01 กันยายน 2554 คุณจิรายุทธ เคลียร์ทุกข้อหา-ทำเพื่อCAT เสียใจ..เป็นผู้ร้ายถ่วงความเจริญด้านเทคโนโลยีไม่ยอมให้เกิด3G
คุณจิรายุทธ เคลียร์ทุกข้อหา-ทำเพื่อCAT เสียใจ..เป็นผู้ร้ายถ่วงความเจริญด้านเทคโนโลยีไม่ยอมให้เกิด3G
ประเด็นหลัก
ก็คงจะแปลกเพราะทุกคนมองว่า ผม และ กสท เป็นผู้ร้ายถ่วงความเจริญด้านเทคโนโลยีของประเทศ ไม่ยอมให้เกิด 3
จี แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้บทเรียนหลายอย่างที่จะช่วยทำให้การตัดสิน หรือทำอะไรครั้งหน้า ไม่ซ้ำรอยเดิมอีก ต่อไปหากมีโครงการใหญ่ๆ เรื่องใดก็ต้องวางแผนให้ดี ให้ความรู้ความเข้าใจต่อสื่อมวลชน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นยากต่อการอธิบายให้เข้าใจในระยะเวลาสั้นๆ จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาคนมอง กสท ในแง่ลบ"
3จีระหว่าง กสท และทรู ขณะนี้ก็ไม่มีใครกังขาว่าสัญญาดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นไปตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) และพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553
(พ.ร.บ.กสทช.) เพราะสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดก็ตอบมามาแล้วว่าสัญญาดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย เวลาผ่านมาทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น
__________________________________________________________
'จิรายุทธ รุ่งศรีทอง' เคลียร์ทุกข้อหา-ทำเพื่อ'กสท'
ชื่อของ "จิรายุทธ รุ่งศรีทอง" กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท ถูกกล่าวถึงอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2553
หลัง จากซีโออีคนดังเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้ล้มประมูลไลเซ่น 3จีของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ทำให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายถึงกับฝันค้าง
มาถึงเดือนม.ค.2554 เขาเป็นโต้โผใหญ่ทำดีลประวัติศาสตร์กับกลุ่มทรู ในโครงการ 3จีเอชเอสพีเอ อายุสัญญา 14.5 ปีจนเป็นที่มาของการสัญญาฉาว หรือสัมปทานจำแลงที่ถูกโจมตีมาถึงวันนี้ แต่ถึงวันนี้ ขาเก้าอี้ซีอีโอคนดังยังมั่นคงดี แม้จะเปลี่ยนขั้วการเมือง
บทเรียนจากสถานะ"จำเลยสังคม"
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จิรายุทธ บอกว่า กระแสสังคมช่วงล้มประมูล 3จีถือว่าแรงมาก เพราะการประมูลใบอนุญาต (ไลเซ่น)
3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ใกล้ความจริง การประมูลจะเริ่มขึ้นในอีก 2 วัน แต่เขาต้องตัดสินใจทำ ด้วยหากปล่อยให้เกิดการประมูล กสท จะเสียประโยชน์มหาศาล ที่สำคัญคือ การจัดประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก กทช. ยังไม่จัดทำแผนบริหารคลื่นความถี่
ส่วนการที่ กสท ไปลงนามทำสัญญาโครงการ
3จี เอชเอสพีเอ ร่วมกับกลุ่มทรู เป็นที่พูดถึง ตกเป็นจำเลยสังคม รวมทั้งสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ 1-2 เดือนแรก ที่โยงไปถึงการฟ้องศาลปกครองเพื่อล้มประมูล 3จี เพื่อเปิดทางให้ทรูได้ทำ 3จีรายเดียว แต่ถ้ามองอย่างไม่มีอคติ ปัจจุบันผู้ให้บริการทุกรายต่างเปิด 3จีกันหมด ทั้งเอไอเอส ดีแทค กสท ทีโอที และทรูมูฟที่เพิ่งเปิดตัววันที่ 30 ส.ค.25542 เรื่องที่ผ่านมา ถ้าตอบว่าไม่รู้สึกอะไร หรือเฉยๆ ก็คงจะแปลกเพราะทุกคนมองว่า ผม และ กสท เป็นผู้ร้ายถ่วงความเจริญด้านเทคโนโลยีของประเทศ ไม่ยอมให้เกิด 3
จี แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้บทเรียนหลายอย่างที่จะช่วยทำให้การตัดสิน หรือทำอะไรครั้งหน้า ไม่ซ้ำรอยเดิมอีก ต่อไปหากมีโครงการใหญ่ๆ เรื่องใดก็ต้องวางแผนให้ดี ให้ความรู้ความเข้าใจต่อสื่อมวลชน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นยากต่อการอธิบายให้เข้าใจในระยะเวลาสั้นๆ จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาคนมอง กสท ในแง่ลบ"
3จีระหว่าง กสท และทรู ขณะนี้ก็ไม่มีใครกังขาว่าสัญญาดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นไปตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) และพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553
(พ.ร.บ.กสทช.) เพราะสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดก็ตอบมามาแล้วว่าสัญญาดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย เวลาผ่านมาทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น
3 โครงการรอเพียงการอนุมัติจากน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ทั้งการทำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสายไฟเบอร์ออพติก (เอฟทีทีเอ็กซ์) มูลค่า 6,000 ล้านบาท การลงทุนขยายโครงข่าย 3จีเอชเอสพีเอมูลค่า 12,000 ล้านบาท และการขายคืนอุปกรณ์ 2
จีให้แก่ทรูมูฟ
2551 กสทให้การสนับสนุนดีแทคเป็นรายแรกที่ได้สิทธิ์เปิดบริการ 3จีแบบทดสอบ (นอน คอมเมอร์เชียล) ก่อนทรูมูฟ แต่ดีแทคกลับยื่นขออนุญาตเปิดบริการเพียง 36 สถานีฐาน ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าดีแทคไม่ให้ความสำคัญที่จะเปิด 3จีแบบนอน คอมเมอร์เชียล เพราะต้องการทุ่มประมูล 3จีไลเซ่นใหม่ 2.1
กิกะเฮิรตซ์ ดังนั้น ก็ควรจะให้ความเป็นธรรมกับ กสท ด้วย
ขายอุปกรณ์2จีคืนทรูไม่เสียหาย
"เรา ไม่ได้จะขายเสาส่ง หรือสถานีฐาน แต่สิ่งที่จะขายคืนกลับไปให้ทรู คืออุปกรณ์โทรคมนาคม 2จีที่ติดอยู่ที่เสา ซึ่งก็น่ามีมากกว่า 8,000 ตัว ถ้าเก็บไว้ก็เป็นของไม่มีประโยชน์ เราก็ใช้งานไม่ได้อยู่ดี เพราะระบบโทรศัพท์มือถือของเราก็พัฒนาไปเป็น 3จีเอชเอสพีเอแล้ว แต่ทรูยังสามารถนำไปให้บริการกับลูกค้า 2จีของทรูมูฟได้อยู่ หากไอซีทีไม่ให้ขาย เราไม่ขายก็ได้ เก็บไว้เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ถ้าขายอย่างๆ น้อยเราก็ได้เงินไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท"
ซีอีโอ กสท ยืนยันว่า การขายสินทรัพย์อุปกรณ์ 2จีคืนให้กลุ่มทรู เป็นหนึ่งในแผนการรองรับความเสี่ยง และแผนการหารายได้หลังจากสัญญาสัมปทานของเอกชนที่ทำไว้กับ กสท จะสิ้นสุดลง โดยทรูมูฟจะหมดสัมปทานเดือนก.ย. 2556 ใกล้เคียงกับบริษัท ดิจิตอลโฟน (ดีพีซี) ซึ่งช่วงนายจุติ ไกรฤกษ์ ยังดำรงตำแหน่ง รมว.ไอซีทีได้สั่งให้หาแผนดำเนินการ จากนั้นได้หารือกับทรู และทรูได้เสนอขอซื้ออุปกรณ์ 2จีซึ่งได้คุยราคากันเบื้องต้นต้องไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ราคาสุดท้ายยังต้องคำนวณมูลค่าอุปกรณ์อีกครั้งด้วย
ทั้ง นี้ แผนการขายคืนอุปกรณ์ 2จีได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2554 ซึ่งที่มีกระแสข่าวว่า เขาเร่งรีบให้ไอซีทีลงความเห็น หรืออนุมัติโครงการก่อน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เข้าทำงานไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ขณะนี้รัฐมนตรีได้สอบถาม และให้ทำเอกสารรายละเอียดเพิ่มเติม ก็ไม่มีปัญหา เพราะการตัดสินสุดท้ายขึ้นกับ กสท และกระทรวงการคลัง
เขา ระบุอีกว่า 1-2 วันที่ผ่านมา ได้ให้ฝ่ายบริหาร ส่งหนังสือชี้แจงถึงแผนการขายคืนอุปกรณ์ 2จีให้ทรู ต่อสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และตอบคำถาม สคร. หมดทุกข้อ หลังจาก สคร. ทำหนังสือด่วนที่สุด เลขที่ 08087/3565 ลงวันที่ 15 ส.ค. 2554 ถึงนายอำนวย ปรีมนวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และประธานบอร์ด กสท ขอให้ชี้แจงกรณีบอร์ดมีมติอนุมัติวันที่ 19 ก.ค. 2554 ให้ กสท ขาย คืนอุปกรณ์ 2 จีให้ทรูมูฟ
เขาอธิบายถึงประโยชน์ในการขายอุปกรณ์ 2จีว่า วัฎจักรของระบบ 2จีน่าจะหมดไปจากตลาดไทยอีก 5 ปี จากปัจจุบันผู้ประกอบทุกรายได้อัพเกรดระบบเป็น 3จีเกือบหมดแล้ว ดังนั้น การขายคืนสร้างประโยชน์ให้แก่ กสท มากกว่าเก็บไว้เฉยๆ ส่วนการประเมินราคา ได้คำนวณจากส่วนแบ่งรายได้ในอนาคตที่จะได้ในอัตรา 30% ต้องจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน (เอฟเอ) ตีมูลค่าอีกครั้ง สุดท้ายแล้วไม่ทำให้ กสท เสียประโยชน์แน่นอน
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวเกี่ยวข้อง
ศาลรับสัญญา3G-CATโดยไม่ชอบด้วยกม.ทำให้DTACเสียหาย-เดือนร้อน//แต่จะไม่คุ้มครองแล้วเมื่อยื่นอุทธรณ์แต่สามารถฟ้องแพ่งได้
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thailandinthepresentday&date=20-05-2011&group=5&gblog=1
ประเด็นหลัก
ก็คงจะแปลกเพราะทุกคนมองว่า ผม และ กสท เป็นผู้ร้ายถ่วงความเจริญด้านเทคโนโลยีของประเทศ ไม่ยอมให้เกิด 3
จี แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้บทเรียนหลายอย่างที่จะช่วยทำให้การตัดสิน หรือทำอะไรครั้งหน้า ไม่ซ้ำรอยเดิมอีก ต่อไปหากมีโครงการใหญ่ๆ เรื่องใดก็ต้องวางแผนให้ดี ให้ความรู้ความเข้าใจต่อสื่อมวลชน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นยากต่อการอธิบายให้เข้าใจในระยะเวลาสั้นๆ จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาคนมอง กสท ในแง่ลบ"
3จีระหว่าง กสท และทรู ขณะนี้ก็ไม่มีใครกังขาว่าสัญญาดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นไปตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) และพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553
(พ.ร.บ.กสทช.) เพราะสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดก็ตอบมามาแล้วว่าสัญญาดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย เวลาผ่านมาทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น
__________________________________________________________
'จิรายุทธ รุ่งศรีทอง' เคลียร์ทุกข้อหา-ทำเพื่อ'กสท'
ชื่อของ "จิรายุทธ รุ่งศรีทอง" กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท ถูกกล่าวถึงอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2553
หลัง จากซีโออีคนดังเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้ล้มประมูลไลเซ่น 3จีของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ทำให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายถึงกับฝันค้าง
มาถึงเดือนม.ค.2554 เขาเป็นโต้โผใหญ่ทำดีลประวัติศาสตร์กับกลุ่มทรู ในโครงการ 3จีเอชเอสพีเอ อายุสัญญา 14.5 ปีจนเป็นที่มาของการสัญญาฉาว หรือสัมปทานจำแลงที่ถูกโจมตีมาถึงวันนี้ แต่ถึงวันนี้ ขาเก้าอี้ซีอีโอคนดังยังมั่นคงดี แม้จะเปลี่ยนขั้วการเมือง
บทเรียนจากสถานะ"จำเลยสังคม"
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จิรายุทธ บอกว่า กระแสสังคมช่วงล้มประมูล 3จีถือว่าแรงมาก เพราะการประมูลใบอนุญาต (ไลเซ่น)
3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ใกล้ความจริง การประมูลจะเริ่มขึ้นในอีก 2 วัน แต่เขาต้องตัดสินใจทำ ด้วยหากปล่อยให้เกิดการประมูล กสท จะเสียประโยชน์มหาศาล ที่สำคัญคือ การจัดประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก กทช. ยังไม่จัดทำแผนบริหารคลื่นความถี่
ส่วนการที่ กสท ไปลงนามทำสัญญาโครงการ
3จี เอชเอสพีเอ ร่วมกับกลุ่มทรู เป็นที่พูดถึง ตกเป็นจำเลยสังคม รวมทั้งสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ 1-2 เดือนแรก ที่โยงไปถึงการฟ้องศาลปกครองเพื่อล้มประมูล 3จี เพื่อเปิดทางให้ทรูได้ทำ 3จีรายเดียว แต่ถ้ามองอย่างไม่มีอคติ ปัจจุบันผู้ให้บริการทุกรายต่างเปิด 3จีกันหมด ทั้งเอไอเอส ดีแทค กสท ทีโอที และทรูมูฟที่เพิ่งเปิดตัววันที่ 30 ส.ค.25542 เรื่องที่ผ่านมา ถ้าตอบว่าไม่รู้สึกอะไร หรือเฉยๆ ก็คงจะแปลกเพราะทุกคนมองว่า ผม และ กสท เป็นผู้ร้ายถ่วงความเจริญด้านเทคโนโลยีของประเทศ ไม่ยอมให้เกิด 3
จี แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้บทเรียนหลายอย่างที่จะช่วยทำให้การตัดสิน หรือทำอะไรครั้งหน้า ไม่ซ้ำรอยเดิมอีก ต่อไปหากมีโครงการใหญ่ๆ เรื่องใดก็ต้องวางแผนให้ดี ให้ความรู้ความเข้าใจต่อสื่อมวลชน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นยากต่อการอธิบายให้เข้าใจในระยะเวลาสั้นๆ จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาคนมอง กสท ในแง่ลบ"
3จีระหว่าง กสท และทรู ขณะนี้ก็ไม่มีใครกังขาว่าสัญญาดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นไปตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) และพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553
(พ.ร.บ.กสทช.) เพราะสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดก็ตอบมามาแล้วว่าสัญญาดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย เวลาผ่านมาทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น
3 โครงการรอเพียงการอนุมัติจากน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ทั้งการทำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสายไฟเบอร์ออพติก (เอฟทีทีเอ็กซ์) มูลค่า 6,000 ล้านบาท การลงทุนขยายโครงข่าย 3จีเอชเอสพีเอมูลค่า 12,000 ล้านบาท และการขายคืนอุปกรณ์ 2
จีให้แก่ทรูมูฟ
2551 กสทให้การสนับสนุนดีแทคเป็นรายแรกที่ได้สิทธิ์เปิดบริการ 3จีแบบทดสอบ (นอน คอมเมอร์เชียล) ก่อนทรูมูฟ แต่ดีแทคกลับยื่นขออนุญาตเปิดบริการเพียง 36 สถานีฐาน ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าดีแทคไม่ให้ความสำคัญที่จะเปิด 3จีแบบนอน คอมเมอร์เชียล เพราะต้องการทุ่มประมูล 3จีไลเซ่นใหม่ 2.1
กิกะเฮิรตซ์ ดังนั้น ก็ควรจะให้ความเป็นธรรมกับ กสท ด้วย
ขายอุปกรณ์2จีคืนทรูไม่เสียหาย
"เรา ไม่ได้จะขายเสาส่ง หรือสถานีฐาน แต่สิ่งที่จะขายคืนกลับไปให้ทรู คืออุปกรณ์โทรคมนาคม 2จีที่ติดอยู่ที่เสา ซึ่งก็น่ามีมากกว่า 8,000 ตัว ถ้าเก็บไว้ก็เป็นของไม่มีประโยชน์ เราก็ใช้งานไม่ได้อยู่ดี เพราะระบบโทรศัพท์มือถือของเราก็พัฒนาไปเป็น 3จีเอชเอสพีเอแล้ว แต่ทรูยังสามารถนำไปให้บริการกับลูกค้า 2จีของทรูมูฟได้อยู่ หากไอซีทีไม่ให้ขาย เราไม่ขายก็ได้ เก็บไว้เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ถ้าขายอย่างๆ น้อยเราก็ได้เงินไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท"
ซีอีโอ กสท ยืนยันว่า การขายสินทรัพย์อุปกรณ์ 2จีคืนให้กลุ่มทรู เป็นหนึ่งในแผนการรองรับความเสี่ยง และแผนการหารายได้หลังจากสัญญาสัมปทานของเอกชนที่ทำไว้กับ กสท จะสิ้นสุดลง โดยทรูมูฟจะหมดสัมปทานเดือนก.ย. 2556 ใกล้เคียงกับบริษัท ดิจิตอลโฟน (ดีพีซี) ซึ่งช่วงนายจุติ ไกรฤกษ์ ยังดำรงตำแหน่ง รมว.ไอซีทีได้สั่งให้หาแผนดำเนินการ จากนั้นได้หารือกับทรู และทรูได้เสนอขอซื้ออุปกรณ์ 2จีซึ่งได้คุยราคากันเบื้องต้นต้องไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ราคาสุดท้ายยังต้องคำนวณมูลค่าอุปกรณ์อีกครั้งด้วย
ทั้ง นี้ แผนการขายคืนอุปกรณ์ 2จีได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2554 ซึ่งที่มีกระแสข่าวว่า เขาเร่งรีบให้ไอซีทีลงความเห็น หรืออนุมัติโครงการก่อน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เข้าทำงานไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ขณะนี้รัฐมนตรีได้สอบถาม และให้ทำเอกสารรายละเอียดเพิ่มเติม ก็ไม่มีปัญหา เพราะการตัดสินสุดท้ายขึ้นกับ กสท และกระทรวงการคลัง
เขา ระบุอีกว่า 1-2 วันที่ผ่านมา ได้ให้ฝ่ายบริหาร ส่งหนังสือชี้แจงถึงแผนการขายคืนอุปกรณ์ 2จีให้ทรู ต่อสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และตอบคำถาม สคร. หมดทุกข้อ หลังจาก สคร. ทำหนังสือด่วนที่สุด เลขที่ 08087/3565 ลงวันที่ 15 ส.ค. 2554 ถึงนายอำนวย ปรีมนวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และประธานบอร์ด กสท ขอให้ชี้แจงกรณีบอร์ดมีมติอนุมัติวันที่ 19 ก.ค. 2554 ให้ กสท ขาย คืนอุปกรณ์ 2 จีให้ทรูมูฟ
เขาอธิบายถึงประโยชน์ในการขายอุปกรณ์ 2จีว่า วัฎจักรของระบบ 2จีน่าจะหมดไปจากตลาดไทยอีก 5 ปี จากปัจจุบันผู้ประกอบทุกรายได้อัพเกรดระบบเป็น 3จีเกือบหมดแล้ว ดังนั้น การขายคืนสร้างประโยชน์ให้แก่ กสท มากกว่าเก็บไว้เฉยๆ ส่วนการประเมินราคา ได้คำนวณจากส่วนแบ่งรายได้ในอนาคตที่จะได้ในอัตรา 30% ต้องจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน (เอฟเอ) ตีมูลค่าอีกครั้ง สุดท้ายแล้วไม่ทำให้ กสท เสียประโยชน์แน่นอน
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวเกี่ยวข้อง
ศาลรับสัญญา3G-CATโดยไม่ชอบด้วยกม.ทำให้DTACเสียหาย-เดือนร้อน//แต่จะไม่คุ้มครองแล้วเมื่อยื่นอุทธรณ์แต่สามารถฟ้องแพ่งได้
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thailandinthepresentday&date=20-05-2011&group=5&gblog=1
ไม่มีความคิดเห็น: