Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

01 ธันวาคม 2557 ZTE.เจเรมี่ ระบุ ประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพในการเติบโตด้านสมาร์ทโฟนสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ มาจากการที่ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนมือถือระบบ 2 จี ไปสู่ 3 จี ถือว่าสมาร์ทโฟนยังมีความต้องการที่สูงมาก

ประเด็นหลัก


นายเจเรมี่ จ้าว ประธานบริหารฝ่ายธุรกิจมือถือประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แซดทีอี กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพในการเติบโตด้านสมาร์ทโฟนสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ มาจากการที่ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนมือถือระบบ 2 จี ไปสู่ 3 จี ถือว่าสมาร์ทโฟนยังมีความต้องการที่สูงมากทำให้เลือกที่จะเข้ามาทำตลาดไทยผ่านโอปเรเตอร์โดยตรง ด้วยการทำตลาดแบบบีทูบี (B2B) คือการเข้าไปเจรจากับโอปเรเตอร์ที่ต้องการไมเกรดลูกค้าตรงก่อน ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยไว้ที่ 1 ล้านเครื่อง เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งในตลาดราว 5%


______________________________







?แซดทีอีมั่นใจปีหน้าได้ยอด 2 ล้านเครื่อง?
กลยุทธ์การทำตลาดจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าทั้งประสิทธิภาพ ราคา และวัสดุ ส่งผลให้แซดทีอีได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5 รุ่น คือ ZTE Kis 3 (V811w), ZTE Blade L2, ZTE Blade VEC, ZTE Blade V5 และ ZTE Star 1


“แซดทีอี” รองรับเครือข่าย 3 จี ตั้งเป้าปีหน้าขายสมาร์ทโฟนแบรนด์แซดทีอีได้ถึง 2 ล้านเครื่อง ดึงส่วนแบ่งตลาด 10% ปีหน้าเตรียมวางขายสมาร์ทโฟน 4 จีอีก 5รุ่น

นายเจเรมี่ จ้าว ประธานบริหารฝ่ายธุรกิจมือถือประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แซดทีอี กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพในการเติบโตด้านสมาร์ทโฟนสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ มาจากการที่ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนมือถือระบบ 2 จี ไปสู่ 3 จี ถือว่าสมาร์ทโฟนยังมีความต้องการที่สูงมากทำให้เลือกที่จะเข้ามาทำตลาดไทยผ่านโอปเรเตอร์โดยตรง ด้วยการทำตลาดแบบบีทูบี (B2B) คือการเข้าไปเจรจากับโอปเรเตอร์ที่ต้องการไมเกรดลูกค้าตรงก่อน ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยไว้ที่ 1 ล้านเครื่อง เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งในตลาดราว 5%

กลยุทธ์การทำตลาดจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าทั้งประสิทธิภาพ ราคา และวัสดุ ส่งผลให้แซดทีอีได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5 รุ่น คือ ZTE Kis 3 (V811w), ZTE Blade L2, ZTE Blade VEC, ZTE Blade V5 และ ZTE Star 1 ที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถจับกลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลาย พร้อมไปกับการกระจายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายทั้งรีเทล โมเดิร์นเทรด รวมถึงร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถืออย่างเจมาร์ท และร้านค้าทั่วไป และเปิดช่องทางจำหน่ายสมาร์ทโฟนผ่านระบบออนไลน์ของ Shop@7 และ Lazada ในรุ่น ZTE Kis 3 ที่เป็นสมาร์ทโฟนราคาถูกที่สุด เพื่อทดลองตลาดก่อนที่จะขยายไปยังสินค้าระดับกลาง และบนมากขึ้นในอนาคต

“แซดทีอี จะเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อตลาดแบบบีทูซี (B2C) เพิ่มมากขึ้น รวมถึงบริการหลังการขาย โดยจะเปิดช็อปของแซดทีอีเอง 5 แห่ง พร้อมร่วมกับพาร์ตเนอร์อีกกว่า 200 สาขา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ต้นปีหน้า จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน แอลทีอี รองรับ 4 จี อีกประมาณ 5 รุ่น คาดว่าปี 58 จะจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์แซดทีอี ได้ถึง 2 ล้านเครื่อง” นายเจเรมี่ กล่าว.

http://www.dailynews.co.th/Content/IT/283726/แซดทีอีมั่นใจปีหน้าได้ยอด+2+ล้านเครื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.