13 พฤษภาคม 2556 (เคาะราคาแล้ว) i-mobile IQ X 9,490 บาท // IQ 9 : 9,990 บาท (กลุ่มสามารถกริ๊ด++ ไตรมาสแรกปี 2556 กำไรสุทธิ 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 % คาดขายi-mobile ได้2.3 ล้านเครื่อง เตรียมรับรู้รายได้ติดอุปกรณ์ TOT3G)
ประเด็นหลัก
วันนี้(13 พ.ค.) โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัน นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทสามารถฯ มีผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2556 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 5,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 % กำไรสุทธิ 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 % โดยมาจากการดำเนินธุรกิจในสายงาน โมบาย มัลติมีเดีย กำไรเพิ่มสูงขึ้น 700 % คิดเป็นกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท จากรายได้ทั้งสิ้น 2,466 ล้านบาท ทั้งนี้ไอ-โมบายมียอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในไตรมาสแรกเกือบ 4 แสนเครื่องจากจำนวนมือถือที่จำหน่ายได้ทั้งหมด 9 แสนเครื่อง คาดว่าในปี 56 ยอดขายไอ-โมบายจะเพิ่ม 70 % ของยอดขายรวม หรือราว 2.3 ล้านเครื่องจากประมาณการยอดขายรวม 3.3 ล้านเครื่อง
สำหรับสายธุรกิจ ไอซีที โซลูชั่น มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 % มีกำไรสุทธิ 261 ล้านบาท โดย เซมเทล มีงานในมือกว่า 9,000 ล้าน และรอการประมูลอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการ 3จี เฟส 2 ของทีโอที รวมถึง โครงการของการท่าอากาศยานฯ กระทรวงมหาดไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และนิคมอุตสาหกรรม
ในขณะที่สายงาน รีเทล เลอร์ ธุรกิจวันทูวัน คอนแทคส์ ที่มีโครงการที่รอการประมูลอีกกว่า 700 ล้านบาท ทั้งยังมีแผนนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ส่วนสายงานธุรกิจ พลังงาน และขนส่ง ที่ยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเกิดจากการดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชา เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารกลุ่มสามารถฯ มั่นใจว่าปีนี้จะเป็นการเริ่มต้นปีทองของกลุ่มสามารถ ฯ ที่สามารถสร้างรายได้รวมทะลุ 30,000 ล้าน ภายในสิ้นปีนี้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้.
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวด้วยว่า สายธุรกิจ ICT Solutions โดย SAMTEL ก็ยังรองานประมูลอีกกว่า 30,000 ล้านบาท โดยมีการเซ็นสัญญาโครงการในไตรมาสแรกประมาณ 1,500 ล้านบาท จากการจัดทำระบบป้องกันการสื่อสารของกรมราชทัณฑ์ โครงการเช่าสถานีฐานของ TOT 3G และโครงการปลีกย่อยอื่นๆ โดยปัจจุบันมีโครงการในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้รวมมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากโอกาสในการเข้าประมูลโครงการสำคัญขององค์กรต่างๆ คาดว่ากลุ่มสามารถเทลคอมจะสามารถสร้างรายได้ในปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท
อัพเดทข่าวด่วนกับราคาของ i-mobile IQ X และ i-mobile IQ 9 สมาร์ทโฟนสองรุ่นใหม่ขนาดพี่บิ๊กที่มีพร้อม CPU แบบ Quad-Core รองรับสองซิม พร้อมเซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงทั้งหน้าและหลัง โดยทั้งคู่เปิดราคามาเร้าใจไม่ถึงหมื่น! มีราคาดังนี้ครับ
i-mobile IQ X : 9,490 บาท
i-mobile IQ 9 : 9,990 บาท
______________________________________
สามารถฯคุยรายได้กระฉูดจากยอดขายไอ-โมบาย
กลุ่มสามารถฯ เผยผลประกอบการไตรมาสแรก ปีนี้ ฟันกว่า 5 พันล้าน จากยอดขายไอ-โมบายทะลุเป้า และการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง มั่นใจรายได้โตตามเป้ากว่า 3 หมื่นล้านบาทในสิ้นปี
วันนี้(13 พ.ค.) โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัน นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทสามารถฯ มีผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2556 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 5,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 % กำไรสุทธิ 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 % โดยมาจากการดำเนินธุรกิจในสายงาน โมบาย มัลติมีเดีย กำไรเพิ่มสูงขึ้น 700 % คิดเป็นกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท จากรายได้ทั้งสิ้น 2,466 ล้านบาท ทั้งนี้ไอ-โมบายมียอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในไตรมาสแรกเกือบ 4 แสนเครื่องจากจำนวนมือถือที่จำหน่ายได้ทั้งหมด 9 แสนเครื่อง คาดว่าในปี 56 ยอดขายไอ-โมบายจะเพิ่ม 70 % ของยอดขายรวม หรือราว 2.3 ล้านเครื่องจากประมาณการยอดขายรวม 3.3 ล้านเครื่อง
