช้ด้วย เพราะทรัพยากรอินเทอร์เน็ตเป็นทรัพยากรที่จำกัด เพราะว่ามันไม่ใช่ไพรเวตไลน์ ลิงค์ตรงเข้าเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจากอัตราค่าใช้จ่ายหารเฉลี่ยมาแล้ว และทุกคนจ่ายไหวในราคา 199, 399, 599 ฯลฯ”
นโยบายดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการให้บริการประชาชนเพื่อเข้าถึงข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย และประหยัดค่าใช้จ่าย ในเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ต้องรอพิสูจน์กันว่าแง่การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร
พงศ์สุข ยกตัวอย่างเมืองที่ให้บริการไวไฟฟรีกับประชาชน “ที่ผมทราบ.. มหานครนิวยอร์กเปลี่ยนตู้โทรศัพท์สาธารณะที่คนไม่ใช้แล้วเป็นจุดให้บริการไวไฟ มันก็เลยทำให้เวลาเดินไปตามท้องถนนมันก็เลยมีไวไฟแทบจะทุกจุดทุกที่ กรุงเทพฯ เองไม่ได้เป็นเมืองที่น้อยหน้านะ กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในมหานครไวไฟทั่วโลกนะ ถ้าเทียบกับฮอตสปอตที่ปล่อย”
อยากได้ของดีต้องจ่ายตังค์
“แต่! เราอย่าเสพติดความฟรีจนเคยชิน คือบริการที่ดีคือบริการที่คิดเงิน ส่วนบริการที่ฟรีคือบริการที่พอใช้ได้เท่านั้นเอง ไม่ได้ซีเรียส ใช้ได้เยอะ” พงศ์สุข กล่าว
อย่างไรก็ตาม อินเทอร์เน็ตถือเป็นปัจจัยหนุ่งที่จำเป็นต่อผู้คนบนโลก เป็นสิ่งที่ประเทศที่เจริญแล้วต้องเร่งพัฒนารองรับการใช้งานของประชาชน
“ทุกประเทศที่เจริญแล้วให้ความสำคัญกับอินเทอร์เทอร์เน็ตหมด เพราะมันคือการพาประชาชนไปเข้าถึงองค์ความรู้ สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายและประหยัดขึ้นสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ต แน่นอนมันก็ต้องมีอุปกรณ์พื้นฐาน รัฐบาลไหนก็คงไม่ได้แจกประชาชน เราต้องหากันเอง เพียงแต่ว่ารุ่นไหนที่แต่จะคนจะใช้ได้ ไอโฟน ไอโมบาย ก็แล้วแต่ว่าคนจะใช้อะไร แต่รวมแล้วเป็นมาตรฐานเดียวกัน การเชื่อมต่อเน็ตด้วยไวไฟยังคงเป็นมาตรฐานสากลอยู่”
อย่างไรก็ตาม การเปิดให้ประชาชนใช้งานไวไฟฟรีบนรถประจำทางไม่ได้ช่วยส่งเสริมให้พวกเขาหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะตามที่ทาง ขสมก. มุ่งหวังเสียเท่าไหร่
“ตามร้านกาแฟเขาติดไวไฟเพื่อให้คนนั่งนานขึ้น สั่งกันเยอะขึ้น ร้านกาแฟบางร้านจะมีเทคนิคว่าสั่งกาแฟแล้วได้พาสเวิร์ดตามเวลา 1 แล้ว 1 ชม. ถ้าอยากได้อีก ต้องซื้อเพิ่ม เป็นเทคนิคของการให้ไวไฟฟรีในร้านกาแฟ ต้องการให้คนคิดถึงเค้า
“ถ้าเรานึกถึงไวไฟฟรีเราคงไม่ขึ้นรถเมล์ ถ้าเราอยากทำงาน เราคงไม่ขึ้นไปทำงานบนรถเมล์แต่ถ้าเราอยากทำงานจะวิ่งเข้าร้านกาแฟ หรือวิ่งเข้าจุดที่มันให้บริการได้ ไวไฟฟรีบนรถเมล์มันคล้ายๆ กับไวไฟฟรีในห้างฯ คนอยู่ในห้างแล้ว เดินๆ อยู่ไม่รู้จะทำอะไร เปิดทดลงใช้ไวไฟดูเสียหน่อย ลองเล่นดู ถ้าเร็วก็เล่นต่อ ถ้าไม่เร็วก็หยุด บนรถเมล์ก็คงเป็นภาพเดียวกัน”
แน่นอน ไม่ได้เป็นการดึงดูดประชาชนให้หันมาขึ้นรถเมล์มากขึ้น เป็นเพียงกิจกรรมตัวเลือกระหว่างการเดินทาง
“มีคนอีกมากเขาก็ไม่อยากเสียค่าเน็ต มองเป็นกลุ่มเป้าหมายคนขึ้นรถเมล์ เราจะมามองคนกลุ่มบนไม่ได้ว่ามีซิมใช้อยู่แล้วเปิดอินเทอร์เน็ตอันลิมิตไม่ได้ ซิมเติมตังค์กลัวเน็ตหมดก็มีเหมือนกัน เป็นเรื่องดีที่ ขสมก. คิดเรื่องนี้ขึ้นมา สิ่งที่ต้องถามต่อเรื่องความเร็ว แต่เชื่อว่าเกิดความสะดวกสะบายต่อกลุ่มคนมีรายได้น้อย เพราะ 90 เปอร์เซ็นต์ของประเทศใช้งานมือถือแบบพรีเพด ซื้อบัตรเติมเงิน ก็ถือว่าทำขึ้นมาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของรถเมล์มีไวไฟฟรีได้ใช้”
ถามเรื่องเรื่องการโจรกรรมข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อไวไฟสาธารณะ พงศ์สุข เปิดเผยว่าเป็นปัญหาที่มีอัตราเกิดค่อนข้างต่ำแต่ก็ต้องใช้งานด้วยความระมัดระวัง ถ้าเป็นการเชื่อมต่อที่ต้องใส่รหัสผ่านนั้นค่อนข้างปลอดภัย แต่บางครั้งอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีตั้งไอดีหลอกให้เข้าไปใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรีแล้วล้วงข้อมูลก็มี ตรงนี้ผู้ใช้งานต้องระมัดระวัง
….....................................
เรื่องโดย ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Live
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000103191
ไม่มีความคิดเห็น: