25 พฤษภาคม 2555 CAT กลืนไม่เข้า คายไม่ออก กับปัญหา ระบบ FTTX ยกเลิกไม่ได้ ลูกค้าเดือดร้อน !!! ICT จี้ ทางออกว่าวิธีไหนจะดีที่สุดที่
CAT กลืนไม่เข้า คายไม่ออก กับปัญหา ระบบ FTTX ยกเลิกไม่ได้ ลูกค้าเดือดร้อน !!! ICT จี้ ทางออกว่าวิธีไหนจะดีที่สุดที่
ประเด็นหลัก
รมว.ไอซีที กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องเอฟทีทีเอ็กซ์นั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ แล้ว แต่มาส่งผลถึงบอร์ดชุดนี้ คือ เรื่องนิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ จุดบางจุดที่ลงทุนไว้มีความสำคัญต่อศักยภาพต่องานนั้นจึงส่งผลกระทบ มีแนวโน้มผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง จึงต้องการฝากให้ กสท คิดกระบวนการที่ต้องเดินหน้าว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร
น.อ.อนุ ดิษฐ์ กล่าวว่า 2.ส่วนความคืบหน้ากรณีโครงการไฟเบอร์ออฟติกทูเดอะเอ็กซ์ หรือFTTX ที่มีปัญหามานาน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว เนื่องจากมีการร้องเรียนว่ามีการดำเนินการไม่โปร่งใส และไม่เป็นตามขั้นตอน และทำให้กสทเสียประโยชน์ โดยเฉพาะประเด็นการเซ็นสัญญาเช่าโครงข่ายพร้อมอุปกรณ์เพื่อให้บริการ FTTX กว่า 10 สัญญา รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
'กรณี FTTX อยากให้แยกเป็น2ส่วนคือเรื่องความผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ไม่อยากให้ไปยกเลิกบริการต่างๆภายใต้โครงการ เนื่องจากจะทำให้ผู้ใช้บริการ หรือลูกค้าได้รับผลกระทบ และสุดท้ายจะทำให้เกิดผู้เสียหายตามมาหลายรายแน่นอน ดังนั้นแทนที่จะมาสร้างปัญหาฟ้องร้องกันไปมา เราควรจะหาทางออกว่าวิธีไหนจะดีที่สุดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ'
_____________________________________
อนุดิษฐ์สั่ง กสท ระงับเบิกงบฯ ควบคิดวิธีปลดล็อกFTTx
รมว.ไอซีที เผยหลังพบบอร์ด กสท ฝาก กสท คิดกระบวนการเดินหน้า ปลดล็อก FTTx เนื่องจากกระทบต่อหลายภาคส่วน...
เมื่อ วันที่ 25 พ.ค.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวภายหลังการเข้าพบคณะกรรมการ หรือบอร์ด บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ว่า วันนี้ได้หารือกับบอร์ด 4 เรื่อง ได้แก่ 1.ปัญหาเรื่องกฎหมายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการให้บริการ 3จี HSPA ระหว่าง กสท และบริษัท ทรู คอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) 2.เรื่องของธุรกิจรับผลกระทบจากคลาวด์คอมพิวติ้ง 3.ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ โครงการไฟเบอร์ออฟติกทูเดอะเอ็กซ์ หรือเอฟทีทีเอ็กซ์ (FTTx) และ 4.การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท
รม ว.ไอ ซีที กล่าวต่อว่า เนื่องจากสัญญา 3จี HSPA ที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้ กระทรวงไอซีทีให้ทางบอร์ด พิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้น โดยยึดเอาความถูกต้อง และผลประโยชน์ของรัฐเป็นที่ตั้ง และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้บริการที่ดำเนินการแล้วให้ได้ผลกระทบดังกล่าว โดยให้ กสท พิจารณา ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องชะลอไว้จนกว่าจะมีข้อยุติที่ชัดเจน โดยให้บอร์ด กสท รายงานความคืบหน้าเป็นระยะ รวมถึงผลสอบของไอซีทีเองที่เห็นว่ามีความเป็นไปได้ในสัญญาว่าจะไม่ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุน และมาตรา 46 พ.ร.บ.กสทช.ที่กสท ห้ามโอนสิทธิ์การบริหารโครงข่ายไปให้รายอื่นดำเนินการ นอกจากนี้ การเบิกงบประมาณต่างๆ ก็ต้องหยุดชะงักลงด้วย รวมถึงแบรนด์มาย และ 3 จี เฉพาะในส่วนของ กสท ด้วย
“การที่แจ้งให้ระงับการดำเนินการแล้ว หาก กสท ยังคงดำเนินการต่อก็ต้องรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเอง ขณะที่ส่วนตัวไม่สามารถตอบแทนได้ว่าผิดหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องตอบในชั้นศาล เพราะฉะนั้นระหว่างนี้ทางกระทรวงไอซีทีจึงมีความเห็นให้ กสท ชะลอการดำเนินการใดๆ ที่จะเกิดขึ้นกับสัญญาทุกฉบับ จนกว่าจะมีข้อยุติที่ชัดเจนจากหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ดังกล่าว” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
รมว.ไอซีที กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องเอฟทีทีเอ็กซ์นั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ แล้ว แต่มาส่งผลถึงบอร์ดชุดนี้ คือ เรื่องนิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ จุดบางจุดที่ลงทุนไว้มีความสำคัญต่อศักยภาพต่องานนั้นจึงส่งผลกระทบ มีแนวโน้มผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง จึงต้องการฝากให้ กสท คิดกระบวนการที่ต้องเดินหน้าว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร
“อยากให้ กสท คิดกระบวนการที่ต้องเดินหน้า จะปลดล็อกเรื่องนี้อย่างไรแทนที่จะมานั่งเคลียร์ว่าจะฟ้องหรือเปล่า มานั่งเจรจากันว่า จะมีวิธีอย่างไรเพื่อให้เดินหน้า และให้ กสท คำนวณความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ไทยรํฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/263353
______________________________________________
'อนุดิษฐ์' สั่งกสทแจ้งทรูมูฟ ยอมรับความเสี่ยงจากสัญญา 3G HSPA
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
รม ว.ไอซีทีย้ำกสทต้องหยุดดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับสัญญา 3G HSPA กับกลุ่มทรู รอความชัดเจนว่าไม่ผิดกม.ทั้งพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ และมาตรา 46 ของ พ.ร.บ.กสทช. สั่งกสทส่งหนังสือแจ้งเตือนทรูมูฟ หากยังเดินหน้าก็ต้องรับความเสี่ยงทางธุรกิจเอง
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังหารือกับบอร์ดบริษัท กสท โทรคมนาคมที่มีนายดุษฎี สินเจิมสิริ เป็นประธาน และผู้บริหารระดับสูงกสท เมื่อวันที่ 25 พ.ค. เพื่อเคลียร์ประเด็นปัญหาต่างๆ 4 เรื่อง คือ 1.ปัญหาสัญญาการให้บริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ 3G บนเทคโนโลยี HSPA ระหว่างกสทกับกลุ่มทรูว่าเบื้องต้นสั่งให้กสทระงับการดำเนินงานทุกอย่างที่ เกี่ยวข้องกับสัญญาดังกล่าวเพื่อรอความชัดเจน พร้อมทั้งให้กสทส่งหนังสือเตือนบริษัท ทรูมูฟ ว่าหากยังคงเดินหน้าทำธุรกิจ 3G ภายใต้สัญญาดังกล่าวหรือในชื่อบริการทรูมูฟเอชต่อไปจะต้องยอมรับกับความ เสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเอง
'หากทรูจะดำเนินการใดใดก็ตามในภายใต้สัญญาดังกล่าว ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นภายหลังเอง จะอ้างว่าดำเนินการโดยสุจริตไม่ได้เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน ขณะที่จะให้กสทส่งหนังสือเพื่อไปแจ้งทรูว่าจะหยุดดำเนินการทุกอย่างที่ เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อรอความชัดเจนในสัญญาดังกล่าว เพราะหากยังดำเนินการต่อไปอาจจะเสียหายมากกว่าในตอนนี้ก็เป็นได้'
สำหรับสัญญา 3G HSPA ระหว่างกสทกับกลุ่มทรู มีหลายหน่วยงานออกมาสรุปว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายในหลายประเด็น และยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของหน่วยงานอื่นด้วย อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ช.ช.) และกสทช. ดังนั้นกสทจึงควรที่จะรอความชัดเจนว่าสัญญาดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ. ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ )หรือไม่ รวมถึงรอความชัดเจนจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่กำลังตรวจสอบว่าการทำสัญญานั้น เป็นไปตามมาตรา 46 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 หรือไม่ต่อไป
ดังนั้นกสทจึงควรที่จะระงับการดำเนินการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสัญญาดัง กล่าว ซึ่งสอดคล้องกับที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ(สศช.) ที่มีหนังสือตอบข้อหารือมายังกสทก่อนหน้านี้
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า 2.ส่วนความคืบหน้ากรณีโครงการไฟเบอร์ออฟติกทูเดอะเอ็กซ์ หรือFTTX ที่มีปัญหามานาน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว เนื่องจากมีการร้องเรียนว่ามีการดำเนินการไม่โปร่งใส และไม่เป็นตามขั้นตอน และทำให้กสทเสียประโยชน์ โดยเฉพาะประเด็นการเซ็นสัญญาเช่าโครงข่ายพร้อมอุปกรณ์เพื่อให้บริการ FTTX กว่า 10 สัญญา รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
'กรณี FTTX อยากให้แยกเป็น2ส่วนคือเรื่องความผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ไม่อยากให้ไปยกเลิกบริการต่างๆภายใต้โครงการ เนื่องจากจะทำให้ผู้ใช้บริการ หรือลูกค้าได้รับผลกระทบ และสุดท้ายจะทำให้เกิดผู้เสียหายตามมาหลายรายแน่นอน ดังนั้นแทนที่จะมาสร้างปัญหาฟ้องร้องกันไปมา เราควรจะหาทางออกว่าวิธีไหนจะดีที่สุดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ'
นอกจากนี้ยังได้หารือในเรื่อง 3.การปรับโครงสร้างของกสท ให้เป็นเน็ตเวิร์กโพรวายเดอร์โดยเร็วที่สุด ให้เสร็จภายในเดือนก.ค.ก่อนนำเข้าครม.รวมถึง4.แผนการดำเนินธุรกิจคลาวด์คอม พิวติ้งด้วยเช่นเดียวกัน
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000064476
ประเด็นหลัก
รมว.ไอซีที กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องเอฟทีทีเอ็กซ์นั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ แล้ว แต่มาส่งผลถึงบอร์ดชุดนี้ คือ เรื่องนิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ จุดบางจุดที่ลงทุนไว้มีความสำคัญต่อศักยภาพต่องานนั้นจึงส่งผลกระทบ มีแนวโน้มผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง จึงต้องการฝากให้ กสท คิดกระบวนการที่ต้องเดินหน้าว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร
น.อ.อนุ ดิษฐ์ กล่าวว่า 2.ส่วนความคืบหน้ากรณีโครงการไฟเบอร์ออฟติกทูเดอะเอ็กซ์ หรือFTTX ที่มีปัญหามานาน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว เนื่องจากมีการร้องเรียนว่ามีการดำเนินการไม่โปร่งใส และไม่เป็นตามขั้นตอน และทำให้กสทเสียประโยชน์ โดยเฉพาะประเด็นการเซ็นสัญญาเช่าโครงข่ายพร้อมอุปกรณ์เพื่อให้บริการ FTTX กว่า 10 สัญญา รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
'กรณี FTTX อยากให้แยกเป็น2ส่วนคือเรื่องความผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ไม่อยากให้ไปยกเลิกบริการต่างๆภายใต้โครงการ เนื่องจากจะทำให้ผู้ใช้บริการ หรือลูกค้าได้รับผลกระทบ และสุดท้ายจะทำให้เกิดผู้เสียหายตามมาหลายรายแน่นอน ดังนั้นแทนที่จะมาสร้างปัญหาฟ้องร้องกันไปมา เราควรจะหาทางออกว่าวิธีไหนจะดีที่สุดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ'
_____________________________________
อนุดิษฐ์สั่ง กสท ระงับเบิกงบฯ ควบคิดวิธีปลดล็อกFTTx
รมว.ไอซีที เผยหลังพบบอร์ด กสท ฝาก กสท คิดกระบวนการเดินหน้า ปลดล็อก FTTx เนื่องจากกระทบต่อหลายภาคส่วน...
เมื่อ วันที่ 25 พ.ค.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวภายหลังการเข้าพบคณะกรรมการ หรือบอร์ด บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ว่า วันนี้ได้หารือกับบอร์ด 4 เรื่อง ได้แก่ 1.ปัญหาเรื่องกฎหมายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการให้บริการ 3จี HSPA ระหว่าง กสท และบริษัท ทรู คอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) 2.เรื่องของธุรกิจรับผลกระทบจากคลาวด์คอมพิวติ้ง 3.ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ โครงการไฟเบอร์ออฟติกทูเดอะเอ็กซ์ หรือเอฟทีทีเอ็กซ์ (FTTx) และ 4.การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท
รม ว.ไอ ซีที กล่าวต่อว่า เนื่องจากสัญญา 3จี HSPA ที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้ กระทรวงไอซีทีให้ทางบอร์ด พิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้น โดยยึดเอาความถูกต้อง และผลประโยชน์ของรัฐเป็นที่ตั้ง และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้บริการที่ดำเนินการแล้วให้ได้ผลกระทบดังกล่าว โดยให้ กสท พิจารณา ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องชะลอไว้จนกว่าจะมีข้อยุติที่ชัดเจน โดยให้บอร์ด กสท รายงานความคืบหน้าเป็นระยะ รวมถึงผลสอบของไอซีทีเองที่เห็นว่ามีความเป็นไปได้ในสัญญาว่าจะไม่ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุน และมาตรา 46 พ.ร.บ.กสทช.ที่กสท ห้ามโอนสิทธิ์การบริหารโครงข่ายไปให้รายอื่นดำเนินการ นอกจากนี้ การเบิกงบประมาณต่างๆ ก็ต้องหยุดชะงักลงด้วย รวมถึงแบรนด์มาย และ 3 จี เฉพาะในส่วนของ กสท ด้วย
“การที่แจ้งให้ระงับการดำเนินการแล้ว หาก กสท ยังคงดำเนินการต่อก็ต้องรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเอง ขณะที่ส่วนตัวไม่สามารถตอบแทนได้ว่าผิดหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องตอบในชั้นศาล เพราะฉะนั้นระหว่างนี้ทางกระทรวงไอซีทีจึงมีความเห็นให้ กสท ชะลอการดำเนินการใดๆ ที่จะเกิดขึ้นกับสัญญาทุกฉบับ จนกว่าจะมีข้อยุติที่ชัดเจนจากหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ดังกล่าว” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
รมว.ไอซีที กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องเอฟทีทีเอ็กซ์นั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ แล้ว แต่มาส่งผลถึงบอร์ดชุดนี้ คือ เรื่องนิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ จุดบางจุดที่ลงทุนไว้มีความสำคัญต่อศักยภาพต่องานนั้นจึงส่งผลกระทบ มีแนวโน้มผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง จึงต้องการฝากให้ กสท คิดกระบวนการที่ต้องเดินหน้าว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร
“อยากให้ กสท คิดกระบวนการที่ต้องเดินหน้า จะปลดล็อกเรื่องนี้อย่างไรแทนที่จะมานั่งเคลียร์ว่าจะฟ้องหรือเปล่า มานั่งเจรจากันว่า จะมีวิธีอย่างไรเพื่อให้เดินหน้า และให้ กสท คำนวณความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ไทยรํฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/263353
______________________________________________
'อนุดิษฐ์' สั่งกสทแจ้งทรูมูฟ ยอมรับความเสี่ยงจากสัญญา 3G HSPA
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
รม ว.ไอซีทีย้ำกสทต้องหยุดดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับสัญญา 3G HSPA กับกลุ่มทรู รอความชัดเจนว่าไม่ผิดกม.ทั้งพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ และมาตรา 46 ของ พ.ร.บ.กสทช. สั่งกสทส่งหนังสือแจ้งเตือนทรูมูฟ หากยังเดินหน้าก็ต้องรับความเสี่ยงทางธุรกิจเอง
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังหารือกับบอร์ดบริษัท กสท โทรคมนาคมที่มีนายดุษฎี สินเจิมสิริ เป็นประธาน และผู้บริหารระดับสูงกสท เมื่อวันที่ 25 พ.ค. เพื่อเคลียร์ประเด็นปัญหาต่างๆ 4 เรื่อง คือ 1.ปัญหาสัญญาการให้บริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ 3G บนเทคโนโลยี HSPA ระหว่างกสทกับกลุ่มทรูว่าเบื้องต้นสั่งให้กสทระงับการดำเนินงานทุกอย่างที่ เกี่ยวข้องกับสัญญาดังกล่าวเพื่อรอความชัดเจน พร้อมทั้งให้กสทส่งหนังสือเตือนบริษัท ทรูมูฟ ว่าหากยังคงเดินหน้าทำธุรกิจ 3G ภายใต้สัญญาดังกล่าวหรือในชื่อบริการทรูมูฟเอชต่อไปจะต้องยอมรับกับความ เสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเอง
'หากทรูจะดำเนินการใดใดก็ตามในภายใต้สัญญาดังกล่าว ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นภายหลังเอง จะอ้างว่าดำเนินการโดยสุจริตไม่ได้เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน ขณะที่จะให้กสทส่งหนังสือเพื่อไปแจ้งทรูว่าจะหยุดดำเนินการทุกอย่างที่ เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อรอความชัดเจนในสัญญาดังกล่าว เพราะหากยังดำเนินการต่อไปอาจจะเสียหายมากกว่าในตอนนี้ก็เป็นได้'
สำหรับสัญญา 3G HSPA ระหว่างกสทกับกลุ่มทรู มีหลายหน่วยงานออกมาสรุปว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายในหลายประเด็น และยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของหน่วยงานอื่นด้วย อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ช.ช.) และกสทช. ดังนั้นกสทจึงควรที่จะรอความชัดเจนว่าสัญญาดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ. ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ )หรือไม่ รวมถึงรอความชัดเจนจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่กำลังตรวจสอบว่าการทำสัญญานั้น เป็นไปตามมาตรา 46 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 หรือไม่ต่อไป
ดังนั้นกสทจึงควรที่จะระงับการดำเนินการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสัญญาดัง กล่าว ซึ่งสอดคล้องกับที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ(สศช.) ที่มีหนังสือตอบข้อหารือมายังกสทก่อนหน้านี้
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า 2.ส่วนความคืบหน้ากรณีโครงการไฟเบอร์ออฟติกทูเดอะเอ็กซ์ หรือFTTX ที่มีปัญหามานาน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว เนื่องจากมีการร้องเรียนว่ามีการดำเนินการไม่โปร่งใส และไม่เป็นตามขั้นตอน และทำให้กสทเสียประโยชน์ โดยเฉพาะประเด็นการเซ็นสัญญาเช่าโครงข่ายพร้อมอุปกรณ์เพื่อให้บริการ FTTX กว่า 10 สัญญา รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
'กรณี FTTX อยากให้แยกเป็น2ส่วนคือเรื่องความผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ไม่อยากให้ไปยกเลิกบริการต่างๆภายใต้โครงการ เนื่องจากจะทำให้ผู้ใช้บริการ หรือลูกค้าได้รับผลกระทบ และสุดท้ายจะทำให้เกิดผู้เสียหายตามมาหลายรายแน่นอน ดังนั้นแทนที่จะมาสร้างปัญหาฟ้องร้องกันไปมา เราควรจะหาทางออกว่าวิธีไหนจะดีที่สุดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ'
นอกจากนี้ยังได้หารือในเรื่อง 3.การปรับโครงสร้างของกสท ให้เป็นเน็ตเวิร์กโพรวายเดอร์โดยเร็วที่สุด ให้เสร็จภายในเดือนก.ค.ก่อนนำเข้าครม.รวมถึง4.แผนการดำเนินธุรกิจคลาวด์คอม พิวติ้งด้วยเช่นเดียวกัน
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000064476
ไม่มีความคิดเห็น: