Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

08 สิงหาคม 2555 ลั่นฟ้องแน่หากCAT TRUE ยกเลิกสัญญา และไม่มีทางที่สัญญาจะเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น ( เตรียมเงินประมูล3gมากกว่า 13,500 ลบ. )

ลั่นฟ้องแน่หากCAT TRUE ยกเลิกสัญญา และไม่มีทางที่สัญญาจะเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น ( เตรียมเงินประมูล3gมากกว่า 13,500 ลบ. )


ประเด็นหลัก


นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จนถึงทุกวันนี้บริษัท กสท โทรคมนาคม ยังไม่มีหนังสือมาถึงกลุ่มทรูในกรณียกเลิกสัญญาการทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือ รูปแบบใหม่เพื่อให้บริการ 3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA บนคลื่นความถี่ 850 MHz ระหว่าง กสท โทรคมนาคม กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อทำสัญญาใหม่ให้ถูกต้อง โดยเบื้องต้นกลุ่มทรูจะยังทำตามมติของ กทค. ที่ระบุให้แก้ไขสัญญาเดิม 6 ประเด็นเท่านั้น

"ไม่มีทางที่สัญญาจะเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น เพราะสัญญาดังกล่าวผ่านการตรวจสอบมาจากหลายหน่วยงานแล้ว ดังนั้นผู้ที่สามารถตัดสินชี้ขาดสัญญาได้ต้องเป็นศาลเท่านั้น ซึ่งถ้ากสท เลือกแนวทางที่จะยกเลิกสัญญาจริงทางกลุ่มทรูก็ต้องดำเนินการฟ้องร้องต่อไป"

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ในใจแล้วคิดว่ามติบอร์ดของ กสท ที่ออกมาจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมองว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่เข้าใจถึงสัญญาดังกล่าว ในขณะที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ และสัญญาดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีต่อทั้ง กสท และผู้บริโภค

เบื้องต้นกลุ่มทรู ต้องการช่วงคลื่นความถี่เพื่อมาให้บริการ 3G จำนวน 15 MHz ทำให้ต้องเตรียมเงินเพื่อใช้ในการประมูลไว้มากกว่า 13,500 ล้านบาท เพื่อให้ได้ใบอนุญาต 3 ใบ จากราคาประมูลเริ่มต้นใบละ 4,500 ล้านบาทและยังกล่าวถึงเงื่อนไขที่กำหนดชำระเงิน หลังจากการประมูลเสร็จสิ้นที่กำหนดไว้ภายใน 3 ปีว่า ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกลุ่มทรูอาจต้องหาเงินกู้จากสถาบันการเงินเพิ่ม หรือปรึกษากับบอร์ดเพื่อขอเงินทุนเพิ่ม รวมถึงการหาพาร์ทเนอร์รายใหญ่เข้าร่วมในสัดส่วนไม่เกิน 25%


โดย จากฐานลูกค้าทรูมูฟ 18 ล้านราย ส่วนใหญ่ยังคงใช้งานบนระบบ 2G เป็นหลัก ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการบังคับให้ลูกค้าย้ายมาใช้งาน 3G ทางกสทช. จำเป็นต้องให้ความชัดเจนในการบริหารคลื่น 1800 MHz เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการให้บริการต่อไป





___________________________________________


'ศุภชัย' ลั่นฟ้องแน่หากกสทยกเลิกสัญญา


'ศุภชัย' เตือน กสท หากยกเลิกสัญญา 3G ต้องให้ศาลตัดสินชี้ขาด เบื้องต้นยืนยันทำตามมติบอร์ดกทค. แก้ไขสัญญา 6 ประเด็น เผยความพร้อมประมูล 3G ย่านความถี่ 2.1 GHz เร่งกสทช.ให้ความชัดเจนคลื่น 1800 MHz ห่วงลูกค้า 2G ที่ไม่ต้องการใช้ 3G

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จนถึงทุกวันนี้บริษัท กสท โทรคมนาคม ยังไม่มีหนังสือมาถึงกลุ่มทรูในกรณียกเลิกสัญญาการทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือ รูปแบบใหม่เพื่อให้บริการ 3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA บนคลื่นความถี่ 850 MHz ระหว่าง กสท โทรคมนาคม กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อทำสัญญาใหม่ให้ถูกต้อง โดยเบื้องต้นกลุ่มทรูจะยังทำตามมติของ กทค. ที่ระบุให้แก้ไขสัญญาเดิม 6 ประเด็นเท่านั้น

"ไม่มีทางที่สัญญาจะเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น เพราะสัญญาดังกล่าวผ่านการตรวจสอบมาจากหลายหน่วยงานแล้ว ดังนั้นผู้ที่สามารถตัดสินชี้ขาดสัญญาได้ต้องเป็นศาลเท่านั้น ซึ่งถ้ากสท เลือกแนวทางที่จะยกเลิกสัญญาจริงทางกลุ่มทรูก็ต้องดำเนินการฟ้องร้องต่อไป"

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ในใจแล้วคิดว่ามติบอร์ดของ กสท ที่ออกมาจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมองว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่เข้าใจถึงสัญญาดังกล่าว ในขณะที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ และสัญญาดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีต่อทั้ง กสท และผู้บริโภค

ขณะเดียวกันยังชี้แจงในประเด็นที่ระบุว่าจากสัญญา 3G จะทำให้กลุ่มทรูมีรายได้ตลอดอายุสัญญา 14.5 ปี เฉียด 2 แสนล้านบาทนั้น ไม่ได้ส่งผลให้ทรูสามารถทำกำไรได้สูงกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ เพราะถ้ามองที่ผลตอบแทนการลงทุน (ROI) จะอยู่ที่ราว 14-15% เท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงหุ้นของกลุ่มทรูจะต้องได้รับการตอบรับจากตลาดที่ดี กว่านี้

อย่างไรก็ตามทรูมูฟ เอช ยืนยันที่จะให้บริการตามสัญญาต่อไป แม้ว่าในอนาคตจะได้ใบอนุญาต 3G บนย่านความถี่ 2.1 GHz ที่กำลังจะประมูลในเร็ววันนี้ เนื่องจากถ้าหยุดให้บริการอาจถูกกสทและผู้บริโภคฟ้องร้องได้โดยศุภชัย มั่นใจว่าโอกาสที่จะเกิดการประมูล 3G ของกสทช.นั้นมีมากถึง 80 - 90% แต่ส่วนที่ยังไม่มั่นใจคือกรณีที่รัฐวิสาหกิจอาจออกมาฟ้องร้องเหมือนครั้ง ที่ผ่านมา เพราะในท้ายที่สุดแล้วเชื่อว่าทุกฝ่ายอยากให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป

เบื้องต้นกลุ่มทรู ต้องการช่วงคลื่นความถี่เพื่อมาให้บริการ 3G จำนวน 15 MHz ทำให้ต้องเตรียมเงินเพื่อใช้ในการประมูลไว้มากกว่า 13,500 ล้านบาท เพื่อให้ได้ใบอนุญาต 3 ใบ จากราคาประมูลเริ่มต้นใบละ 4,500 ล้านบาทและยังกล่าวถึงเงื่อนไขที่กำหนดชำระเงิน หลังจากการประมูลเสร็จสิ้นที่กำหนดไว้ภายใน 3 ปีว่า ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกลุ่มทรูอาจต้องหาเงินกู้จากสถาบันการเงินเพิ่ม หรือปรึกษากับบอร์ดเพื่อขอเงินทุนเพิ่ม รวมถึงการหาพาร์ทเนอร์รายใหญ่เข้าร่วมในสัดส่วนไม่เกิน 25%

แต่ถ้ากสทช. มีการยืดเงื่อนไขกำหนดชำระเงินเป็น 5 ปีตามที่กลุ่มทรูเสนอไป จะช่วยให้ผู้เข้าประมูลสามารถนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ในการลงทุนด้านการ ขยายเครือข่ายและการบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกลุ่มทรูก็มีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะชำระค่าใบอนุญาต

ส่วนหลังจากที่ได้ใบอนุญาตแล้วเชื่อว่าทั้ง 3 โอเปอเรเตอร์จะช่วยกันผลักดันเรื่องการขยายจำนวนของการย้ายค่ายเบอร์เดิม (MNP) ที่ปัจจุบันสามารถย้ายได้ 4,000 รายต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

"กลุ่มทรู ถือว่ามีประสบการณ์ในการย้ายฐานลูกค้าจากทั้งลูกค้าฮัทช์รวมถึงลูกค้าของทรู มูฟ ให้มาใช้บริการทรูมูฟ เอช ดังนั้นจึงมีกลยุทธ์เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังต้องรอความชัดเจนจากกสทช. เกี่ยวกับการให้บริการของทรูมูฟที่ให้บริการ 2G ตามสัญญาสัมปทานเดิมที่ใกล้จะหมดลง"

โดยจากฐานลูกค้าทรูมูฟ 18 ล้านราย ส่วนใหญ่ยังคงใช้งานบนระบบ 2G เป็นหลัก ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการบังคับให้ลูกค้าย้ายมาใช้งาน 3G ทางกสทช. จำเป็นต้องให้ความชัดเจนในการบริหารคลื่น 1800 MHz เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการให้บริการต่อไป

ล่าสุดกลุ่มทรูจัดกิจกรรม "ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2012" ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด "คิดค้นเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น" เพื่อให้นวัตกรไทยส่งนวัตกรรมเข้าประกวด โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ Idea Seed (เมล็ดพันธุ์ความคิด) นำเสนอแนวคิดของนวัตกรรมที่ยังไม่ได้สร้างเป็นต้นแบบ และ Inno Tree (สุดยอดนวัตกรรม) สำหรับส่งประกวดผลงานที่พัฒนาขึ้นเป็นชิ้นแล้ว เปิดรับผลงานถึง 31 ส.ค. 2555

ทั้งนี้ในการประกวดเมื่อคัดเลือกแต่ละประเภทเหลือ 5 ทีมสุดท้ายแล้ว จะมีการบันทึกและเผยแพร่ภาพแบบเรียลลิตี้ผ่าน True X-Zyte ในช่วงเดือนตุลาคม ผู้ชนะในแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท รวมถึงโอกาสต่อยอดผลงานเชิงพาณิชย์กับกลุ่มทรู

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000097532

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.