Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

22 ธันวาคม 2557 IDC.จาริศร์ ระบุ เป็นไปได้ว่าในปี 2558 ตลาดโน้ตบุ๊กจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดติดลบลงไป 20-30% โดยจะมีกลุ่มผู้ที่มีประสบการณ์การใช้งานแท็บเลตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

ประเด็นหลัก


    "เป็นไปได้ว่าในปี 2558  ตลาดโน้ตบุ๊กจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง   หลังจากช่วง 2-3  ปีที่ผ่านมาตลาดติดลบลงไป 20-30%   โดยจะมีกลุ่มผู้ที่มีประสบการณ์การใช้งานแท็บเลตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา   เริ่มพบว่าอุปกรณ์แท็บเลตไม่สามารถตอบสนองการทำงานบางอย่างได้ และกลับมาให้ความสนใจโน้ตบุ๊กแบบทูอินวัน   ที่สามารถตอบสนองการทำงานได้มากกว่า อย่างไรก็ตามผู้ใช้กลุ่มนี้ก็ยังเก็บแท็บเลตเอาไว้ตอบสนองการใช้งานทางด้านความบันเทิง"    นายจาริศร์   กล่าวต่อไปว่าตลาดอุปกรณ์น้องใหม่ที่น่าจับตามองในปี 2558 นั้น คือตลาดสมาร์ท ดีไวซ์ โดยเฉพาะตลาดนาฬิกาอัจฉริยะ  หรือ สมาร์ทวอตช์  ที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน  หรือ แท็บเลต  เพื่อตอบสนองการใช้งานด้านสุขภาพ โดยมองว่าจะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง   และมีการแข่งขันรุนแรง    เนื่องจากขณะนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน อย่างซัมซุง  และโซนี่  เตรียมออกสมาร์ทวอตช์  รุ่นที่ 2 ออกมา   ขณะเดียวกันค่ายแอปเปิล  ก็เตรียมทำตลาดแอปเปิล วอตช์ ช่วงต้นปี 2558   เช่นเดียวกับค่ายผู้ผลิตสินค้าไอที   ทั้งอัสซุส   หรือ เอเซอร์   ก็เข้ามาเล่นในตลาดสมาร์ทวอตช์   และวิชแบนด์   สำหรับกลุ่มผู้รักสุขภาพมากขึ้น      


______________________________







ปี58ไร้เทคโนฯใหม่สร้างจุดเปลี่ยน



 นักวิเคราะห์ตลาดไอที มองตลาดอุปกรณ์ปี 58  ไร้เทคโนโลยีใหม่สร้างจุดเปลี่ยนตลาด    ฟันธงสงคราม "แฟบเลต-แท็บเลต-โน้ตบุ๊ก 2in1" ร้อนระอุ  หลังผู้ผลิตมุ่งเน้นใส่ฟีเจอร์ใหม่ลงบนอุปกรณ์เดิม ตอบโจทย์การใช้งานผู้ใช้
    altนายจาริศร์ สิทธุ นักวิเคราะห์สายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ดีไวซ์ บริษัทไอดีซี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าแนวโน้มเทคโนโลยีอุปกรณ์  หรือ ดีไวซ์  ที่เกิดขึ้นในปี 2558  คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากไปกว่าปี 2557 โดยยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ  เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือจุดเปลี่ยนให้กับตลาดชัดเจน ทั้งนี้มองว่าเกมการแข่งขันปี 2558   จะเป็นการแข่งขันระหว่างอุปกรณ์ 3  รูปแบบ     คือ แฟบเลต (Phablet) สมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5 - 6.5  นิ้ว ,  แท็บเลต ขนาดหน้าจอ 7 นิ้วขึ้นไป  ที่มีคุณสมบัติรอง 3G - LTE และ โน้ตบุ๊กแบบทูอินวัน  ที่ผู้ผลิตต่างมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้รองรับกับความต้องการใช้งานของผู้บริโภค เพื่อช่วงชิงตลาด  
    โดยกลุ่มแฟบเลต ที่กำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคขณะนี้นั้นผู้ผลิตจะพัฒนาคุณสมบัติของจอให้มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น    , รองรับการเล่นเกมได้มากขึ้น หรือ  พัฒนาแบตเตอรี่ให้สามารถรองรับการใช้งานได้นานมากขึ้น      ขณะที่อุปกรณ์แท็บเลต  ที่มีหน้าจอขนาด 7 นิ้วขึ้นไปนั้นก็ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติรองรับการใช้งานเสียงหรือวอยซ์   และดาต้า  ผ่านเทคโนโลยี   3 จี  และ LTE  ส่วนฝั่งผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก ก็พยายามผลักดันอุปกรณ์กลุ่มโน้ตบุ๊กแบบทูอินวัน   (2in1)  หรือ  โน้ตบุ๊กที่สามารถถอดหน้าจอออกมาใช้งานเป็นแท็บเลตได้  โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของหน่วยประมวลผล  ที่จะเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีอินเทล คอร์ เอ็ม มากขึ้นจากเดิมปีนี้ใช้หน่วยประมวลผลอินเทล  อะตอม เป็นหลัก   ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของโน้ตบุ๊กทูอินวันสูงขึ้น สามารถใช้งานได้นานขึ้น ขณะที่ราคาโน้ตบุ๊กแบบทูอินวันมีแนวโน้มลดลง      
    "เป็นไปได้ว่าในปี 2558  ตลาดโน้ตบุ๊กจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง   หลังจากช่วง 2-3  ปีที่ผ่านมาตลาดติดลบลงไป 20-30%   โดยจะมีกลุ่มผู้ที่มีประสบการณ์การใช้งานแท็บเลตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา   เริ่มพบว่าอุปกรณ์แท็บเลตไม่สามารถตอบสนองการทำงานบางอย่างได้ และกลับมาให้ความสนใจโน้ตบุ๊กแบบทูอินวัน   ที่สามารถตอบสนองการทำงานได้มากกว่า อย่างไรก็ตามผู้ใช้กลุ่มนี้ก็ยังเก็บแท็บเลตเอาไว้ตอบสนองการใช้งานทางด้านความบันเทิง"    นายจาริศร์   กล่าวต่อไปว่าตลาดอุปกรณ์น้องใหม่ที่น่าจับตามองในปี 2558 นั้น คือตลาดสมาร์ท ดีไวซ์ โดยเฉพาะตลาดนาฬิกาอัจฉริยะ  หรือ สมาร์ทวอตช์  ที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน  หรือ แท็บเลต  เพื่อตอบสนองการใช้งานด้านสุขภาพ โดยมองว่าจะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง   และมีการแข่งขันรุนแรง    เนื่องจากขณะนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน อย่างซัมซุง  และโซนี่  เตรียมออกสมาร์ทวอตช์  รุ่นที่ 2 ออกมา   ขณะเดียวกันค่ายแอปเปิล  ก็เตรียมทำตลาดแอปเปิล วอตช์ ช่วงต้นปี 2558   เช่นเดียวกับค่ายผู้ผลิตสินค้าไอที   ทั้งอัสซุส   หรือ เอเซอร์   ก็เข้ามาเล่นในตลาดสมาร์ทวอตช์   และวิชแบนด์   สำหรับกลุ่มผู้รักสุขภาพมากขึ้น        
    นายจาริศร์  กล่าวต่อไปอีกว่าประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจปี 2558  ยังคงทรงตัว   ขณะที่กำลังซื้อน่าจะเริ่มกลับมาเล็กน้อย ซึ่งมองว่าภาพรวมตลาดไอทีปี 2558  คงไม่ลดลงไปจากปี 2557 โดยในกลุ่มสมาร์ทโฟน ยังเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุด   โดยเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ส่วนตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล  หรือ พีซี  ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และโน้ตบุ๊ก นั้นคาดว่าปี 2558  ตลาดจะกลับมาเติบโต 5-10%    ขณะที่แท็บเลต คาดว่าน่าจะเติบโตราว 10%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=258105:58&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VJY3wCBAc

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.