Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

COOLfahrenheit FM93 ยังคงเป็นวิทยุเพลงอันดับ 1 ปีที่ 18 กำไรคาด 500 ลบ. ด้วยฐานคนฟัง Online- APP 4 ล้านราย และ Offline สดจาก FM93 สูง 1.3 ล้านราย



นายปริญญ์ หมื่นสุกแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารสถานี คูล ฟาเรนไฮต์ ในเครือบมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา คูลฟาเรนไฮต์ประสบความสำเร็จไปอีกก้าวกับการทรานฟอร์มบิสิเนสสู่แบรนด์ใหม่ "คูลฟาเรนไฮต์ (COOLfahrenheit)" วางจุดยืนเป็นสถานีเพลงไทยที่นำเสนอ MUSIC LIFESTYLE CONTENT ส่งตรงถึงผู้ฟังทั้งแพลตฟอร์มออนแอร์และออนไลน์ได้ดี ส่งผลให้มียอดผู้ฟังเติบโตสวนกระแสวิทยุโดยรวมที่ชะลอ

ทั้งนี้ จากผลสำรวจจากบริษัท นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ผู้ทำวิจัยชั้นนำระดับโลกระบุว่า มีจำนวนผู้ฟังโดยรวมเพิ่มขึ้นจากจำนวนที่ย้ายมาจากสถานีอื่นๆ ทำให้ปัจจุบันมีฐานผู้ฟังทะลุ 5.3 ล้านราย แบ่งเป็น กลุ่มออนไลน์ 4 ล้านราย และกลุ่มออนแอร์ 1.3 ล้านราย ขณะที่การวัดผลเรตติ้งออนไลน์ หรือ DCR (DIGITAL CONTENT RATING) ระบุว่า มีการรับฟังมากกว่า 420 ล้านนาทีต่อเดือน และจำนวน Session การเข้าฟังสูงถึง 34 ล้านครั้งต่อเดือน ตอกย้ำความเป็นแชมป์สถานีเพลงอันดับ 1 เมืองไทยตลอดกาล

"จากการเติบโตของผู้ฟังออนไลน์ ทำให้เราในฐานะผู้นำตลาดก็อยากริเริ่มตั้งมาตรฐานและยกระดับการวัดผลและประสิทธิภาพของการลงสื่อออนไลน์ที่โปร่งใส น่าเชื่อถือ ไม่มีการเคลมตัวเลขเกินจริง เพราะสามารถแสดงข้อมูลรายละเอียดของผู้ฟังออนไลน์ได้ชัดเจน เป็นการตอบโจทย์ของการทำการตลาดของนักการตลาดยุคใหม่ที่จะให้ความสำคัญกับเซกเมนเทชั่นและดาต้าเบสเป็นอย่างมาก ซึ่งคูลฟาเรนไฮต์เป็นสถานีรายการเพลงไทยที่แรกและที่เดียวในขณะนี้ที่เข้าร่วมกับนีลเส็นฯ จัดทำการวัดผล DCR ข้อดีคือได้ข้อมูลที่ถูกต้องน่าเชื่อถือ และหน่วยของเรตติ้งนับจำนวนคนฟังที่แท้จริง ไม่มีนับซ้ำบนแพลตฟอร์มที่ต่างกัน แถมยังเจาะลึกเห็นข้อมูลโปรไฟล์ที่น่าสนใจ เช่น กลุ่มอายุของผู้ฟัง ช่วงเวลาที่รับฟัง นาทีการรับฟังต่อคน/วัน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ซื้อสื่อของเราสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดคิดกลยุทธ์ได้ รวมทั้งเปรียบเทียบความคุ้มค่าของการเลือกใช้สื่อได้ด้วยเช่นกัน" นายปริญญ์ กล่าว

นายปริญญ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ ทุ่มงบ 100 ล้านบาทรุกตลาดเต็มสูบ ชูคอนเซ็ปต์ใหม่ EVERY MOMENT WITH YOU รุกแทรกซึมด้วย MUSIC LIFESTYLE CONTENT เข้าไปอยู่ในทุกช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตผู้ฟัง โดยมุ่งพัฒนาต่อยอดแอพพลิเคชั่น COOLISM เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่จะเพิ่ม Feature ลูกเล่นใหม่ ๆ นอกเหนือจากจุดแข็งด้านคุณภาพเสียงระบบเสียงชัดแบบ HD ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์กลุ่มคน GEN C ที่ชื่นชอบเสพสื่อออนไลน์มีอายุระหว่าง 20-44 ปี ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ 500 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มุ่งสร้างความจงรักภักดี (Loyalty) และความผูกพัน (Engagement) ระหว่างฐานผู้ฟังกับแบรนด์ จึงใช้ COOLprivilege และ COOLdegree เป็นกลยุทธ์สำคัญ โดย COOLprivilege เป็นการมอบสิทธิพิเศษกับผู้ใช้แอพพลิเคชั่นที่ลงทะเบียนให้ข้อมูลส่วนตัว เพื่อลุ้นรับของรางวัลจากแบรนด์ชั้นนำทุกเดือน ซึ่งกระแสตอบรับดีทั้งในแง่พาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมสนับสนุนรางวัล และในแง่ผู้ฟังสนใจร่วมกิจกรรมเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านครั้งต่อเดือน ขณะที่ COOLdegree เป็นการเปิดโอกาสให้เปลี่ยนทุกนาทีในการรับฟังออนไลน์เป็นคะแนนสะสม เพื่อลุ้นแลกรับของรางวัลและกิจกรรมทุกเดือนตลอดปีก็กระแสตอบรับดีเช่นกัน ซึ่งทั้งสองส่วนที่กล่าวมาทำให้เรามีฐานข้อมูลเชิงไลฟ์สไตล์ของผู้ฟังที่เป็นประโยชน์ สามารถนำมาวิเคราะห์วางแผนทางการตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังคงจัด 2 กิจกรรมที่เป็นซิกเนเจอร์ ได้แก่ COOLouting เพื่อพาผู้ฟังยกออฟฟิคไปเอ้าท์ติ้ง และ กิจกรรมอิ๊งค์ EAT ALL AROUND โดยมีอิ๊งค์ ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัฒน์ เป็นผู้อาสาพาไปชิมอาหารอร่อย ตลอดปี และแคมเปญใหญ่ต่าง ๆ โดยเชื่อมั่นว่าทุกกิจกรรมและแคมเปญที่จัดจะโดนใจผู้ฟังและสามารถรักษาแชมป์สถานีเพลงอันดับ 1 เมืองไทยปีที่ 18

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.