10 พฤศจิกายน 2557 AIS.ฐิติพงศ์ ระบุ ปัจจุบันสัดส่วนของสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มีราคาต่ำกว่า 6,000 บาท มีมากถึง 67% ซึ่งปัจจัยการเติบโตมาจากเรื่องของเครือข่ายโซเชียลมีเดีย
ประเด็นหลัก
ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนของสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มีราคาต่ำกว่า 6,000 บาท มีมากถึง 67% ซึ่งปัจจัยการเติบโตมาจากเรื่องของเครือข่ายโซเชียลมีเดียและราคาที่ทำให้แบรนด์มือถือจำนวนมากเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาด ขณะเดียวกัน หลังจากการควบรวมบริษัทของไมโครซอฟท์กับโนเกียที่ยังไม่มีแผนชัดเจน ยิ่งเป็นโอกาสของแบรนด์สมาร์ทโฟนอีกมากที่จะเข้ามาแข่งขันเพื่อชิงฐานลูกค้าเดิมของโนเกีย
"เอไอเอสเห็นแนวโน้มการเติบโตของสมาร์ทโฟนราคาถูกมากขึ้น จึงจัดโปรโมชั่นขายสมาร์ทโฟน พร้อมแพ็กเกจทั้งรุ่น LAVA และ NEX ซึ่งลูกค้าในต่างจังหวัดให้ความสนใจมาก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่เติบโตดีมาก และในปีหน้าจะออกโปรโมชั่นใหม่ๆ มาเสริมฐานลูกค้าสมาร์ทโฟนให้มากขึ้น เพราะปัญหาใหญ่ของลูกค้าที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องแรกคือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร จะเลือกแพ็กเกจแบบไหน สเปกเครื่องควรเป็นอย่างไร การขายเครื่องพร้อมแพ็กเกจจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้"
สอดคล้องกับผลการสรุปยอดขายในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2014 ที่ผ่านมา ที่มียอดเงินสะพัดเพิ่มขึ้นอีก 20% จากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 10% โดยได้อานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระดับกลาง-ระดับ ล่าง จากเดิมที่เน้นเลือกซื้อสมาร์ทโฟนราคาประหยัด เพียงอย่างเดียว ก็เริ่มมองสินค้าที่ราคาสูงขึ้นไป พร้อมๆ กันด้วย
______________________________
สมาร์ทโฟนราคาถูกแข่งดุ มือถือจีนแรงจ่อแซงทางโค้ง
โดย...ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ
สมาร์ทโฟนราคาถูกแข่งดุ มือถือจีนแรงจ่อแซงทางโค้ง
ความต้องการโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว ซึ่งปีนี้กลุ่มสมาร์ทโฟนราคาถูกจากจีนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จนเรียกได้ว่าอาจแซงหน้าตลาดสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังกันเลยทีเดียว สะท้อนได้ว่าคนไทยเริ่มมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ฝั่งของโอเปอเรเตอร์ ก็มองเห็นความ ต้องการของสินค้าเหล่านี้ในตลาด ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาถูกและใช้งานสัญญาณที่ครอบคลุมเพื่อรับการผลัดเปลี่ยนฐานลูกค้าจาก 2จี มาเป็น 3จี กันมากขึ้น
ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนของสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มีราคาต่ำกว่า 6,000 บาท มีมากถึง 67% ซึ่งปัจจัยการเติบโตมาจากเรื่องของเครือข่ายโซเชียลมีเดียและราคาที่ทำให้แบรนด์มือถือจำนวนมากเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาด ขณะเดียวกัน หลังจากการควบรวมบริษัทของไมโครซอฟท์กับโนเกียที่ยังไม่มีแผนชัดเจน ยิ่งเป็นโอกาสของแบรนด์สมาร์ทโฟนอีกมากที่จะเข้ามาแข่งขันเพื่อชิงฐานลูกค้าเดิมของโนเกีย
"เอไอเอสเห็นแนวโน้มการเติบโตของสมาร์ทโฟนราคาถูกมากขึ้น จึงจัดโปรโมชั่นขายสมาร์ทโฟน พร้อมแพ็กเกจทั้งรุ่น LAVA และ NEX ซึ่งลูกค้าในต่างจังหวัดให้ความสนใจมาก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่เติบโตดีมาก และในปีหน้าจะออกโปรโมชั่นใหม่ๆ มาเสริมฐานลูกค้าสมาร์ทโฟนให้มากขึ้น เพราะปัญหาใหญ่ของลูกค้าที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องแรกคือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร จะเลือกแพ็กเกจแบบไหน สเปกเครื่องควรเป็นอย่างไร การขายเครื่องพร้อมแพ็กเกจจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้"
สอดคล้องกับผลการสรุปยอดขายในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2014 ที่ผ่านมา ที่มียอดเงินสะพัดเพิ่มขึ้นอีก 20% จากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 10% โดยได้อานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระดับกลาง-ระดับ ล่าง จากเดิมที่เน้นเลือกซื้อสมาร์ทโฟนราคาประหยัด เพียงอย่างเดียว ก็เริ่มมองสินค้าที่ราคาสูงขึ้นไป พร้อมๆ กันด้วย
"เอซุส Zenphone 5 ราคาขายในงานต่ำกว่า 5,000 บาท เป็นอีกรุ่นที่ถือว่าขายดีมาก และมีทั้งการซื้อในงานและสั่งจองหลังจบงาน ส่วนแบรนด์จีนที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง อาจจะมีหลายแบรนด์แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังอยู่ในช่วงการเรียนรู้ตลาด ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีมากนักอาจจะไม่กังวลว่าเป็นแบรนด์ยี่ห้อใด แต่ถ้าซื้อใช้เป็นเครื่องสำรองหรือ มีประสบการณ์ใช้งานสมาร์ทโฟนมาบ้างแล้วจะมอง ที่ความสามารถของเครื่องก่อน"
ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดห้างสรรพสินค้า มาบุญครองที่มีการวางขายสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนแบรนด์จีน พบว่า ความนิยมในสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนเริ่มสูงขึ้น ลูกค้าไม่ได้ตั้งแง่ว่าจะต้องเป็นแบรนด์ชั้นนำเท่านั้น แต่มองว่าสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างดี รวมถึงการใช้งานโซเชียล ก็เป็นอีกเหตุผล ที่ต้องมีสมาร์ทโฟนไว้ใช้งาน จากเดิมที่ใช้เพียงโทรคุยและรับสายเท่านั้น
"ลูกค้าที่มาเดินดูสินค้าส่วนใหญ่ต้องการแค่เครื่องที่ใช้งานง่าย ราคาที่มาถามหาก็จะมีตั้งแต่ 1,000 บาทเป็นต้นไป ส่วนยี่ห้อก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ชื่อดังอย่างไอโฟนหรือซัมซุงแล้ว พวกหัวเว่ย ออปโป้ ZTE หรือจีเนท ยังคงมีขายอยู่ แต่รุ่นที่ขายดีมากคือเอซุส Zenphone ตั้งแต่รุ่น 4 ขึ้นไป ขายดีมาก ต้องยอมรับว่าช่วง 4-5 เดือนมานี้ เอเซอร์ เลอโนโวและเอซุสเป็นแบรนด์ที่ต้องจับตามองและยังมีคนมาถามหาเรื่อยๆ เพราะใช้งานง่าย กล้องถ่ายภาพออกมาดี เข้าใช้งานแอพต่างๆ สะดวก"
นอกจากนี้ แบรนด์จีนที่ยังไม่ได้มีการเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ แต่ดังในช่องทางออนไลน์ อย่าง เซียวมี่ (Xiaomi) ก็เป็นที่นิยมมากจนของขาดตลาด หลังจากนำเข้า Mi3 ราคา 8,800 บาท และ Redmi ราคา 6,000 บาท เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา พบว่าตอนนี้สินค้าขาดตลาดและเริ่มมีแบรนด์ Vivo, Wiko, iMi เข้ามาวางขายแทน
"สมาร์ทโฟนที่ไม่ได้ออกสื่อมากนัก เช่น วีโว เจโฟน เบนคิว เวิร์ลเทคและเวิร์ลจี ก็มีคนมาถามเรื่อยๆ เพราะบางครั้งแบรนด์ก็อาจไม่ได้ให้สเปก เครื่องสูงๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ ราคาที่ลูกค้าซื้อไหวจะอยู่ที่ 2,000-5,000 บาท หรือไม่ก็จะซื้อรุ่นที่ยอดนิยมไปเลยอย่างไอโฟน 6 ที่จะขายถูกกว่าโอเปอเรเตอร์ไม่ต้องติดสัญญารายปีและยังซ่อมศูนย์บริการชั้นนำได้ด้วย"
ต้องจับตาดูกันว่า ตลาดสมาร์ทโฟนราคาถูกจะเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อีกมากแค่ไหน เพราะแค่ ปลายปี หลังจบเหตุการณ์ทางการเมืองก็เริ่มมีแบรนด์สินค้ารุ่นใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดจำนวนมาก และยังมีอีกหลายแบรนด์ที่จ่อจะเข้ามาเปิดตัว แต่ที่แน่ๆ ปีหน้าตลาดสมาร์ทโฟนจะแข่งดุเดือดมากกว่า ปีนี้แน่นอน
http://www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/329123/สมาร์ทโฟนราคาถูกแข่งดุ-มือถือจีนแรงจ่อแซงทางโค้ง
ไม่มีความคิดเห็น: