12 มิถุนายน 2555 GOOGLE ยัน อุปกรณ์แอนดรอยด์ถูกเปิดใช้เกิน 9 แสนเครื่องทุกวัน เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นถึง 145%
GOOGLE ยัน อุปกรณ์แอนดรอยด์ถูกเปิดใช้เกิน 9 แสนเครื่องทุกวัน เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นถึง 145%
ประเด็นหลัก
แอนดี้ รูบิน (Andy Rubin) หัวหน้าทีมพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ระบุว่ายอดเปิดใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ 900,000 เครื่องต่อวันนั้นเพิ่มขึ้นจาก 500,000 เครื่องต่อวันซึ่งสำรวจได้ในช่วงมิถุนายน ปี 2011 ก่อนจะเพิ่มเป็น 850,000 เครื่องต่อวันในช่วงต้นปี 2012
แอนดรอยด์นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่กูเกิลสร้างสรรค์มาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์ พกพาโดยเฉพาะ ข้อมูลจากบริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) ระบุว่ายอดจัดส่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 นั้นเพิ่มขึ้นถึง 145% เมื่อเทียบกับปี 2011 ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของแอนดรอยด์ทะลุ 59% แล้วในตลาดโลก
_____________________________________________
กูเกิลยัน อุปกรณ์แอนดรอยด์ถูกเปิดใช้เกิน 9 แสนเครื่องทุกวัน
ข้อมูล จากบริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) ระบุว่ายอดจัดส่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 นั้นเพิ่มขึ้นถึง 145% เมื่อเทียบกับปี 2011 ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของแอนดรอยด์ทะลุ 59% แล้วในตลาดโลก
ตอกย้ำว่าตลาดสินค้าแอนดรอยด์ (Android) กำลังขยายตัวต่อเนื่อง ล่าสุดผู้บริหารกูเกิลผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ยืน ยันว่าจำนวนการเปิดใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ในขณะนี้สูงเกิน 900,000 เครื่องทุกวัน เพิ่มขึ้นจากสถิติล่าสุดคือ 850,000 เครื่องต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แอนดี้ รูบิน (Andy Rubin) หัวหน้าทีมพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ระบุว่ายอดเปิดใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ 900,000 เครื่องต่อวันนั้นเพิ่มขึ้นจาก 500,000 เครื่องต่อวันซึ่งสำรวจได้ในช่วงมิถุนายน ปี 2011 ก่อนจะเพิ่มเป็น 850,000 เครื่องต่อวันในช่วงต้นปี 2012
แอนดรอยด์นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่กูเกิลสร้างสรรค์มาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์ พกพาโดยเฉพาะ ข้อมูลจากบริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) ระบุว่ายอดจัดส่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 นั้นเพิ่มขึ้นถึง 145% เมื่อเทียบกับปี 2011 ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของแอนดรอยด์ทะลุ 59% แล้วในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดแอนดรอยด์นั้นไม่ได้สวยงามทั้งหมด เพราะหนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อย่างเอชทีซี (HTC) นั้นออกประกาศลดเป้าหมายรายได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้ลง เนื่องจากยอดจำหน่ายที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในตลาดยุโรป รวมถึงกำหนดการจัดส่งสินค้าที่ล่าช้าในตลาดสหรัฐฯ
นอกจากเอชทีซี ผู้ผลิตรายอื่นอย่างโซนี (Sony Mobile), แอลจี (LG Electronics) และโมโตโรลา (Motorola Mobility) ซึ่งกูเกิลเพิ่งซื้อกิจการไป ล้วนอยู่ในฐานะผู้ผลิตที่ต้องดิ้นรนในตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพื่อต่อสู้กับซัมซุง (Samsung Electronics) ที่ครองตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มากขึ้นทุกขณะ และแอปเปิล (Apple) ซึ่งครองพื้นที่ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกมากขึ้นทุกที
ริชาร์ด คราเมอร์ (Richard Kramer) จากบริษัทวิจัย Arete Research ประเมินว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนปีนี้จะมีจำนวนระหว่าง 750-800 ล้านเครื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 2.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยเชื่อว่าผู้ผลิตรายหลักอย่างแอปเปิล ซัมซุง และเอชทีซี จะเป็นผู้ผลิตกลุ่มเดียวที่สามารถทำเงินเป็นกอบเป็นกำได้จากการขยายตัวของ ตลาด
เบื้องต้น ไอดีซีประเมินว่า แอนดรอยด์จะครองส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนถึงปี 2016 (ราว 4 ปีนับจากนี้) โดยเชื่อว่าส่วนแบ่งตลาดบางส่วนจะถูกโอนเป็นของระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน (Windows Phone) ซึ่งจะมีอิทธิพลมากขึ้นในปีดังกล่าว
สำหรับปลายปี 2012 ไอดีซีคาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จะสูงถึง 60% ก่อนจะลดลงเหลือ 53% ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000072068
ประเด็นหลัก
แอนดี้ รูบิน (Andy Rubin) หัวหน้าทีมพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ระบุว่ายอดเปิดใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ 900,000 เครื่องต่อวันนั้นเพิ่มขึ้นจาก 500,000 เครื่องต่อวันซึ่งสำรวจได้ในช่วงมิถุนายน ปี 2011 ก่อนจะเพิ่มเป็น 850,000 เครื่องต่อวันในช่วงต้นปี 2012
แอนดรอยด์นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่กูเกิลสร้างสรรค์มาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์ พกพาโดยเฉพาะ ข้อมูลจากบริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) ระบุว่ายอดจัดส่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 นั้นเพิ่มขึ้นถึง 145% เมื่อเทียบกับปี 2011 ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของแอนดรอยด์ทะลุ 59% แล้วในตลาดโลก
_____________________________________________
กูเกิลยัน อุปกรณ์แอนดรอยด์ถูกเปิดใช้เกิน 9 แสนเครื่องทุกวัน
ข้อมูล จากบริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) ระบุว่ายอดจัดส่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 นั้นเพิ่มขึ้นถึง 145% เมื่อเทียบกับปี 2011 ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของแอนดรอยด์ทะลุ 59% แล้วในตลาดโลก
ตอกย้ำว่าตลาดสินค้าแอนดรอยด์ (Android) กำลังขยายตัวต่อเนื่อง ล่าสุดผู้บริหารกูเกิลผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ยืน ยันว่าจำนวนการเปิดใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ในขณะนี้สูงเกิน 900,000 เครื่องทุกวัน เพิ่มขึ้นจากสถิติล่าสุดคือ 850,000 เครื่องต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แอนดี้ รูบิน (Andy Rubin) หัวหน้าทีมพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ระบุว่ายอดเปิดใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ 900,000 เครื่องต่อวันนั้นเพิ่มขึ้นจาก 500,000 เครื่องต่อวันซึ่งสำรวจได้ในช่วงมิถุนายน ปี 2011 ก่อนจะเพิ่มเป็น 850,000 เครื่องต่อวันในช่วงต้นปี 2012
แอนดรอยด์นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่กูเกิลสร้างสรรค์มาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์ พกพาโดยเฉพาะ ข้อมูลจากบริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) ระบุว่ายอดจัดส่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 นั้นเพิ่มขึ้นถึง 145% เมื่อเทียบกับปี 2011 ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของแอนดรอยด์ทะลุ 59% แล้วในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดแอนดรอยด์นั้นไม่ได้สวยงามทั้งหมด เพราะหนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อย่างเอชทีซี (HTC) นั้นออกประกาศลดเป้าหมายรายได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้ลง เนื่องจากยอดจำหน่ายที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในตลาดยุโรป รวมถึงกำหนดการจัดส่งสินค้าที่ล่าช้าในตลาดสหรัฐฯ
นอกจากเอชทีซี ผู้ผลิตรายอื่นอย่างโซนี (Sony Mobile), แอลจี (LG Electronics) และโมโตโรลา (Motorola Mobility) ซึ่งกูเกิลเพิ่งซื้อกิจการไป ล้วนอยู่ในฐานะผู้ผลิตที่ต้องดิ้นรนในตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพื่อต่อสู้กับซัมซุง (Samsung Electronics) ที่ครองตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มากขึ้นทุกขณะ และแอปเปิล (Apple) ซึ่งครองพื้นที่ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกมากขึ้นทุกที
ริชาร์ด คราเมอร์ (Richard Kramer) จากบริษัทวิจัย Arete Research ประเมินว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนปีนี้จะมีจำนวนระหว่าง 750-800 ล้านเครื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 2.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยเชื่อว่าผู้ผลิตรายหลักอย่างแอปเปิล ซัมซุง และเอชทีซี จะเป็นผู้ผลิตกลุ่มเดียวที่สามารถทำเงินเป็นกอบเป็นกำได้จากการขยายตัวของ ตลาด
เบื้องต้น ไอดีซีประเมินว่า แอนดรอยด์จะครองส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนถึงปี 2016 (ราว 4 ปีนับจากนี้) โดยเชื่อว่าส่วนแบ่งตลาดบางส่วนจะถูกโอนเป็นของระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน (Windows Phone) ซึ่งจะมีอิทธิพลมากขึ้นในปีดังกล่าว
สำหรับปลายปี 2012 ไอดีซีคาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จะสูงถึง 60% ก่อนจะลดลงเหลือ 53% ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000072068
ไม่มีความคิดเห็น: