Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

18 กันยายน 2555 ( แจงวุ่นคนTOTออก) อนุดิษฐ์ชี้ รัฐวิสาหกิจ กับรัฐบาล ต้องมีความเกี่ยวเนื่องกัน++พันธ์เทพชี้ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกัน

( แจงวุ่นคนTOTออก) อนุดิษฐ์ชี้ รัฐวิสาหกิจ กับรัฐบาล ต้องมีความเกี่ยวเนื่องกัน++พันธ์เทพชี้ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกัน
ประเด็นหลัก


  นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวว่าสำหรับสาเหตุการลาออกในครั้งนี้เนื่องจากตลอดระยะเวลาการทำงานของ บอร์ดมาเกือบ 1 ปี ได้เจออุปสรรคหลายอย่างทั้งวิธีการทำงาน ระบบภายใน และความคล่องตัว บอร์ดจึงเห็นตรงกันว่าต้องการเปิดโอกาสให้กระทรวงไอซีที และรัฐบาลหากลุ่มตัวแทนที่จะเข้ามาผลักดันให้มีความคล่องตัวมากกว่าใน ปัจจุบัน ซึ่งการทำงานของกรรมการทุกคนเป็นไปด้วยดี ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันแต่อย่างใด ที่สำคัญต้องการให้บอร์ดมีคนที่รู้เรื่องในด้านการเงิน และเป็นตัวแทนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เนื่องจากในอนาคตทีโอทีจะมีการตั้งบริษัทลูก 3 บริษัทคือ 1.ไฟเบอร์โค 2.ทาวเวอร์โค และ3.แอปพลิเคชันโค ขึ้นมาใหม่โดยจะเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยจึงจำเป็นต้องหาบอร์ดที่ มีความรู้ความสามารถด้านการเงิน



น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีทีกล่าวว่าการลาออกของบอร์ดทีโอทีทั้ง 8 คนนั้น ถือเป็นการแสดงสปิริตทางการทำงานที่มีต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพราะที่ ผ่านมารัฐวิสาหกิจ กับรัฐบาล ต้องมีความเกี่ยวเนื่องกัน แต่การบริหารที่ปรากฎอาจไม่ราบรื่นเท่าที่ควร และส่งผลต่อเป้าหมายที่ตนตั้งไว้ในตอนแรกดังนั้นการลาออกถือเป็นการเปิดทาง ให้คนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน
     
      'ขอยืนยันว่าการลาออกในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแรงกดดันทางการเมืองแน่นอน เพราะที่ผ่านมาได้มีการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด การตัดสินใจครั้งนี้จึงเป็นเพียงการแสดงสปิริตของบอร์ดเอง'






________________________________________

'อนุดิษฐ์' สดุดีสปิริตสูง ถ่ายเลือดใหม่บอร์ดทีโอที


      'พันธ์เทพ' แจง 8 กรรมการบอร์ดทีโอทีไขก๊อก หวังเปิดทางก.ไอซีที ก.คลัง เลือกบอร์ดใหม่ ช่ำชองด้านการเงิน รับยุทธศาสตร์ตั้ง 3 บริษัทลูก หลังไฟเขียวแผนลงทุน 3G เฟส 2 มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ด้าน 'อนุดิษฐ์' ยันการเมืองไม่ได้กดดัน เป็นสปิริตของบอร์ดเอง
     
      นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวว่าในการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ได้มีการลาออกของบอร์ดรวม 8 คนคือ 1.น.อ.ประสงค์ ปราณีตพลกรัง 2.นายธนวัฒน์ อัมพุนันทน์ 3.นายสุรพันธ์ เมฆนาวิน 4.นายวัลลภ พลอยทับทิม 5.นายวาสุกรี กล้าไพรี 6.นายธนา ธรรมวิหาร 7.นายพงศ์รักษ์ จินดาสมบัติเจริญ และ 8.นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานบอร์ด โดยทั้งหมดจะยื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ก.ย. กับกระทรวงการคลังอีกครั้ง
     
      ส่วนบอร์ดที่เหลือยังคงรักษาการในตำแหน่งเดิมได้แก่ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย, นายประสิทธิ์ ศิริภากร, นายสาธิต รังคสิริณ์, นายจุมพล ริมสาคร และนายสุรศักดิ์ เรียงเครือ เนื่องจากบอร์ดทั้ง 5 คนเป็นตัวแทนจากหน่วยงานราชการ จึงไม่ได้ยื่นหนังสือลาออกในครั้งนี้ด้วย
     
      สำหรับสาเหตุการลาออกในครั้งนี้เนื่องจากตลอดระยะเวลาการทำงานของบอร์ดมา เกือบ 1 ปี ได้เจออุปสรรคหลายอย่างทั้งวิธีการทำงาน ระบบภายใน และความคล่องตัว บอร์ดจึงเห็นตรงกันว่าต้องการเปิดโอกาสให้กระทรวงไอซีที และรัฐบาลหากลุ่มตัวแทนที่จะเข้ามาผลักดันให้มีความคล่องตัวมากกว่าใน ปัจจุบัน ซึ่งการทำงานของกรรมการทุกคนเป็นไปด้วยดี ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันแต่อย่างใด ที่สำคัญต้องการให้บอร์ดมีคนที่รู้เรื่องในด้านการเงิน และเป็นตัวแทนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เนื่องจากในอนาคตทีโอทีจะมีการตั้งบริษัทลูก 3 บริษัทคือ 1.ไฟเบอร์โค 2.ทาวเวอร์โค และ3.แอปพลิเคชันโค ขึ้นมาใหม่โดยจะเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยจึงจำเป็นต้องหาบอร์ดที่ มีความรู้ความสามารถด้านการเงิน
     
      'ตลอดระยะเวลาการทำงาน 10 เดือนที่ผ่านมาเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีการแตกคอกันเองภายในบอร์ดอย่างที่เป็น ข่าว ส่วนที่บอกว่าการเมืองบีบก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดเช่นเดียวกัน'
     
      โดยขั้นตอนต่อไปบอร์ดจะยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ก.ย.ต่อกระทรวงการคลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะเสนอชื่อบอร์ดชุดใหม่มาให้ กระทรวงไอซีทีพิจารณาและประกาศอย่างเป็นทางการ
     
      นอกจากนี้บอร์ดยังได้อนุมัติแผนการดำเนินงาน 3G เฟส 2 จำนวน 12,000 ไซต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท เพื่อที่จะให้ครอบคลุม 80% ของประชากร พร้อมทั้งแผนการใช้คลื่น 2.3 GHz หรือ 4G บนเทคโนโลยี LTE เพื่อใช้เป็นโครงข่ายสำรองโทรศัพท์มือถือในการสนับสนุน 3G เฟส 2 อีก 2,000 ไซต์โดยคาดว่าจะส่งเรื่องไปยังกระทรวงไอซีทีภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้จากนั้น กระทรวงจะส่งเรื่องไปยังสภาพัฒน์ฯ ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมครม.ต่อไป
     
      ทั้งนี้ 3G เฟสแรกปัจจุบันเปิดไปแล้วกว่า 3,300 สถานีฐาน ซึ่งยังขาดอยู่อีกประมาณ 2,000สถานีฐาน โดยทีโอทีจะเน้นการติดตั้งสถานีฐานใหม่ แทนการเช่าใช้ (โคไซต์) เหมือนในอดีตเพราะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ใช้เวลานาน และมีราคาแพงกว่าโดยคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จตามจำนวน 5,320 สถานีฐานภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้
     
      'แม้ความถี่ 2.3 GHz จำนวน 64 MHz ที่ก่อนหน้านี้กสทช.เคยจะขอคืนทั้งหมดตามกฏหมายนั้น แต่ถึงตอนนี้ผมมองว่าคงจะคืนให้ไม่ได้แน่นอน เนื่องจากเราต้องเอาไปทำ LTE และต้องแบ่งไปให้กระทรวงไอซีทีไปกว่าครึ่งเพื่อไปใช้ตามนโยบายรัฐบาลอาทิ Wi-Fi ฟรี และเพื่อรองรับบริการแทบเล็ตป.1 อีกด้วย'
     
      นายพันธ์เทพกล่าวว่าขณะนี้มีเอกชนเสนอมา 2 ราย ที่จะติดตั้งและให้อุปกรณ์ทีโอทีใช้ฟรี โดยเป็นการเช่าเน็ตเวิร์กสำหรับการใช้คลื่น 2.3 GHz ซึ่งทีโอทีเตรียมเสนอแผนดังกล่าวให้ไอซีที เพื่อนำเข้าสู่วาระที่ประชุมครม.และเพื่อให้ครม.ไปชี้แจงกับสภาฯ ถึงความจำเป็นตามนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นกสทช.ก็ไม่มีสิทธินำคลื่นไปจัดสรรใหม่เพราะกสทช.ต้องปฎิบัติตามนโย บายที่สภาฯมอบหมายด้วย
     
      นอกจากนี้บอร์ดยังอนุมัติโครงการ Wi-Fi ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในเฟสแรกจะมีจำนวน 200,000 จุดโดยจะเน้นการเช่าใช้แทนการติดตั้งเองเพราะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้บริษัท โซเน็ต ซึ่งเป็น ISP อันดับ 2 ของญี่ปุ่น ในเครือโซนี่ ได้ทำหนังสือแจ้งความจำนงจะให้ความรู้เรื่อง IP ฟรีกับทีโอที แต่แลกกับการสงวนสิทธิ์ในการลงทุนเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับทีโอทีเพียงรายเดียว ในเรื่องแอปโค ซึ่งกลุ่มโซนี่มีความพร้อมเรื่องคอนเทนต์หลายรูปแบบ โดยเบื้องต้นคาดว่าพร้อมจะลงทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ
     
      น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีทีกล่าวว่าการลาออกของบอร์ดทีโอทีทั้ง 8 คนนั้น ถือเป็นการแสดงสปิริตทางการทำงานที่มีต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพราะที่ ผ่านมารัฐวิสาหกิจ กับรัฐบาล ต้องมีความเกี่ยวเนื่องกัน แต่การบริหารที่ปรากฎอาจไม่ราบรื่นเท่าที่ควร และส่งผลต่อเป้าหมายที่ตนตั้งไว้ในตอนแรกดังนั้นการลาออกถือเป็นการเปิดทาง ให้คนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน
     
      'ขอยืนยันว่าการลาออกในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแรงกดดันทางการเมืองแน่นอน เพราะที่ผ่านมาได้มีการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด การตัดสินใจครั้งนี้จึงเป็นเพียงการแสดงสปิริตของบอร์ดเอง'
     
      ส่วนขั้นตอนต่อไปนั้นกระทรวงไอซีทีจะทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อสรรหา บุคลากรที่จะมาเป็นกรรมการชุดใหม่โดยเร็วที่สุดคาดว่าภายในเดือนก.ย.นี้


ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000114681

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.