13 สิงหาคม 2555 i mobile (กลุ่มสามารถ)ไม่ประมูล3Gแน่นอน!เตรียมเซ็นรวมมือทำ3GของTOT/จุดยืนเป็นซิมที่สองของลูกค้าเพื่อใช้ดาต้าในราคาถูก
i mobile (กลุ่มสามารถ)ไม่ประมูล3Gแน่นอน!เตรียมเซ็นรวมมือทำ3GของTOT/จุดยืนเป็นซิมที่สองของลูกค้าเพื่อใช้ดาต้าในราคาถูก
ประเด็นหลัก
"ขายดีตั้งแต่ซีรีส์ i-Style รุ่น 1 และ 2 ราคา 4,900 และ 3,200 บาท รุ่น Q1 และ Q2 ราคา 5,900 และ 5,700 บาท ใช้ 2 ซิมได้หน้าจอ 4 นิ้วเป็นอย่างต่ำ แนวโน้มดังกล่าวทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนอาจมีส่วนแบ่งมากกว่าฟีเจอร์โฟนภายในปี หน้า จากปัจจุบันยอดขายเดือนละ 3 แสนเครื่อง"
นายธนานันท์ กล่าวถึงการประมูลใบอนุญาต 3G คลื่น 2.1GHz ว่า บริษัทไม่เข้าประมูลแน่นอน แต่เป็น MVNO ให้ทีโอที เพื่อได้คลื่นมาทำตลาดในแบรนด์ I-Mobile 3GX โดยบริษัท ไอ-โมบาย พลัส จำกัด ซึ่งรอเซ็นสัญญากับทีโอที
"จุดยืนของซิม 3GX คือเป็นซิมที่สองของลูกค้าเพื่อใช้ดาต้าในราคาถูก"
ก่อน หน้านี้ก็เป็น MVNO บริการ 3G ของทีโอทีอยู่แล้วมีลูกค้า 3GX ราว 1 แสนราย หากการขยายโครงข่ายของทีโอทีเสร็จตามเป้าที่ 5,000 สถานีฐานภายในเดือน ต.ค.นี้ การทำตลาดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่โครงข่ายต้องมีถึงหลักหมื่นจุดขึ้นไป จึงจะสู้กับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ทั้ง 3 เจ้าได้
ทั้งนี้ หลังการประมูลคลื่น 2.1GHz เสร็จสิ้นจะทำให้ตลาดมือถือคึกคักอีกครั้งแน่นอน เพราะผู้บริโภคหันมาซื้อมือถือเครื่องใหม่ที่รองรับระบบ 3G ได้มาใช้แทน แม้เครื่องเดิมจะใช้ EDGE หรือ GPRS เพื่อเล่นอินเทอร์เน็ตได้ แต่ผู้บริโภคก็ยอมซื้อเครื่องใหม่ เพื่อความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น
___________________________
ไอ-โมบายปักธงสมาร์ทโฟน ย้ำแชมป์มือถือเฮาส์แบรนด์
นาย ธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา โทรศัพท์มือถือที่มีแป้นพิมพ์แบบ QWERTY ได้รับความนิยมมาก เพราะกระแสการแชต แต่ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นทั้งแชตและโซเชียลเน็ตเวิร์กมาแทนที่ ถ้าโทรศัพทรองรับได้ทุกแอปพลิเคชั่น ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกใช้มากกว่า และเป็นสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน ซึ่งครึ่งปีแรก บริษัทมียอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นถึงระดับ 20,000 เครื่อง ในเดือน ก.ค.
"ขาย ดีตั้งแต่ซีรีส์ i-Style รุ่น 1 และ 2 ราคา 4,900 และ 3,200 บาท รุ่น Q1 และ Q2 ราคา 5,900 และ 5,700 บาท ใช้ 2 ซิมได้หน้าจอ 4 นิ้วเป็นอย่างต่ำ แนวโน้มดังกล่าวทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนอาจมีส่วนแบ่งมากกว่าฟีเจอร์โฟนภายในปี หน้า จากปัจจุบันยอดขายเดือนละ 3 แสนเครื่อง"
ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะให้น้ำหนักกับกลุ่มสมาร์ทโฟนมากขึ้นจะมีซีรีส์ i-Style ทยอยออกสู่ตลาด ได้แก่ รุ่น 3, 4 และ Q3 พัฒนาซีพียูให้เร็วขึ้น แต่ราคาไม่เกิน 5 พันบาท รวมถึงมีซีรีส์อื่น ๆ ไม่ต่ำกว่า 6-7 รุ่น เป็นหน้าจอระบบทัชสกรีนทั้งหมด ตัดฟังก์ชั่นคีย์บอร์ดปุ่มกด QWERTY ออกไป เพิ่มความสามารถกล้องดิจิทัล และภายในไม่เกิน 2-3 เดือนข้างหน้าจะมีสมาร์ทโฟน "ไอ-โมบาย" รุ่นที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพของโซนี่และโตชิบาออกมาทำตลาดด้วย มีความละเอียดขั้นต่ำ 8 ล้านพิกเซล จากเดิม 5 ล้านพิกเซล คาดว่าปีนี้มีโอกาสที่ยอดขายสมาร์ทโฟนไอ-โมบายจะไปถึง 50,000 เครื่อง/เดือน
และ จะมีแท็บเลตรุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับการใช้ไวไฟออกมาอีก 3 รุ่น มีช่องยูเอสบีเสียบแอร์การ์ด 3 จีได้ เช่น ซีรีส์ i-Note ราคา 3,990 บาท ขายได้ดีมากในต่างจังหวัด กว่า1.5หมื่นเครื่องในเดือน ก.ค.
"ครึ่ง ปีหลังจะมีแท็บเลตรุ่นใหม่ออกมาอีก 3 รุ่น โดยจะขยายหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นพร้อมซีพียูระดับดูอัลคอร์หรือควอดคอร์เหมือน สมาร์ทโฟน ทำให้มีโอกาสโตขึ้นอีก 30-40% ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเลตทุกรุ่นที่จะออกหลังจากนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งของเฮาส์แบรนด์"
สำหรับเป้าหมายยอดขาย ทั้งปีตั้งไว้ที่ 3.7 ล้านเครื่อง เฉลี่ยเดือนละ 3 แสนเครื่อง ซึ่งครึ่งปีหลังจะเป็นสมาร์ทโฟนไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นเครื่อง
นาย ธนานันท์กล่าวถึงการประมูลใบอนุญาต 3G คลื่น 2.1GHz ว่า บริษัทไม่เข้าประมูลแน่นอน แต่เป็น MVNO ให้ทีโอที เพื่อได้คลื่นมาทำตลาดในแบรนด์ I-Mobile 3GX โดยบริษัท ไอ-โมบาย พลัส จำกัด ซึ่งรอเซ็นสัญญากับทีโอที
"จุดยืนของซิม 3GX คือเป็นซิมที่สองของลูกค้าเพื่อใช้ดาต้าในราคาถูก"
ก่อน หน้านี้ก็เป็น MVNO บริการ 3G ของทีโอทีอยู่แล้วมีลูกค้า 3GX ราว 1 แสนราย หากการขยายโครงข่ายของทีโอทีเสร็จตามเป้าที่ 5,000 สถานีฐานภายในเดือน ต.ค.นี้ การทำตลาดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่โครงข่ายต้องมีถึงหลักหมื่นจุดขึ้นไป จึงจะสู้กับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ทั้ง 3 เจ้าได้
ทั้งนี้ หลังการประมูลคลื่น 2.1GHz เสร็จสิ้นจะทำให้ตลาดมือถือคึกคักอีกครั้งแน่นอน เพราะผู้บริโภคหันมาซื้อมือถือเครื่องใหม่ที่รองรับระบบ 3G ได้มาใช้แทน แม้เครื่องเดิมจะใช้ EDGE หรือ GPRS เพื่อเล่นอินเทอร์เน็ตได้ แต่ผู้บริโภคก็ยอมซื้อเครื่องใหม่ เพื่อความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น
ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1344832938&grpid=&catid=06&subcatid=0600
ประเด็นหลัก
"ขายดีตั้งแต่ซีรีส์ i-Style รุ่น 1 และ 2 ราคา 4,900 และ 3,200 บาท รุ่น Q1 และ Q2 ราคา 5,900 และ 5,700 บาท ใช้ 2 ซิมได้หน้าจอ 4 นิ้วเป็นอย่างต่ำ แนวโน้มดังกล่าวทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนอาจมีส่วนแบ่งมากกว่าฟีเจอร์โฟนภายในปี หน้า จากปัจจุบันยอดขายเดือนละ 3 แสนเครื่อง"
นายธนานันท์ กล่าวถึงการประมูลใบอนุญาต 3G คลื่น 2.1GHz ว่า บริษัทไม่เข้าประมูลแน่นอน แต่เป็น MVNO ให้ทีโอที เพื่อได้คลื่นมาทำตลาดในแบรนด์ I-Mobile 3GX โดยบริษัท ไอ-โมบาย พลัส จำกัด ซึ่งรอเซ็นสัญญากับทีโอที
"จุดยืนของซิม 3GX คือเป็นซิมที่สองของลูกค้าเพื่อใช้ดาต้าในราคาถูก"
ก่อน หน้านี้ก็เป็น MVNO บริการ 3G ของทีโอทีอยู่แล้วมีลูกค้า 3GX ราว 1 แสนราย หากการขยายโครงข่ายของทีโอทีเสร็จตามเป้าที่ 5,000 สถานีฐานภายในเดือน ต.ค.นี้ การทำตลาดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่โครงข่ายต้องมีถึงหลักหมื่นจุดขึ้นไป จึงจะสู้กับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ทั้ง 3 เจ้าได้
ทั้งนี้ หลังการประมูลคลื่น 2.1GHz เสร็จสิ้นจะทำให้ตลาดมือถือคึกคักอีกครั้งแน่นอน เพราะผู้บริโภคหันมาซื้อมือถือเครื่องใหม่ที่รองรับระบบ 3G ได้มาใช้แทน แม้เครื่องเดิมจะใช้ EDGE หรือ GPRS เพื่อเล่นอินเทอร์เน็ตได้ แต่ผู้บริโภคก็ยอมซื้อเครื่องใหม่ เพื่อความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น
___________________________
ไอ-โมบายปักธงสมาร์ทโฟน ย้ำแชมป์มือถือเฮาส์แบรนด์
นาย ธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา โทรศัพท์มือถือที่มีแป้นพิมพ์แบบ QWERTY ได้รับความนิยมมาก เพราะกระแสการแชต แต่ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นทั้งแชตและโซเชียลเน็ตเวิร์กมาแทนที่ ถ้าโทรศัพทรองรับได้ทุกแอปพลิเคชั่น ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกใช้มากกว่า และเป็นสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน ซึ่งครึ่งปีแรก บริษัทมียอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นถึงระดับ 20,000 เครื่อง ในเดือน ก.ค.
"ขาย ดีตั้งแต่ซีรีส์ i-Style รุ่น 1 และ 2 ราคา 4,900 และ 3,200 บาท รุ่น Q1 และ Q2 ราคา 5,900 และ 5,700 บาท ใช้ 2 ซิมได้หน้าจอ 4 นิ้วเป็นอย่างต่ำ แนวโน้มดังกล่าวทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนอาจมีส่วนแบ่งมากกว่าฟีเจอร์โฟนภายในปี หน้า จากปัจจุบันยอดขายเดือนละ 3 แสนเครื่อง"
ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะให้น้ำหนักกับกลุ่มสมาร์ทโฟนมากขึ้นจะมีซีรีส์ i-Style ทยอยออกสู่ตลาด ได้แก่ รุ่น 3, 4 และ Q3 พัฒนาซีพียูให้เร็วขึ้น แต่ราคาไม่เกิน 5 พันบาท รวมถึงมีซีรีส์อื่น ๆ ไม่ต่ำกว่า 6-7 รุ่น เป็นหน้าจอระบบทัชสกรีนทั้งหมด ตัดฟังก์ชั่นคีย์บอร์ดปุ่มกด QWERTY ออกไป เพิ่มความสามารถกล้องดิจิทัล และภายในไม่เกิน 2-3 เดือนข้างหน้าจะมีสมาร์ทโฟน "ไอ-โมบาย" รุ่นที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพของโซนี่และโตชิบาออกมาทำตลาดด้วย มีความละเอียดขั้นต่ำ 8 ล้านพิกเซล จากเดิม 5 ล้านพิกเซล คาดว่าปีนี้มีโอกาสที่ยอดขายสมาร์ทโฟนไอ-โมบายจะไปถึง 50,000 เครื่อง/เดือน
และ จะมีแท็บเลตรุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับการใช้ไวไฟออกมาอีก 3 รุ่น มีช่องยูเอสบีเสียบแอร์การ์ด 3 จีได้ เช่น ซีรีส์ i-Note ราคา 3,990 บาท ขายได้ดีมากในต่างจังหวัด กว่า1.5หมื่นเครื่องในเดือน ก.ค.
"ครึ่ง ปีหลังจะมีแท็บเลตรุ่นใหม่ออกมาอีก 3 รุ่น โดยจะขยายหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นพร้อมซีพียูระดับดูอัลคอร์หรือควอดคอร์เหมือน สมาร์ทโฟน ทำให้มีโอกาสโตขึ้นอีก 30-40% ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเลตทุกรุ่นที่จะออกหลังจากนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งของเฮาส์แบรนด์"
สำหรับเป้าหมายยอดขาย ทั้งปีตั้งไว้ที่ 3.7 ล้านเครื่อง เฉลี่ยเดือนละ 3 แสนเครื่อง ซึ่งครึ่งปีหลังจะเป็นสมาร์ทโฟนไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นเครื่อง
นาย ธนานันท์กล่าวถึงการประมูลใบอนุญาต 3G คลื่น 2.1GHz ว่า บริษัทไม่เข้าประมูลแน่นอน แต่เป็น MVNO ให้ทีโอที เพื่อได้คลื่นมาทำตลาดในแบรนด์ I-Mobile 3GX โดยบริษัท ไอ-โมบาย พลัส จำกัด ซึ่งรอเซ็นสัญญากับทีโอที
"จุดยืนของซิม 3GX คือเป็นซิมที่สองของลูกค้าเพื่อใช้ดาต้าในราคาถูก"
ก่อน หน้านี้ก็เป็น MVNO บริการ 3G ของทีโอทีอยู่แล้วมีลูกค้า 3GX ราว 1 แสนราย หากการขยายโครงข่ายของทีโอทีเสร็จตามเป้าที่ 5,000 สถานีฐานภายในเดือน ต.ค.นี้ การทำตลาดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่โครงข่ายต้องมีถึงหลักหมื่นจุดขึ้นไป จึงจะสู้กับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ทั้ง 3 เจ้าได้
ทั้งนี้ หลังการประมูลคลื่น 2.1GHz เสร็จสิ้นจะทำให้ตลาดมือถือคึกคักอีกครั้งแน่นอน เพราะผู้บริโภคหันมาซื้อมือถือเครื่องใหม่ที่รองรับระบบ 3G ได้มาใช้แทน แม้เครื่องเดิมจะใช้ EDGE หรือ GPRS เพื่อเล่นอินเทอร์เน็ตได้ แต่ผู้บริโภคก็ยอมซื้อเครื่องใหม่ เพื่อความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น
ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1344832938&grpid=&catid=06&subcatid=0600
ไม่มีความคิดเห็น: