Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

26 มกราคม 2558 TRUEVISIONS ระบุ รายได้ของธุรกิจเพย์ทีวีของกลุ่มทรูจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ขณะที่รายอื่นน่าจะอยู่ที่ 3,000-5,000 ล้านบาท และจากข้อมูลในไตรมาส 3 ปี 2557 มีฐานสมาชิกล่าสุดที่ 2.4 ล้านครัวเรือน มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งที่สัดส่วน 60%

ประเด็นหลัก


นายศึกษิฐ ชลศึกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดดีไวซ์ และพรีเพด เพย์ทีวี บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า สภาพรวมตลาดเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากกระแสการแจกคูปองทีวีดิจิทัล ทั้งที่เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมสามารถรับชมช่องทีวีดิจิทัลได้เช่นกันแต่ไม่ส่งผลถึงการเติบโตและรายได้ ซึ่งรายได้ของธุรกิจเพย์ทีวีของกลุ่มทรูจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ขณะที่รายอื่นน่าจะอยู่ที่ 3,000-5,000 ล้านบาท และจากข้อมูลในไตรมาส 3 ปี 2557 มีฐานสมาชิกล่าสุดที่ 2.4 ล้านครัวเรือน มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งที่สัดส่วน 60%

"สิ่งที่ผู้บริโภคมองหาจากเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม อันดับ 1 ยังอยู่ที่คอนเทนต์ ซึ่งทรูค่อนข้างแข็งแกร่งในจุดนี้ เรามีคอนเทนต์ลิขสิทธิ์ที่ลูกค้าชอบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เรื่องกีฬา อย่างฟุตบอลก็มีทั้งต่างชาติและฟุตบอลไทย รวมถึงกีฬาอื่น ๆ ที่คนต้องการความคมชัดในการรับชม และต้องการดูสด รองลงมาเป็นภาพยนตร์และการ์ตูนสำหรับเด็ก ถัดมาเป็นเรื่องความคมชัดระดับเอชดี ไม่ใช่ผู้ให้บริการทุกรายที่มี และสุดท้ายเป็นเรื่องราคา แน่นอนว่าคนชอบของถูก แต่คุณภาพก็สำคัญ เมื่อมองกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ที่เรามีด้วยแล้วยังคงสร้างความคุ้มค่าให้ลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่ง"

ล่าสุดทรูวิชั่นส์เปิดตัว"กล่องทรูดิจิทัลเอชดี"เป็นกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมรุ่นใหม่แบบขายขาดไม่เสียค่าบริการรายเดือนราคา 1,690 บาท รับชมช่องพื้นฐานได้ 200 ช่อง ช่องดิจิทัลทีวี 48 ช่อง และช่องเอชดี 8 ช่อง สามารถใช้งานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รับสัญญาณทั้งเทคโนโลยีเคยูแบนด์และซียูแบนด์ ทำให้ทรูวิชั่นส์เข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ในระบบซีแบนด์ และเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่มีการให้บริการครบทุกช่องสัญญาณด้วย

















_____________________________________________________
















ทรูวิชั่นส์โชว์รายได้หมื่นล้าน บุกตลาดดูฟรีไม่มีรายเดือน



"ทรูวิชั่นส์" ไม่หยุดขยายฐานคนดูฟรีทีวีดาวเทียม ส่งเซตท็อปบ็อกซ์ใหม่ "ทรูดิจิทัลเอชดี" ลงตลาด มองไกล 3 ปี กวาดยอดขาย 6 ล้านกล่อง ขยับมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเท่าตัว ทั้งยอมรับกระแสแจกคูปองทีวีดิจิทัลดึงความสนใจผู้บริโภค แต่รายได้ไม่ตก โชว์ฐานสมาชิก 2.4 ล้านรายย้ำแชมป์ "เพย์ทีวี" โกยรายได้ 10,000 ล้านบาท ย้ำจุดขาย "คอนเทนต์"

นายศึกษิฐ ชลศึกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดดีไวซ์ และพรีเพด เพย์ทีวี บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า สภาพรวมตลาดเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากกระแสการแจกคูปองทีวีดิจิทัล ทั้งที่เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมสามารถรับชมช่องทีวีดิจิทัลได้เช่นกันแต่ไม่ส่งผลถึงการเติบโตและรายได้ ซึ่งรายได้ของธุรกิจเพย์ทีวีของกลุ่มทรูจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ขณะที่รายอื่นน่าจะอยู่ที่ 3,000-5,000 ล้านบาท และจากข้อมูลในไตรมาส 3 ปี 2557 มีฐานสมาชิกล่าสุดที่ 2.4 ล้านครัวเรือน มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งที่สัดส่วน 60%

"สิ่งที่ผู้บริโภคมองหาจากเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม อันดับ 1 ยังอยู่ที่คอนเทนต์ ซึ่งทรูค่อนข้างแข็งแกร่งในจุดนี้ เรามีคอนเทนต์ลิขสิทธิ์ที่ลูกค้าชอบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เรื่องกีฬา อย่างฟุตบอลก็มีทั้งต่างชาติและฟุตบอลไทย รวมถึงกีฬาอื่น ๆ ที่คนต้องการความคมชัดในการรับชม และต้องการดูสด รองลงมาเป็นภาพยนตร์และการ์ตูนสำหรับเด็ก ถัดมาเป็นเรื่องความคมชัดระดับเอชดี ไม่ใช่ผู้ให้บริการทุกรายที่มี และสุดท้ายเป็นเรื่องราคา แน่นอนว่าคนชอบของถูก แต่คุณภาพก็สำคัญ เมื่อมองกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ที่เรามีด้วยแล้วยังคงสร้างความคุ้มค่าให้ลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่ง"

ล่าสุดทรูวิชั่นส์เปิดตัว"กล่องทรูดิจิทัลเอชดี"เป็นกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมรุ่นใหม่แบบขายขาดไม่เสียค่าบริการรายเดือนราคา 1,690 บาท รับชมช่องพื้นฐานได้ 200 ช่อง ช่องดิจิทัลทีวี 48 ช่อง และช่องเอชดี 8 ช่อง สามารถใช้งานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รับสัญญาณทั้งเทคโนโลยีเคยูแบนด์และซียูแบนด์ ทำให้ทรูวิชั่นส์เข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ในระบบซีแบนด์ และเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่มีการให้บริการครบทุกช่องสัญญาณด้วย

"เราต้องการขยายฐานสมาชิกทรูวิชั่นส์ให้มากขึ้นโดยเฉพาะช่องสัญญาณซีแบนด์การออกกล่องแบบขายขาดเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่จะจูงใจให้ลูกค้านำกล่องทรูเข้าบ้านตอนนี้ตลาดและพฤติกรรมลูกค้าบางกลุ่มยังไม่พร้อมใช้บริการรายเดือนแต่ต้องการแค่ช่องฟรีก่อนเราก็ตอบสนองให้และมีโมเดลพรีเพดหรือการขายแพ็กเกจคอนเทนต์เสริมเป็นทางเลือกเพิ่มเติม"

นายศึกษิฐกล่าวต่อว่า ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 6 ล้านกล่อง ภายใน 3 ปี รวมกับฐานผู้ใช้งานกล่องรับสัญญาณแบบขายขาดในแพ็กเกจ "ฟรีวิว" เดิมที่มีอยู่แล้ว 1.5 ล้านกล่อง และเพิ่มมาร์เก็ตแชร์จาก 10-15% เป็น 20-30% และตั้งเป้ารายได้ปีแรกจากบริการท็อปอัพ "แพ็กเกจ" ไว้ที่ 200-300 ล้านบาท แบ่งเป็นแพ็กเกจกีฬา, วาไรตี้บันเทิง, ภาพยนตร์ และแพ็กเกจสุดคุ้ม 7 ช่อง ราคาแพ็กเกจละ 90 บาท/30 วัน และแพ็กเกจแฮปปี้ แฟมิลี่ ราคา 300 บาท/30 วัน และ 10 บาท/1 วัน

"โมเดลอื่นเช่นการทำเซตท็อปบ็อกซ์ทีวีดิจิทัล เรามองว่าไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ ในเมื่อเรามีบริการที่ครอบคลุมคอนเทนต์อย่างช่องดิจิทัลทีวีไปแล้ว ขณะที่ผู้ให้บริการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมรายย่อยคงต้องเร่งปรับตัว ซึ่งจุดแข็งของผู้ให้บริการกลุ่มนี้อยู่ที่ความใกล้ชิดกับลูกค้า และการให้บริการ หากยังรักษาคุณภาพไว้ได้ก็น่าจะยังมีลูกค้า"


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1421902750

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.