04 มิถุนายน 2555 ฟัน CAT TRUE !! เชื่ออนุ กสทช. องค์ประชุมครบ 6 มิ.ย.นี้ รู้ผล ( เชื่อได้ว่าที่ประชุมคงต้องมีอะไรแอบแฝงในการโหวต )
ฟัน CAT TRUE !! เชื่ออนุ กสทช. องค์ประชุมครบ 6 มิ.ย.นี้ รู้ผล ( เชื่อได้ว่าที่ประชุมคงต้องมีอะไรแอบแฝงในการโหวต )
ประเด็นหลัก
เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯมาไม่ครบ องค์ประชุมโดยขาดไป 3 คน คือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ศ.ดร.ศักดา ธนิตกุล และนายพิทยาพล จันทนะสาโร ซึ่งเป็นเลขานุการ
ดังนั้นที่ประชุมจึงลงความเห็นให้เลื่อนการลงมติในที่ประชุมไปเป็นวันที่ 6 มิ.ย.นี้หรืออาจจะเร็วกว่านั้น
"เนื่องจากขาดคณะอนุกรรมการฯไป 3 คนทำให้ต้องเลื่อนสรุปผลในกรณีดังกล่าวออกไปอีก เพราะไม่สามารถลงคะแนนโหวตได้ โดยเฉพาะประเด็น BFKT"
ทั้งนี้จึง เชื่อได้ว่าที่ประชุมคงต้องมีอะไรแอบแฝงในการโหวตเป็นแน่ถึงไม่กล้าให้ที่ ปรึกษาอยู่ฟัง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วที่ปรึกษาก็ไม่มีสิทธิในการโหวตอยู่ดี
___________________________________________
"ชัยฤกษ์" ปัดสรุปผลมาตรา 46 เหตุไม่ครบองค์ประชุม
คณะอนุกรรมการฯมาตรา 46 กสทช. เลื่อนสรุปผลเป็น 6 มิ.ย.แทน "ชัยฤกษ์" แจงไม่ครบองค์ประชุมโหวตประเด็น BFKT ไม่ได้
นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ ประธานอนุกรรมการพิจารณาข้อกฏหมายมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.กสทช. 2553 เปิดเผยภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่าที่ประชุมยังไม่สามารถสรุปผลพิจารณาสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม กับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัดในประเด็นสำคัญที่ว่ามีการละเมิดมาตรา 46 ของพ.ร.บ.กสทช.หรือไม่ และควรมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯมาไม่ครบองค์ประชุมโดยขาดไป 3 คน คือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ศ.ดร.ศักดา ธนิตกุล และนายพิทยาพล จันทนะสาโร ซึ่งเป็นเลขานุการ
ดังนั้นที่ประชุมจึงลงความเห็นให้เลื่อนการลงมติในที่ประชุมไปเป็นวันที่ 6 มิ.ย.นี้หรืออาจจะเร็วกว่านั้น
"เนื่องจากขาดคณะอนุกรรมการฯไป 3 คนทำให้ต้องเลื่อนสรุปผลในกรณีดังกล่าวออกไปอีก เพราะไม่สามารถลงคะแนนโหวตได้ โดยเฉพาะประเด็น BFKT"
ด้าน นายจิตรนรา นวรัตน หนึ่งในคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า การประชุมในวานนี้ที่ประชุมไม่สามารถสรุปผลเป็นมติออกมาได้เนื่องจากขาด กรรมการไป 3 คน แต่เชื่อว่าจะต้องให้พิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เพราะอำนาจหน้าที่คณะอนุกรรมการฯชุดนี้จะหมดลงวันที่ 12 มิ.ย.
อย่างไรก็ดีที่ประชุมยืนยันว่าจะไม่มีการตัดในเรื่อง BFKT ทิ้ง เพราะทางคณะอนุกรรมการฯไม่เคยมีการพิจารณาเรื่องการตัดหัวข้อดังกล่าว เพียงแต่ได้มีการโหวตในประเด็นถ้อยคำที่กำกวม และพฤติกรรมในการปฏิบัติที่ขัดต่อสัญญา
ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุมมองว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขประมาณ 6 เรื่อง รวมไปถึงการแก้ไขในทางปฏิบัติด้วย เนื่องจากทุกวันนี้กสทไม่สามารถดำเนินการอย่างที่เคยเซ็นสัญญาไว้ในตอนแรก ได้
"ไม่มีใครโง่พอที่จะเขียนสัญญาให้ผิดกฏหมาย มีแต่จะเขียนเพื่้อเปิดช่องโหว่ไว้หาผลประโยชน์กันมากกว่า"
นอกจากนี้ในการประชุมช่วงท้ายได้มีการเชิญ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธาน ทีดีอาร์ไอ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯออกจากห้องประชุม รวมถึงคนที่ไม่มีสิทธิในการโหวต โดยให้เหตุผลว่าที่ประชุมจะมีการโหวตในวาระที่สำคัญ โดยคาดว่าจะเป็นประเด็น BFKT เนื่องจากมีเพียงประเด็นดังกล่าวเท่านั้นที่เสียงในที่ประชุมยังมีความเห็น ต่างอยู่ในตอนนี้
ทั้งนี้จึงเชื่อได้ว่าที่ประชุมคงต้องมีอะไรแอบแฝงในการโหวตเป็นแน่ถึงไม่ กล้าให้ที่ปรึกษาอยู่ฟัง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วที่ปรึกษาก็ไม่มีสิทธิในการโหวตอยู่ดี
อนึ่ง คณะอนุกรรมการฯ มาตรา 46 ประกอบด้วย นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ ประธานอนุกรรมการ ศ.ดร.ศักดา ธนิตกุล ดร.สงขลา วิชัยขัทคะ ผช.ศ.ทับทิม อ่างแก้ว นายกุศล แย้มสะอาด นายพิษณุ วิเชียรสวรรค์ นายประธาน จุฬาโรจน์มนตรี นายจิตรนรา นวรัตน์ ดร.ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายพิทยาพล จันทนะสาโร เป็นเลขานุการ และมีนายพากเพียร สุนทรสิต และนางสุพินญา จำปี เป็นผู้ช่วยเลขานุการ และมีดร.กิตติน อุดมเกียรติ นายธานี ศิริปะชะนะ และ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ เป็นที่ปรึกษา
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000068228
_________________________________________
เลื่อนชี้ขาด3จีอีกอ้างไม่ครบองค์ประชุม เล็งพิจารณา6มิ.ย.นี้ ยันยังไม่ทิ้ง"บีเอฟเคที"
นาย ชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ ประธานอนุกรรมการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมสรุปมติการพิจารณาสัญญา 3 จี ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ส่อละเมิดในมาตรา 46 รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า คณะอนุกรรมการมีมติร่วมกัน เพื่อขอเลื่อนเวลาลงนามสรุปการประชุมวาระดังกล่าวออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาในหัวข้อของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากการประชุมในครั้งนี้มีองค์ประชุมคณะกรรมการ กทค.ไม่ครบ 10 คน โดยขาดอนุกรรมการ กทค.ไป 2 คน รวมทั้งเลขานุการคณะอนุกรรมการ ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศประกอบด้วย นายศักดา ธนิตกุล, นายปิยะบุตร บุณอร่ามเรือง และนายพิทยาพล จันทนะสาโร ซึ่งเป็นเลขานุการ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีความเห็นในการเลื่อนการประชุมออกไปอีกครั้งเป็นวันที่ 6 มิถุนายน หรือเร็วกว่านั้น เพราะคณะอนุกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ไปจนถึงวันที่ 11 มิถุนายน
นาย จิตรนรา นวรัตน์ หนึ่งในคณะอนุกรรมการ กทค. กล่าวว่า จากกระแสข่าวตามสื่อต่างๆ ก่อนหน้านี้ที่ชี้ว่าในการพิจารณาของทางคณะอนุกรรมการจะมีการตัดบีเอฟเคที ทิ้งไปนั้น อยากให้เข้าใจตรงกันว่า ทางคณะอนุกรรมการไม่เคยมีการพิจารณาเรื่องการตัดหัวข้อเรื่องบีเอฟเคทีทิ้ง เพียงแต่มีการพิจารณาและเปิดให้โหวตแก้ไขถ้อยคำที่ยังกำกวมในข้อสัญญาบีเอ ฟเคที จึงต้องมีการเปิดโหวตแก้ไขจำนวน 6 ข้อความด้วยกัน เนื่องจากในขณะนี้ กสท.ไม่สามารถดำเนินการตามที่เคยสัญญาไว้ในตอนแรกได้ ซึ่งอนุกรรมการเกือบทั้งหมดที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ ต่างก็มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงคาดว่าจะหาข้อสรุปได้ในการประชุมครั้งต่อไปใน วันที่ 6 มิถุนายนหรือเร็วกว่านั้น เพื่อนำมติสรุปส่งให้ กทค.ต่อไป ทั้งนี้ เมื่อมีการลงมติสรุปการประชุมเรียบร้อยจะมีการเปิดเผยในรายละเอียดอีกครั้ง ว่ามีการแก้ไขบีเอฟเคทีในจุดใดบ้าง
"ไม่มีใครโง่พอที่จะเขียนสัญญา ให้ผิดกฎหมาย มีแต่จะเขียนให้ฉลาด เพื่อเปิดช่องโหว่ไว้หาผลประโยชน์กัน อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นสัญญาเดิมที่ทำไว้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับวิธีปฏิบัติมากกว่า เราจึงต้องเน้นดูที่พฤติกรรมเพื่อไม่ให้ใครใช้ช่องโหว่ของสัญญาได้" นายจิตรนรากล่าว
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338796457&grpid=&catid=05&subcatid=0504
ประเด็นหลัก
เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯมาไม่ครบ องค์ประชุมโดยขาดไป 3 คน คือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ศ.ดร.ศักดา ธนิตกุล และนายพิทยาพล จันทนะสาโร ซึ่งเป็นเลขานุการ
ดังนั้นที่ประชุมจึงลงความเห็นให้เลื่อนการลงมติในที่ประชุมไปเป็นวันที่ 6 มิ.ย.นี้หรืออาจจะเร็วกว่านั้น
"เนื่องจากขาดคณะอนุกรรมการฯไป 3 คนทำให้ต้องเลื่อนสรุปผลในกรณีดังกล่าวออกไปอีก เพราะไม่สามารถลงคะแนนโหวตได้ โดยเฉพาะประเด็น BFKT"
ทั้งนี้จึง เชื่อได้ว่าที่ประชุมคงต้องมีอะไรแอบแฝงในการโหวตเป็นแน่ถึงไม่กล้าให้ที่ ปรึกษาอยู่ฟัง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วที่ปรึกษาก็ไม่มีสิทธิในการโหวตอยู่ดี
___________________________________________
"ชัยฤกษ์" ปัดสรุปผลมาตรา 46 เหตุไม่ครบองค์ประชุม
คณะอนุกรรมการฯมาตรา 46 กสทช. เลื่อนสรุปผลเป็น 6 มิ.ย.แทน "ชัยฤกษ์" แจงไม่ครบองค์ประชุมโหวตประเด็น BFKT ไม่ได้
นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ ประธานอนุกรรมการพิจารณาข้อกฏหมายมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.กสทช. 2553 เปิดเผยภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่าที่ประชุมยังไม่สามารถสรุปผลพิจารณาสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม กับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัดในประเด็นสำคัญที่ว่ามีการละเมิดมาตรา 46 ของพ.ร.บ.กสทช.หรือไม่ และควรมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯมาไม่ครบองค์ประชุมโดยขาดไป 3 คน คือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ศ.ดร.ศักดา ธนิตกุล และนายพิทยาพล จันทนะสาโร ซึ่งเป็นเลขานุการ
ดังนั้นที่ประชุมจึงลงความเห็นให้เลื่อนการลงมติในที่ประชุมไปเป็นวันที่ 6 มิ.ย.นี้หรืออาจจะเร็วกว่านั้น
"เนื่องจากขาดคณะอนุกรรมการฯไป 3 คนทำให้ต้องเลื่อนสรุปผลในกรณีดังกล่าวออกไปอีก เพราะไม่สามารถลงคะแนนโหวตได้ โดยเฉพาะประเด็น BFKT"
ด้าน นายจิตรนรา นวรัตน หนึ่งในคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า การประชุมในวานนี้ที่ประชุมไม่สามารถสรุปผลเป็นมติออกมาได้เนื่องจากขาด กรรมการไป 3 คน แต่เชื่อว่าจะต้องให้พิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เพราะอำนาจหน้าที่คณะอนุกรรมการฯชุดนี้จะหมดลงวันที่ 12 มิ.ย.
อย่างไรก็ดีที่ประชุมยืนยันว่าจะไม่มีการตัดในเรื่อง BFKT ทิ้ง เพราะทางคณะอนุกรรมการฯไม่เคยมีการพิจารณาเรื่องการตัดหัวข้อดังกล่าว เพียงแต่ได้มีการโหวตในประเด็นถ้อยคำที่กำกวม และพฤติกรรมในการปฏิบัติที่ขัดต่อสัญญา
ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุมมองว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขประมาณ 6 เรื่อง รวมไปถึงการแก้ไขในทางปฏิบัติด้วย เนื่องจากทุกวันนี้กสทไม่สามารถดำเนินการอย่างที่เคยเซ็นสัญญาไว้ในตอนแรก ได้
"ไม่มีใครโง่พอที่จะเขียนสัญญาให้ผิดกฏหมาย มีแต่จะเขียนเพื่้อเปิดช่องโหว่ไว้หาผลประโยชน์กันมากกว่า"
นอกจากนี้ในการประชุมช่วงท้ายได้มีการเชิญ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธาน ทีดีอาร์ไอ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯออกจากห้องประชุม รวมถึงคนที่ไม่มีสิทธิในการโหวต โดยให้เหตุผลว่าที่ประชุมจะมีการโหวตในวาระที่สำคัญ โดยคาดว่าจะเป็นประเด็น BFKT เนื่องจากมีเพียงประเด็นดังกล่าวเท่านั้นที่เสียงในที่ประชุมยังมีความเห็น ต่างอยู่ในตอนนี้
ทั้งนี้จึงเชื่อได้ว่าที่ประชุมคงต้องมีอะไรแอบแฝงในการโหวตเป็นแน่ถึงไม่ กล้าให้ที่ปรึกษาอยู่ฟัง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วที่ปรึกษาก็ไม่มีสิทธิในการโหวตอยู่ดี
อนึ่ง คณะอนุกรรมการฯ มาตรา 46 ประกอบด้วย นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ ประธานอนุกรรมการ ศ.ดร.ศักดา ธนิตกุล ดร.สงขลา วิชัยขัทคะ ผช.ศ.ทับทิม อ่างแก้ว นายกุศล แย้มสะอาด นายพิษณุ วิเชียรสวรรค์ นายประธาน จุฬาโรจน์มนตรี นายจิตรนรา นวรัตน์ ดร.ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายพิทยาพล จันทนะสาโร เป็นเลขานุการ และมีนายพากเพียร สุนทรสิต และนางสุพินญา จำปี เป็นผู้ช่วยเลขานุการ และมีดร.กิตติน อุดมเกียรติ นายธานี ศิริปะชะนะ และ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ เป็นที่ปรึกษา
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000068228
_________________________________________
เลื่อนชี้ขาด3จีอีกอ้างไม่ครบองค์ประชุม เล็งพิจารณา6มิ.ย.นี้ ยันยังไม่ทิ้ง"บีเอฟเคที"
นาย ชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ ประธานอนุกรรมการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมสรุปมติการพิจารณาสัญญา 3 จี ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ส่อละเมิดในมาตรา 46 รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า คณะอนุกรรมการมีมติร่วมกัน เพื่อขอเลื่อนเวลาลงนามสรุปการประชุมวาระดังกล่าวออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาในหัวข้อของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากการประชุมในครั้งนี้มีองค์ประชุมคณะกรรมการ กทค.ไม่ครบ 10 คน โดยขาดอนุกรรมการ กทค.ไป 2 คน รวมทั้งเลขานุการคณะอนุกรรมการ ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศประกอบด้วย นายศักดา ธนิตกุล, นายปิยะบุตร บุณอร่ามเรือง และนายพิทยาพล จันทนะสาโร ซึ่งเป็นเลขานุการ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีความเห็นในการเลื่อนการประชุมออกไปอีกครั้งเป็นวันที่ 6 มิถุนายน หรือเร็วกว่านั้น เพราะคณะอนุกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ไปจนถึงวันที่ 11 มิถุนายน
นาย จิตรนรา นวรัตน์ หนึ่งในคณะอนุกรรมการ กทค. กล่าวว่า จากกระแสข่าวตามสื่อต่างๆ ก่อนหน้านี้ที่ชี้ว่าในการพิจารณาของทางคณะอนุกรรมการจะมีการตัดบีเอฟเคที ทิ้งไปนั้น อยากให้เข้าใจตรงกันว่า ทางคณะอนุกรรมการไม่เคยมีการพิจารณาเรื่องการตัดหัวข้อเรื่องบีเอฟเคทีทิ้ง เพียงแต่มีการพิจารณาและเปิดให้โหวตแก้ไขถ้อยคำที่ยังกำกวมในข้อสัญญาบีเอ ฟเคที จึงต้องมีการเปิดโหวตแก้ไขจำนวน 6 ข้อความด้วยกัน เนื่องจากในขณะนี้ กสท.ไม่สามารถดำเนินการตามที่เคยสัญญาไว้ในตอนแรกได้ ซึ่งอนุกรรมการเกือบทั้งหมดที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ ต่างก็มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงคาดว่าจะหาข้อสรุปได้ในการประชุมครั้งต่อไปใน วันที่ 6 มิถุนายนหรือเร็วกว่านั้น เพื่อนำมติสรุปส่งให้ กทค.ต่อไป ทั้งนี้ เมื่อมีการลงมติสรุปการประชุมเรียบร้อยจะมีการเปิดเผยในรายละเอียดอีกครั้ง ว่ามีการแก้ไขบีเอฟเคทีในจุดใดบ้าง
"ไม่มีใครโง่พอที่จะเขียนสัญญา ให้ผิดกฎหมาย มีแต่จะเขียนให้ฉลาด เพื่อเปิดช่องโหว่ไว้หาผลประโยชน์กัน อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นสัญญาเดิมที่ทำไว้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับวิธีปฏิบัติมากกว่า เราจึงต้องเน้นดูที่พฤติกรรมเพื่อไม่ให้ใครใช้ช่องโหว่ของสัญญาได้" นายจิตรนรากล่าว
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338796457&grpid=&catid=05&subcatid=0504
ไม่มีความคิดเห็น: