Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

27 ตุลาคม 2557 Nielsen ระหว่างวันที่ 6-12 ตุลาคม 2557 เรียงตามลำดับ 5 อันดับแรก ช่อง 7 เรตติ้งเฉลี่ย 4.170, ช่อง 3 เฉลี่ย 2.440, ช่อง 9 เฉลี่ย 0.445, เวิร์คพอยท์ 0.397, ช่อง 5 เฉลี่ย 0.357

ประเด็นหลัก







ทั้งนี้ การสำรวจความนิยมทีวิดิจิทัล (เรตติ้ง) โดยบริษัท นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัดกลุ่มผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 6-12 ตุลาคม 2557 ทุกช่วงเวลา เรียงตามลำดับ 10 อันดับแรก (ไม่รวมช่องสาธารณะ) คือ ช่อง 7 เรตติ้งเฉลี่ย 4.170, ช่อง 3 เฉลี่ย 2.440, ช่อง 9 เฉลี่ย 0.445, เวิร์คพอยท์ 0.397, ช่อง 5 เฉลี่ย 0.357, ช่อง 8 เฉลี่ย 0.279, โมโน 29 เรตติ้ง 0.144, ไทยรัฐทีวี เรตติ้ง 0.088, ทรู 4 ยู เรตติ้ง 0.082 และช่อง 3 เอชดี เรตติ้ง 0.060

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พีพีทีวีปรับผังเฟส 3 ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะลากยาวจนถึงมีนาคมปีหน้า ด้วยการเพิ่มรายการกีฬาเข้ามา ตามด้วยช่องโลก้า และไทยทีวี เพิ่มเนื้อหารายการต่าง ๆ รวมถึงข่าวเข้มข้นขึ้น และล่าสุด อมรินทร์ทีวีเตรียมปรับผัง และเปิดตัวรายการเรียลิตี้โชว์เกี่ยวกับบ้าน ซึ่งอมรินทร์ทีวีระบุว่า ใหญ่ที่สุดในเอเชีย


______________________________




ระฆังยกแรก! ทีวีดิจิทัลดิ้นสุดตัว เร่ง "สร้างชื่อ" ติดปาก-ใส่เต็มๆหวั่นพลาดโอกาส





คูปองกล่องทีวีดิจิทัลทั่วประเทศปลุกสมรภูมิคึกคัก โหมหนักกลยุทธ์สร้างชื่อให้ติดปาก-ส่งรายการฮิตเร่งเรตติ้ง แกรมมี่ยอมรับมีเวลาแค่ปีเดียวเดิมพันอนาคต ชี้หากหลุด "ท็อป 5" อนาคตมีปัญหาแน่ มีเดียเอเยนซี่เผยสินค้าเริ่มเทงบฯให้ คาดสิ้นปีนี้พุ่ง 7,000 ล้าน เปิดโผ "นีลเส็น" เรตติ้งล่าสุด ช่อง 7-3 ยังนำโด่ง "เวิร์คพอยท์-ช่อง 8" เริ่มแรง

ทันทีที่การแจกคูปองสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิทัลเฟสแรกจำนวนกว่า 4.6 ล้านใบ กระจายไปยังผู้บริโภค 21 จังหวัดทั่วประเทศ สมรภูมิทีวีดิจิทัลดีกรีร้อนแรงขึ้นทันที หลังจากรี ๆ รอ ๆ ตั้งแต่ออนแอร์วันแรกเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เนื่องจากไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจ และโครงข่ายการออกอากาศที่ยังไม่ครอบคลุม

ล่าสุดความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นคือ ช่องทีวีดิจิทัลต่าง ๆ รุกขึ้นมาปรับกลยุทธ์ เติมคอนเทนต์แบบจัดเต็มเพื่อรองรับการแข่งขัน พร้อมความหวังว่าภาพรวมเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว จะทำให้มีเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้ามามากขึ้นด้วย

ปรับผังเดิมพันอนาคต

นางสาวพเยาว์ ธรรมธีรสุนทร หัวหน้าฝ่ายการลงทุนสื่อทีวี บริษัท มายด์แชร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นล่าสุดคือ ช่องต่าง ๆ เริ่มทยอยปรับผังรายการ ปรับกลยุทธ์ รองรับการแข่งขันที่จะเริ่มต้นขึ้นในปีหน้า เช่น ไทยรัฐทีวีที่เปิดตัวผังรายการเฟสใหม่ เพราะเชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้าจะเริ่มดีขึ้น นั่นหมายถึงจำนวนเม็ดเงินโฆษณาที่ไหลเข้ามาด้วย

"2 เดือนสุดท้ายนี้ ทุกช่องรุกขึ้นมาปรับทุกอย่าง เช่นเดียวกับการแข่งขันที่ถือเป็นยกแรกจริง ๆ คงเข้มข้นขึ้น เทียบกับเมื่อต้นปีที่ชะลอตัว ทำให้สถานการณ์โดยรวมค่อนข้างเงียบ"

3-7 เรตติ้งนำโด่ง

ทั้งนี้ การสำรวจความนิยมทีวิดิจิทัล (เรตติ้ง) โดยบริษัท นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัดกลุ่มผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 6-12 ตุลาคม 2557 ทุกช่วงเวลา เรียงตามลำดับ 10 อันดับแรก (ไม่รวมช่องสาธารณะ) คือ ช่อง 7 เรตติ้งเฉลี่ย 4.170, ช่อง 3 เฉลี่ย 2.440, ช่อง 9 เฉลี่ย 0.445, เวิร์คพอยท์ 0.397, ช่อง 5 เฉลี่ย 0.357, ช่อง 8 เฉลี่ย 0.279, โมโน 29 เรตติ้ง 0.144, ไทยรัฐทีวี เรตติ้ง 0.088, ทรู 4 ยู เรตติ้ง 0.082 และช่อง 3 เอชดี เรตติ้ง 0.060

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พีพีทีวีปรับผังเฟส 3 ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะลากยาวจนถึงมีนาคมปีหน้า ด้วยการเพิ่มรายการกีฬาเข้ามา ตามด้วยช่องโลก้า และไทยทีวี เพิ่มเนื้อหารายการต่าง ๆ รวมถึงข่าวเข้มข้นขึ้น และล่าสุด อมรินทร์ทีวีเตรียมปรับผัง และเปิดตัวรายการเรียลิตี้โชว์เกี่ยวกับบ้าน ซึ่งอมรินทร์ทีวีระบุว่า ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

โฆษณาพุ่ง 7 พัน ล.

หัวหน้าฝ่ายการลงทุนสื่อทีวี บริษัท มายด์แชร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การวัดความนิยมผู้ชมทีวีดิจิทัล (เรตติ้ง) ปัจจุบันยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยบางช่องเริ่มมีเรตติ้งที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าเกือบทุกกลุ่มต่างให้ความสำคัญกับการใช้งบฯโฆษณาผ่านช่อง ทางนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน

"แม้เรตติ้งยังไม่ชัดเจนเพราะการแจกคูปองเพิ่งเริ่มต้น แต่ลูกค้า (สินค้า) ไม่มีปัญหาและยังใช้เม็ดเงินกับช่องทีวีดิจิทัลต่าง ๆ ตามเรตติ้ง และตามกลุ่มเป้าหมายแต่ละช่อง"

ในส่วนภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีสิ้นปีนี้ นางสาวพเยาว์คาดว่าจะมีมูลค่าราว 78,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 9-10% จะถูกใช้ในช่องทีวีดิจิทัล เคเบิล และทีวีผ่านดาวเทียม หรือคิดเป็นมูลค่า 7,020-7,800 ล้านบาท

สอดรับกับนางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูนิลีเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกจากการใช้งบฯโฆษณาผ่านฟรีทีวีช่องเดิมในระบบแอนะล็อกแล้ว ก็พร้อมกระจายงบฯโฆษณาไปยังทุกสื่อ รวมถึงทีวีดิจิทัลก็ต้องไปอย่างแน่นอน และพร้อมจะไปกับทุกรายที่เป็นพันธมิตร โดยปัจจุบันบริษัทก็ใช้งบฯโฆษณาผ่านทีวี ในช่องดาวเทียม รวมถึงสื่ออื่น ๆ อยู่แล้ว

"แกรมมี่" ลุ้นติดท็อป 5

นายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจจีเอ็มเอ็มมิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่องวัน และจีเอ็มเอ็มชาแนล กล่าวว่า การแจกคูปองแลกกล่องทีวีดิจิทัลที่เริ่มต้นขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการใส่เกียร์เดินหน้า ส่งคอนเทนต์รายการเด็ด ๆ ลงตลาดอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกันแกรมมี่ที่เริ่มปล่อยรายการแม่เหล็กลงจอตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา และจะเติมรายการใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ถือว่าการแข่งขันของทีวีดิจิทัลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และปีหน้าสมรภูมินี้จะทวีความรุนแรงขึ้น คาดว่าภายในเดือนมกราคมปี 2559 ถ้าช่องไหนยังไม่มีเรตติ้งติด 1 ใน 5 คงเหนื่อยอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เชื่อว่าช่องที่ยังครองเรตติ้งอันดับ 1 และ 2 ยังคงเป็นช่อง 7 และช่อง 3 เช่นเดิม เพราะผู้ชมไทยคุ้นชินกับผังรายการฟรีทีวีเดิมมานานว่าต้องดูละครตอน 20.30 น.

ขณะที่แกรมมี่พยายามสร้างความแตกต่าง ผลิตละครสำหรับกลุ่มผู้ชมที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และวางไว้ในช่วงเวลา 22.00 น. เพื่อสร้างฐานผู้ชมกลุ่มใหม่

"แกรมมี่เชื่อว่าเวลา 20.30 น.ไม่จำเป็นต้องเป็นเวลาของละคร เพราะอดีตเกมโชว์อย่าง "มาตามนัด" ก็มีเรตติ้งชนะละครหลังข่าวมาแล้ว เพียงแต่ว่าเราต้องหาคอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชมให้เจอ"

อาร์เอสเร่งเครื่องช่อง 8

นายองอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสายงานโทรทัศน์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร "ช่อง 8" กล่าวว่า หลังออกอากาศมา 6 เดือนพบว่าเรตติ้งของทีวีดิจิทัลมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สะท้อนถึงความสนใจผู้ชมที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจนี้ ประกอบกับ กสทช.เดินหน้าแจกคูปอง กลายเป็นปัจจัยผลักดันให้การแข่งขันของช่องต่าง ๆ เริ่มต้นขึ้นอย่างชัดเจน

"จุดนี้ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มปรับกลยุทธ์ เตรียมการลงทุนในหลาย ๆ ส่วน โดยที่ดีกรีการแข่งขันจะระอุยิ่งขึ้นอย่างจริงจังในต้นปีหน้า"

อย่างไรก็ตาม ด้วยช่องทีวีดิจิทัลที่มีจำนวนมาก สิ่งที่บริษัทต้องทำคือสร้างแบรนด์ช่อง 8 ให้แข็งแกร่ง ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ทั่วประเทศเพื่อให้ผู้ชมจดจำ ขณะที่แนวทางต่อไปในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้จะค่อย ๆ ปรับสัดส่วนของรายการ เพราะมีบางส่วนยังไม่ลงตัว ส่วนต้นปีหน้าจะปรับผังใหญ่อีกครั้งเพื่อรองรับการแข่งขัน

"นอกจากการปรับตัวภายในองค์กรแล้วต้องมองด้วยว่าคู่แข่งปรับกลยุทธ์อย่างไร จะได้ปรับตัวให้ทัน เพื่อชิงเรตติ้งในปีหน้าที่จะเพิ่มดีกรีเข้มข้นขึ้น" นายองอาจกล่าว



http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1414388292

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.