13 พฤษภาคม 2556 THCOM ไตรมาสแรกปีนี้ คาดมีกำไรสุทธิ 330.37 ล้านบาท ขณะต้นทุนการให้บริการอินเทอร์เน็ต และสื่อในไตรมาสนี้ลดลง

ประเด็นหลัก



นายวุฒิ อัศวเสริมเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 330.37 ล้านบาท ขณะทีงวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 288 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 680%
   
       โดยงวดนี้ บริษัทมีรายได้รวม 1,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ผลจากรายได้จากธุรกิจบริการดาวเทียม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับดาวเทียมสำหรับไตรมาส 1 ปีนี้ทั้งสิ้น 1,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.3 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกปี 2555 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการดาวเทียมไทยคม 5 รายได้จากธุรกิจให้บริการระบบโทรศัพท์ในประเทศลาว เพิ่มขึ้น รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตและสื่อ อีกทั้งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
   
       ขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมสำหรับไตรมาส 1 ปี 2556 ลดลง ร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2555 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากต้นทุนในการให้บริการวงจรดาวเทียม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในไตรมาส 1 ปีนี้ต่ำลง เนื่องจากการลดลงของค่าดำเนินการสถานีควบคุมเครือข่ายภาคพื้นดินในประเทศจีน อีกทั้งต้นทุนการให้บริการโทรศัพท์ในประเทศลาวไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้น
   
       ขณะต้นทุนการให้บริการอินเทอร์เน็ต และสื่อในไตรมาสนี้ลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าใช้จ่ายทางการตลาด และการบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ


______________________________________







ไทยคมยิ้ม กำไรไตรมาสแรก 330 ล้านบาท


ไทยคม เผยกำไรสุทธิจากการดำเนินงานไตรมาสแรก 330 ล้านบาท เติบโต 298% จากปีก่อน หรือคิดเป็น 68% จากไตรมาสที่แล้ว...

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2556 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 330 ล้านบาท เติบโตขึ้น 298% จากปีก่อน คิดเป็น 68% จากไตรมาสที่แล้ว โดยไทยคมมีกำไรจากงบการเงินเฉพาะกิจการ 193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154 ล้านบาท จาก 39 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1/2555 ทั้งนี้ ไตรมาส 1/2556 เป็นอีกไตรมาสที่บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงาน นับเป็นการทำกำไรติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 7 โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาส 1/2555 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปรับตัวสูงขึ้น ถึงแม้จะเกิดความผันผวนในด้านอัตราแลกเปลี่ยน แต่ด้วยนโยบายการจัดการทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม ส่งผลให้ไทยคมมีผลประกอบการที่มีเสถียรภาพ

ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยคม กล่าวต่อว่า รายได้รวมจากการขายและการให้บริการในไตรมาสที่ 1/2556 รวมทั้งสิ้น 1,774 ล้านบาท โดยธุรกิจดาวเทียมยังคงเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้บริษัทฯ ถึง 86% หรือคิดเป็น 1,542 ล้านบาท ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการเพิ่มขึ้นจาก 3% ในไตรมาสแรกของปีก่อนเป็น 15% ในไตรมาสนี้ และตั้งแต่ต้นปี ไทยคมได้ลงนามในข้อตกลงการให้บริการช่องสัญญาณไอพีสตาร์ทั้งหมดในประเทศจีนร่วมกับ บริษัท ซีเนอร์โทน คอมมิวนิเคชั่น คอร์ปอเรชั่น และได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เช่าช่องสัญญาณไอพีสตาร์เพิ่มเติมสำหรับช่องสัญญาณที่เหลืออยู่ในประเทศไทย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวจะทำให้ไทยคมมีการรับรู้รายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มเติมตั้งแต่ไตรมาสที่สอง นอกจากนั้น การที่บริษัท เอ็มโฟน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเชนนิงตัน ได้ตัดสินใจขอปิดกิจการในประเทศกัมพูชา ส่งผลให้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ไทยคมไม่ต้องรับผลกระทบจากการขาดทุนของเอ็มโฟนอีกต่อไป

นางศุภจี กล่าวอีกว่า ในส่วนของโครงการดาวเทียมไทยคม 6 และไทยคม 7 ซึ่งจะเป็นดาวเทียมดวงใหม่ที่จะเพิ่มปริมาณช่องสัญญาณและขยายตลาดของไทยคมนั้น ในขณะนี้ บริษัทสามารถขายช่องสัญญาณล่วงหน้าของดาวเทียมไทยคม 6 ได้แล้วกว่า 60% ซึ่งดาวเทียมไทยคม 6 จะช่วยตอกย้ำความเป็นดาวเทียม Hotbird ที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก และบริษัทก็ได้เริ่มการขายช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 7 ล่วงหน้าเช่นกัน


“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับตัวของไทยคม ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและการตลาด การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ รวมทั้งการปรับโครงสร้างขององค์กร ส่งผลให้ไทยคมสามารถพลิกผลประกอบการให้เป็นกำไรอย่างต่อเนื่องได้ในปี 2555 รวมถึงแผนธุรกิจที่ชัดเจนจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการผลักดันให้ไทยคมเติบโตขึ้นในปี 2556 นี้ และปีต่อๆ ไป” ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยคม กล่าว

นางศุภจี กล่าวด้วยว่า ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือนั้น บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและสื่อ ยังคงมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1/2556 อยู่ที่ 146 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้เติบโตมาจากธุรกิจการให้บริการอินเทอร์เน็ตและบริการไอซีที ส่วนบริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด ยังเน้นการเป็นผู้นำเทคโนโลยีในการสร้างตลาด HDTV และ MPEG4 S2 ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานของการเติบโตในอนาคตของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมต่อไป และในส่วนของ บริษัท ลาวโทรคมนาคมนั้น ยังครองความเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 45% ซึ่งลาวโทรคมนาคม ยังคงเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/344526

_________________________________________________


“ไทยคม” ไตรมาสแรกกำไรพุ่ง 330%



       “ไทยคม” ไตรมาสแรกปีนี้กำไร 330 ล้านบาท ผลจากรายได้เติบโต เนื่องจากการใช้อินเทอร์เน็ต และดาวเทียมในลาวเพิ่ม ขณะค่าใช้จ่ายรวมลดลง
     
       นายวุฒิ อัศวเสริมเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 330.37 ล้านบาท ขณะทีงวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 288 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 680%
     
       โดยงวดนี้ บริษัทมีรายได้รวม 1,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ผลจากรายได้จากธุรกิจบริการดาวเทียม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับดาวเทียมสำหรับไตรมาส 1 ปีนี้ทั้งสิ้น 1,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.3 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกปี 2555 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการดาวเทียมไทยคม 5 รายได้จากธุรกิจให้บริการระบบโทรศัพท์ในประเทศลาว เพิ่มขึ้น รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตและสื่อ อีกทั้งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
     
       ขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมสำหรับไตรมาส 1 ปี 2556 ลดลง ร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2555 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากต้นทุนในการให้บริการวงจรดาวเทียม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในไตรมาส 1 ปีนี้ต่ำลง เนื่องจากการลดลงของค่าดำเนินการสถานีควบคุมเครือข่ายภาคพื้นดินในประเทศจีน อีกทั้งต้นทุนการให้บริการโทรศัพท์ในประเทศลาวไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้น
     
       ขณะต้นทุนการให้บริการอินเทอร์เน็ต และสื่อในไตรมาสนี้ลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าใช้จ่ายทางการตลาด และการบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ

http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000057175&Keyword=%b4%d2%c7%e0%b7%d5%c2%c1