8 เมษายน 2556 CAT พร้อม++เปิดบริการ cloud ให้บริการภาครัฐ เบื้องต้นในเดือนเมษายน คาดรายได้ 150-200 ล้านบาท
ประเด็นหลัก
โดยเบื้องต้นในเดือนเมษายน จะเริ่มให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐร่วมกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สรอ. ก่อน ซึ่งบริการหลัก จะมุ่งเน้นการให้บริการคลาวด์ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานไอที หรือ ไอที อินฟราสตักเจอร์ ซึ่งการเข้ามาใช้บริการไอที อินฟราสตักเจอร์ ร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ จะช่วยให้ภาครัฐสามารถประหยัดงบประมาณลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีไปได้ประมาณ 20 เท่าตัว หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคม จะเริ่มทยอยเปิดให้บริการกับองค์กรเอกชน โดยคาดว่าปีแรกจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ 100 ราย และคาดว่ากลุ่มธุรกิจคลาวด์ จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปีนี้ ประมาณ 150-200 ล้านบาท
"ตัวเลขการลงทุนเพื่อต่อยอดไปยังบริการคลาวด์เซอร์วิส ในปีแรกเราวางประมาณ 100 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการ ขณะที่ไอบีเอ็มจะเข้ามาช่วยสนับสนุนในส่วนของฮาร์ดแวร์, บุคลากร และการถ่ายทอดองค์ความรู้กับบุคลากรของบริษัท ซึ่งเราขอดูความต้องการของลูกค้าในปีแรกก่อน หากเป็นไปตามเป้าหมาย ในปีหน้าก็พร้อมขยายการลงทุนเพิ่ม ซึ่งตามแผนธุรกิจเราเตรียมเม็ดเงินลงทุนไว้สูงกว่าปีแรก ซึ่งเป้าหมายที่เรามองไว้ในอนาคต คือ การต่อยอดธุรกิจไปยังบริการแอพพลิเคชัน และระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Analytic)
_________________________________
กทส.ปั้น'คลาวด์ เซอร์วิส'
แคท ปรับยุทธ์ศาสตร์ต่อยอดธุรกิจโทรคมนาคมสู่การให้บริการไอที ล่าสุดตั้งกลุ่มธุรกิจใหม่ "คลาวด์ เซอร์วิส" พร้อมดึงไอบีเอ็มให้บริการโครงสร้างพื้นฐานไอทีบนคลาวด์ หน่วยงานภาครัฐเอกชน ตั้งเป้าปีแรกลูกค้าใช้บริการ 100 ราย สร้างรายได้ 150-200 ล้านบาท
กิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ แคท เทเลคอม เปิดเผยว่าบริษัทได้เปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ธุรกิจ โดยการต่อยอดจากธุรกิจให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมไปยังกลุ่มธุรกิจไอทีมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่มีแนวโน้มการใช้บริการด้านเสียงลดลง และมีการใช้บริการดาต้า หรือ ข้อมูลมากขึ้น โดยมองว่าการขยายไปสู่บริการด้านไอที จะช่วยสร้างให้ธุรกิจของบริษัทจะช่วยสร้างความอยู่รอด และความยั่งยืนให้กับธุรกิจของบริษัท
ล่าสุดได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจโมบาย , กลุ่มธุรกิจคอนเนกติวิตี และกลุ่มธุรกิจใหม่ "คลาวด์ เซอร์วิส" พร้อมทั้งร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทไอบีเอ็ม ให้บริการคลาวด์เซอร์วิสกับองค์กรต่างๆ โดยความร่วมมือครั้งนี้บริษัทจะอาศัยจุดแข็งให้การเป็นผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ,โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทั้งโครงข่ายอินเตอร์เน็ตทั้งภายในประเทศ ระหว่างประเทศ ,โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการเสริมเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผนวกกับจุดแข็งของไอบีเอ็ม ที่เป็นผู้นำโซลูชันคลาวด์ ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบบริหารจัดการคลาวด์ ในการให้บริการคลาวด์ไปยังกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน
โดยเบื้องต้นในเดือนเมษายน จะเริ่มให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐร่วมกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สรอ. ก่อน ซึ่งบริการหลัก จะมุ่งเน้นการให้บริการคลาวด์ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานไอที หรือ ไอที อินฟราสตักเจอร์ ซึ่งการเข้ามาใช้บริการไอที อินฟราสตักเจอร์ ร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ จะช่วยให้ภาครัฐสามารถประหยัดงบประมาณลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีไปได้ประมาณ 20 เท่าตัว หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคม จะเริ่มทยอยเปิดให้บริการกับองค์กรเอกชน โดยคาดว่าปีแรกจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ 100 ราย และคาดว่ากลุ่มธุรกิจคลาวด์ จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปีนี้ ประมาณ 150-200 ล้านบาท
"ตัวเลขการลงทุนเพื่อต่อยอดไปยังบริการคลาวด์เซอร์วิส ในปีแรกเราวางประมาณ 100 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการ ขณะที่ไอบีเอ็มจะเข้ามาช่วยสนับสนุนในส่วนของฮาร์ดแวร์, บุคลากร และการถ่ายทอดองค์ความรู้กับบุคลากรของบริษัท ซึ่งเราขอดูความต้องการของลูกค้าในปีแรกก่อน หากเป็นไปตามเป้าหมาย ในปีหน้าก็พร้อมขยายการลงทุนเพิ่ม ซึ่งตามแผนธุรกิจเราเตรียมเม็ดเงินลงทุนไว้สูงกว่าปีแรก ซึ่งเป้าหมายที่เรามองไว้ในอนาคต คือ การต่อยอดธุรกิจไปยังบริการแอพพลิเคชัน และระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Analytic)
นายกิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่ากลุ่มธุรกิจให้บริการคลาวด์ อาจไม่ได้สร้างรายได้ให้กับบริษัทมหาศาล แต่ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ที่ช่วยสร้างธุรกิจของบริษัทสามารถอยู่รอดได้ และเป็นบริการที่ช่วยให้ลูกค้าเดิมอยู่กับเราต่อ หรือเป็นบริการที่ช่วยให้ลูกค้าใหม่ซื้อบริการอื่นๆ ที่มีรายได้มากกว่าเพิ่ม
ด้านนางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่าไอบีเอ็มพร้อมจะช่วยลูกค้าให้ก้าวเป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งในธุรกิจที่ตนเองเชี่ยวชาญ ด้วยบริการจากไอบีเอ็มตั้งแต่การวางแผน การดำเนินการติดตั้ง การทดสอบ ไปจนถึงการให้คำปรึกษาทั้งด้านเทคโนโลยีและธุรกิจโดยบุคคลากรที่มากด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญ
โดยไอบีเอ็มให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์คอมพิวติ้งมาโดยตลอด ที่ผ่านมา ไอบีเอ็มมีการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งทั่วโลก รวมทั้งการจัดตั้งคลาวด์ คอมพิวติ้งแล็บ เพื่อสนับสนุนลูกค้าและองค์กรต่าง ๆ ในการเริ่มต้นพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=177676:2013-04-05-07-19-49&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491
ไม่มีความคิดเห็น: