Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

04 กันยายน 2555 TRUE ประกาศ ( หาพันธมิตรต่างชาติแน่นอน25% ) เหตุทุ่มประมูลหมดตัวแน่นอนเงินไม่พอสร้างโครงข่าย3G//ส่วนเงินที่กู10000ลบ.

TRUE ประกาศ ( หาพันธมิตรต่างชาติแน่นอน25% ) เหตุทุ่มประมูลหมดตัวแน่นอนเงินไม่พอสร้างโครงข่าย3G//ส่วนเงินที่กู10000ลบ.


ประเด็นหลัก

“กลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น” ผู้ประกอบการสัญชาติไทยรายเดียว ยังถือเป็นค่ายที่มีกระสุน เงินทุนตุนหน้าตักน้อยที่สุด เพราะแม้จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศอย่างตระกูล “เจียรวนนท์” แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับคู่แข่งของพวกเขา ซึ่งมีรัฐวิสาหกิจต่างชาติถือหุ้นหนุนหลังอยู่อย่างแข็งขัน



“หลัง ได้ใบอนุญาต เราจะมีโอกาสต่อรองราคาซื้อขายได้ดีขึ้นแน่นอน หลังประมูลเสร็จ งานของผมจะต้องเริ่มขึ้นอย่างจริงจังทันที และอาจเป็นภายในต้นปีหน้า ทรูจะประกาศแต่งงาน เรามีสเปกไว้ในใจชัดเจน แค่รวยอย่างเดียวก็ไม่เอา ต้องทั้งหล่อ รวย นิสัยดี และเข้ากันได้ เพราะถ้าจะเอารวยอย่างเดียว หาไม่ยาก เวลานี้มีกองทุนมากมาย พร้อมเข้ามาลงทุน

พวกนี้เงินเยอะ เป็นนักลงทุนอย่างแท้จริง พอกำไรแล้วก็ไป แต่ที่เราต้องการคือพาร์ตเนอร์ที่จะเดินไปด้วยกัน เข้ากันได้ เข้าใจธุรกิจ เรากำลังมองหาผู้ประกอบการโทรคมนาคมต่างชาติที่แข็งแกร่ง เพื่อจะได้เรียนรู้จากเขา แต่การเข้าถือหุ้นต้องไม่เกิน 25% แน่ เราต่อสู้เรื่องต่างด้าวมาโดยตลอด ก็จำเป็นต้องยึดมั่นในหลักการนี้”

เขา อธิบายว่า การได้พาร์ตเนอร์เป็นบริษัทต่างชาติจะช่วยให้ทรูซึ่งเป็นบริษัทไทยเต็มตัว ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป พันธมิตรระดับโลกจะช่วยให้การเจรจาต่อรองซื้ออุปกรณ์ เน็ตเวิร์ก รวมทั้งเครื่องโทรศัพท์ ได้ราคา ที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นการซื้อในสเกลที่ใหญ่กว่า นอกจากการได้เรียนรู้เทคโนโลยีจากพันธมิตร

“เงินที่ได้จากพันธมิตร ใหม่ ส่วนหนึ่งจะนำมาลดหนี้ เมื่อใส่เงินเข้ามาแล้ว ก็จะทำให้มูลค่าของเงินลงทุนสูงขึ้น พอหนี้ลด ทุนเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น สุดท้ายก็จะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้น เมื่อหนี้ลด ภาระการจ่ายดอกเบี้ยให้กับเจ้าหนี้ก็จะลดลง ซึ่งจะทำให้สุดท้ายบริษัทจะสามารถโชว์ผลกำไรได้ ล้างผลขาดทุนสะสมสำเร็จ และจะทำให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในที่สุด อย่างเร็วน่าจะเป็นในปีหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการและคิดว่าผู้ถือหุ้นต้องการ”

ส่วนการกู้ เงินนั้น ทางทรูก็ยังไม่ได้ตัดทางเลือกนี้ออกไป แม้ว่าจะเพิ่งเปิดวงเงินกู้จำนวน 49,500 ล้านบาทไปเมื่อเร็วๆนี้ โดยปัจจุบันวงเงินดังกล่าวเหลืออยู่เกือบ 10,000 ล้านบาท จากที่ใช้ในการรีไฟแนนซ์หนี้ไปจำนวน 26,000 ล้านบาท ซื้อกิจการบริษัทฮัทชิสันไป 6,000 ล้านบาท และที่เหลือใช้ในการขยายเครือข่าย 3 จี ภายใต้แบรนด์ทรูมูฟเอช โดยทางทรูได้มีการหารือกับสถาบันการเงิน เพิ่มเติมแล้ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี

ซีเอฟโอของทรูกล่าวปิดท้ายว่า เขามีความเชื่อว่าหลังการประมูล 3 จี เสร็จสิ้นลง หลายสิ่งหลายอย่างที่คนคาดไม่ถึงจะเกิดขึ้น ตลาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยลูกค้าอย่างแท้จริง จากที่ถูกกำหนดโดยกฎระเบียบของรัฐวิสาหกิจมาโดยตลอด การแข่งขันที่เริ่มต้นจากศูนย์ อยู่บนพื้นฐานที่เท่าเทียมกันครั้งแรก จะทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น ผลประโยชน์จะตกอยู่กับลูกค้าอย่างแน่นอน.









____________________________________________


ทรู' เปิดหน้าตักศึกชิง 3 จี สเปกพันธมิตรหล่อ รวย นิสัยดี เข้ากันได้

นอก จากจะถือเป็น ‘น้องเล็ก’ ในกลุ่มผู้ประกอบการโทรคมนาคม 3 รายใหญ่ “กลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น” ผู้ประกอบการสัญชาติไทยรายเดียว ยังถือเป็นค่ายที่มีกระสุน เงินทุนตุนหน้าตักน้อยที่สุด เพราะแม้จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศอย่างตระกูล “เจียรวนนท์” แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับคู่แข่งของพวกเขา ซึ่งมีรัฐวิสาหกิจต่างชาติถือหุ้นหนุนหลังอยู่อย่างแข็งขัน

ในโอกาส ที่การเปิดประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุค 3 จี กำลังเดินทางเข้าสู่โค้งสุดท้าย (อีกครั้ง) ท่ามกลางความหวังที่ว่า การรอคอยอันแสนยาวนาน น่าจะมาถึงจุดสิ้นสุดเสียที “ทีมเศรษฐกิจ” ขอถือโอกาสนี้เข้าพูดคุยกับ “นพปฎล เดชอุดม” หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน (ซีเอฟโอ) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)เพื่อเปิดหน้าตัก แบไต๋ให้เห็นชัดๆว่าผู้ประกอบการไทยรายนี้พร้อมแค่ไหนในสมรภูมิรบเบื้องหน้า

“ขณะ นี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์การเข้าประมูล 3 จี คลื่นความถี่ 2.1 GHz เสร็จสิ้นแล้ว คลื่นความถี่ที่จะถือครองได้สูงสุดอยู่ที่ 15 MHz กำหนดราคาไว้ที่ 5 MHz ละ 4,500 ล้านบาท ทางเราต้องการ 15 MHz ทัดเทียมกับรายอื่น ก็ต้องใช้เงินทั้งสิ้น 13,800 ล้านบาท มีกำหนดชำระเงินงวดแรก 50% ภายใน 90 วันหลังการประมูลสิ้นสุด งวดต่อมา 25% ในปีที่ 2 และ 25% สุดท้ายในปีที่ 3 ภารกิจตรงนี้เป็นหน้าที่ของผมในฐานะซีเอฟโออย่างแน่นอน งวดแรกที่เราต้องชำระค่าใบอนุญาต 3 จี ก็คือในเดือน ม.ค.ปีหน้า หากการเปิดประมูลเดินหน้าได้ตามกำหนดในเดือน ต.ค.นี้”



เขา เล่าว่า ทรูกำลังพิจารณาทางเลือกหลากหลายในการระดมทุนก้อนดังกล่าว ซึ่งคงไม่แตกต่างจากคู่แข่งอีก 2 ราย และแม้ว่าจะมีฐานะการเงินด้อยกว่า เขาไม่คิดว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นเรื่องหนักหนา เพราะปัจจุบันสถานการณ์ของทรูดีขึ้นมาก ทรูมีรายได้หมุนเวียนต่อปีในระดับ 70,000-80,000 ล้านบาท มีธุรกิจในกลุ่มที่ทำกำไรชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์ (ทรูออนไลน์) ธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (ทรูวิชั่นส์) แต่ก็ยอมรับว่าธุรกิจโมบายล์ (มือถือ) ยังมีหนี้สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ราว 40,000 ล้านบาท เพราะเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูง

ทั้งนี้ จากงบการเงินรวม ณ ครึ่งแรกของปี 2555 ทรูยังมีผลประกอบการติดลบ โดยขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 2,614 ล้านบาท มีรายได้รวม 42,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกของปีก่อน ที่มีรายได้ 34,700 ล้านบาท กว่า 23.5%

ซีเอฟโอของทรูบอกด้วยว่า สัญญาร่วมการงานของทรูมูฟ (บริษัทลูกที่ให้บริการมือถือแบรนด์ทรูมูฟ มีฐานลูกค้า 19.5 ล้านเลขหมาย) กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่จะหมดอายุลงในเดือน ก.ย.2556 ที่จะถึง ยังถือเป็นโชคดีที่ทำให้ทรูได้มีโอกาสจบเงื่อนไขการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ปีละ 30% ก่อนใคร และหันมาจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้กับ กสทช.ที่ปีละ 5.75% แทน สิ่งนี้จะทำให้ทรูมีเงินเข้าระบบเพิ่มขึ้นมาทันทีราวปีละ 6,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสภาพคล่องที่จะนำมาลงทุนได้

นอกจากนั้น ทรูยังมีทรัพย์สินที่สามารถนำออกขายบางส่วนเพื่อระดมทุนได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ทำกำไรอย่างทรูออนไลน์และทรูวิชั่นส์ ซึ่งขณะนี้ทรูถือหุ้นอยู่กว่า 99% โดยทรูออนไลน์ ปัจจุบันมีมูลค่าทางธุรกิจ (enterprise value) อยู่ที่ 75,000 ล้านบาท และทรูวิชั่นส์ที่ 24,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวน่าจะยังไม่ได้เห็นในระยะสั้น (12 เดือนข้างหน้า) เนื่องจากประธานคณะผู้บริหารหรือซีอีโอ (นายศุภชัย เจียรวนนท์) ยังต้องการเดินหน้ากลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ สร้างความแข็งแกร่งระหว่างธุรกิจในกลุ่มทรูให้ยั่งยืนกว่านี้ก่อน

อย่าง ไรก็ตาม เมื่อถูกถามว่าวิธีการระดมทุนใดน่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดในสถานการณ์ ปัจจุบัน ซีเอฟโอของทรูตอบว่า การเปิดทางให้พันธมิตรรายใหม่ (strategic partner) เข้ามาถือหุ้นเพิ่มทุน ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการเปิดโต๊ะพูดคุยกับพันธมิตรหลายรายทั่วโลก แต่ทุกอย่างจะจริงจังขึ้นหลังการประมูลเสร็จสิ้น

“หลังได้ใบอนุญาต เราจะมีโอกาสต่อรองราคาซื้อขายได้ดีขึ้นแน่นอน หลังประมูลเสร็จ งานของผมจะต้องเริ่มขึ้นอย่างจริงจังทันที และอาจเป็นภายในต้นปีหน้า ทรูจะประกาศแต่งงาน เรามีสเปกไว้ในใจชัดเจน แค่รวยอย่างเดียวก็ไม่เอา ต้องทั้งหล่อ รวย นิสัยดี และเข้ากันได้ เพราะถ้าจะเอารวยอย่างเดียว หาไม่ยาก เวลานี้มีกองทุนมากมาย พร้อมเข้ามาลงทุน

พวกนี้เงินเยอะ เป็นนักลงทุนอย่างแท้จริง พอกำไรแล้วก็ไป แต่ที่เราต้องการคือพาร์ตเนอร์ที่จะเดินไปด้วยกัน เข้ากันได้ เข้าใจธุรกิจ เรากำลังมองหาผู้ประกอบการโทรคมนาคมต่างชาติที่แข็งแกร่ง เพื่อจะได้เรียนรู้จากเขา แต่การเข้าถือหุ้นต้องไม่เกิน 25% แน่ เราต่อสู้เรื่องต่างด้าวมาโดยตลอด ก็จำเป็นต้องยึดมั่นในหลักการนี้”

เขา อธิบายว่า การได้พาร์ตเนอร์เป็นบริษัทต่างชาติจะช่วยให้ทรูซึ่งเป็นบริษัทไทยเต็มตัว ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป พันธมิตรระดับโลกจะช่วยให้การเจรจาต่อรองซื้ออุปกรณ์ เน็ตเวิร์ก รวมทั้งเครื่องโทรศัพท์ ได้ราคา ที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นการซื้อในสเกลที่ใหญ่กว่า นอกจากการได้เรียนรู้เทคโนโลยีจากพันธมิตร

“เงินที่ได้จากพันธมิตร ใหม่ ส่วนหนึ่งจะนำมาลดหนี้ เมื่อใส่เงินเข้ามาแล้ว ก็จะทำให้มูลค่าของเงินลงทุนสูงขึ้น พอหนี้ลด ทุนเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น สุดท้ายก็จะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้น เมื่อหนี้ลด ภาระการจ่ายดอกเบี้ยให้กับเจ้าหนี้ก็จะลดลง ซึ่งจะทำให้สุดท้ายบริษัทจะสามารถโชว์ผลกำไรได้ ล้างผลขาดทุนสะสมสำเร็จ และจะทำให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในที่สุด อย่างเร็วน่าจะเป็นในปีหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการและคิดว่าผู้ถือหุ้นต้องการ”

ส่วนการกู้ เงินนั้น ทางทรูก็ยังไม่ได้ตัดทางเลือกนี้ออกไป แม้ว่าจะเพิ่งเปิดวงเงินกู้จำนวน 49,500 ล้านบาทไปเมื่อเร็วๆนี้ โดยปัจจุบันวงเงินดังกล่าวเหลืออยู่เกือบ 10,000 ล้านบาท จากที่ใช้ในการรีไฟแนนซ์หนี้ไปจำนวน 26,000 ล้านบาท ซื้อกิจการบริษัทฮัทชิสันไป 6,000 ล้านบาท และที่เหลือใช้ในการขยายเครือข่าย 3 จี ภายใต้แบรนด์ทรูมูฟเอช โดยทางทรูได้มีการหารือกับสถาบันการเงิน เพิ่มเติมแล้ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี

ซีเอฟโอของทรูกล่าวปิดท้ายว่า เขามีความเชื่อว่าหลังการประมูล 3 จี เสร็จสิ้นลง หลายสิ่งหลายอย่างที่คนคาดไม่ถึงจะเกิดขึ้น ตลาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยลูกค้าอย่างแท้จริง จากที่ถูกกำหนดโดยกฎระเบียบของรัฐวิสาหกิจมาโดยตลอด การแข่งขันที่เริ่มต้นจากศูนย์ อยู่บนพื้นฐานที่เท่าเทียมกันครั้งแรก จะทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น ผลประโยชน์จะตกอยู่กับลูกค้าอย่างแน่นอน.


ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/eco/288108

___________________________________________

โบรกฯแนะเก็งTRUE ผู้บริหารรับหาพันธมิตรเป้าสำคัญประมูลคลื่น 2.1 GHz



บล.เกีย รตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) เนื่องจากผู้บริหารออกมายอมรับว่าการหาพันธมิตรธุรกิจเป็นเป้าหมายสำคัญใน ช่วงของการประมูลใบอนุญาตคลื่น 2.1 GHz ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค. จึงมองเป็นปัจจัยบวกต่อ TRUE เพราะเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายใหม่จะทำให้ TRUE มีความแข็งแรงทางการธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ในเบื้องต้นประเมินมูลค่าเหมาะสมหลังรวมคลื่นใหม่ไว้ที่ 5.20 บาท

ล่าสุดเมื่อ 31 ส.ค.55 ราคาหุ้น TRUE ปิดที่ 4.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท(+2.86%)

อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq05/1480713

_______________________________________


TRUE นิวไฮกว่า 1 ปี เก็งกำไรแผนหาพันธมิตรทางธุรกิจช่วงประมูล 3G

ผู้ สื่อข่าวรายงานราคาหุ้นบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ณ เวลา 11.36 น. บวก 0.08 บาท หรือ 1.85% มาที่ 4.40 บาท สูงสุดที่ 4.42 บาท นับเป็นราคาสูงสุดตั้งแต่ 4.58 บาท เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.54 ต่ำสุดที่ 4.32 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 477.68 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.57% ด้านโบรกเกอร์ 5 แห่งแนะนำ "ซื้อ", 3 แห่งแนะนำ "ถือ", และ 3 แห่งแนะนำ "ขาย" โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 4.36 บาท

บล.เกียรตินา คิน แนะนำ TRUE เป็นหุ้นเด่นวันนี้ โดยการที่ผู้บริหารยอมรับว่าการหาพันธมิตรธุรกิจ เป็นเป้าหมายสำคัญในช่วงของการประมูลใบอนุญาต 3G คลื่น 2.1GHz ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งมองสว่าเป็นปัจจัยบวกต่อ TRUE เนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายใหม่จะทำให้ TRUE มีความแข็งแรงทางการธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ในเบื้องต้นประเมินมูลค่าเหมาะสมหลังรวมคลื่นใหม่ที่ 5.20 บาท

ด้าน เทคนิคบล.กรุงศรีระบุว่า แพทเทินราคาก่อตัวในลักษณะ breakout แนว 4.24 บาท และมีวอลุ่มหนุนหนาแน่นเป็นสัญญาณขึ้นระยะสั้น แนะนำ ซื้อเก็งกำไร จุดคัตหากหลุด 4.24 บาทลงมา โดยมีแนวรับที่ 4.26 บาท ส่วนแนวต้านที่ 4.44 บาท

ข่าวหุ้นธุรกิจ
http://www.kaohoon.com/online/44935/TRUE-
%B9%D4%C7%E4%CE%A1%C7%E8%D2-1-%BB%D5-
%E0%A1%E7%A7%A1%D3%E4%C3%E1%BC%B9%CB%D2%B
E%D1%B9%B8%C1%D4%B5%C3%B7%D2%A7%B8%D8%C3%
A1%D4%A8%AA%E8%C7%A7%BB%C3%D0%C1%D9%C5-3G-.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.