12 กันยายน 2557 Microsoft.ไทย ชู Office365 เสริมแกร่งไอทีสภากาชาดฯ // ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา เพิ่มขีดความสามารถขององค์กร
ประเด็นหลัก
นอกจากนี้ระบบ Office 365 ช่วยให้องค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ สามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ระดับองค์กรของไมโครซอฟท์ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของแต่ละองค์กรได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา อีกทั้งซอฟแวร์Office 365 เพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในการทำงานจากที่ใดก็ได้ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต โดยสามารถเข้าถึงเอกสารและไฟล์ข้อมูลโดยใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ของ Office ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี สมาร์ทโฟน หรือผ่านแท็บเลต
______________________________
ไมโครซอฟท์ชู Office365 เสริมแกร่งไอทีสภากาชาดฯ
ไมโครซอฟท์ หนุนองค์กรสาธารณกุศลอย่าง "สภากาชาดไทย" นำ Office 365 ไปใช้พัฒนาระบบการสื่อสารภายในองค์กร เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและมีความรวดเร็วรับส่งข้อมูลที่จำเป็นและเร่งด่วน รวมถึงมีความสำคัญในการช่วยชีวิตของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
นายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าไมโครซอฟท์ ได้เปิดให้สภากาชาดไทย ได้นำซอฟแวร์ระบบ Office 365 ไปใช้พัฒนาระบบการสื่อสารภายในองค์กรพัฒนาเอกชน(NGO)เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและมีความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลที่จำเป็นและเร่งด่วน ซึ่งมีความสำคัญในการช่วยชีวิตของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก โดยการสนับสนุนซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ให้แก่องค์กรพัฒนาเอกชนนี้ เกิดขึ้นมาจากแนวความคิดที่ต้องการสนับสนุนให้องค์กรเหล่านี้สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
โดยซอฟแวร์ระบบ Office 365 จะช่วยให้แต่ละองค์กรได้ลงมือแก้ไขปัญหาสังคมต่างๆ ได้อย่างเต็มตัวยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านความเหลื่อมล้ำทางรายได้ สุขอนามัยและคุณภาพชีวิต การศึกษา การพัฒนาเยาวชน หรือการเสริมทักษะแรงงาน นอกจากนี้ Office 365 ยังมีความปลอดภัยสูง สามารถปกป้องข้อมูลของทุกองค์กรได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง โดยเฉพาะกับองค์กรที่ต้องทำงานกับข้อมูลผู้ป่วยหรือข้อมูลส่วนตัวของเด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ระบบ Office 365 ช่วยให้องค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ สามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ระดับองค์กรของไมโครซอฟท์ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของแต่ละองค์กรได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา อีกทั้งซอฟแวร์Office 365 เพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในการทำงานจากที่ใดก็ได้ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต โดยสามารถเข้าถึงเอกสารและไฟล์ข้อมูลโดยใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ของ Office ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี สมาร์ทโฟน หรือผ่านแท็บเลต
รวมถึงการทำงานร่วมกัน โดยองค์กรพัฒนาเอกชนสามารถสร้างเครือข่ายในการทำงานระหว่างกันได้อย่างง่ายดาย ผ่านการใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ของออฟฟิศ เช่น การเข้าถึงอี-เมล์ การแชร์ปฏิทิน การแชร์ข้อมูลเอกสาร และการประชุมทางวิดีโอ และการวางระบบไอทีที่ง่ายขึ้น โดยระบบ Office 365 มีระบบการจัดการที่ง่ายโดยที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องยกเลิกการติดตั้งรุ่นก่อนหน้านี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=245816:-office365-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VBKPCEtAeuw
นอกจากนี้ระบบ Office 365 ช่วยให้องค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ สามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ระดับองค์กรของไมโครซอฟท์ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของแต่ละองค์กรได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา อีกทั้งซอฟแวร์Office 365 เพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในการทำงานจากที่ใดก็ได้ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต โดยสามารถเข้าถึงเอกสารและไฟล์ข้อมูลโดยใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ของ Office ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี สมาร์ทโฟน หรือผ่านแท็บเลต
______________________________
ไมโครซอฟท์ชู Office365 เสริมแกร่งไอทีสภากาชาดฯ
ไมโครซอฟท์ หนุนองค์กรสาธารณกุศลอย่าง "สภากาชาดไทย" นำ Office 365 ไปใช้พัฒนาระบบการสื่อสารภายในองค์กร เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและมีความรวดเร็วรับส่งข้อมูลที่จำเป็นและเร่งด่วน รวมถึงมีความสำคัญในการช่วยชีวิตของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
นายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าไมโครซอฟท์ ได้เปิดให้สภากาชาดไทย ได้นำซอฟแวร์ระบบ Office 365 ไปใช้พัฒนาระบบการสื่อสารภายในองค์กรพัฒนาเอกชน(NGO)เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและมีความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลที่จำเป็นและเร่งด่วน ซึ่งมีความสำคัญในการช่วยชีวิตของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก โดยการสนับสนุนซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ให้แก่องค์กรพัฒนาเอกชนนี้ เกิดขึ้นมาจากแนวความคิดที่ต้องการสนับสนุนให้องค์กรเหล่านี้สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
โดยซอฟแวร์ระบบ Office 365 จะช่วยให้แต่ละองค์กรได้ลงมือแก้ไขปัญหาสังคมต่างๆ ได้อย่างเต็มตัวยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านความเหลื่อมล้ำทางรายได้ สุขอนามัยและคุณภาพชีวิต การศึกษา การพัฒนาเยาวชน หรือการเสริมทักษะแรงงาน นอกจากนี้ Office 365 ยังมีความปลอดภัยสูง สามารถปกป้องข้อมูลของทุกองค์กรได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง โดยเฉพาะกับองค์กรที่ต้องทำงานกับข้อมูลผู้ป่วยหรือข้อมูลส่วนตัวของเด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ระบบ Office 365 ช่วยให้องค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ สามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ระดับองค์กรของไมโครซอฟท์ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของแต่ละองค์กรได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา อีกทั้งซอฟแวร์Office 365 เพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในการทำงานจากที่ใดก็ได้ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต โดยสามารถเข้าถึงเอกสารและไฟล์ข้อมูลโดยใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ของ Office ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี สมาร์ทโฟน หรือผ่านแท็บเลต
รวมถึงการทำงานร่วมกัน โดยองค์กรพัฒนาเอกชนสามารถสร้างเครือข่ายในการทำงานระหว่างกันได้อย่างง่ายดาย ผ่านการใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ของออฟฟิศ เช่น การเข้าถึงอี-เมล์ การแชร์ปฏิทิน การแชร์ข้อมูลเอกสาร และการประชุมทางวิดีโอ และการวางระบบไอทีที่ง่ายขึ้น โดยระบบ Office 365 มีระบบการจัดการที่ง่ายโดยที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องยกเลิกการติดตั้งรุ่นก่อนหน้านี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=245816:-office365-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VBKPCEtAeuw
ไม่มีความคิดเห็น: