12 กันยายน 2557 คูปองดิจิทัลส่อเค้าเหลว!! เนื่องจากเงื่อนไขเวลากระชั้นชิดเกินไป อีกทั้ง ต้องจัดบรรจุดซองด้วย แต่สำนักงานสลากฯไม่มีเครื่องบรรจุซอง ต้องจัดหาเครื่องบรรจุซองจากภายนอกเพิ่มเติม
ประเด็นหลัก
มีความคืบหน้าการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิทัล ซึ่ง กสทช.ต้องเริ่มแจกให้ประชาชนในวันที่ 15 ตุลาคม โดยพ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯส่งหนังสือตอบปฏิเสธกลับไปให้ กสทช.เกี่ยวกับการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิตอล เนื่องจากเงื่อนไขเวลากระชั้นชิดเกินไป อีกทั้ง ต้องจัดบรรจุดซองด้วย แต่สำนักงานสลากฯไม่มีเครื่องบรรจุซอง ต้องจัดหาเครื่องบรรจุซองจากภายนอกเพิ่มเติม ซึ่งไม่สามารถจัดหาได้ทันที ติดเงื่อนไขระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางและต้องผ่านขั้นตอนพิจารณาของคณะกรรมการสลากฯอีกด้วย ทำให้ไม่สามารถพิมพ์ได้ทันตามที่กำหนดไว้
______________________________
‘ทีวี3’ดิ้นยื่นเงื่อนไข
หาช่องใหม่ออนแอร์
คูปองดิจิทัลส่อเค้าเหลว
กองสลากฯยันพิมพ์ไม่ทัน
เมื่อวันที่ 10 กันยายน นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นข้อเสนอต่อสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปแล้วว่า ให้ช่อง3 อนาล็อค สามารถออกอากาศได้แบบเรียล ไทม์ พาส ทู (Real time pass thru) หรือการนำสัญญาณการออกอากาศของช่อง3 ไปออกอากาศโดยไม่ได้แก้ไขหรือดัดแปลงสัญญาณแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมาทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีได้ทำหน้าที่เป็นเสาอากาศให้ฟรีทีวีในการรับส่งสัญญาณอนาล็อคไปยังผู้ชม
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าว กสทช.สามารถนำสัญญาณไปให้ผู้ประกอบการรายใดก็ได้ แต่ต้องมาขออนุญาตช่อง 3 ก่อน เช่นเดียวกับการนำสัญญาณไปออกอากาศในช่องทีวีดิจิทัล ซึ่งกสทช.ก็ต้องขออนุญาตบริษัทที่ทำธุรกิจทีวีดิจิทัลในช่องนั้นๆ ในส่วนของทีวีดิจิทัลทั้ง 3 ช่องในเครือช่อง 3 ก็เช่นกัน หากกสทช.ต้องการให้ช่อง 3 ไปออกอากาศช่องไหน กสทช.ก็ต้องเข้าไปเจรจากับบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย
“การจะเอาสัญญาณไปใช้ต่อก็ต้องบอกเจ้าของช่องก่อน ถ้า กสทช.อยากให้ช่อง3 ไปออกอากาศในช่อง3ทีวีดิจิทัล ก็ต้องไปเจรจากับบริษัทบีอีซี-มัลติมีเดียเอง ไม่ใช่ให้บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ดูแลช่อง 3 อนาล็อค ซึ่งไม่มีใบอนุญาต ขณะนี้อยากให้เริ่มต้นที่เรื่องนี้ก่อน”นายสุรินทร์กล่าว
ด้านน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)กล่าวว่า กรณีที่ช่อง 3 ยื่นข้อเสนอมาเพื่อออกอากาศในระบบเรียล ไทม์ พาส ทรู ถ้าออกในช่องทีวีดิจิทัลของตัวเองสามารถทำได้ โดยเฉพาะช่อง3HD เนื่องจากช่องดังกล่าวเป็นช่องวาไรตี้ในระบบความคมชัดสูง ซึ่งหากช่อง3 นำช่อง3 อนาล็อคมาออกอากาศในช่อง 3HD หมายเลข33 ก็จะทำให้สัญญาณการออกอากาศเหมือนกับช่อง7ในตอนนี้ ซึ่งออกอากาศคู่ขนาน(ไซมัลคาสท์) ระหว่างอนาล็อคและทีวีดิจิทัลควบคู่กันไป
อย่างไรก็ดี เรื่องที่ช่อง 3 จะขอให้ กสทช.หาช่องสัญญาณทีวีดิจิทัลให้ใหม่ เพื่อนำช่องอนาล็อคมาออกอากาศนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะการขอสิทธิ์ออกอากาศในช่องสาธารณะ เนื่องจากช่อง 3 อนาล็อคเป็นช่องธุรกิจ ขณะเดียวกันหากช่อง 3 ต้องการนำสัญญาณมาออกอากาศในทีวีดิจิทัลช่องธุรกิจอื่นๆ ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เพราะผู้ประกอบการรายอื่นคงไม่ยอม ยกเว้นออกกาศในทีวีดิจิทัลของช่อง 3 ซึ่งหากช่อง 3 ต้องการให้ กสทช.เข้าไปเจรจาก็ยินดี
“ทางออกที่ดีของช่อง 3 มีอยู่ 2 แนวทางหลักคือ 1.ยอมออกคู่ขนานเดินตามช่อง 7 เพื่อแก้ปัญหาเรื่องจุกจิกที่เกิดขึ้นขณะนี้ ถ้ามีข้อสงสัยเรื่องดำเนินการ กสทช.ยินดีเป็นตัวกลางเชิญช่อง 7 เข้ามาร่วมหารือแนวทางดังกล่าว เพราะตอนนี้ช่องทีวีดิจิทัลที่เหมาะกับช่อง 3 อนาล็อคมากที่สุดในตอนนี้คือ ช่อง 3 HD หมายเลข 33 แต่ถ้าช่อง 3 ไม่อยากออกอากาศคู่ขนานก็ควรเลือกแนวทางที่ 2 คือ การขอใบอนุญาตการออกอากาศแบบบอกรับสมาชิกในเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ซึ่งทางเลือกดังกล่าวช่อง 3 จะยอมรับเวลาโฆษณา 6 นาทีได้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่การการพิจารณาของช่อง 3 ว่าจะเลือกทางออกแบบไหน” น.ส.สุภิญญากล่าว
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) มีการประชุมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม) เพื่อชี้แจงผู้ใช้บริการกรณีระงับการนำช่องรายการที่สิ้นสุดการให้บริการเป็นการทั่วไป (ฟรีทีวี) หรือช่อง 3 อนาล็อก มาออกอากาศในโครงข่ายของตนเอง หลังได้รับหนังสือคำสั่งทางปกครอง ภายใน 15 วัน
โดยนายมานพ โตการค้า ประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม กล่าวว่า ผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมทุกราย พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครองตามมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ให้ยุติแพร่ภาพทีวีอนาล็อก หรือ ช่อง 3 อนาล็อก หลังจากได้รับหนังสือคำสั่ง จากสำนักงาน กสทช. อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้ ต้องการให้ กสท.พิจารณายืดเวลาการบังคับใช้คำสั่งภายใน 30 วัน เพื่อประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติตามคำสั่งห้ามแพร่ภาพช่อง 3 กับลูกค้า เนื่องจากเป็นคำสั่งที่กระทบกับผู้ใช้บริการผ่านโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียม 15 ล้านครัวเรือนจำนวน 40-45 ล้านคน อีกทั้ง ต้องใช้เวลาทำระบบซอฟต์แวร์ OTA อัพเดทช่องรายการใหม่ ด้วยการนำช่อง 3 อนาล็อก ออกจากโครงข่าย
“ผู้ประกอบการโครงข่าย ไม่ต้องการให้เกิดจอดำ แต่ต้องทำตามคำสั่ง กสท. จึงต้องการให้ทั้งกสท.และช่อง 3 เจรจาหาทางออก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้ชมทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียม ได้หารือกับช่อง 3 แล้วสองครั้ง โดยช่อง 3 ยืนยันดำเนินการถูกต้องตามสิทธิการบริหารช่อง 3 อนาล็อกถึงปี 2563”นายมานพระบุ
เช่นเดียวกับ นายณัฏฐชัย อักษรดิษฐ์ นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นทั่วประเทศ 300 ราย พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง กสท. ห้ามแพร่ภาพช่อง 3 อนาล็อก โดยต้องการให้กสท. กำกับดูแลการยุติออกอากาศช่อง 3 เหมือนกันทุกโครงข่าย ทั้งผู้ประกอบการเพย์ทีวีระดับชาติและท้องถิ่น เพื่อไม่ทำให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม
ขณะที่น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. และกรรมการ กสท.กล่าวถึงการรับฟังความเห็นในเวทีประชุมโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมว่า ผู้ประกอบการทุกราย พร้อมปฏิบัติตามมติ กสท. ห้ามเผยแพร่ ช่อง 3 อนาล็อก ซึ่ง กสทช.ส่งหนังสือคำสั่งทางปกครอง ไปยังโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมแล้ว โดยต้องปฎิบัติตามภายใน 15 วัน ทั้งนี้ จะให้สำนักงาน กสทช. จัดทำข้อความแจ้งเตือนผู้ชมในแต่ละโครงข่ายรับรู้ข้อมูลล่วงหน้า ก่อนยุติออกอากาศช่อง 3 อนาล็อก พร้อมสำรองคอลล์ เซ็นเตอร์ กสทช. 1200 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ชมผ่านโครงข่าย
สำหรับแนวทางที่ผู้ประกอบการโครงข่ายฯเสนอให้ยืดระยะเวลาปฎิบัติตามคำสั่งเป็น 30 วันนั้น น.ส.สุภิญญากล่าวว่า คงไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าในแนวทางปฏิบัติมีปัญหาด้านเทคนิคที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด 15 วัน โครงข่ายฯต้องแจ้งสาเหตุให้กสทช.ทราบ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
มีความคืบหน้าการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิทัล ซึ่ง กสทช.ต้องเริ่มแจกให้ประชาชนในวันที่ 15 ตุลาคม โดยพ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯส่งหนังสือตอบปฏิเสธกลับไปให้ กสทช.เกี่ยวกับการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิตอล เนื่องจากเงื่อนไขเวลากระชั้นชิดเกินไป อีกทั้ง ต้องจัดบรรจุดซองด้วย แต่สำนักงานสลากฯไม่มีเครื่องบรรจุซอง ต้องจัดหาเครื่องบรรจุซองจากภายนอกเพิ่มเติม ซึ่งไม่สามารถจัดหาได้ทันที ติดเงื่อนไขระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางและต้องผ่านขั้นตอนพิจารณาของคณะกรรมการสลากฯอีกด้วย ทำให้ไม่สามารถพิมพ์ได้ทันตามที่กำหนดไว้
http://www.naewna.com/business/121059
มีความคืบหน้าการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิทัล ซึ่ง กสทช.ต้องเริ่มแจกให้ประชาชนในวันที่ 15 ตุลาคม โดยพ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯส่งหนังสือตอบปฏิเสธกลับไปให้ กสทช.เกี่ยวกับการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิตอล เนื่องจากเงื่อนไขเวลากระชั้นชิดเกินไป อีกทั้ง ต้องจัดบรรจุดซองด้วย แต่สำนักงานสลากฯไม่มีเครื่องบรรจุซอง ต้องจัดหาเครื่องบรรจุซองจากภายนอกเพิ่มเติม ซึ่งไม่สามารถจัดหาได้ทันที ติดเงื่อนไขระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางและต้องผ่านขั้นตอนพิจารณาของคณะกรรมการสลากฯอีกด้วย ทำให้ไม่สามารถพิมพ์ได้ทันตามที่กำหนดไว้
______________________________
‘ทีวี3’ดิ้นยื่นเงื่อนไข
หาช่องใหม่ออนแอร์
คูปองดิจิทัลส่อเค้าเหลว
กองสลากฯยันพิมพ์ไม่ทัน
เมื่อวันที่ 10 กันยายน นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นข้อเสนอต่อสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปแล้วว่า ให้ช่อง3 อนาล็อค สามารถออกอากาศได้แบบเรียล ไทม์ พาส ทู (Real time pass thru) หรือการนำสัญญาณการออกอากาศของช่อง3 ไปออกอากาศโดยไม่ได้แก้ไขหรือดัดแปลงสัญญาณแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมาทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีได้ทำหน้าที่เป็นเสาอากาศให้ฟรีทีวีในการรับส่งสัญญาณอนาล็อคไปยังผู้ชม
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าว กสทช.สามารถนำสัญญาณไปให้ผู้ประกอบการรายใดก็ได้ แต่ต้องมาขออนุญาตช่อง 3 ก่อน เช่นเดียวกับการนำสัญญาณไปออกอากาศในช่องทีวีดิจิทัล ซึ่งกสทช.ก็ต้องขออนุญาตบริษัทที่ทำธุรกิจทีวีดิจิทัลในช่องนั้นๆ ในส่วนของทีวีดิจิทัลทั้ง 3 ช่องในเครือช่อง 3 ก็เช่นกัน หากกสทช.ต้องการให้ช่อง 3 ไปออกอากาศช่องไหน กสทช.ก็ต้องเข้าไปเจรจากับบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย
“การจะเอาสัญญาณไปใช้ต่อก็ต้องบอกเจ้าของช่องก่อน ถ้า กสทช.อยากให้ช่อง3 ไปออกอากาศในช่อง3ทีวีดิจิทัล ก็ต้องไปเจรจากับบริษัทบีอีซี-มัลติมีเดียเอง ไม่ใช่ให้บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ดูแลช่อง 3 อนาล็อค ซึ่งไม่มีใบอนุญาต ขณะนี้อยากให้เริ่มต้นที่เรื่องนี้ก่อน”นายสุรินทร์กล่าว
ด้านน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)กล่าวว่า กรณีที่ช่อง 3 ยื่นข้อเสนอมาเพื่อออกอากาศในระบบเรียล ไทม์ พาส ทรู ถ้าออกในช่องทีวีดิจิทัลของตัวเองสามารถทำได้ โดยเฉพาะช่อง3HD เนื่องจากช่องดังกล่าวเป็นช่องวาไรตี้ในระบบความคมชัดสูง ซึ่งหากช่อง3 นำช่อง3 อนาล็อคมาออกอากาศในช่อง 3HD หมายเลข33 ก็จะทำให้สัญญาณการออกอากาศเหมือนกับช่อง7ในตอนนี้ ซึ่งออกอากาศคู่ขนาน(ไซมัลคาสท์) ระหว่างอนาล็อคและทีวีดิจิทัลควบคู่กันไป
อย่างไรก็ดี เรื่องที่ช่อง 3 จะขอให้ กสทช.หาช่องสัญญาณทีวีดิจิทัลให้ใหม่ เพื่อนำช่องอนาล็อคมาออกอากาศนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะการขอสิทธิ์ออกอากาศในช่องสาธารณะ เนื่องจากช่อง 3 อนาล็อคเป็นช่องธุรกิจ ขณะเดียวกันหากช่อง 3 ต้องการนำสัญญาณมาออกอากาศในทีวีดิจิทัลช่องธุรกิจอื่นๆ ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เพราะผู้ประกอบการรายอื่นคงไม่ยอม ยกเว้นออกกาศในทีวีดิจิทัลของช่อง 3 ซึ่งหากช่อง 3 ต้องการให้ กสทช.เข้าไปเจรจาก็ยินดี
“ทางออกที่ดีของช่อง 3 มีอยู่ 2 แนวทางหลักคือ 1.ยอมออกคู่ขนานเดินตามช่อง 7 เพื่อแก้ปัญหาเรื่องจุกจิกที่เกิดขึ้นขณะนี้ ถ้ามีข้อสงสัยเรื่องดำเนินการ กสทช.ยินดีเป็นตัวกลางเชิญช่อง 7 เข้ามาร่วมหารือแนวทางดังกล่าว เพราะตอนนี้ช่องทีวีดิจิทัลที่เหมาะกับช่อง 3 อนาล็อคมากที่สุดในตอนนี้คือ ช่อง 3 HD หมายเลข 33 แต่ถ้าช่อง 3 ไม่อยากออกอากาศคู่ขนานก็ควรเลือกแนวทางที่ 2 คือ การขอใบอนุญาตการออกอากาศแบบบอกรับสมาชิกในเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ซึ่งทางเลือกดังกล่าวช่อง 3 จะยอมรับเวลาโฆษณา 6 นาทีได้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่การการพิจารณาของช่อง 3 ว่าจะเลือกทางออกแบบไหน” น.ส.สุภิญญากล่าว
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) มีการประชุมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม) เพื่อชี้แจงผู้ใช้บริการกรณีระงับการนำช่องรายการที่สิ้นสุดการให้บริการเป็นการทั่วไป (ฟรีทีวี) หรือช่อง 3 อนาล็อก มาออกอากาศในโครงข่ายของตนเอง หลังได้รับหนังสือคำสั่งทางปกครอง ภายใน 15 วัน
โดยนายมานพ โตการค้า ประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม กล่าวว่า ผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมทุกราย พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครองตามมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ให้ยุติแพร่ภาพทีวีอนาล็อก หรือ ช่อง 3 อนาล็อก หลังจากได้รับหนังสือคำสั่ง จากสำนักงาน กสทช. อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้ ต้องการให้ กสท.พิจารณายืดเวลาการบังคับใช้คำสั่งภายใน 30 วัน เพื่อประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติตามคำสั่งห้ามแพร่ภาพช่อง 3 กับลูกค้า เนื่องจากเป็นคำสั่งที่กระทบกับผู้ใช้บริการผ่านโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียม 15 ล้านครัวเรือนจำนวน 40-45 ล้านคน อีกทั้ง ต้องใช้เวลาทำระบบซอฟต์แวร์ OTA อัพเดทช่องรายการใหม่ ด้วยการนำช่อง 3 อนาล็อก ออกจากโครงข่าย
“ผู้ประกอบการโครงข่าย ไม่ต้องการให้เกิดจอดำ แต่ต้องทำตามคำสั่ง กสท. จึงต้องการให้ทั้งกสท.และช่อง 3 เจรจาหาทางออก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้ชมทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียม ได้หารือกับช่อง 3 แล้วสองครั้ง โดยช่อง 3 ยืนยันดำเนินการถูกต้องตามสิทธิการบริหารช่อง 3 อนาล็อกถึงปี 2563”นายมานพระบุ
เช่นเดียวกับ นายณัฏฐชัย อักษรดิษฐ์ นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นทั่วประเทศ 300 ราย พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง กสท. ห้ามแพร่ภาพช่อง 3 อนาล็อก โดยต้องการให้กสท. กำกับดูแลการยุติออกอากาศช่อง 3 เหมือนกันทุกโครงข่าย ทั้งผู้ประกอบการเพย์ทีวีระดับชาติและท้องถิ่น เพื่อไม่ทำให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม
ขณะที่น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. และกรรมการ กสท.กล่าวถึงการรับฟังความเห็นในเวทีประชุมโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมว่า ผู้ประกอบการทุกราย พร้อมปฏิบัติตามมติ กสท. ห้ามเผยแพร่ ช่อง 3 อนาล็อก ซึ่ง กสทช.ส่งหนังสือคำสั่งทางปกครอง ไปยังโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมแล้ว โดยต้องปฎิบัติตามภายใน 15 วัน ทั้งนี้ จะให้สำนักงาน กสทช. จัดทำข้อความแจ้งเตือนผู้ชมในแต่ละโครงข่ายรับรู้ข้อมูลล่วงหน้า ก่อนยุติออกอากาศช่อง 3 อนาล็อก พร้อมสำรองคอลล์ เซ็นเตอร์ กสทช. 1200 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ชมผ่านโครงข่าย
สำหรับแนวทางที่ผู้ประกอบการโครงข่ายฯเสนอให้ยืดระยะเวลาปฎิบัติตามคำสั่งเป็น 30 วันนั้น น.ส.สุภิญญากล่าวว่า คงไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าในแนวทางปฏิบัติมีปัญหาด้านเทคนิคที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด 15 วัน โครงข่ายฯต้องแจ้งสาเหตุให้กสทช.ทราบ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
มีความคืบหน้าการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิทัล ซึ่ง กสทช.ต้องเริ่มแจกให้ประชาชนในวันที่ 15 ตุลาคม โดยพ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯส่งหนังสือตอบปฏิเสธกลับไปให้ กสทช.เกี่ยวกับการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิตอล เนื่องจากเงื่อนไขเวลากระชั้นชิดเกินไป อีกทั้ง ต้องจัดบรรจุดซองด้วย แต่สำนักงานสลากฯไม่มีเครื่องบรรจุซอง ต้องจัดหาเครื่องบรรจุซองจากภายนอกเพิ่มเติม ซึ่งไม่สามารถจัดหาได้ทันที ติดเงื่อนไขระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางและต้องผ่านขั้นตอนพิจารณาของคณะกรรมการสลากฯอีกด้วย ทำให้ไม่สามารถพิมพ์ได้ทันตามที่กำหนดไว้
http://www.naewna.com/business/121059
ไม่มีความคิดเห็น: