28 กุมภาพันธ์ 2556 งาน commar สนุกเข้ายุด 3G!! ปรับลดราคาลงประมาณ 30% // ซิสเท็มรู้สถานการณ์ตลาดโน้ตบุ๊กชะลอการ

ประเด็นหลัก


นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี ผู้จัดงานจำหน่ายสินค้าไอที คอมมาร์ต เปิดเผยว่า ตลาดโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ช่วงที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในช่วงซบเซา การเปิดตัวของเครื่องทัชสกรีน และวินโดวส์ 8 ไม่หวือหวาเท่าที่ควร เนื่องจากราคายังสูงเกินไป ซึ่งคาดว่าจะเห็นการปรับลดราคาลงประมาณ 30% ในงานคอมมาร์ตครั้งนี้ และกลายเป็นราคาตามกลไกตลาดในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป



“ด้วยคอนเซ็ปของงานนี้จะเน้นสีสันความสนุกสนานของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สนุกกับกิจกรรมเวิร์คชอป ประมูลสินค้าราคาพิเศษ สนุกกับโปรโมชันที่มาแข่งกันลดราคา สนุกกับการลุ้นรางวัล ลุ้นโชค พร้อมด้วยพันธมิตรที่ต่างขนขบวนความหลากหลายของสินค้าไอทีมาให้ผู้บริโภคได้สนุกกับการเลือกชอปที่งานคอมมาร์ต มาที่นี่งานเดียวถือว่าครบทุกสิ่งของสินค้าไอทีที่ต้องการ เนื่องจากเวนเดอร์มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะนำสินค้าหลากหลายรุ่นมาทำตลาด ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน และสินค้าไอทีปีนี้ที่คาดว่าจะโดดเด่นอย่างมาก คือ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งจะมารองรับการใช้งานระบบ 3G บนคลื่นความถี่ 2100 ที่กำลังจะเกิดขึ้น”


ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาปัจจัยบวกต่างๆ เช่น สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น รายได้มีการปรับขึ้นตามนโยบายรัฐบาล และปีที่ผ่านมามีการซื้อน้อย ปีนี้จึงถึงเวลาเปลี่ยนอุปกรณ์ เชื่อว่ากำลังซื้อยังมีอยู่ โดยโน้ตบุ๊กทัชสกรีน พร้อมวินโดวส์ 8 ราคาจะอยู่ประมาณ 1.5–2 หมื่นบาท โน้ตบุ๊กไฮบริด ราคา 2-2.5 หมื่นบาท

“ปีที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องภัยพิบัติ ซัพพลายสินค้าขาดตลาด ทำให้สินค้าหายไป 2 ไตรมาส การเติบโตตลาดโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์อยู่ที่ประมาณ 5% ปีนี้ทุกอย่างพร้อม สัญญาณบวกมีอยู่ จึงเชื่อว่าตลาดรวมน่าจะเติบโตได้ 10% แน่นอน” นายปฐม กล่าว





    นายราเชนทร์ อ่วมแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ ซีเอสซี  ร้านค้าปลีกสินค้าไอที และโมบาย  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การชะลอการเติบโตของตลาดโน้ตบุ๊ก ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสินค้าไอที   มุ่งผลักดันการขายสมาร์ทโฟน และแท็บเลตมากขึ้น    โดยคาดว่าปีนี้ยอดขายโน้ตบุ๊กรวมในกลุ่มร้านค้าปลีกจะอยู่ราว 1.2 ล้านเครื่อง ขณะที่แท็บเลตมียอดขายประมาณ 3.3-3.5 ล้านเครื่อง และสมาร์ทโฟน 8-10  ล้านเครื่อง


    ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก มีการปรับโครงสร้างผลตอบแทนในการขายใหม่    เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการชะลอตัวของตลาด  เนื่องจากปัจจุบันมีกำไรจากการขายโน้ตบุ๊กเฉลี่ย 6-8%    แต่มีต้นทุนการขายประมาณ 6%   ทำให้ผู้ประกอบการอยู่ลำบาก   ขณะที่สมาร์ทโฟน ให้ผลตอบแทนประมาณ 18%   และแท็บเลตที่ให้ผลตอบแทน 18-20%   ขณะที่แท็บเลตจีนบางรายขณะนี้ให้ผลตอบแทนการขายสูงถึง 30%


    "ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก หลายรายกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างผลตอบแทนการขาย  เนื่องจากรู้ว่าหากร้านค้า หรือช็อปอยู่ไม่ได้ตัวผู้ผลิตเองก็อยู่ไม่ได้   ซึ่งหลายรายก็เริ่มเอางบการตลาดมาให้เป็นเอ็กซ์ตร้าเพิ่มกับร้านค้า ที่ทำตัวเลขได้ตามเป้า"



_______________________


ร้านค้าปลีกไอทีร้องผู้ผลิตโน้ตบุ๊กปรับกำไร

ร้านค้าปลีกไอทีร้องผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก ปรับโครงสร้างผลตอบแทนการขาย  หลังตลาดหาย-กำไรหดไม่คุ้ม ต้นทุนการขาย  ซีเอสซี เผยโครงสร้างกำไรขายโน้ตบุ๊ก 6-8% ต่ำกว่าแท็บเลต ที่ให้กำไรสูงสุด 30% สมาร์ทโฟน 18%

ณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์  ด้าน "แอดไวซ์" ยังพอใจผลตอบแทน แต่ในแง่ธุรกิจกำไรเพิ่มก็ดี  เรียกร้องค้าปลีกไอที ยุติการนำกำไรเพิ่มเป็นเครื่องมือเปิดสงครามราคา หวั่นทำตลาดพัง  
    นายราเชนทร์ อ่วมแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ ซีเอสซี  ร้านค้าปลีกสินค้าไอที และโมบาย  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การชะลอการเติบโตของตลาดโน้ตบุ๊ก ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสินค้าไอที   มุ่งผลักดันการขายสมาร์ทโฟน และแท็บเลตมากขึ้น    โดยคาดว่าปีนี้ยอดขายโน้ตบุ๊กรวมในกลุ่มร้านค้าปลีกจะอยู่ราว 1.2 ล้านเครื่อง ขณะที่แท็บเลตมียอดขายประมาณ 3.3-3.5 ล้านเครื่อง และสมาร์ทโฟน 8-10  ล้านเครื่อง
    ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก มีการปรับโครงสร้างผลตอบแทนในการขายใหม่    เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการชะลอตัวของตลาด  เนื่องจากปัจจุบันมีกำไรจากการขายโน้ตบุ๊กเฉลี่ย 6-8%    แต่มีต้นทุนการขายประมาณ 6%   ทำให้ผู้ประกอบการอยู่ลำบาก   ขณะที่สมาร์ทโฟน ให้ผลตอบแทนประมาณ 18%   และแท็บเลตที่ให้ผลตอบแทน 18-20%   ขณะที่แท็บเลตจีนบางรายขณะนี้ให้ผลตอบแทนการขายสูงถึง 30%
    "ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก หลายรายกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างผลตอบแทนการขาย  เนื่องจากรู้ว่าหากร้านค้า หรือช็อปอยู่ไม่ได้ตัวผู้ผลิตเองก็อยู่ไม่ได้   ซึ่งหลายรายก็เริ่มเอางบการตลาดมาให้เป็นเอ็กซ์ตร้าเพิ่มกับร้านค้า ที่ทำตัวเลขได้ตามเป้า"
    ด้านนายณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยร่วมค้าเดอะซิสเต็ม จำกัด ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกไอที ภายใต้ชื่อ  "แอดไวซ์ " กล่าวว่าขณะนี้บริษัทยังได้ผลกระทบจากการชะลอการเติบโตของตลาดโน้ตบุ๊ก   เนื่องจากมองว่าตัวเลขการขายยังเท่ากับปีที่ผ่านมา     และยังไม่ได้มีการเรียกร้องให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กให้มีการปรับผลตอบแทนการขายเพิ่มขึ้น    โดยยังพอใจกับผลตอบแทนที่ได้รับ  
    อย่างไรก็ตามหากมีการปรับผลตอบแทนการขายโน้ตบุ๊กให้กับผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีก็ถือเป็นเรื่องดี    เนื่องจากในแง่ของธุรกิจก็ต้องการกำไรเพิ่มขึ้น  ในขณะที่ สมาร์ทโฟน และแท็บเลต ให้ผลตอบแทนการขายสูงกว่าโน้ตบุ๊ก   อย่างไรก็ตามกลุ่มร้านค้าปลีกด้วยกันเองจะต้องตกลงร่วมกันว่าจะไม่เอาส่วนต่างมาร์จินที่เพิ่มขึ้นมาใช้เป็นเครื่องมือในการเปิดสงครามราคาเพื่อช่วงชิงยอดขายกัน     เพราะท้ายสุดแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และสร้างปัญหาใหม่ให้กับตลาด  และผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก
    "ปัญหาผลตอบแทนการขายของโน้ตบุ๊ก ของกลุ่มร้านค้าปลีกไอทีมีมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา   ซึ่งบางรายก็ยอมปรับเพิ่มกำไรจาก 7-8% เป็น 15% บางรายก็ไม่มีการปรับ    ซึ่งสุดท้ายแล้วตัวร้านค้าปลีกไอทีที่เป็นเชนสโตร์รายใหญ่ที่ได้รับการปรับผลตอบแทนการขายเพิ่ม ก็นำส่วนต่างที่ได้มาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความได้เปรียบด้านราคาจากร้านค้าปลีกรายอื่นๆ    และกลับสร้างปัญหาให้กับตลาด ก่อให้เกิดสงครามราคาระหว่างร้านค้าปลีกสินค้าไอทีด้วยกัน    ซึ่งท้ายสุดก็กลับมาสร้างปัญหาให้กับผู้ผลิต เนื่องจากไม่สามารถควบคุมราคาขายในตลาด"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=171043:2013-02-26-11-11-
46&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491




_______________________


“คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2013” ไอทีมหาสนุก ชอปสุดเหวี่ยงรับตลาดต้นปี


เออาร์ไอพี เตรียมเปิดตัวงานไอทียิ่งใหญ่ต้นปี “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2013” ภายใต้แนวคิด “ไอทีมหาสนุก” สนุกทั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สนุกกับสินค้าไอทีหลากหลาย สนุกกับกิจกรรมมากมาย สนุกกับโปรโมชันที่แข่งกันมาลดกระหน่ำ ซัมเมอร์เซลต้อนรับปิดเทอม และสนุกกับการลุ้นโชคของรางวัลเพียบ !! พบสินค้าไอที 4 จอมหาสนุก ที่ตอบโจทย์เวิร์ค แอนด์ เพลย์ งานนี้ทัพไอทีมาปักธงรบครบทุกแบรนด์ พร้อมให้ชอปสนุกละลานตาไม่อั้น ทุกราคา ทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะแท็บเล็ตกว่า 60 แบรนด์ โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที ภายใต้ชื่อ “คอมมาร์ต” กล่าวว่า เออาร์ไอพี ร่วมกับบริษัทคู่ค้าไอทีชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2013” ภายใต้แนวคิด “ไอทีมหาสนุก” หลากหลายความสนุกกับโลกไอทีที่ครบครัน ภายในงานคอมมาร์ตเท่านั้น ด้วยเทรนด์ไอทีปีนี้จะเป็นไปในรูปแบบของ 4 จอ มหาสนุก ทั้ง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และดิจิตอลทีวี จะมาเพิ่มความสนุก และเพิ่มสีสรรให้กับไลฟ์สไตล์ของคอไอทีให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น

“ด้วยคอนเซ็ปของงานนี้จะเน้นสีสันความสนุกสนานของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สนุกกับกิจกรรมเวิร์คชอป ประมูลสินค้าราคาพิเศษ สนุกกับโปรโมชันที่มาแข่งกันลดราคา สนุกกับการลุ้นรางวัล ลุ้นโชค พร้อมด้วยพันธมิตรที่ต่างขนขบวนความหลากหลายของสินค้าไอทีมาให้ผู้บริโภคได้สนุกกับการเลือกชอปที่งานคอมมาร์ต มาที่นี่งานเดียวถือว่าครบทุกสิ่งของสินค้าไอทีที่ต้องการ เนื่องจากเวนเดอร์มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะนำสินค้าหลากหลายรุ่นมาทำตลาด ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน และสินค้าไอทีปีนี้ที่คาดว่าจะโดดเด่นอย่างมาก คือ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งจะมารองรับการใช้งานระบบ 3G บนคลื่นความถี่ 2100 ที่กำลังจะเกิดขึ้น”

นายปฐมกล่าวอีกว่า ภาพรวมตลาดไอทีในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้อย่างดี เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงต้นปี หลายๆ บริษัทมีการจ่ายโบนัส ปรับเงินเดือนขึ้น มีส่วนกระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้น คาดว่ายอดขายในงานคอมมาร์ตมีส่วนที่ทำให้ตลาดไอทีมีความคึกคักตั้งแต่ต้นปี และนอกจากสินค้าไอทีมหาสนุกแล้ว ยังมีระบบปฎิบัติการที่จะมาสร้างสีสันความสนุกอย่างระบบปฎิบัติการวินโดวส์โฟน 8 ของไมโครซอฟท์ แอนดรอยด์ จากกูเกิล ซึ่งในงานนี้ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊กในระบบปฎิบัติการวินโดว์โฟน 8 ต่างปักธงพร้อมลุยตลาดทุกยี่ห้อ อาทิ Nokia, HTC,  ASUS และแท็บเล็ต ไฮบริด ซึ่งทุกแบรนด์ต่างเตรียมความพร้อมมาเพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อเลือกใช้อย่างเต็มที่ ตลาดวินโดว์ 8 ยังเป็นตลาดของกลุ่มคนที่ชื่นชอบลองของใหม่ และองค์กรธุรกิจ

“ภายในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2013 ครั้งนี้ เชื่อว่าผู้บริโภคจะได้สนุกและตระการตาไปกับสินค้าไอทีหลายแบรนด์หลายราคา เช่น แท็บเล็ต มีให้เลือกทุกระดับราคาตั้งแต่ราคาพันกว่าบาทขึ้นไปกว่า 60 ยี่ห้อ ด้านโน้ตบุ๊ก งานนี้เน้นความคึกคักของโปรโมชัน ของแถมและราคาโดนใจ ส่วนทีวีดิจิตอล จะมาเปิดตัวพร้อมโชว์ที่งานคอมมาร์ตครั้งแรกที่แรกในเมืองไทย” นายปฐมกล่าวว่าปิดท้าย

ส่วนกิจกรรมเสวนา Workshop ที่น่าสนใจ อาทิ จาก e-commerce สู่ Social commerce ช่องทางธุรกิจที่สดใส, การใช้ Social Media ให้เก่งไม่เหมือนใคร รวมทั้ง Application Talk ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง Application กับบรรณาธิการนิตยสารในเครือ เออาร์ไอพี นอกจากนี้ ยังมีมุม Buyer’s Guide ปรึกษาก่อนเลือกซื้อ โดยทีมบรรณาธิการจากนิตยสาร Commart พิเศษสุดกับ Commart Big Bonus สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าไอทีครบทุก  3,000 บาท รับคูปองชิงโชคลุ้น รถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ มูลค่า 4 แสนบาท และลงทะเบียนก่อนเข้างานลุ้นรับหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ มูลค่า 19,900 บาท รวมทั้งการประกาศผลผู้ชนะเลิศออกแบบ Mascot Commart ซึ่งจะใช้เป็นสัญลักษณ์โฆษณางานคอมมาร์ตต่อไป และกิจกรรมสร้างความสนุกสนานอื่นๆ อีกมายมาย โดยสามารถโหลดคอมมาร์ตแอพพลิเคชั่น ทั้งบน ไอโอเอส และแอนดรอยซ์ พร้อมติดตามข่าวสาร และโปรโมชั่นงาน Commart ได้ที่ www.commmartthailand.com

สำหรับบริษัทไอทีชั้นนำ และพันธมิตรที่เข้าร่วมสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการจัดงาน “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2013” ประกอบด้วย บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน), บานาน่าไอที (บริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) และมหาวิทยาลัยศรีปทุม

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1362033742&grpid=&catid=06&subcatid=0600




_________________________________________



โน้ตบุ๊กแข่งหั่นราคา30%กระตุ้นยอด


คอมมาร์ต คาดแนวโน้มค่ายโน้ตบุ๊กดัมพ์ราคาลง 30% หวังกระตุ้นตลาด ดันตลาดรวมโต 10%

นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี ผู้จัดงานจำหน่ายสินค้าไอที คอมมาร์ต เปิดเผยว่า ตลาดโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ช่วงที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในช่วงซบเซา การเปิดตัวของเครื่องทัชสกรีน และวินโดวส์ 8 ไม่หวือหวาเท่าที่ควร เนื่องจากราคายังสูงเกินไป ซึ่งคาดว่าจะเห็นการปรับลดราคาลงประมาณ 30% ในงานคอมมาร์ตครั้งนี้ และกลายเป็นราคาตามกลไกตลาดในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาปัจจัยบวกต่างๆ เช่น สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น รายได้มีการปรับขึ้นตามนโยบายรัฐบาล และปีที่ผ่านมามีการซื้อน้อย ปีนี้จึงถึงเวลาเปลี่ยนอุปกรณ์ เชื่อว่ากำลังซื้อยังมีอยู่ โดยโน้ตบุ๊กทัชสกรีน พร้อมวินโดวส์ 8 ราคาจะอยู่ประมาณ 1.5–2 หมื่นบาท โน้ตบุ๊กไฮบริด ราคา 2-2.5 หมื่นบาท

“ปีที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องภัยพิบัติ ซัพพลายสินค้าขาดตลาด ทำให้สินค้าหายไป 2 ไตรมาส การเติบโตตลาดโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์อยู่ที่ประมาณ 5% ปีนี้ทุกอย่างพร้อม สัญญาณบวกมีอยู่ จึงเชื่อว่าตลาดรวมน่าจะเติบโตได้ 10% แน่นอน” นายปฐม กล่าว

สำหรับในงานคอมมาร์ต ครั้งนี้ สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตจะมีบทบาทมากขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 50% ของงาน ที่เห็นได้ชัดคือ แท็บเล็ตจากอินเตอร์แบรนด์ เช่น เอซุส, เอเซอร์ ทำราคาลงมาบีบแบรนด์จากจีน สมาร์ตโฟนมีเปิดตัวใหม่ เช่น ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส4, เอชทีซี วัน และ โซนี่ เอ็กซ์พีเรีย แซด ดังนั้นคอมมาร์ตครั้งนี้จะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 8 แสนคน โดยงานจัดระหว่างวันที่ 21-24 มี.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8
%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/207546/%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B
8%95%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%87%
E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B230-
%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B
8%AD%E0%B8%94