Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

22 พฤศจิกายน 2558 GMM เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนของปีนี้ว่า มีรายได้รวม 7,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 143 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 108 จากที่มีผลขาดทุน 1,869 ล้านบาท

ประเด็นหลัก



นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ แกรมมี่ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนของปีนี้ว่า มีรายได้รวม 7,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 143 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 108 จากที่มีผลขาดทุน 1,869 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2557 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างองค์กร และการเพิ่มศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจหลัก ทั้งเพลงและทีวีดิจิทัล

สำหรับธุรกิจเพลง ยังคงมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีรายได้ 2,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ รวมทั้งการเปลี่ยนวิธีการทำงาน จากเดิมที่เน้น Music Business ไปสู่ Idol Business ส่งผลให้บริษัทฯสามารถขยายช่องทางการสร้างรายได้ครอบคลุม 360 องศา และมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในส่วนของเมอร์ชั่นไดซิ่งที่กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มแฟนคลับ



ส่วนช่องทางมิวสิค สตรีมมิ่ง (Music Streaming) ทั้งช่องทางของ YouTube, iTune Music Store, KKBOX และ Line Music ล้วนเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่องทางใหม่อย่าง Social Media ทั้งเฟสบุค และอิสตราแกรม ของศิลปินแกรมมี่ทั้งหมดที่ขณะนี้มียอดผู้ติดตามรวมมากกว่า 50 ล้านคน ก็เป็นอีกช่องทางที่ทรงพลังและสร้างรายได้เพิ่มได้อย่างมีนัยสำคัญ



__________________




"แกรมมี่" โชว์กำไรหลังปรับโครงสร้างธุรกิจ

]
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ แกรมมี่ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนของปีนี้ว่า มีรายได้รวม 7,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 143 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 108 จากที่มีผลขาดทุน 1,869 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2557 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างองค์กร และการเพิ่มศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจหลัก ทั้งเพลงและทีวีดิจิทัล

สำหรับธุรกิจเพลง ยังคงมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีรายได้ 2,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ รวมทั้งการเปลี่ยนวิธีการทำงาน จากเดิมที่เน้น Music Business ไปสู่ Idol Business ส่งผลให้บริษัทฯสามารถขยายช่องทางการสร้างรายได้ครอบคลุม 360 องศา และมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในส่วนของเมอร์ชั่นไดซิ่งที่กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มแฟนคลับ



ส่วนช่องทางมิวสิค สตรีมมิ่ง (Music Streaming) ทั้งช่องทางของ YouTube, iTune Music Store, KKBOX และ Line Music ล้วนเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่องทางใหม่อย่าง Social Media ทั้งเฟสบุค และอิสตราแกรม ของศิลปินแกรมมี่ทั้งหมดที่ขณะนี้มียอดผู้ติดตามรวมมากกว่า 50 ล้านคน ก็เป็นอีกช่องทางที่ทรงพลังและสร้างรายได้เพิ่มได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในขณะที่ธุรกิจด้านโชว์บิซ และการบริหารสิทธิ์ก็มีอัตราการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคเข้าถึงการฟังเพลงได้ง่ายขึ้นจากหลากหลายช่องทาง ส่งผลให้ธุรกิจโชว์บิซ ไม่ว่าจะเป็นการจัดงานขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงการจัดคอนเสิร์ต และงานขนาดใหญ่อย่างมิวสิคเฟสติวัล ก็ได้รับการตอบรับที่ดี มีการนำเพลงของแกรมมี่ไปใช้อย่างกว้างขวาง จึงส่งผลให้การบริหารสิทธิ์มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ธุรกิจทีวีดิจิทัลทั้ง 2 ช่อง คือ ช่อง One มีรายได้เติบโตทั้งด้านรายได้และเรทติ้งที่ดีขึ้นตามลำดับ เป็นผลจากการให้ความสำคัญกับการปรับผังอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับช่อง GMM 25 หลังจากลุยละครโปรเจคท์ "Club Friday the Series"

นอกจากนี้ ธุรกิจอื่น ๆ ของแกรมมี่ที่มีผลประกอบการโดดเด่นต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจ Home Shopping มีรายได้กว่า 1,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 62 และเชื่อมั่นว่าแม้กำลังซื้อยังชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ แต่กลยุทธ์ของบริษัท คือ การเพิ่มรายการสินค้าที่แตกต่างและหลากหลาย การบริการทั้งการส่งสินค้าและการชำระเงิน และการเพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์และสมาร์ทโฟน ทำให้คนรู้จักและเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น



http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1447744075

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.