Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

28 สิงหาคม 2557 DTAC.ชัยยศ ระบุ จัดงบประมาณจำนวน 20 ล้านบาทในการทำระบบการลงทะเบียนซิมการ์ด ป้องกันเบอร์สวย เบอร์มงคลที่ถูกขโมย ( ปัจจุบันลูกค้าทำธุรกรรมเกี่ยวกับ SIM มีอยู่ 30,000 รายต่อวัน หรือกว่า 1 ล้านซิมต่อเดือน )

ประเด็นหลัก

       นายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า บริษัทโทเทิ่ล แอ็คแซส คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า ดีแทคได้จัดงบประมาณจำนวน 20 ล้านบาทในการทำระบบการลงทะเบียนซิมการ์ด หรือ e-Register เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่ใช้ซิมแบบเติมเงิน (พรีเพด) และเป็นการเก็บข้อมูลของลูกค้าไปในตัว ซึ่งการติดตั้งระบบดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนได้อย่างง่ายดาย นอกเหนือไปจากแอปพลิเคชัน 2 แชะที่ทางกสทช.กำหนดไว้
   
       e-Register จะทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการเกี่ยวกับซิมซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 30,000 รายต่อวัน หรือกว่า 1 ล้านซิมต่อเดือน แบ่งเป็นการออกซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิม กรณีลูกค้าทำซิมหาย 20% ซิมชำรุดหรือหมดอายุ 52% และเปลี่ยนขนาดซิมเพื่อใช้งานกับมือถือรุ่นใหม่จำนวน 23% ได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยลูกค้าเพียงยื่นบัตรประชาชนให้กับพนักงานดีแทค และเซ็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการเซ็นลายเซนต์บนหน้าจอแท็บเล็ตที่ศูนย์บริการลูกค้าได้เลยทันที ไม่ต้องถ่ายสำเนา โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการดีแทคกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ
   
       “การลงทะเบียนซิมนอกจากจะทำให้มีฐานข้อมูลลูกค้าในระบบและสามารถดึงขึ้นมาใช้ได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหา การถูกแอบอ้างของบุคคลอื่นมาจดทะเบียนสวมสิทธิ์เบอร์ของตนเอง อันเนื่องมาจากความต้องการเบอร์สวย เบอร์มงคลที่ถูกโฉลกกับตัวเอง เพิ่มมากขึ้นจากเมื่อก่อน ซึ่งในปัจจุบันได้มีหลายเว็บไซต์ รวบรวมเอามาขาย โดยแบ่งหลายประเภท เช่น เบอร์ตอง เบอร์เรียง เบอร์เลขศาสตร์ เบอร์สวย VIP เบอร์สวยปี พ.ศ ปี ค.ศ เบอร์โฟร์ เป็นต้น”



______________________________




ดีแทคลงทุน 20 ล้านทำ e-Register แก้ปัญหาขโมยเบอร์



ดีแทคพร้อมลงทุน 20 ล้านบาทพัฒนาระบบ e-Register ลงทะเบียนซิมการ์ดสำหรับลูกค้าพรีเพด หวังเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อให้สามารถดึงมาดำเนินการทำเรื่องต่างๆ ได้เร็วขึ้น และแก้ปัญหามิจฉาชีพนำไปสวมสิทธิ์ เผยในแต่ละวันมีลูกค้าเข้ามาจัดการซิมการ์ดกว่า 30,000 รายหรือประมาณ 1 ล้านซิมต่อเดือน หากมีระบบจะช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น แนะลูกค้าที่ถูกขโมยเบอร์ให้ไปแจ้งความกับตำรวจ และนำบัตรประชาชนมารับซิมใหม่ที่ศูนย์บริการ
     
       นายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า บริษัทโทเทิ่ล แอ็คแซส คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า ดีแทคได้จัดงบประมาณจำนวน 20 ล้านบาทในการทำระบบการลงทะเบียนซิมการ์ด หรือ e-Register เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่ใช้ซิมแบบเติมเงิน (พรีเพด) และเป็นการเก็บข้อมูลของลูกค้าไปในตัว ซึ่งการติดตั้งระบบดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนได้อย่างง่ายดาย นอกเหนือไปจากแอปพลิเคชัน 2 แชะที่ทางกสทช.กำหนดไว้
     
       e-Register จะทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการเกี่ยวกับซิมซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 30,000 รายต่อวัน หรือกว่า 1 ล้านซิมต่อเดือน แบ่งเป็นการออกซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิม กรณีลูกค้าทำซิมหาย 20% ซิมชำรุดหรือหมดอายุ 52% และเปลี่ยนขนาดซิมเพื่อใช้งานกับมือถือรุ่นใหม่จำนวน 23% ได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยลูกค้าเพียงยื่นบัตรประชาชนให้กับพนักงานดีแทค และเซ็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการเซ็นลายเซนต์บนหน้าจอแท็บเล็ตที่ศูนย์บริการลูกค้าได้เลยทันที ไม่ต้องถ่ายสำเนา โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการดีแทคกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ
     
       “การลงทะเบียนซิมนอกจากจะทำให้มีฐานข้อมูลลูกค้าในระบบและสามารถดึงขึ้นมาใช้ได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหา การถูกแอบอ้างของบุคคลอื่นมาจดทะเบียนสวมสิทธิ์เบอร์ของตนเอง อันเนื่องมาจากความต้องการเบอร์สวย เบอร์มงคลที่ถูกโฉลกกับตัวเอง เพิ่มมากขึ้นจากเมื่อก่อน ซึ่งในปัจจุบันได้มีหลายเว็บไซต์ รวบรวมเอามาขาย โดยแบ่งหลายประเภท เช่น เบอร์ตอง เบอร์เรียง เบอร์เลขศาสตร์ เบอร์สวย VIP เบอร์สวยปี พ.ศ ปี ค.ศ เบอร์โฟร์ เป็นต้น”
     
       นายชัยยศ กล่าวว่า การลงทะเบียนซิมดังกล่าว อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่ทำการซื้อขายเบอร์ไปบ้าง แต่เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าดีแทคจำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อให้เกิดการรัดกุมในการออกซิมการ์ดใหม่ให้กับลูกค้าในทุกกรณีและจะไม่เกิดความผิดพลาดในขั้นตอนเหล่านี้อีก โดยที่ผ่านมาเบอร์สวยดังกล่าวจะมีการเริ่มต้นขายตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาท ไปจนถึงหลายล้านบาทต่อเลขหมาย ทำให้เงินหมุนเวียนในตลาดนี้อยู่ในระดับ 100 ล้านบาทเลยทีเดียว
     
       ทั้งนี้สำหรับลูกค้าที่เบอร์ถูกขโมยไปแล้วให้ดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ เพื่อนำใบแจ้งความมาเป็นหลักฐาน พร้อมบัตรประชาชน หรือหากให้ผู้อื่นมารับแทนควรทำใบมอบอำนาจ พร้อมบัตรประชาชนผู้ดำเนินการแทนด้วย แล้วไปที่ศูนย์ดีแทคเพื่อขอรับซิมใหม่เบอร์เดิม ส่วนลูกค้าระบบพรีเพดที่ลงทะเบียนแล้ว พนักงานจะตรวจสอบตามขั้นตอนที่ได้ลงทะเบียนไว้ แต่หากยังไม่ได้ลงทะเบียนแสดงตนไว้อาจจะต้องมีการตรวจสอบนานขึ้น

http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000098709

___________________________



"ดีแทค" อัพเกรดระบบลงทะเบียน "ซิม" ป้องกันมิจฉาชีพสวมรอย "เบอร์มงคล-เบอร์สวย"



"ดีแทค" ลงทุน 20 ล้านบาท พัฒนาระบบ Smart Application Form ป้องกัน "มิจฉาชีพ" สวมรอยออกซิมใหม่ขโมยเบอร์สวย-เบอร์มงคล

นายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า หลังมีกระแสการขโมยเบอร์สวยและเบอร์มงคลด้วยวิธีการขอออกซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิม ทำให้ดีแทคเพิ่มมาตรการในการออกซิมการ์ดให้เข้มข้นขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้า

โดยการขอซิมใหม่เบอร์เดิมจะมีมาตรการตรวจสอบ3ขั้นตอน ได้แก่ 1.ตรวจสอบตัวตนลูกค้าที่เข้ามาติดต่อ ขอบัตรประชาชนตัวจริง
ทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนซิมว่าตรงกันหรือไม่ พร้อมทำสำเนาบัตรประชาชนไว้ ส่วนกรณีที่มีการมอบฉันทะให้มีผู้ดำเนินการแทนลูกค้าต้องมีนามสกุลเดียวกันกับลูกค้าเท่านั้น และเจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประชาชนตัวจริงทั้งของลูกค้าและผู้รับมอบฉันทะก่อน จึง
มีการตรวจเอกสาร สำเนาบัตรประชาชนของลูกค้าและผู้รับมอบฉันทะ พร้อมนำข้อมูลลูกค้ามาตรวจสอบกับข้อมูลการลงทะเบียนว่าตรงกันหรือไม่

2.มีการตรวจซากซิมลูกค้าที่มีอยู่และต้องเป็นซิมที่มีเลขที่ซิมการ์ดสามารถอ่านได้สมบูรณ์เท่านั้น ส่วนกรณีที่ไม่มีซากซิมการ์ด หรือไม่ผ่านการตรวจ เพราะซากซิมไม่สมบูรณ์ต้องมีใบแจ้งความซิมหายหรือบันทึกประจำวันมาแสดงด้วย และ 3.ตรวจสอบการใช้งานเลขหมาย โดยการตอบคำถามเกี่ยวกับการใช้งานเบอร์จากพนักงานให้ถูกต้อง

สำหรับปัญหาการขโมยซิมมักเกิดขึ้นกับลูกค้าแบบพรีเพดที่ไม่ได้มีการลงทะเบียนซิมไว้ดังนั้นเพื่อป้องกันจึงขอให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือลงทะเบียนซิมของตนเองให้เรียบร้อยโดยดีแทคได้ลงทุนกว่า20 ล้านบาท พัฒนาระบบ Smart Application Form ในการลงทะเบียน เพื่อออกซิมการ์ดใหม่ให้ง่ายขึ้นโดยใช้เครื่องอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดของลูกค้า และเซ็นสัญญาแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจัดเก็บข้อมูลเป็นระบบดิจิทัลแทนเอกสาร โดยมีใช้งานแล้วในศูนย์บริการที่ดีแทคเป็นเจ้าของเอง ส่วนที่เป็นแฟรนไชน์จะขยายระบบให้ครบทุกสาขาภายในสิ้นปีนี้




 http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1409210869

___________________________________


ระวัง! ขโมยจ้องฉก เลขสวย-เบอร์มงคล แนะลงทะเบียนซิมกันไว้

ห่วงคนใช้ระบบเติมเงินยังไม่ลงทะเบียนซิมการ์ด! "ดีแทค" เผยลูกค้า 24.4 ล้านเลขหมายลงทะเบียนเข้าระบบไม่ถึงครึ่ง แนะนำแจ้งข้อมูลเพื่อจดทะเบียน ป้องกันการถูกขโมยเบอร์ได้…

นายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ปัจจุบันดีแทคมีอัตราการเปลี่ยนซิมการ์ดทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไปและองค์กร เฉลี่ยวันละ 30,000 ซิมต่อวัน หรือราว 1 ล้านซิมต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นซิมการ์ดระบบพรีเพด (เติมเงิน) จากกรณีซิมเก่า ซิมเสียหาย ซิมหาย หรือเปลี่ยนประเภทซิมเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ใช้ซิมการ์ดขนาดเล็กลง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ดีแทคมีลูกค้าในระบบโพสเพด (รายเดือน) ราว 3.6 ล้านเลขหมาย และพรีเพดประมาณ​ 24.4 ล้านเลขหมาย ซึ่งมีลูกค้าที่ทำการลงทะเบียนซิมการ์ดแล้วเพียง 20% ของลูกค้าทั้งหมดในระบบพรีเพด ส่วนเบอร์สวยของดีแทค หรือโกลเด้น นัมเบอร์ ปัจจุบันมีทั้งสิ้นประมาณ 100,000 เลขหมาย ส่วนเบอร์มงคลที่ดีแทคมีแคมเปญเบอร์มงคลดีๆ การันตีโดยอาจารย์ช้าง-ทศพร ศรีตุลา เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีออกมาประมาณ 10,000 เลขหมาย ก็มีผู้สนใจเป็นจำนวนมากและจำหน่ายได้เกือบทั้งหมด



นายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า ดีแทค

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า ดีแทค กล่าวว่า ส่วนความต้องการเบอร์สวย เบอร์มงคลนั้น พบว่าความต้องการในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างต่อจากความเชื่อเรื่องโชคชะตา ทำให้มีเว็บไซต์ต่างๆ นำเบอร์สวยมาขาย ทั้งเบอร์ตอง เบอร์เรียง เบอร์เลขศาสตร์ เบอร์สวยวีไอพี เป็นต้น โดยมีการจำหน่ายในราคาตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทจนถึงหลายล้านบาทต่อเลขหมาย จนเกิดเม็ดเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาทในตลาดดังกล่าว ส่วนเบอร์สวยหรือเบอร์มงคลของดีแทคที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงๆ นั้น พบว่ามีราคาถึงหลักหลายสิบล้านบาท

นายชัยยศ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีลูกค้าดีแทคได้รับความเสียหายจากการถูกขโมยเบอร์นั้น บริษัทได้ดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนและดำเนินคดีกับกลุ่มคนดังกล่าว ซึ่งมีทั้งที่อยู่ระหว่างการดำเนินการและสามารถนำเบอร์มาคืนลูกค้าได้เรียบร้อยแล้ว

"ยืนยันว่าไม่มีพนักงานดีแทคเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่าอาจเคยมีพนักงานสาขาของร้านแฟรนไชส์ดีแทคบางแห่งที่มีส่วนรู้เห็น ขณะเดียวกันก็ถือเป็นความหละหลวมของพนักงานและมีการดำเนินการล่าช้า อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีลูกค้าดีแทคเกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวประมาณ 20 กว่าราย โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในระบบพรีเพดที่ไม่ได้ลงทะเบียนซิมการ์ด ซึ่งอาจมีการเก็บเบอร์สวย เบอร์มงคลเอาไว้ และไม่ค่อยได้ใช้งานมากนักจึงกลายเป็นช่องโหว่ของกลุ่มมิจฉาชีพซึ่งมีพฤติกรรมเป็นกระบวนการเดียวกัน"


เพื่อแก้ไขและอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนซิมการ์ดให้ลูกค้าระบบพรีเพด ดีแทค ได้ใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบใหม่ที่เรียกว่า อี-รีจีสเตชั่น (e-Registration) ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนการเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดและเซ็นชื่อได้บนระบบอิเล็กทรอนิกส์ทดแทนการเก็บเอกสาร ส่วนลูกค้าเดิมที่มีการลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยเอกสาร บริษัทก็จะสแกนข้อมูลและจัดเก็บไว้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการใช้งานระบบดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าเปลี่ยนเป็นระบบดังกล่าวทั่วทั้ง 300 ศูนย์บริการภายในสิ้นปีนี้ นอกจากจะลดระยะเวลาในการดำเนินงานได้เหลือ ไม่ถึง 5 นาทีต่อรายแล้ว ยังมีความสะดวกสบายมากแก่ลูกค้าขึ้นด้วย และบริษัทยังเตรียมพัฒนาบริการสมาร์ทคิว (Smart Queue) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการภายในศูนย์บริการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเห็นบริการดังกล่าวได้ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป



เบอร์สวย เบอร์มงคล... กลายเป็นเป้าหมายของกระบวนการ(ขโมย)ขายเบอร์

ทำอย่างไร... ไม่ให้ถูกขโมยเบอร์!
นายชัยยศ แนะนำว่า ลูกค้าในระบบพรีเพดจำเป็นต้องลงทะเบียนซิมการ์ด ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ช่องโหว่ในการถูกขโมยเบอร์หมดไป โดยสามารถลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น 2 แชะ ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือสำนักงานบริการลูกค้าของแต่ละเครือข่าย

หากเบอร์ถูกขโมย! จะทำอย่างไร?
ขั้นตอนแรก เจ้าของเบอร์ต้องแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ เพื่อนำใบแจ้งความมาใช้เป็นหลักฐาน พร้อมบัตรประชาชน หรือในกรณีที่ผู้อื่นมารับแทน ก็ต้องทำใบมอบอำนาจพร้อมบัตรประชาชนของผู้ดำเนินการแทน และไปที่ศูนย์บริการเพื่อขอรับซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิม โดยพนักงานจะทำการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งหากเป็นลูกค้าระบบพรีเพดที่มีการลงทะเบียนไว้แล้ว พนักงานจะตรวจสอบจากข้อมูลเดิมที่เคยมีการลงทะเบียนไว้ในระบบ แต่หากเป็นลูกค้าที่ยังไม่เคยลงทะเบียนก็จะมีการตรวจสอบความเป็นเจ้าของด้วย.

http://www.thairath.co.th/content/446417

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.