25 สิงหาคม 2557 อาร์ทีบี.บรรพต ระบุ มาตรการจับจริงจอมแชตของตำรวจจราจรส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท การขายหูฟังบลูทูท ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
ประเด็นหลัก
ขณะที่นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มาตรการจับจริงจอมแชตของตำรวจจราจรส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายหูฟังบลูทูท ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะผู้บริโภคหันมาหาวิธีแก้ปัญหาในการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถด้วยการใช้หูฟัง บลูทูท บริษัทจึงใช้จังหวะเดียวกันจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายมากขึ้นไปอีก โดยร่วมกับเจมาร์ท ลดราคาสินค้าจนถึง 30 ก.ย. นี้ เช่น ลดราคาหูฟังบลูทูท จาบรา รุ่นอีซี วอยซ์ จาก 1,190 บาท เหลือ 890 บาท หรือจาบรา เอ็กซ์สตรีม 2 จาก 2,490 บาท เหลือ 1,990 บาท เป็นต้น
______________________________
ขานรับมาตรการจับจอมแชต ธุรกิจไม่กระทบ"แผนที่นำทาง-หูฟังบลูทูท"ยังโต
"ผู้พัฒนาแผนที่นำทาง-แอปแชต-แอปจราจร" พ้องเสียงสนับสนุนมาตรการจับจริงจอมแชตปกป้องความปลอดภัยคนใช้รถใช้ถนนมั่นใจไม่กระทบธุรกิจ "อุปกรณ์นำทาง-ยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น" ยังโตต่อเนื่อง เตือน "ผู้บริโภค" ศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางเลี่ยงละเมิดกฎจราจร แนะเพิ่มรายละเอียดกฎหมายรองรับยุคบูมสมาร์ทโฟน "ผู้ค้า" อุปกรณ์เสริมมือถือรับอานิสงส์ ยอดขาย" หูฟังบลูทูท" เพิ่มพรวด
จากนโยบายเข้มงวดกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ โดยเฉพาะการ "แชต" ทำให้บรรดาสาวกสมาร์ทโฟนที่ขับรถเองได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน เพราะต้องยอมรับความจริงที่ว่าการถอยห่างออกจากหน้าจอ "โทรศัพท์" เป็นเรื่องไม่ง่าย แม้มีเวลาว่างไม่มากนักขณะ "ขับรถ" และรู้ทั้งรู้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือที่
ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43 (9) โดยระบุว่า ห้ามใช้ขณะขับขี่รถ เว้นแต่จะมีการใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงการใช้แอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์ และการใช้ขณะที่รถติดไฟแดง เนื่องจากยังอยู่ในขณะควบคุมรถ ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์โดยไม่มีอุปกรณ์เสริมต้องจอดรถเข้าข้างทาง ที่อนุญาตให้มีการจอดรถหรือไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน
ผู้ฝ่าผืนต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้ถ่ายภาพในการจับเป็นหลัก ฉะนั้นควรงดเว้นการเล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถในทุกกรณีนางสาววารดี วสวานนท์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด บริษัท ไลน์ ประเทศไทย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เห็นด้วยกับนโยบายในการจับและปรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างขับรถ เพื่อคุ้มครองผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น สำหรับบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เพราะการเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เวลา แต่ในฐานะผู้บริโภคอาจรู้สึกหงุดหงิดบ้าง เนื่องจากโทรศัพท์มือถือเป็นมากกว่าใช้โทรศัพท์ ดังนั้นจึงควรระบุรายละเอียดลักษณะการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือชัดเจนมากขึ้น เช่น การใช้งานโลเกชั่นแผนที่ เป็นต้น จะได้ไม่ต้องติดเครื่องนำทางในรถเพิ่มซึ่งมีค่าใช้จ่าย
"สมัยนี้โทรศัพท์เข้ามาในชีวิตการทำงานเยอะ ใช้ได้หลากหลายมากอยากให้มาตรการนี้ละเอียดขึ้น เช่น กรณีรถติดหรือติดไฟแดง อาจหยิบขึ้นมาเช็กข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการทำงานได้เป็นกรณี ๆ แต่ก็อยากฝากผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวังในการใช้งานระหว่างเดินทางไปถึงจุด หมายเรียบร้อยค่อยแชตก็ได้เพื่อความปลอดภัย"
ด้านนายวุฒิชัย อัมพรอร่ามเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมตามีเดีย เทคโนโลยี ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นแผนที่ และการจราจร "ลองดูแมป" และ "ลองดู ทราฟฟิก" กล่าวว่า ในเบื้องต้นมองว่ากฎหมายยังมีความไม่ชัดเจน และครอบคลุมถึงเรื่องการใช้งานอื่น ๆ เช่น การดูแผนที่นำทาง และการใช้แอปพลิเคชั่นเพื่อดูเส้นทางการจราจร แต่มีการบังคับใช้เพื่อให้ประชาชนงดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ โดยมุ่งไปยังการใช้โทรศัพท์ การเล่นเกม หรือการแชต เพราะอาจก่อเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ และผู้ใช้รถบนท้องถนนจึงอยากแนะนำผู้ใช้แอปพลิเคชั่นดูแผนที่ หรือศึกษาเส้นทาง และการจราจรให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
"ในเบื้องต้น ในฐานะผู้พัฒนาแอปแผนที่นำทางรวมถึงแอปดูสภาพการจราจรบนท้องถนนยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นช่วงแรกของการใช้มาตรการนี้ แต่ในอนาคตอยากให้ดูที่วัตถุประสงค์การใช้งานมากกว่า มาตรการนี้เป็นมาตรการที่ตำรวจออกมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งถือว่าดีมาก เพราะการใช้แอปแผนที่บนมือถือยังไม่เหมือนการใช้เนวิเกเตอร์ที่ติดตั้งมา พร้อมรถยนต์ที่มีมาตรการดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้อยู่แล้ว เช่น ถ้าขับรถจะไม่เปิดให้ใช้งาน เป็นต้น เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายก็ควรงดใช้โทรศัพท์ขณะขับรถทุกกรณี เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้ใช้รถใช้ถนน"
นายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลบเทค จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นแผนที่นำทาง "นอสตร้าแมป ไทยแลนด์" กล่าวว่า เห็นด้วยกับนโยบายในการบังคับใช้กฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ทั้งในการโทร. การแชต และกรณีอื่นที่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถ เนื่องจากเป็นการคุ้มครองผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากระบบแผนที่นำทางในโทรศัพท์มือถือยังไม่เหมือนกับในเครื่องนำทาง (เนวิเกเตอร์) ที่ใช้ในรถยนต์ทั่วไปที่มีโหมดเซฟไดรฟ์ ห้ามใช้ขณะรถเคลื่อนที่ ทำให้สามารถดูแผนที่นำทางได้อย่างเดียว แต่ห้ามกดค้นหาข้อมูลใด ๆ
ปัจจุบันเป็นยุคของการใช้เทคโนโลยีบนโทรศัพท์มือถือ จึงอยากฝากผู้ใช้งานว่าควรมีการวางแผนล่วงหน้าก่อนการเดินทาง หรือกระทำในขณะที่ไม่ได้ขับรถ เว้นแต่มีกรณีฉุกเฉินหรือมีความจำเป็นเร่งด่วน แต่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก
"ในอนาคตตนอยากให้กฎหมายดังกล่าวมีการปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้งานในชีวิตประจำวันทั้งในยามปกติ และกรณีฉุกเฉิน"
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว หากพิจารณาจากยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น "นอสตร้าแมป ไทยแลนด์" ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 8 แสนครั้ง และยังคงมีการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากเป็นแอปที่ใช้ในการวางแผนการเดินทางเป็นหลัก จึงทำได้ก่อนการขับรถ เช่น ค้นหาสถานที่จากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง เป็นต้น
ขณะที่นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มาตรการจับจริงจอมแชตของตำรวจจราจรส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายหูฟังบลูทูท ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะผู้บริโภคหันมาหาวิธีแก้ปัญหาในการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถด้วยการใช้หูฟัง บลูทูท บริษัทจึงใช้จังหวะเดียวกันจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายมากขึ้นไปอีก โดยร่วมกับเจมาร์ท ลดราคาสินค้าจนถึง 30 ก.ย. นี้ เช่น ลดราคาหูฟังบลูทูท จาบรา รุ่นอีซี วอยซ์ จาก 1,190 บาท เหลือ 890 บาท หรือจาบรา เอ็กซ์สตรีม 2 จาก 2,490 บาท เหลือ 1,990 บาท เป็นต้น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1408708792
ขณะที่นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มาตรการจับจริงจอมแชตของตำรวจจราจรส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายหูฟังบลูทูท ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะผู้บริโภคหันมาหาวิธีแก้ปัญหาในการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถด้วยการใช้หูฟัง บลูทูท บริษัทจึงใช้จังหวะเดียวกันจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายมากขึ้นไปอีก โดยร่วมกับเจมาร์ท ลดราคาสินค้าจนถึง 30 ก.ย. นี้ เช่น ลดราคาหูฟังบลูทูท จาบรา รุ่นอีซี วอยซ์ จาก 1,190 บาท เหลือ 890 บาท หรือจาบรา เอ็กซ์สตรีม 2 จาก 2,490 บาท เหลือ 1,990 บาท เป็นต้น
______________________________
ขานรับมาตรการจับจอมแชต ธุรกิจไม่กระทบ"แผนที่นำทาง-หูฟังบลูทูท"ยังโต
"ผู้พัฒนาแผนที่นำทาง-แอปแชต-แอปจราจร" พ้องเสียงสนับสนุนมาตรการจับจริงจอมแชตปกป้องความปลอดภัยคนใช้รถใช้ถนนมั่นใจไม่กระทบธุรกิจ "อุปกรณ์นำทาง-ยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น" ยังโตต่อเนื่อง เตือน "ผู้บริโภค" ศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางเลี่ยงละเมิดกฎจราจร แนะเพิ่มรายละเอียดกฎหมายรองรับยุคบูมสมาร์ทโฟน "ผู้ค้า" อุปกรณ์เสริมมือถือรับอานิสงส์ ยอดขาย" หูฟังบลูทูท" เพิ่มพรวด
จากนโยบายเข้มงวดกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ โดยเฉพาะการ "แชต" ทำให้บรรดาสาวกสมาร์ทโฟนที่ขับรถเองได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน เพราะต้องยอมรับความจริงที่ว่าการถอยห่างออกจากหน้าจอ "โทรศัพท์" เป็นเรื่องไม่ง่าย แม้มีเวลาว่างไม่มากนักขณะ "ขับรถ" และรู้ทั้งรู้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือที่
ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43 (9) โดยระบุว่า ห้ามใช้ขณะขับขี่รถ เว้นแต่จะมีการใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงการใช้แอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์ และการใช้ขณะที่รถติดไฟแดง เนื่องจากยังอยู่ในขณะควบคุมรถ ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์โดยไม่มีอุปกรณ์เสริมต้องจอดรถเข้าข้างทาง ที่อนุญาตให้มีการจอดรถหรือไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน
ผู้ฝ่าผืนต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้ถ่ายภาพในการจับเป็นหลัก ฉะนั้นควรงดเว้นการเล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถในทุกกรณีนางสาววารดี วสวานนท์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด บริษัท ไลน์ ประเทศไทย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เห็นด้วยกับนโยบายในการจับและปรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างขับรถ เพื่อคุ้มครองผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น สำหรับบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เพราะการเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เวลา แต่ในฐานะผู้บริโภคอาจรู้สึกหงุดหงิดบ้าง เนื่องจากโทรศัพท์มือถือเป็นมากกว่าใช้โทรศัพท์ ดังนั้นจึงควรระบุรายละเอียดลักษณะการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือชัดเจนมากขึ้น เช่น การใช้งานโลเกชั่นแผนที่ เป็นต้น จะได้ไม่ต้องติดเครื่องนำทางในรถเพิ่มซึ่งมีค่าใช้จ่าย
"สมัยนี้โทรศัพท์เข้ามาในชีวิตการทำงานเยอะ ใช้ได้หลากหลายมากอยากให้มาตรการนี้ละเอียดขึ้น เช่น กรณีรถติดหรือติดไฟแดง อาจหยิบขึ้นมาเช็กข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการทำงานได้เป็นกรณี ๆ แต่ก็อยากฝากผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวังในการใช้งานระหว่างเดินทางไปถึงจุด หมายเรียบร้อยค่อยแชตก็ได้เพื่อความปลอดภัย"
ด้านนายวุฒิชัย อัมพรอร่ามเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมตามีเดีย เทคโนโลยี ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นแผนที่ และการจราจร "ลองดูแมป" และ "ลองดู ทราฟฟิก" กล่าวว่า ในเบื้องต้นมองว่ากฎหมายยังมีความไม่ชัดเจน และครอบคลุมถึงเรื่องการใช้งานอื่น ๆ เช่น การดูแผนที่นำทาง และการใช้แอปพลิเคชั่นเพื่อดูเส้นทางการจราจร แต่มีการบังคับใช้เพื่อให้ประชาชนงดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ โดยมุ่งไปยังการใช้โทรศัพท์ การเล่นเกม หรือการแชต เพราะอาจก่อเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ และผู้ใช้รถบนท้องถนนจึงอยากแนะนำผู้ใช้แอปพลิเคชั่นดูแผนที่ หรือศึกษาเส้นทาง และการจราจรให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
"ในเบื้องต้น ในฐานะผู้พัฒนาแอปแผนที่นำทางรวมถึงแอปดูสภาพการจราจรบนท้องถนนยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นช่วงแรกของการใช้มาตรการนี้ แต่ในอนาคตอยากให้ดูที่วัตถุประสงค์การใช้งานมากกว่า มาตรการนี้เป็นมาตรการที่ตำรวจออกมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งถือว่าดีมาก เพราะการใช้แอปแผนที่บนมือถือยังไม่เหมือนการใช้เนวิเกเตอร์ที่ติดตั้งมา พร้อมรถยนต์ที่มีมาตรการดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้อยู่แล้ว เช่น ถ้าขับรถจะไม่เปิดให้ใช้งาน เป็นต้น เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายก็ควรงดใช้โทรศัพท์ขณะขับรถทุกกรณี เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้ใช้รถใช้ถนน"
นายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลบเทค จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นแผนที่นำทาง "นอสตร้าแมป ไทยแลนด์" กล่าวว่า เห็นด้วยกับนโยบายในการบังคับใช้กฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ทั้งในการโทร. การแชต และกรณีอื่นที่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถ เนื่องจากเป็นการคุ้มครองผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากระบบแผนที่นำทางในโทรศัพท์มือถือยังไม่เหมือนกับในเครื่องนำทาง (เนวิเกเตอร์) ที่ใช้ในรถยนต์ทั่วไปที่มีโหมดเซฟไดรฟ์ ห้ามใช้ขณะรถเคลื่อนที่ ทำให้สามารถดูแผนที่นำทางได้อย่างเดียว แต่ห้ามกดค้นหาข้อมูลใด ๆ
ปัจจุบันเป็นยุคของการใช้เทคโนโลยีบนโทรศัพท์มือถือ จึงอยากฝากผู้ใช้งานว่าควรมีการวางแผนล่วงหน้าก่อนการเดินทาง หรือกระทำในขณะที่ไม่ได้ขับรถ เว้นแต่มีกรณีฉุกเฉินหรือมีความจำเป็นเร่งด่วน แต่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก
"ในอนาคตตนอยากให้กฎหมายดังกล่าวมีการปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้งานในชีวิตประจำวันทั้งในยามปกติ และกรณีฉุกเฉิน"
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว หากพิจารณาจากยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น "นอสตร้าแมป ไทยแลนด์" ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 8 แสนครั้ง และยังคงมีการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากเป็นแอปที่ใช้ในการวางแผนการเดินทางเป็นหลัก จึงทำได้ก่อนการขับรถ เช่น ค้นหาสถานที่จากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง เป็นต้น
ขณะที่นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มาตรการจับจริงจอมแชตของตำรวจจราจรส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายหูฟังบลูทูท ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะผู้บริโภคหันมาหาวิธีแก้ปัญหาในการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถด้วยการใช้หูฟัง บลูทูท บริษัทจึงใช้จังหวะเดียวกันจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายมากขึ้นไปอีก โดยร่วมกับเจมาร์ท ลดราคาสินค้าจนถึง 30 ก.ย. นี้ เช่น ลดราคาหูฟังบลูทูท จาบรา รุ่นอีซี วอยซ์ จาก 1,190 บาท เหลือ 890 บาท หรือจาบรา เอ็กซ์สตรีม 2 จาก 2,490 บาท เหลือ 1,990 บาท เป็นต้น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1408708792
ไม่มีความคิดเห็น: