Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 ตุลาคม 2557 ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนฯ.ธีระ ระบุ สมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.5 - 8 พันบาท เป็นช่วงราคาที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย

ประเด็นหลัก



  ธีระ กนกกาญจนรัตน์ธีระ กนกกาญจนรัตน์  นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมไอซีทีอาวุโส จากบริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนฯ องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก   เปิดเผยว่า "ภายในสิ้นปีคาดว่านี้ ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยจะเติบโตมากกว่าปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 30% หรือประมาณ 13 ล้านเครื่อง โดยได้อานิสงส์จากปัจจัยหลัก 3 ประการคือ สภาพตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่มีตัวเลือกมากขึ้น ความต้องการใช้งานโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้น และ ความนิยมของการทำธุรกรรมพาณิชย์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือ Mobile Commerce ที่มีมากขึ้น"

    "ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเติบโตขึ้นมาก บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทยอยนำสินค้ารุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นรายใหญ่อย่างซัมซุง หรือผู้ผลิตหน้าใหม่ที่พยายามเข้าช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดไม่ว่าจะเป็น เลอโนโว หัวเหว่ย  ออปโป้ หรือสมาร์ทโฟนที่เป็นเฮาส์แบรนด์จากผู้ให้บริการ เช่น ดีแทค หรือ ทรูมูฟ เอช โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.5 - 8 พันบาท      
    ด้วยราคาที่ลดต่ำลงส่งผลให้คนไทยหันมาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนมากขึ้นแทนที่ฟีเจอร์โฟน ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของสมาร์ทโฟนต่อฟีเจอร์โฟนมีเพิ่มมากขึ้น โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะมีราคาอยู่ระหว่าง 4 - 8 พันบาท ซึ่งอยู่ในอัตราส่วนที่ไม่น้อยกว่า 70% ของตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมด  โดยประเมินว่าถึงสิ้นปีนี้ ยอดขายสมาร์ทโฟนในไทยจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของทั้งหมด และอีก 40% ของการขายจะเป็นฟีเจอร์โฟน
    นอกจากนี้ความนิยมการใช้งานโซเชียลมีเดียหรือสื่อสังคมออนไลน์ที่ยังพุ่งแรงไม่หยุดมีส่วนผลักดันการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน   โดยปัจจุบันสมาร์ทโฟนและแท็บเลตกลายเป็นช่องทางหลักที่ใช้ติดต่อสื่อสารบนโลกออนไลน์  จากผลสำรวจพบว่าคนไทยใช้เวลาโดยเฉลี่ย 3.1 ชั่วโมงต่อวัน กับการออนไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโดยเฉลี่ย 2.6 ชั่วโมงต่อวันเพื่อท่องโลกออนไลน์ มากกว่าเวลาที่ใช้กับสื่ออื่นๆ
    นอกจากนี้คนไทยยังมีอัตราการเข้าใช้งานโซเชียลมีเดียบ่อยครั้งมาก โดยจากผลสำรวจพบว่าผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตไทยถึง 61% ยอมรับว่าเข้าใช้งานโซเชียลมีเดียทุกวัน ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของประชากรโลกอยู่ที่ 42% อีกทั้งฐานผู้ใช้งานในไทยยังมีการขยายตัวในแนวราบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และเยาวชนอายุน้อยกว่า 15 ปีที่เริ่มหันมาใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้ง Chat App ในการสื่อสารเพิ่มมากขึ้น"

______________________________




เผยสมาร์ทโฟนไทยโต30%





 องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก  "ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน" เผย สมาร์ทโฟนไทยโตไม่ต่ำกว่า 30%   คิดเป็นตัวเลขประมาณ 13 ล้านเครื่อง แม้บรรยากาศช็อปงานเทรดโชว์สมาร์ทโฟนปลายปีไม่คึกคัก เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดีขึ้น   ขณะที่"เอ็มวิชั่น" เผยยอดคนแห่สัมผัสเทคโนโลยีใหม่งาน"ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2014"เพิ่ม 20%  ยอดเงินสะพัดเพิ่ม 10%
  ธีระ กนกกาญจนรัตน์ธีระ กนกกาญจนรัตน์  นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมไอซีทีอาวุโส จากบริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนฯ องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก   เปิดเผยว่า "ภายในสิ้นปีคาดว่านี้ ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยจะเติบโตมากกว่าปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 30% หรือประมาณ 13 ล้านเครื่อง โดยได้อานิสงส์จากปัจจัยหลัก 3 ประการคือ สภาพตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่มีตัวเลือกมากขึ้น ความต้องการใช้งานโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้น และ ความนิยมของการทำธุรกรรมพาณิชย์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือ Mobile Commerce ที่มีมากขึ้น"

    "ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเติบโตขึ้นมาก บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทยอยนำสินค้ารุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นรายใหญ่อย่างซัมซุง หรือผู้ผลิตหน้าใหม่ที่พยายามเข้าช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดไม่ว่าจะเป็น เลอโนโว หัวเหว่ย  ออปโป้ หรือสมาร์ทโฟนที่เป็นเฮาส์แบรนด์จากผู้ให้บริการ เช่น ดีแทค หรือ ทรูมูฟ เอช โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.5 - 8 พันบาท      
    ด้วยราคาที่ลดต่ำลงส่งผลให้คนไทยหันมาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนมากขึ้นแทนที่ฟีเจอร์โฟน ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของสมาร์ทโฟนต่อฟีเจอร์โฟนมีเพิ่มมากขึ้น โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะมีราคาอยู่ระหว่าง 4 - 8 พันบาท ซึ่งอยู่ในอัตราส่วนที่ไม่น้อยกว่า 70% ของตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมด  โดยประเมินว่าถึงสิ้นปีนี้ ยอดขายสมาร์ทโฟนในไทยจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของทั้งหมด และอีก 40% ของการขายจะเป็นฟีเจอร์โฟน
    นอกจากนี้ความนิยมการใช้งานโซเชียลมีเดียหรือสื่อสังคมออนไลน์ที่ยังพุ่งแรงไม่หยุดมีส่วนผลักดันการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน   โดยปัจจุบันสมาร์ทโฟนและแท็บเลตกลายเป็นช่องทางหลักที่ใช้ติดต่อสื่อสารบนโลกออนไลน์  จากผลสำรวจพบว่าคนไทยใช้เวลาโดยเฉลี่ย 3.1 ชั่วโมงต่อวัน กับการออนไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโดยเฉลี่ย 2.6 ชั่วโมงต่อวันเพื่อท่องโลกออนไลน์ มากกว่าเวลาที่ใช้กับสื่ออื่นๆ
    นอกจากนี้คนไทยยังมีอัตราการเข้าใช้งานโซเชียลมีเดียบ่อยครั้งมาก โดยจากผลสำรวจพบว่าผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตไทยถึง 61% ยอมรับว่าเข้าใช้งานโซเชียลมีเดียทุกวัน ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของประชากรโลกอยู่ที่ 42% อีกทั้งฐานผู้ใช้งานในไทยยังมีการขยายตัวในแนวราบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และเยาวชนอายุน้อยกว่า 15 ปีที่เริ่มหันมาใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้ง Chat App ในการสื่อสารเพิ่มมากขึ้น"
    ปัจจัยหนุนตัวสุดท้าย  คือกระแสความนิยมและการเติบโตของการซื้อขายทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์ (Mobile Commerce) นั้นที่มีส่วนช่วยทำให้มีการหันมาใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น โดยอัตราการซื้อขายทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์ปีนี้นั้นมีอัตราการเติบโตมากกว่าปีที่แล้วมากกว่า 100%   ควบคู่ไปกับการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซที่ขยายตัวราว 30% สมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือและสื่อกลางที่สะดวกที่สุดเพราะสามารถสั่งซื้อ ชำระค่าสินค้าและสอบถามข้อมูลติดต่อกับผู้ขายผ่านแอพพลิเคชันต่างๆได้ภายในเครื่องเดียว ปัจจัยนี้ส่งผลให้ความต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนนั้นขยายตัวจากกลุ่มผู้บริโภค ไปยังภาคธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs"
    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณสมาร์ทโฟนจะเติบโตขึ้น แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้สมาร์ทโฟนที่ทำตลาดได้ดีนั้นเป็นรุ่นที่มีราคาไม่สูง มูลค่าโดยรวมของการซื้อขายในตลาดอาจไม่เติบโตจากปีที่แล้วมากนัก แม้ว่าจำนวนเครื่องที่จำหน่ายจะมีจำนวนมากขึ้นก็ตาม"
    ด้านนายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด  กล่าวว่า ภาพรวมไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2014"นั้น มีตัวเลขยอดผู้ชมสูงกว่าคาดไว้  คือ เพิ่มขึ้นราว 20%  จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10%   เนื่องจากผู้ผลิตมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน   และไม่มีเหตุการณ์ด้านการเมือง  ทั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว  อย่างไรก็ตามยอดเม็ดเงินสะพัดในงานอาจไม่เติบโตเท่ากับยอดการเติบโตผู้เข้าชม  แต่ก็เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 10%  หรือคิดเป็นมูลค่า 1.4-1.5 พันล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในงานมีจำนวนจำกัด หลายรุ่นมีสินค้าไม่พอกับความต้องการ  และบางรุ่นก็มาเปิดตัว และเปิดรับจองภายในงานเท่านั้น






จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=249413:30&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VDlNMGeSwoQ

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.