Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

10 กันยายน 2555 เสียใจกับ NOKIA ++ คนรอแต่ IPHONE แถมยอดตกแพ้ ซัมซุง +++ ชาว MBK กังวลซื้อ NOKIA กลัวขายไม่ออก

เสียใจกับ NOKIA ++ คนรอแต่ IPHONE แถมยอดตกแพ้ ซัมซุง +++ ชาว MBK กังวลซื้อ NOKIA กลัวขายไม่ออก


ประเด็นหลัก




ใครจะเชื่อว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยกับยักษ์ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือมือวางอันดับหนึ่งของ โลก นาม "โนเกีย" นักสู้จากดินแดนขั้วโลกเหนือ ฟินแลนด์

เมื่อมีการ รายงานตัวเลขยอดส่งโทรศัพท์มือถือในไตรมาสแรก ปี 2555 ปรากฏว่า ยักษ์กิมจิ "ซัมซุง" โค่นบัลลังก์แชมป์ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ของโลกไปได้ด้วยยอด 92 ล้านเครื่อง

ขณะที่ "โนเกีย" ทำได้ 83 ล้านเครื่อง ตามมาด้วย "ไอโฟน" ค่ายแอปเปิ้ลมียอดส่ง 35 ล้านเครื่อง, แอลจี 14 ล้านเครื่อง และ "แบล็กเบอร์รี่ ทำได้ 11 ล้านเครื่อง

แต่ถ้าคิด เฉพาะมือถือมากด้วยเทคโนโลยีทันสมัย (สมาร์ทโฟน) อย่างเดียว "แอปเปิ้ล" มาเป็นเบอร์หนึ่ง ที่ 35 ล้านเครื่อง ถัดมาเป็นซัมซุง 32 ล้านเครื่อง ขณะที่ "โนเกีย" หล่นมาเป็นอันดับ 3 ที่ 12 ล้านเครื่อง






จาก การสำรวจร้านขายโทรศัพท์มือถือหลายแห่งโดยเฉพาะร้านที่มีการรับซื้อเครื่อง มือสองเพื่อนำมาขายต่อ ที่ห้างสรรพสินค้า "มาบุญครอง" หลายร้านพูดตรงกันว่าปัจจุบันไม่ค่อยรับซื้อเครื่องมือสองแบรนด์ "โนเกีย" แล้ว เพราะกังวลว่าจะขายออกยาก

ถ้าถึงขั้นร้านค้าไม่ยอมรับซื้อ เครื่องมือสอง สถานการณ์ของยักษ์ "โนเกีย" นับว่าน่าเป็นห่วงทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะเครื่องมือสองส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม "สมาร์ทโฟน" ที่มีราคาอยู่ในระดับกลางถึงสูง

กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้มัก มีพฤติกรรมเปลี่ยนเครื่องบ่อยเมื่อมีเครื่องรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดจึงนำเครื่องเดิมมาขายเพื่อแลกซื้อเครื่องรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดสมาร์ทโฟน คือ "ไอโฟน" ค่ายแอปเปิ้ล และซัมซุงในซีรี่ส์ "แกแลคซี่ เอส"

ขณะเดียวกัน เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่า เร็วๆ นี้ ยักษ์ "แอปเปิ้ล" เตรียมตัวที่จะเปิดตัว "ไอโฟนรุ่นใหม่" หรือที่สาวกไอโฟนเรียกกันว่า "ไอโฟน 5" ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รายงานตรงกันว่า แอปเปิ้ลจะเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ในวันที่ 12 กันยายน 2555 นี้







_________________________________


"ไอโฟน 5" เขย่ามาบุญครอง ผู้ค้ามือถือซึม คนรอแต่ของใหม่ "โนเกีย" สะท้าน สาวกหนีหน้า


ใน สมรภูมิธุรกิจไฮเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ผู้นำตลาดในวันนี้อาจเพลี่ยงพล้ำเป็นผู้แพ้ได้ชั่วพริบตา เรื่องนี้มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วมิใช่น้อย

ในอดีตยักษ์แดนมะกัน อย่าง "โมโตโรล่า" เคยลิ้มรสชาตินี้ดี จนถึงวันนี้ แม้โมโตโรล่าจะกลับมายืนในสังเวียนการแข่งขันได้อีกครั้ง

แต่อะไรๆ ก็ยากที่จะเหมือนเดิม

ใคร จะเชื่อว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยกับยักษ์ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือมือวางอันดับหนึ่งของ โลก นาม "โนเกีย" นักสู้จากดินแดนขั้วโลกเหนือ ฟินแลนด์

เมื่อมีการ รายงานตัวเลขยอดส่งโทรศัพท์มือถือในไตรมาสแรก ปี 2555 ปรากฏว่า ยักษ์กิมจิ "ซัมซุง" โค่นบัลลังก์แชมป์ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ของโลกไปได้ด้วยยอด 92 ล้านเครื่อง

ขณะที่ "โนเกีย" ทำได้ 83 ล้านเครื่อง ตามมาด้วย "ไอโฟน" ค่ายแอปเปิ้ลมียอดส่ง 35 ล้านเครื่อง, แอลจี 14 ล้านเครื่อง และ "แบล็กเบอร์รี่ ทำได้ 11 ล้านเครื่อง

แต่ถ้าคิด เฉพาะมือถือมากด้วยเทคโนโลยีทันสมัย (สมาร์ทโฟน) อย่างเดียว "แอปเปิ้ล" มาเป็นเบอร์หนึ่ง ที่ 35 ล้านเครื่อง ถัดมาเป็นซัมซุง 32 ล้านเครื่อง ขณะที่ "โนเกีย" หล่นมาเป็นอันดับ 3 ที่ 12 ล้านเครื่อง




หันกลับมามองตลาดโทรศัพท์มือถือในเมืองไทยกันบ้าง

ใน ภาพรวม "โนเกีย" ยังไม่ถึงขั้นตกชั้นผู้นำตลาด เพราะแบรนด์ยังคงขลังสำหรับตลาดต่างจังหวัด ทำให้ยังสามารถกวาดยอดขายในตลาดต่างจังหวัดได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องฟีเจอร์โฟน เหมาะกับการโทร.เข้า-ออก เป็นหลัก

สอด คล้องกับก่อนหน้านี้ "แกรนท์ แมคบีธ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) พูดชัดเจนว่า ประเทศไทยถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของโนเกีย เพราะทำยอดขายฟีเจอร์โฟนได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังคงมีความภักดีต่อแบรนด์สูง

เมื่อเร็วๆ นี้ "โนเกีย" เปิดตัวเครื่องในซีรี่ส์ "อาช่า" (Asha) 3 รุ่น ในกลุ่มสมาร์ทฟีเจอร์โฟน

นอก จากตัวเครื่องจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ เช่น รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไว-ไฟ, กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, ใช้ 2 ซิมได้แล้ว ยังวางระดับ "ราคา" เริ่มต้นที่ 2 พันกว่าบาท

เรียกว่า พร้อมแข่งขันเต็มที่

แต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน

ล่าสุดเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เป็นผลดีกับ "โนเกีย" อีกครั้ง

จาก การสำรวจร้านขายโทรศัพท์มือถือหลายแห่งโดยเฉพาะร้านที่มีการรับซื้อเครื่อง มือสองเพื่อนำมาขายต่อ ที่ห้างสรรพสินค้า "มาบุญครอง" หลายร้านพูดตรงกันว่าปัจจุบันไม่ค่อยรับซื้อเครื่องมือสองแบรนด์ "โนเกีย" แล้ว เพราะกังวลว่าจะขายออกยาก

ถ้าถึงขั้นร้านค้าไม่ยอมรับซื้อ เครื่องมือสอง สถานการณ์ของยักษ์ "โนเกีย" นับว่าน่าเป็นห่วงทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะเครื่องมือสองส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม "สมาร์ทโฟน" ที่มีราคาอยู่ในระดับกลางถึงสูง

กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้มัก มีพฤติกรรมเปลี่ยนเครื่องบ่อยเมื่อมีเครื่องรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดจึงนำเครื่องเดิมมาขายเพื่อแลกซื้อเครื่องรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดสมาร์ทโฟน คือ "ไอโฟน" ค่ายแอปเปิ้ล และซัมซุงในซีรี่ส์ "แกแลคซี่ เอส"

ขณะเดียวกัน เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่า เร็วๆ นี้ ยักษ์ "แอปเปิ้ล" เตรียมตัวที่จะเปิดตัว "ไอโฟนรุ่นใหม่" หรือที่สาวกไอโฟนเรียกกันว่า "ไอโฟน 5" ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รายงานตรงกันว่า แอปเปิ้ลจะเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ในวันที่ 12 กันยายน 2555 นี้

สิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ตลาดเมืองไทย คือ การชะลอซื้อของผู้บริโภคที่กำลังคิดว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่

เพราะต่างรอคอยการเปิดตัว "ไอโฟน 5"



ร้าน ค้าหลายแห่งทั้งในห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง และไอทีมอลล์ ฟอร์จูนทาวน์ ยอมรับตรงกันว่า มีลูกค้าเป็นจำนวนมากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการวางตลาดไอโฟน 5 เพราะต่างได้ยินข่าวว่า กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ชะลอซื้อ ทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนของร้านค้าหลายแห่งตกลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

นอกจากการรอคอย "ไอโฟน 5" แล้ว ร้านค้าหลายแห่งยังมองด้วยว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ดีนัก

ร้าน ค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่แห่งหนึ่ง กล่าวว่า ถ้าจะอยู่ให้ได้ ต้องปรับมาขายสินค้ามือสอง เพราะการขายเครื่องใหม่ได้กำไรต่อเครื่องต่ำมากๆ นอกจากนี้ ยังต้องบริหารจัดการสินค้าให้ได้

เช่น ยอมลดราคาเคลียร์สต๊อกเพื่อไม่ให้ของค้างนาน ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่จะซื้อเครื่องกับร้านค้าส่งแบบวันต่อวันเมื่อมีลูกค้า ต้องการซื้อ

"ยอดขายโดยรวมในกรุงเทพฯ ในกลุ่มสมาร์ทโฟนที่ขายดีสุดยังคงเป็นไอโฟน 4S ขนาด 16 GB รองลงมาเป็นแอนดรอยด์ของซัมซุง ส่วนตลาดต่างจังหวัดเน้นฟีเจอร์โฟน ซึ่งมีทั้งซัมซุง และโนเกีย"

ร้านค้าหลายแห่งที่ขายและรับซื้อ โทรศัพท์มือถือมือสองให้คำตอบทำนองเดียวกันอีกว่า เครื่องมือสองที่ขายได้เร็วยังคงเป็นไอโฟน 4S ตามด้วยแอนดรอยด์รุ่นต่างๆ สำหรับแบล็กเบอร์รี่มือสองขายไม่ดีนัก เนื่องจากเครื่องมือหนึ่ง ปรับราคาลดลงจนถูกมากแล้ว

พนักงานขายในมาบุญครองเล่าว่า จากการพูดคุยคุยกับร้านค้าอื่นๆ ที่อยู่มาหลายๆ ปี ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดเงียบมาก

"อยู่ มาหลายปีไม่เคยเงียบเท่านี้ บางครั้งมองจากร้านไปยังอีกฝั่งเห็นคนเดินไม่กี่คนก็มี ไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาอธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าว เชื่อว่า มาจากหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งเศรษฐกิจไม่ดี, มีห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่น่าเดินกว่า รวมถึงการที่แอปเปิ้ลกำลังจะเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่"

บรรดาร้านค้าจึงได้แต่หวังว่า หลังการเปิดตัว "ไอโฟน 5" ตลาดจะกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้งในช่วงโค้งท้ายของปี

และจะยิ่งดีมากขึ้นไปอีก หากปีนี้น้ำจะไม่ท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา

.............

ศัลยา ประชาชาติ (ที่มา:มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ7-13 กันยายน 2555)
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1347103275&grpid=&catid=06&subcatid=0600

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.