26 สิงหาคม 2557 5 ช่องสถานีดาวเทียมเข้าเซ็น MOU วันนี้ประกอบไปด้วย 1.สถานี News 1 จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี 2.สถานีฟ้าวันใหม่ จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย 3.สถานี People channel จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีทีวี 4.สถานี บุญนิยม จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี และ 5.สถานี Peace TV จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี
ประเด็นหลัก
สำหรับช่องทีวีดาวเทียมที่มาลงนามบันทึกข้อตกลง (mou) ในการประชุม “แนวทางปฏิบัติตามประกาศ คสช.” วันนี้ประกอบไปด้วย 1.สถานี News 1 จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี 2.สถานีฟ้าวันใหม่ จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย 3.สถานี People channel จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีทีวี 4.สถานี บุญนิยม จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี และ 5.สถานี Peace TV จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี
______________________________
5 ช่องสถานีดาวเทียมเข้าเซ็น MOU ก่อนรอมติบอร์ด กสท.นัดพิเศษวันพรุ่งนี้
นายวริษฐ์ ลิ้มทองกุล นายปัญจภัทร อังคสุวรรณ กรรมการบริหาร และ นายประเมนทร์ ภักดิ์วาปี ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
5 ช่องสถานีดาวเทียม เข้าเซ็น MOU ร่วมกับทางสำนักงาน กสทช. ก่อนส่งเรื่องเข้าประชุมบอร์ด กสท. วาระเร่งด่วนในวันพุธ 27 สิงหาคม 2557 หลังจากนั้น ให้ดำเนินการขอใบอนุญาตฯช่องใหม่ พร้อมให้ออกอากาศได้หลังมีมติรับทราบ
สำหรับช่องทีวีดาวเทียมที่มาลงนามบันทึกข้อตกลง (mou) ในการประชุม “แนวทางปฏิบัติตามประกาศ คสช.” วันนี้ประกอบไปด้วย 1.สถานี News 1 จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี 2.สถานีฟ้าวันใหม่ จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย 3.สถานี People channel จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีทีวี 4.สถานี บุญนิยม จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี และ 5.สถานี Peace TV จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี
หลังจากลงนามเสร็จแล้ว ทางสำนักงาน กสทช. จะส่งเรื่องเข้าประชุมนัดพิเศษของบอร์ด กสท. ในวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2557 เมื่อมีมติรับทราบในช่วงเช้า และทางสำนักงานแจ้งแก่ทางสถานีทุกช่องที่เซ็น mou ก็สามารถออกอากาศได้ทันที แต่ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องดำเนินการยกเลิกใบอนุญาตบริการโทรทัศน์ประเภทไม่ใช้คลื่นความถี่แบบบอกรับสมาชิกช่องเดิม และขอใบอนุญาตใหม่ที่จะให้ระยะเวลาในการออกอากาศ 1 ปี
โดยเนื้อหาภายในบันทึกข้อตกลงส่วนใหญ่เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม2557 เรื่องการให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของ คสช. และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 จึงทำบันทึกข้อตกลงกับสำนักงาน กสทช.โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
บริษัทยินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ โดยจัดทำผังรายการไม่ให้มีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช.ฉบับดังกล่าว และเงื่อนไขการเป็นผู้รับใบอนุญาต นอกจากนี้ ยังห้ามมิให้เชิญบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เป็นนักวิชาการ หรือผู้ที่เคยเป็นข้าราชการ รวมทั้งผู้ที่เคยปฏิบัติงานในศาล และกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนองค์กรอิสระ มาให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่อาจก่อให้เกิด หรือขยายความขัดแย้ง บิดเบือน และสร้างความสับสนให้แก่สังคม รวมทั้งอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรง
สถานีมีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามที่ได้รับแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้บุคคลดังกล่าว รวมทั้งบุคคลอื่นใดงดเว้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ ดังต่อไปนี้ (1) ข้อความอันเป็นเท็จ หรือที่ส่งไปในทางหมิ่นประมาท หรือสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ (2) ข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งหมิ่นประมาทบุคคลอื่น
(3) การวิพากษ์ วิจารณ์การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง (4) ข้อมูลเสียง ภาพ วิดีทัศน์ ความลับของการปฏิบัติงานของหน่วยราชการต่างๆ (5) ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร
(6) การชักชวน ซ่องสุมให้มีการรวมกลุ่มก่อการอันเกิดการต่อต้านเจ้าหน้าที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (7) การขู่จะประทุษร้าย หรือทำร้ายบุคคล อันนำไปสู่ความตื่นตระหนก หวาดกลัวแก่ประชาชน
ในกรณีที่ปรากฏว่า บริษัทฯ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ฝ่าฝืนไม่ฏิบัติตามข้อตกลงอาจะถูกสอบสวนทางจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพโดยองค์กรวิชาชีพที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก และต้องปฏิบัติตามกฎหมายใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่แบบบอกรับสมาชิก อย่างเคร่งครัด โดยข้อกำหนดในการหารายได้ของผู้รับใบอนุญาตจากโฆษณา และบริการธุรกิจตลอดทั้งวัน เฉลี่ยแล้วต้องไม่เกินชั่วโมงละห้านาที
หากสำนักงาน กสทช. ตรวจพบว่ามีการฝ่าฝืนข้อตกลงอาจพิจารณาถอนใบอนุญาตทันที
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000097490
สำหรับช่องทีวีดาวเทียมที่มาลงนามบันทึกข้อตกลง (mou) ในการประชุม “แนวทางปฏิบัติตามประกาศ คสช.” วันนี้ประกอบไปด้วย 1.สถานี News 1 จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี 2.สถานีฟ้าวันใหม่ จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย 3.สถานี People channel จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีทีวี 4.สถานี บุญนิยม จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี และ 5.สถานี Peace TV จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี
______________________________
5 ช่องสถานีดาวเทียมเข้าเซ็น MOU ก่อนรอมติบอร์ด กสท.นัดพิเศษวันพรุ่งนี้
นายวริษฐ์ ลิ้มทองกุล นายปัญจภัทร อังคสุวรรณ กรรมการบริหาร และ นายประเมนทร์ ภักดิ์วาปี ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
5 ช่องสถานีดาวเทียม เข้าเซ็น MOU ร่วมกับทางสำนักงาน กสทช. ก่อนส่งเรื่องเข้าประชุมบอร์ด กสท. วาระเร่งด่วนในวันพุธ 27 สิงหาคม 2557 หลังจากนั้น ให้ดำเนินการขอใบอนุญาตฯช่องใหม่ พร้อมให้ออกอากาศได้หลังมีมติรับทราบ
สำหรับช่องทีวีดาวเทียมที่มาลงนามบันทึกข้อตกลง (mou) ในการประชุม “แนวทางปฏิบัติตามประกาศ คสช.” วันนี้ประกอบไปด้วย 1.สถานี News 1 จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี 2.สถานีฟ้าวันใหม่ จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย 3.สถานี People channel จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีทีวี 4.สถานี บุญนิยม จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี และ 5.สถานี Peace TV จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี
หลังจากลงนามเสร็จแล้ว ทางสำนักงาน กสทช. จะส่งเรื่องเข้าประชุมนัดพิเศษของบอร์ด กสท. ในวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2557 เมื่อมีมติรับทราบในช่วงเช้า และทางสำนักงานแจ้งแก่ทางสถานีทุกช่องที่เซ็น mou ก็สามารถออกอากาศได้ทันที แต่ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องดำเนินการยกเลิกใบอนุญาตบริการโทรทัศน์ประเภทไม่ใช้คลื่นความถี่แบบบอกรับสมาชิกช่องเดิม และขอใบอนุญาตใหม่ที่จะให้ระยะเวลาในการออกอากาศ 1 ปี
โดยเนื้อหาภายในบันทึกข้อตกลงส่วนใหญ่เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม2557 เรื่องการให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของ คสช. และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 จึงทำบันทึกข้อตกลงกับสำนักงาน กสทช.โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
บริษัทยินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ โดยจัดทำผังรายการไม่ให้มีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช.ฉบับดังกล่าว และเงื่อนไขการเป็นผู้รับใบอนุญาต นอกจากนี้ ยังห้ามมิให้เชิญบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เป็นนักวิชาการ หรือผู้ที่เคยเป็นข้าราชการ รวมทั้งผู้ที่เคยปฏิบัติงานในศาล และกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนองค์กรอิสระ มาให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่อาจก่อให้เกิด หรือขยายความขัดแย้ง บิดเบือน และสร้างความสับสนให้แก่สังคม รวมทั้งอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรง
สถานีมีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามที่ได้รับแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้บุคคลดังกล่าว รวมทั้งบุคคลอื่นใดงดเว้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ ดังต่อไปนี้ (1) ข้อความอันเป็นเท็จ หรือที่ส่งไปในทางหมิ่นประมาท หรือสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ (2) ข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งหมิ่นประมาทบุคคลอื่น
(3) การวิพากษ์ วิจารณ์การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง (4) ข้อมูลเสียง ภาพ วิดีทัศน์ ความลับของการปฏิบัติงานของหน่วยราชการต่างๆ (5) ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร
(6) การชักชวน ซ่องสุมให้มีการรวมกลุ่มก่อการอันเกิดการต่อต้านเจ้าหน้าที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (7) การขู่จะประทุษร้าย หรือทำร้ายบุคคล อันนำไปสู่ความตื่นตระหนก หวาดกลัวแก่ประชาชน
ในกรณีที่ปรากฏว่า บริษัทฯ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ฝ่าฝืนไม่ฏิบัติตามข้อตกลงอาจะถูกสอบสวนทางจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพโดยองค์กรวิชาชีพที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก และต้องปฏิบัติตามกฎหมายใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่แบบบอกรับสมาชิก อย่างเคร่งครัด โดยข้อกำหนดในการหารายได้ของผู้รับใบอนุญาตจากโฆษณา และบริการธุรกิจตลอดทั้งวัน เฉลี่ยแล้วต้องไม่เกินชั่วโมงละห้านาที
หากสำนักงาน กสทช. ตรวจพบว่ามีการฝ่าฝืนข้อตกลงอาจพิจารณาถอนใบอนุญาตทันที
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000097490
ไม่มีความคิดเห็น: