Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

25 พฤษภาคม 2559 กลุ่มสามารถ เปิดให้บริการ MVNO บนเครือข่ายของ CAT ในชื่อ Open MVNO โดยล็อตแรกตั้งเป้า 2 แสนซิม ส่วนธุรกิจมือถือ ไตรมาส 2 จะมี 3 รุ่นที่ออกจำหน่าย

ประเด็นหลัก






นอกจากนี้ จะปรับโฉมร้านใหม่ภายใต้แบรนด์ OPEN SHOP เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและเป็นศูนย์รวมของโทรศัพท์มือถือและ Lifestyle Gadgetมากมาย โดยตั้งเป้าทยอยปรับเปลี่ยนร้านทั้งหมด จำนวน 28 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดให้บริการ MVNO บนเครือข่ายของ CAT ในชื่อ Open MVNO โดยล็อตแรกตั้งเป้า 2 แสนซิม ส่วนธุรกิจมือถือ ไตรมาส 2 จะมี 3 รุ่นที่ออกจำหน่าย โดยเน้นฟังก์ชัน Android 6.0 (Marshmallow) ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว แบบ Super Bright AMOLED โดยตั้งเป้าจำหน่ายเครื่องที่ 8 แสนเครื่อง




_____________________________________________




กลุ่มสามารถเดินเกมธุรกิจดันรายได้แตะ 2.4 หมื่นล้าน


“กลุ่มสามารถ” เผยไตรมาสแรกมีรายได้ 4,127 ล้านบาท กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 114 ล้านบาทจากการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของสายธุรกิจไอซีทีซึ่งปัจจุบันมีงานอยู่ในมือแล้วกว่า 7.9พันล้านบาท และการขยายตัวของธุรกิจอื่นๆในเครือ มั่นใจรายได้ปีวอกแตะ 2.4 หมื่นล้านบาท

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกกลุ่มบริษัท มีรายได้รวม 4,127 ล้านบาท กำไรสุทธิ 114 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไรเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่ผ่านมา โดย กลุ่มสามารถเทลคอม มีรายได้รวม 1,459 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไรเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา มีงานในมือรวมแล้วกว่า 7,911 ล้านบาทเฉพาะไตรมาสแรกมีตุนแล้วกว่า 1,120 ล้านบาท ล่าสุดชนะประมูลโครงการมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในปลายเดือนนี้ ส่วนกลุ่มสามารถไอ-โมบาย มีรายได้ 1,446 ล้านบาท และกลุ่มสามารถยูทรานส์ มีรายได้ 1,015 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10 % ดังนั้นในปีนี้กลุ่มบริษัทฯเชื่อว่าจะมีรายได้ถึง 2.4 หมื่นล้านบาท

ขณะที่สายธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วย บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด และ บริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด ก็มีรายได้รวม 121 ล้านบาท โดยสาย ICT Solutions นำโดย บมจ.สามารถเทลคอม โดย SAMTEL จะมีโอกาสจากโครงการต่างๆที่เลื่อนประมูลมาปีนี้ รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท และที่สำคัญ SAMTEL ยังได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว จากโครงการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสาร (APPS) มูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาทอีกด้วย

นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่าในส่วนบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) โดยเฉพาะในสายธุรกิจ Mobile-Multimedia อยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายธุรกิจเดิมให้สอดรับกับยุคออนไลน์ โดยจะลดสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือลงให้เหลือเพียง 60% และ ไปเพิ่มรายได้ประจำจากธุรกิจบริการอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ ล่าสุดบริษัท ได้เข้าไปซื้อบริษัท Phoinikas ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Advertising เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจใหม่และสร้างความมั่นคงในอนาคต


นอกจากนี้ จะปรับโฉมร้านใหม่ภายใต้แบรนด์ OPEN SHOP เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและเป็นศูนย์รวมของโทรศัพท์มือถือและ Lifestyle Gadgetมากมาย โดยตั้งเป้าทยอยปรับเปลี่ยนร้านทั้งหมด จำนวน 28 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดให้บริการ MVNO บนเครือข่ายของ CAT ในชื่อ Open MVNO โดยล็อตแรกตั้งเป้า 2 แสนซิม ส่วนธุรกิจมือถือ ไตรมาส 2 จะมี 3 รุ่นที่ออกจำหน่าย โดยเน้นฟังก์ชัน Android 6.0 (Marshmallow) ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว แบบ Super Bright AMOLED โดยตั้งเป้าจำหน่ายเครื่องที่ 8 แสนเครื่อง

ส่วนสายธุรกิจ U-trans ซึ่งประกอบด้วย CATS, Kampot Power Plant และ Teda บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านระบบและเสาส่งไฟฟ้า ล่าสุดคว้างานมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาท ในงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขอนแก่น รวมถึงการจัดหาและก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงในบางเขตของระยอง อ่างทอง และอยุธยา โดยธุรกิจโรงไฟฟ้ายังมีการขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นธุรกิจที่หนุนให้กำไรของกลุ่มมีโอกาสสูงขึ้น คาดว่าภายใน 2 ปีข้างหน้า จะมีโอกาสการเติบโตที่สูงขึ้น จากการรับงานก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าที่เป็นเมกะโปรเจ็กต์ เช่น โครงการพลังงานไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2000 เมกะวัตต์ และโครงการไฟฟ้าขยะในหลายๆ จังหวัด

สำหรับสายธุรกิจ Related Business ล่าสุดสามารถวิศวกรรมเปิดตัวสินค้าใหม่ SAMART Digital Headend Solution หรือ ระบบทีวีรวมดิจิตอล สำหรับอาคารสูงเพื่อรุกธุรกิจดิจิตอลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งเป้ารายได้ ปีนี้ ที่ 100 ล้านบาท มั่นใจ 3 ปี มีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท

เช่นเดียวกับธุรกิจของ บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ มีโอกาสเข้าประมูลอีกหลายโครงการรวมมูลค่ากว่า 570 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโต 10 เปอร์เซ็นต์ ด้วยกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม Insurance & Finance, Airline และ FMCG (Fast Moving Consumer Goods) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง และให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าและการสื่อสารทางการตลาดในวงกว้าง ทางบริษัทจะนำเสนอนวัตกรรมการให้บริการต่างๆ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นการเข้าถึงทางด้านอินเตอร์เน็ตและ Social Media รวมถึงการพัฒนาระบบในการให้บริการ ทั้ง Cloud Contact Center และการจัดการบริหารบริการอื่นๆของลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,157 วันที่ 15 – 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559


http://www.thansettakij.com/2016/05/16/52572

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.