สำหรับสายธุรกิจ ไอซีที โซลูชั่น มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 % มีกำไรสุทธิ 261 ล้านบาท โดย เซมเทล มีงานในมือกว่า 9,000 ล้าน และรอการประมูลอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการ 3จี เฟส 2 ของทีโอที รวมถึง โครงการของการท่าอากาศยานฯ กระทรวงมหาดไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และนิคมอุตสาหกรรม
ในขณะที่สายงาน รีเทล เลอร์ ธุรกิจวันทูวัน คอนแทคส์ ที่มีโครงการที่รอการประมูลอีกกว่า 700 ล้านบาท ทั้งยังมีแผนนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ส่วนสายงานธุรกิจ พลังงาน และขนส่ง ที่ยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเกิดจากการดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชา เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารกลุ่มสามารถฯ มั่นใจว่าปีนี้จะเป็นการเริ่มต้นปีทองของกลุ่มสามารถ ฯ ที่สามารถสร้างรายได้รวมทะลุ 30,000 ล้าน ภายในสิ้นปีนี้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้.
http://www.dailynews.co.th/technology/204124
_____________________________
ไอ-โมบายโกยเงินดัน'สามารถ'โต
เศรษฐกิจ 14 May 2556 - 00:00
"สามารถ" เผยผลประกอบการไตรมาสแรก รายได้รวมกว่า 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เตรียมรุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น หรือ กลุ่มสามารถฯ เปิดเผยว่า สายธุรกิจ Mobile-Multimedia ในไตรมาสแรกของปี 56 โดย บมจ.ไอ-โมบาย ทำสถิติเพิ่มขึ้นสูงกว่า 700% คิดเป็นกำไรสุทธิ 177 ล้านบาท จากรายได้ทั้งสิ้น 2,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปี 55 ถึง 55%
สายธุรกิจ ICT Solution โดย บมจ.สามารถเทลคอม มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% มีกำไรสุทธิ 261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยทั้งหมดนี้ ส่งผลให้บริษัทแม่อย่าง บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น มีรายได้รวมทั้งสิ้น 5,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% กำไรสุทธิ 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
ปัจจุบัน สามารถเทลคอม มีโครงการในมือที่รับรู้รายได้แล้วกว่า 9 พันล้านบาท โดยมีแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนจากโอกาสในการเข้าประมูลโครงการสำคัญขององค์กรต่างๆ รวมมูลค่าแล้วไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท อาทิ โครงการ 3G เฟส 2 ของทีโอที โครงการนิคมอุตสาหกรรม และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น พร้อมทั้งคาดว่าจะมีโอกาสขยายงานเพิ่มในไตรมาส 3 จึงมั่นใจว่ากลุ่มสามารถเทลคอม จะมีรายได้ปี 56 ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท
"จากผลการดำเนินงานของกลุ่มสามารถในไตรมาสแรกปี 2556 พบว่า ทุกกลุ่มธุรกิจสามารถทำรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ถือเป็นความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและการบริหารงาน รวมถึงการให้บริการด้านเทคโนโลยีอย่างรอบด้าน สภาพเศรษฐกิจ ตลอดจนช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจ โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้ราว 30,000 ล้านบาท"
ทางด้าน สามารถไอ-โมบาย นั้น ในไตรมาสแรกสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ถึง 4 แสนเครื่อง จากที่วางจำหน่ายไป 9 แสนเครื่อง โดยคาดว่าปีนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 70% หรือประมาณ 2.3 ล้านเครื่อง และในไตรมาส 2 จะรุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นที่เปิดตัวนั้น พร้อมรองรับการให้บริการ 3G อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ตั้งเป้าไว้ว่ารายได้กลุ่มนี้จะสูงถึง 1.1 หมื่นล้านบาท.
http://www.thaipost.net/news/140513/73486
_____________________________________
ด่วนร้อนๆ!! เคาะราคาแล้ว I-MOBILE IQ X และ I-MOBILE IQ 9 สองรุ่นแรง QUAD-CORE ราคาไม่ถึงหมื่น
โดย nookzz
อัพเดทข่าวด่วนกับราคาของ i-mobile IQ X และ i-mobile IQ 9 สมาร์ทโฟนสองรุ่นใหม่ขนาดพี่บิ๊กที่มีพร้อม CPU แบบ Quad-Core รองรับสองซิม พร้อมเซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงทั้งหน้าและหลัง โดยทั้งคู่เปิดราคามาเร้าใจไม่ถึงหมื่น! มีราคาดังนี้ครับ
i-mobile IQ X : 9,490 บาท
i-mobile IQ 9 : 9,990 บาท
ทั้งสองรุ่นนั้นมีสเปคคร่าวๆ ใกล้เคียงกันคือมี CPU แบบ Quad-Core 1.2 GHz พร้อม RAM 1 GB และหน่วยความจำภายใน 4 GB ตัวเครื่องรองรับระบบสองซิมการ์ด มีเลนส์กล้องหลัง 18 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ซึ่งรันบน Android 4.2 Jelly Bean ทั้งคู่ แต่ตัว IQ X นั้นจะมีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้วความละเอียดแบบ HD ส่วน IQ 9 จะมีหน้าจอใหญ่กว่า 5.7 นิ้วครับ
เปิดราคามาเร้าใจแบบนี้คิดว่าหลายๆ ท่านคงต้องหวั่นไหวรับสองรุ่นจอยักษ์นี้ไว้พิจารณากันอย่างแน่นอน มือถือสองซิมจอใหญ่รุ่นแรงแบบ Quad-Core ในราคาไม่ถึงหมื่น เตรียมวางขายกลางเดือนนี้ครับ ^^
หมายเหตุ : ทีมงาน MXPhone ขอให้อาจารย์คง แห่ง Workpoint ใส่คาถาแช่งกับบุคคล หรือ เว็บไซต์ไหน ที่นำข่าวนี้ หรืออื่นๆ ไปลง โดยไม่ได้ refer ขอให้ server ล่ม เว็บเดี้ยงรายวัน สาธุๆๆๆๆๆ
http://www.mxphone.net/130513-price-i-mobile-iq-x-iq-9/
__________________________________
สมาร์ทโฟน-เทลคอมหนุนรายได้ 'สามารถ' 3 เดือน 5 พันล้าน
กลุ่มสามารถ แถลงผลประกอบการไตรมาสแรกปี 56 โกยรายได้ 5,307 ล้านบาท สายธุรกิจสมาร์ทโฟนและไอซีที โซลูชั่น ตัวทำรายได้หลัก ปักธงสิ้นปีทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท...
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานของกลุ่มสามารถในไตรมาสแรกปี 2556 พบว่าทุกกลุ่มธุรกิจสามารถทำรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ถือเป็นความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและการบริหารงาน รวมถึงการให้บริการด้านเทคโนโลยีอย่างรอบด้าน สภาพเศรษฐกิจ ตลอดจนช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจ โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้ราว 30,000 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า พบว่าสายธุรกิจที่สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัท ได้แก่ สายธุรกิจ Mobile-Multimedia ของบมจ.สามารถไอ-โมบาย ทำสถิติกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 700% โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ 177 ล้านบาท จากรายได้ทั้งสิ้น 2,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 55% ขณะที่สายธุรกิจ ICT Solutions ของบมจ.สามารถเทลคอม มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิ 261 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทซึ่งเป็นบริษัทแม่มีรายได้รวม 5,307 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตราว 23% กำไรสุทธิ 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า จากกระแสความนิยมสมาร์ทโฟนในปัจจุบันส่งผลให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไอ-โมบายมียอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในไตรมาสแรกเกือบ 4 แสนเครื่อง จากจำนวนจำหน่ายทั้งหมด 9 แสนเครื่อง คาดว่าในปีนี้ยอดขายสมาร์ทโฟนไอ-โมบายจะเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของยอดขายรวม คิดเป็นประมาณ 2.3 ล้านเครื่อง จากยอดขายรวมที่คาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้ราว 3.3 ล้านเครื่อง
อย่างไรก็ตาม ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ จะมีการรุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล IQ รุ่นใหม่ อาทิ IQX, IQ9 และ IQ 6.1 ซึ่งทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 เน้นการใช้งานแบบ 2 ซิม กล้องคมชัด และให้คุณสมบัติเทียบเท่าแบรนด์ระดับพรีเมียม พร้อมเสริมด้วยการเติบโตของธุรกิจคอนเทนต์ที่พร้อมรองรับบริการ 3จี เต็มรูปแบบ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้สามารถให้บริการได้ทั้งภาพและเสียงไปยังผู้บริโภคในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมของกลุ่มนี้จะสามารถเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ราว 11,000 ล้านบาทในปีนี้
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวด้วยว่า สายธุรกิจ ICT Solutions โดย SAMTEL ก็ยังรองานประมูลอีกกว่า 30,000 ล้านบาท โดยมีการเซ็นสัญญาโครงการในไตรมาสแรกประมาณ 1,500 ล้านบาท จากการจัดทำระบบป้องกันการสื่อสารของกรมราชทัณฑ์ โครงการเช่าสถานีฐานของ TOT 3G และโครงการปลีกย่อยอื่นๆ โดยปัจจุบันมีโครงการในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้รวมมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากโอกาสในการเข้าประมูลโครงการสำคัญขององค์กรต่างๆ คาดว่ากลุ่มสามารถเทลคอมจะสามารถสร้างรายได้ในปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท
ส่วนสายธุรกิจอื่นๆ (Related Businesses) ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น อาทิ บริษัท วันทูวันคอนแทคส์ จำกัด และบริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด โดยวันทูวันมีโครงการที่รอการประมูลอีกกว่า 700 ล้านบาท ทั้งยังมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ส่วนวิชั่นฯ มีโครงการในมือ ณ ปัจจุบัน มูลค่ารวม 332 ล้านบาท อีกทั้งยังมีโอกาสในการเข้าร่วมประมูลโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดรวมมูลค่าอีกกว่า 1,500 ล้านบาท สำหรับสายธุรกิจ Utilities & Transportations ก็ยังคงสร้างรายได้ประจำให้แก่กลุ่มสามารถ โดยเฉพาะ 2 บริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชา ส่วนการขยายงานในประเทศไทย บริษัทจะรับรู้รายได้จากเทด้า บริษัทในเครือล่าสุดซึ่งดำเนินธุรกิจด้านระบบสายส่งไฟฟ้าอีกไม่ต่ำกว่าปีละ 550 ล้านบาท ทั้งยังมีงานรอให้ประมูลอีกกว่าหมื่นล้าน จึงน่าจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสายนี้ต่อไป.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/344559
ไม่มีความคิดเห็น: