04 พฤศจิกายน 2557 กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ DTAC 2.4 หมื่นล้าน // AIS 26,911.28 ล้านบาท (ARPU) สำหรับระบบรายเดือนอยู่ที่ 625 บาท ส่วนลูกค้าเติมเงินอยู่ที่ 169 บาท
ประเด็นหลัก
นายชวิต แสงอุดมเลิศ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ สายงานการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) กล่าวว่า ทั้งนี้ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น แจ้งผลกำไรงวด 9 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ในไตรมาส 3 ลดลงเล็กน้อยเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน อันเป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการ ขณะที่รายได้จากการบริการเสียงและบริการข้ามแดนอัตโนมัติลดลง
กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ เท่ากับ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 9% ในขณะที่อีบิทดามาร์จิน เพิ่มขึ้นเป็น 36.8% จาก 31.6% ในปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลเฉพาะกาล 1.567 บาทต่อหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ เทียบเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 144%
แอดวานซ์โชว์งบไตรมาส 3 กำไร 8.95 พันล้านบาท
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 8,955.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 8,340.98 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 26,911.28 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27,458.18 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 ถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 8.6-8.8 พันล้านบาท
บริษัท ระบุว่า รอบ 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้จากการให้บริการเติบโต 0.5% เทียบกับปีก่อน ยังคงคาดรายได้จากการให้บริการทั้งปีจะโตขึ้น 1-2% แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช้ากว่าเป้า โดยคาดรายได้จะเติบโตในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งโดยปกติเป็นไตรมาสที่มีการใช้งานสูงที่สุด
การเติบโตดังกล่าว จะยังคงถูกขับเคลื่อนโดยการใช้งานดาต้าที่เติบโตด้วยอัตราเร่ง แม้การใช้บริการเสียงจะลดลง ด้วยการผลักดันให้ลูกค้ามาใช้บริการ 3G-2.1GHZ ส่งผลให้ต้นทุนค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ลดลงเหลือ 5.25% ของรายได้จาก 20-30% บนระบบสัญญาร่วมการงานเดิม ทำให้บริษัทคาดว่า เซอร์วิส อีบิทด้ามาร์จิน จะเพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปีก่อน
อัตรากำไรจากการขายมือถือยังมีแนวโน้มลดลงจากการให้โปรโมชั่นและส่วนลดแก่ลูกค้า แม้มือถือ ‘AIS SUPER COMBO’ ขายได้เกินเป้ามาก ทำให้คาดว่าอีบิทด้ามาร์จินรวมจะโตขึ้น 1% เทียบกับปีก่อน
______________________________
ดีแทครับรายได้บริการลด2%
"ดีแทค" รับรายได้การบริการปีนี้ต่ำกว่าปีที่แล้ว 2% เผย 9 เดือนพบสัญญาณรายได้ลดชัดเหตุผู้บริโภคหันใช้ข้อมูล
นายชวิต แสงอุดมเลิศ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ สายงานการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) กล่าวว่า รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ปี 2557 จะลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 2% โดยเป็นการประเมินจากรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ที่เห็นการลดลงที่ชัดเจน จึงคาดว่าทั้งปีนี้ตัวเลขรายได้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับงวด 9เดือน
ทั้งนี้ ปี 2556 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย อยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท และ 9 เดือนแรก ปี 2557 มีรายได้จากการบริการ ไม่รวมค่าโครงข่ายอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท
"จริงๆ ตอนต้นปีมีการประเมินไว้ที่ 5% และในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ปรับลดประมาณการลง เป็นเท่ากับปีก่อน และในไตรมาส 3 ซึ่งก็มีภาพที่ชัดเจนว่ารายได้จากการบริการมีการปรับลดลงชัดเจน งวด 9 เดือนลดลง 2% เชื่อว่าทั้งปีก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน"
สาเหตุที่รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย เป็นผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะผู้บริโภคด้านบริการเสียงที่ค่อนข้างทรงตัวและลดลง ส่วนบริการข้อมูลมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ นายชวิต ยอมรับว่า บริษัทประเมินพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ตรงตามความเป็นจริง โดยก่อนหน้านี้บริษัทประเมินว่าบริการด้านข้อมูลน่าจะเติบโต แต่ข้อเท็จจริงคือบริการด้านเดคต้าเติบโตมากกว่าคาดการณ์ถึง 2-3 เท่า ทำให้บริษัทขยายโครงข่ายในส่วนของสัญญาณการให้บริการข้อมูลไม่ทัน จึงสูญเสียโอกาสทางการตลาด
"ผู้บริโภคยังมีความต้องการในการใช้บริการข้อมูลอยู่ค่อนข้างมาก ไตรมาส 3/2557 บริษัทมีสัดส่วนการให้บริการไม่รวมโครงข่ายอยู่ที่ 42% ส่วนบริการเสียงอยู่ที่ 50% และที่เหลือจะเป็นรายได้จากบริการข้ามแดนอัตโนมัติ แต่ในอนาคตคาดรายได้จากการให้บริการไม่รวมโครงข่ายจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง"
นายชวิต กล่าวว่า ไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทจัดสรรงบลงทุน 4.4 พันล้านบาท สำหรับลงทุนโครงข่าย 3จี เพื่อรองรับการเติบโตของบริการข้อมูล ปีนี้บริษัทจัดสรรงบลงทุนขั้นต่ำ 1.3 หมื่นล้านบาท 9 เดือนแรกใช้งบไปแล้ว 9.6 พันล้านบาท ที่เหลือจะใช้ในไตรมาส 4 ปีนี้ และไตรมาส 1 ปี 2588
สำหรับอีบิทด้ามาร์จินทั้งปีนี้ บริษัทยังคงเป้าที่ 35-37% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 32% สาเหตุมาจากการลดต้นทุนภายใน โดยงวด 9 เดือนแรก บริษัทมีอีบิทด้ามาร์จินที่ 36.8% ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
"ยอมรับว่า ไตรมาส 4 ปีนี้ อิบิทดามาร์จิ้นจะลดลงเล็กน้อย เพราะเป็นไตรมาสที่มีการใช้งบการตลาดสูง รวมทั้งการที่โทรศัพท์ไอโฟน 6 ที่เปิดตัวก็เป็นสินค้าที่มีมาร์จินไม่สูง"นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวเพิ่มว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมผู้ให้บริการโครงข่ายการสื่อสารในประเทศ น่าจะการเติบโตในทิศทางเดียวกับบริษัท เนื่องจากที่ผ่านมามีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะบริการข้อมูล ที่มีแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด ซึ่งทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ทั้งนี้ บริษัทจะพยายามปรับเปลี่ยนคติของผู้บริโภค จากการนิยมใช้แพ็คเกจและยอมรับการใช้บริการที่ให้ความเร็วลดลง เป็นการยอมมีค่าใช้จ่ายจากการใช้อินเตอร์เน็ตเกินแพ็คเกจแต่ความเร็วในการใช้เท่าเดิม แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
สำหรับแนวโน้มปี 2558 บริษัทเชื่อว่า รายได้จากการบริการ ไม่รวมโครงข่าย จะเติบโตจากปีนี้ แต่จะเติบโตเท่าใด ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจรวมด้วย เพราะธุรกิจด้านสื่อสารจะมีการเติบโตที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น แจ้งผลกำไรงวด 9 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ในไตรมาส 3 ลดลงเล็กน้อยเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน อันเป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการ ขณะที่รายได้จากการบริการเสียงและบริการข้ามแดนอัตโนมัติลดลง
กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ เท่ากับ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 9% ในขณะที่อีบิทดามาร์จิน เพิ่มขึ้นเป็น 36.8% จาก 31.6% ในปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลเฉพาะกาล 1.567 บาทต่อหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ เทียบเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 144%
แอดวานซ์โชว์งบไตรมาส 3 กำไร 8.95 พันล้านบาท
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 8,955.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 8,340.98 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 26,911.28 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27,458.18 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 ถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 8.6-8.8 พันล้านบาท
บริษัท ระบุว่า รอบ 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้จากการให้บริการเติบโต 0.5% เทียบกับปีก่อน ยังคงคาดรายได้จากการให้บริการทั้งปีจะโตขึ้น 1-2% แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช้ากว่าเป้า โดยคาดรายได้จะเติบโตในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งโดยปกติเป็นไตรมาสที่มีการใช้งานสูงที่สุด
การเติบโตดังกล่าว จะยังคงถูกขับเคลื่อนโดยการใช้งานดาต้าที่เติบโตด้วยอัตราเร่ง แม้การใช้บริการเสียงจะลดลง ด้วยการผลักดันให้ลูกค้ามาใช้บริการ 3G-2.1GHZ ส่งผลให้ต้นทุนค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ลดลงเหลือ 5.25% ของรายได้จาก 20-30% บนระบบสัญญาร่วมการงานเดิม ทำให้บริษัทคาดว่า เซอร์วิส อีบิทด้ามาร์จิน จะเพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปีก่อน
อัตรากำไรจากการขายมือถือยังมีแนวโน้มลดลงจากการให้โปรโมชั่นและส่วนลดแก่ลูกค้า แม้มือถือ ‘AIS SUPER COMBO’ ขายได้เกินเป้ามาก ทำให้คาดว่าอีบิทด้ามาร์จินรวมจะโตขึ้น 1% เทียบกับปีก่อน
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20141104/615210/ดีแทครับรายได้บริการลด2.html
______________________________
เอไอเอส ผุด “You Mobile” ให้ลูกค้าเลือกสลับค่าโทร.-เน็ตได้ตลอดเวลา
เอไอเอส เปิดรูปแบบบริการออนไลน์ใหม่ “You Mobile” เพิ่มเป็นซับแบรนด์ที่ 3 เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการออนไลน์ ชูความโดดเด่นให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนค่าโทร. ค่าเน็ต ได้ตามความต้องการตลอดเวลา หวังช่วยเพิ่มค่าบริการลูกค้าในระบบเติมเงิน
นายฮุย เวง ชอง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างสูง มีการนำบริการใหม่ๆ เข้ามาให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเทรนด์ของ Internet of thing (IOT) เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคง่ายขึ้น
เอไอเอส จึงมีการเปิด “YOU! Mobile” รูปแบบการให้บริการมือถือออนไลน์แนวคิดใหม่รายแรกในโลก ที่ให้ลูกค้าสามารถออกแบบแพกเกจ และสลับ ค่าโทร. ค่าเน็ตไปมาได้เอง ตลอดเวลาที่ต้องการ แตกต่างจากแพกเกจอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน โดยบริการ You Mobile เป็นการให้บริการในระบบเติมเงิน ถือเป็นซับแบรนด์ใหม่ของเอไอเอส ที่ปัจจุบันมีให้บริการระบบรายเดือนคือ เอไอเอส ระบบเติมเงิน คือ วันทูคอล และล่าสุดคือ ระบบเติมเงินออนไลน์ภายใต้ชื่อ You Mobile โดยใช้งบในการโปรโมต และให้ความรู้แก่ตลาดราว 100-200 ล้านบาทตั้งแต่ตอนนี้จนถึงช่วงปลายปี 2558
“คาดว่าค่าเฉลี่ยการใช้บริการของ You Mobile จะสูงกว่าลูกค้าวันทูคอล เพราะลูกค้าที่มาใช้งาน You Mobile จะเป็นลูกค้าที่ใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ทำให้ค่าบริการเฉลี่ยจะสูงขึ้น และช่วยทำให้ ARPU ของลูกค้าเติมเงินในระบบสูงขึ้นด้วย”
เบื้องต้น การใช้บริการ You Mobile จะต้องทำการซื้อซิมการ์ดใหม่เท่านั้น โดยช่วงแรกถือว่าอยู่ในช่วงทดลองตลาดเพื่อนำความคิดเห็นของผู้ใช้งานมาปรับปรุงพัฒนาให้ต่อเนื่อง ส่วนในอนาคตเมื่อระบบเสร็จแล้วก็อาจจะเพิ่มรูปแบบการย้ายค่ายเข้ามาใช้บริการ You Mobile ได้ต่อไป
สำหรับ You Mobile จะเริ่มจากให้ลูกค้าเลือกแพกเกจหลักก่อน (Design) เริ่มต้นที่ 99-1,000 บาท โดยสามารถปรับเลือกสัดส่วนปริมาณค่าโทร. กับปริมาณอินเทอร์เน็ตได้ตามความต้องการ ซึ่งเมื่อใช้งานไปแล้วยังเหลือปริมาณค่าโทร. หรือค่าเน็ตสูงเกินไปก็สามารถสลับสับเปลี่ยน (Swop) ผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อแพกเกจเสริมค่าเน็ตในราคา 129-799 บาท ได้อินเทอร์เน็ตเพิ่ม 150 MB - 12 GB หรือเลือกซื้อโซเชียลท็อปปิ้งเพิ่มเพื่อใช้งานเฟซบุ๊ก วอสทแอป วีแชท ไลน์ ไม่อั้น แบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนเพิ่มได้อีก ที่สำคัญคือ ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมผ่านwww.youonline.net หรือผ่านโมบาย แอป YOU! Account ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา แบบทันทีทันใด (Real Time) หรือเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดการใช้งานย้อนหลังได้ทันทีด้วย
ทั้งนี้ จากการประกาศผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 มีจำนวนลูกค้าในระบบทั้งหมด 43.8 ล้านราย โดยเป็นลูกค้าในระบบ 3G 2.1 GHz อยู่ที่ 38.7 ล้านเลขหมาย คิดเป็นสัดส่วนราว 88% ของลูกค้าทั้งหมด ส่วนลูกค้าบนระบบ 900 MHz อยู่ที่ 5.1 ล้านเลขหมาย ขณะที่ปริมาณเครื่องที่รองรับการใช้งาน 3G 2.1 GHz ในระบบเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านราย จาก 16 ล้านรายในไตรมาสที่ผ่านมาคิดเป็นสัดส่วน 49% ของลูกค้า 3G
ในส่วนของค่าบริการเลขหมายเฉลี่ยต่อรายต่อเดือน (ARPU) สำหรับระบบรายเดือนอยู่ที่ 625 บาท ส่วนลูกค้าเติมเงินอยู่ที่ 169 บาท ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา 3.4% ส่วนผลประกอบการในไตรมาสนี้ ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายอยู่ที่ 29,382 ล้านบาท ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจนถึงสิ้นปีจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1-2%
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000127069
___________________________
นายชวิต แสงอุดมเลิศ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ สายงานการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) กล่าวว่า ทั้งนี้ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น แจ้งผลกำไรงวด 9 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ในไตรมาส 3 ลดลงเล็กน้อยเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน อันเป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการ ขณะที่รายได้จากการบริการเสียงและบริการข้ามแดนอัตโนมัติลดลง
กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ เท่ากับ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 9% ในขณะที่อีบิทดามาร์จิน เพิ่มขึ้นเป็น 36.8% จาก 31.6% ในปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลเฉพาะกาล 1.567 บาทต่อหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ เทียบเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 144%
แอดวานซ์โชว์งบไตรมาส 3 กำไร 8.95 พันล้านบาท
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 8,955.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 8,340.98 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 26,911.28 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27,458.18 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 ถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 8.6-8.8 พันล้านบาท
บริษัท ระบุว่า รอบ 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้จากการให้บริการเติบโต 0.5% เทียบกับปีก่อน ยังคงคาดรายได้จากการให้บริการทั้งปีจะโตขึ้น 1-2% แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช้ากว่าเป้า โดยคาดรายได้จะเติบโตในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งโดยปกติเป็นไตรมาสที่มีการใช้งานสูงที่สุด
การเติบโตดังกล่าว จะยังคงถูกขับเคลื่อนโดยการใช้งานดาต้าที่เติบโตด้วยอัตราเร่ง แม้การใช้บริการเสียงจะลดลง ด้วยการผลักดันให้ลูกค้ามาใช้บริการ 3G-2.1GHZ ส่งผลให้ต้นทุนค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ลดลงเหลือ 5.25% ของรายได้จาก 20-30% บนระบบสัญญาร่วมการงานเดิม ทำให้บริษัทคาดว่า เซอร์วิส อีบิทด้ามาร์จิน จะเพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปีก่อน
อัตรากำไรจากการขายมือถือยังมีแนวโน้มลดลงจากการให้โปรโมชั่นและส่วนลดแก่ลูกค้า แม้มือถือ ‘AIS SUPER COMBO’ ขายได้เกินเป้ามาก ทำให้คาดว่าอีบิทด้ามาร์จินรวมจะโตขึ้น 1% เทียบกับปีก่อน
ในส่วนของค่าบริการเลขหมายเฉลี่ยต่อรายต่อเดือน (ARPU) สำหรับระบบรายเดือนอยู่ที่ 625 บาท ส่วนลูกค้าเติมเงินอยู่ที่ 169 บาท ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา 3.4% ส่วนผลประกอบการในไตรมาสนี้ ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายอยู่ที่ 29,382 ล้านบาท ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจนถึงสิ้นปีจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1-2%
______________________________
ดีแทครับรายได้บริการลด2%
"ดีแทค" รับรายได้การบริการปีนี้ต่ำกว่าปีที่แล้ว 2% เผย 9 เดือนพบสัญญาณรายได้ลดชัดเหตุผู้บริโภคหันใช้ข้อมูล
นายชวิต แสงอุดมเลิศ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ สายงานการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) กล่าวว่า รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ปี 2557 จะลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 2% โดยเป็นการประเมินจากรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ที่เห็นการลดลงที่ชัดเจน จึงคาดว่าทั้งปีนี้ตัวเลขรายได้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับงวด 9เดือน
ทั้งนี้ ปี 2556 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย อยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท และ 9 เดือนแรก ปี 2557 มีรายได้จากการบริการ ไม่รวมค่าโครงข่ายอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท
"จริงๆ ตอนต้นปีมีการประเมินไว้ที่ 5% และในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ปรับลดประมาณการลง เป็นเท่ากับปีก่อน และในไตรมาส 3 ซึ่งก็มีภาพที่ชัดเจนว่ารายได้จากการบริการมีการปรับลดลงชัดเจน งวด 9 เดือนลดลง 2% เชื่อว่าทั้งปีก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน"
สาเหตุที่รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย เป็นผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะผู้บริโภคด้านบริการเสียงที่ค่อนข้างทรงตัวและลดลง ส่วนบริการข้อมูลมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ นายชวิต ยอมรับว่า บริษัทประเมินพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ตรงตามความเป็นจริง โดยก่อนหน้านี้บริษัทประเมินว่าบริการด้านข้อมูลน่าจะเติบโต แต่ข้อเท็จจริงคือบริการด้านเดคต้าเติบโตมากกว่าคาดการณ์ถึง 2-3 เท่า ทำให้บริษัทขยายโครงข่ายในส่วนของสัญญาณการให้บริการข้อมูลไม่ทัน จึงสูญเสียโอกาสทางการตลาด
"ผู้บริโภคยังมีความต้องการในการใช้บริการข้อมูลอยู่ค่อนข้างมาก ไตรมาส 3/2557 บริษัทมีสัดส่วนการให้บริการไม่รวมโครงข่ายอยู่ที่ 42% ส่วนบริการเสียงอยู่ที่ 50% และที่เหลือจะเป็นรายได้จากบริการข้ามแดนอัตโนมัติ แต่ในอนาคตคาดรายได้จากการให้บริการไม่รวมโครงข่ายจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง"
นายชวิต กล่าวว่า ไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทจัดสรรงบลงทุน 4.4 พันล้านบาท สำหรับลงทุนโครงข่าย 3จี เพื่อรองรับการเติบโตของบริการข้อมูล ปีนี้บริษัทจัดสรรงบลงทุนขั้นต่ำ 1.3 หมื่นล้านบาท 9 เดือนแรกใช้งบไปแล้ว 9.6 พันล้านบาท ที่เหลือจะใช้ในไตรมาส 4 ปีนี้ และไตรมาส 1 ปี 2588
สำหรับอีบิทด้ามาร์จินทั้งปีนี้ บริษัทยังคงเป้าที่ 35-37% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 32% สาเหตุมาจากการลดต้นทุนภายใน โดยงวด 9 เดือนแรก บริษัทมีอีบิทด้ามาร์จินที่ 36.8% ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
"ยอมรับว่า ไตรมาส 4 ปีนี้ อิบิทดามาร์จิ้นจะลดลงเล็กน้อย เพราะเป็นไตรมาสที่มีการใช้งบการตลาดสูง รวมทั้งการที่โทรศัพท์ไอโฟน 6 ที่เปิดตัวก็เป็นสินค้าที่มีมาร์จินไม่สูง"นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวเพิ่มว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมผู้ให้บริการโครงข่ายการสื่อสารในประเทศ น่าจะการเติบโตในทิศทางเดียวกับบริษัท เนื่องจากที่ผ่านมามีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะบริการข้อมูล ที่มีแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด ซึ่งทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ทั้งนี้ บริษัทจะพยายามปรับเปลี่ยนคติของผู้บริโภค จากการนิยมใช้แพ็คเกจและยอมรับการใช้บริการที่ให้ความเร็วลดลง เป็นการยอมมีค่าใช้จ่ายจากการใช้อินเตอร์เน็ตเกินแพ็คเกจแต่ความเร็วในการใช้เท่าเดิม แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
สำหรับแนวโน้มปี 2558 บริษัทเชื่อว่า รายได้จากการบริการ ไม่รวมโครงข่าย จะเติบโตจากปีนี้ แต่จะเติบโตเท่าใด ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจรวมด้วย เพราะธุรกิจด้านสื่อสารจะมีการเติบโตที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น แจ้งผลกำไรงวด 9 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ในไตรมาส 3 ลดลงเล็กน้อยเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน อันเป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการ ขณะที่รายได้จากการบริการเสียงและบริการข้ามแดนอัตโนมัติลดลง
กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ เท่ากับ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 9% ในขณะที่อีบิทดามาร์จิน เพิ่มขึ้นเป็น 36.8% จาก 31.6% ในปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลเฉพาะกาล 1.567 บาทต่อหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ เทียบเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 144%
แอดวานซ์โชว์งบไตรมาส 3 กำไร 8.95 พันล้านบาท
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 8,955.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 8,340.98 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 26,911.28 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27,458.18 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 ถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 8.6-8.8 พันล้านบาท
บริษัท ระบุว่า รอบ 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้จากการให้บริการเติบโต 0.5% เทียบกับปีก่อน ยังคงคาดรายได้จากการให้บริการทั้งปีจะโตขึ้น 1-2% แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช้ากว่าเป้า โดยคาดรายได้จะเติบโตในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งโดยปกติเป็นไตรมาสที่มีการใช้งานสูงที่สุด
การเติบโตดังกล่าว จะยังคงถูกขับเคลื่อนโดยการใช้งานดาต้าที่เติบโตด้วยอัตราเร่ง แม้การใช้บริการเสียงจะลดลง ด้วยการผลักดันให้ลูกค้ามาใช้บริการ 3G-2.1GHZ ส่งผลให้ต้นทุนค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ลดลงเหลือ 5.25% ของรายได้จาก 20-30% บนระบบสัญญาร่วมการงานเดิม ทำให้บริษัทคาดว่า เซอร์วิส อีบิทด้ามาร์จิน จะเพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปีก่อน
อัตรากำไรจากการขายมือถือยังมีแนวโน้มลดลงจากการให้โปรโมชั่นและส่วนลดแก่ลูกค้า แม้มือถือ ‘AIS SUPER COMBO’ ขายได้เกินเป้ามาก ทำให้คาดว่าอีบิทด้ามาร์จินรวมจะโตขึ้น 1% เทียบกับปีก่อน
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20141104/615210/ดีแทครับรายได้บริการลด2.html
______________________________
เอไอเอส ผุด “You Mobile” ให้ลูกค้าเลือกสลับค่าโทร.-เน็ตได้ตลอดเวลา
เอไอเอส เปิดรูปแบบบริการออนไลน์ใหม่ “You Mobile” เพิ่มเป็นซับแบรนด์ที่ 3 เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการออนไลน์ ชูความโดดเด่นให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนค่าโทร. ค่าเน็ต ได้ตามความต้องการตลอดเวลา หวังช่วยเพิ่มค่าบริการลูกค้าในระบบเติมเงิน
นายฮุย เวง ชอง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างสูง มีการนำบริการใหม่ๆ เข้ามาให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเทรนด์ของ Internet of thing (IOT) เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคง่ายขึ้น
เอไอเอส จึงมีการเปิด “YOU! Mobile” รูปแบบการให้บริการมือถือออนไลน์แนวคิดใหม่รายแรกในโลก ที่ให้ลูกค้าสามารถออกแบบแพกเกจ และสลับ ค่าโทร. ค่าเน็ตไปมาได้เอง ตลอดเวลาที่ต้องการ แตกต่างจากแพกเกจอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน โดยบริการ You Mobile เป็นการให้บริการในระบบเติมเงิน ถือเป็นซับแบรนด์ใหม่ของเอไอเอส ที่ปัจจุบันมีให้บริการระบบรายเดือนคือ เอไอเอส ระบบเติมเงิน คือ วันทูคอล และล่าสุดคือ ระบบเติมเงินออนไลน์ภายใต้ชื่อ You Mobile โดยใช้งบในการโปรโมต และให้ความรู้แก่ตลาดราว 100-200 ล้านบาทตั้งแต่ตอนนี้จนถึงช่วงปลายปี 2558
“คาดว่าค่าเฉลี่ยการใช้บริการของ You Mobile จะสูงกว่าลูกค้าวันทูคอล เพราะลูกค้าที่มาใช้งาน You Mobile จะเป็นลูกค้าที่ใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ทำให้ค่าบริการเฉลี่ยจะสูงขึ้น และช่วยทำให้ ARPU ของลูกค้าเติมเงินในระบบสูงขึ้นด้วย”
เบื้องต้น การใช้บริการ You Mobile จะต้องทำการซื้อซิมการ์ดใหม่เท่านั้น โดยช่วงแรกถือว่าอยู่ในช่วงทดลองตลาดเพื่อนำความคิดเห็นของผู้ใช้งานมาปรับปรุงพัฒนาให้ต่อเนื่อง ส่วนในอนาคตเมื่อระบบเสร็จแล้วก็อาจจะเพิ่มรูปแบบการย้ายค่ายเข้ามาใช้บริการ You Mobile ได้ต่อไป
สำหรับ You Mobile จะเริ่มจากให้ลูกค้าเลือกแพกเกจหลักก่อน (Design) เริ่มต้นที่ 99-1,000 บาท โดยสามารถปรับเลือกสัดส่วนปริมาณค่าโทร. กับปริมาณอินเทอร์เน็ตได้ตามความต้องการ ซึ่งเมื่อใช้งานไปแล้วยังเหลือปริมาณค่าโทร. หรือค่าเน็ตสูงเกินไปก็สามารถสลับสับเปลี่ยน (Swop) ผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อแพกเกจเสริมค่าเน็ตในราคา 129-799 บาท ได้อินเทอร์เน็ตเพิ่ม 150 MB - 12 GB หรือเลือกซื้อโซเชียลท็อปปิ้งเพิ่มเพื่อใช้งานเฟซบุ๊ก วอสทแอป วีแชท ไลน์ ไม่อั้น แบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนเพิ่มได้อีก ที่สำคัญคือ ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมผ่านwww.youonline.net หรือผ่านโมบาย แอป YOU! Account ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา แบบทันทีทันใด (Real Time) หรือเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดการใช้งานย้อนหลังได้ทันทีด้วย
ทั้งนี้ จากการประกาศผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 มีจำนวนลูกค้าในระบบทั้งหมด 43.8 ล้านราย โดยเป็นลูกค้าในระบบ 3G 2.1 GHz อยู่ที่ 38.7 ล้านเลขหมาย คิดเป็นสัดส่วนราว 88% ของลูกค้าทั้งหมด ส่วนลูกค้าบนระบบ 900 MHz อยู่ที่ 5.1 ล้านเลขหมาย ขณะที่ปริมาณเครื่องที่รองรับการใช้งาน 3G 2.1 GHz ในระบบเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านราย จาก 16 ล้านรายในไตรมาสที่ผ่านมาคิดเป็นสัดส่วน 49% ของลูกค้า 3G
ในส่วนของค่าบริการเลขหมายเฉลี่ยต่อรายต่อเดือน (ARPU) สำหรับระบบรายเดือนอยู่ที่ 625 บาท ส่วนลูกค้าเติมเงินอยู่ที่ 169 บาท ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา 3.4% ส่วนผลประกอบการในไตรมาสนี้ ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายอยู่ที่ 29,382 ล้านบาท ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจนถึงสิ้นปีจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1-2%
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000127069
___________________________
ไม่มีความคิดเห็น: