21 มกราคม 2555 ( ต้องระวังตัว สุดๆๆๆ กับ TOT ) สหภาพTOT แฉระบบบิลลิ่งไม่ผ่านกรรมการตรวจ // กสทช.แนะผู้บริโภคอย่าจ่าย ธฯธ บิลลิ่งผิด
( ต้องระวังตัว สุดๆๆๆ กับ TOT ) สหภาพTOT แฉระบบบิลลิ่งไม่ผ่านกรรมการตรวจ // กสทช.แนะผู้บริโภคอย่าจ่าย ธฯธ บิลลิ่งผิด
ประเด็นหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที ได้ออกหนังสือปกขาวถึงสาเหตุทีโอทีเก็บบิลลิ่งผิดพลาด จากเปิดให้บริการระบบจัดพิมพ์ใบแจ้งหนี้ (บิลลิ่ง) ระบบดูแลลูกค้า (ซีอาร์เอ็ม) วันที่ 11 ต.ค.2554 ทั้งที่ระบบยังไม่ได้สมบูรณ์ แต่บมจ.แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (เอไอที) ผู้ชนะการประมูลโครงการบิลลิ่งด้วยวิธีพิเศษราคา 779 ล้านบาท ยืนยันและแจ้งความพร้อมในการตัดถ่ายระบบ (คัท โอเวอร์) แล้ว พร้อมเปิดให้บริการทันที หากยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบของทีโอที
ทั้งนี้ ตามประกาศของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) ตามมาตรฐานสัญญาให้บริการ หากมีลูกค้าเชื่อว่า การเรียกเก็บค่าบริการไม่ถูกต้อง ผู้ให้บริการจำเป็นต้องเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้เสร็จภายใน 60 วัน หากระหว่างนั้น ผู้ให้บริการไม่ได้แจ้งกลับมาว่าผลสรุป หรือการสอบสวนเป็นอย่างไร ตามประกาศของ กทช. กำหนดให้หนี้จำนวนดังกล่าวกลายเป็นศูนย์ทันที แต่หากผู้ให้บริการยังยืนยันว่า การคิดค่าบริการเป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว ก็นำหลักฐานข้อมูลมาคัดค้านกันได้ ซึ่งสถาบันคุ้มครองผู้บริโภค (สบท.) ยินดีเป็นตัวกลางหาข้อเท็จจริง และไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ
________________________________________________________
กสทช.แนะผู้บริโภคอย่าจ่ายทีโอทีบิลลิ่งผิด
สหภาพทีโอที แฉระบบบิลลิ่งไม่ผ่านกรรมการตรวจ ชิงปล่อยบริการช่วงน้ำท่วม
กสทช. แนะลูกค้าอย่าจ่ายค่าโทรศัพท์ทีโอที หากโดนเรียกเก็บซ้ำ หรือพื้นที่น้ำท่วมไม่ได้ใช้บริการกลับโดนเรียกเก็บเงิน แนะร้องศูนย์บริการลูกค้าทันที ซึ่งต้องสอบข้อมูลภายใน 60 วัน หากยังนิ่งให้ยกหนี้เป็นประโยชน์ของลูกค้า เผยหากมีผู้ร้อง สบท. ยินดีเดินเรื่องให้ ชี้ถ้าพบเก็บเงินผิดสั่งคืนลูกค้า พร้อมดอกเบี้ย ด้านสหภาพทีโอที แฉระบบบิลลิ่งยังไม่ผ่านกรรมการตรวจ ชิงปล่อยบริการช่วงน้ำท่วม
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะกรรมการในด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ผู้บริโภคร้องเรียนเรื่องการจัดเก็บค่าบริการ (บิลลิ่ง) ของบมจ.ทีโอที ว่า เก็บซ้ำติดต่อกัน ทั้งที่ชำระค่าบริการแล้ว อีกทั้งพื้นที่น้ำท่วมใช้บริการไม่ได้ เช่น อยุธยา กลับถูกทีโอทีส่งบิลเรียกเก็บค่าบริการ หากไม่ชำระตามกำหนดโดนตัดสายทันที ผู้บริโภคดำเนินการได้ 2 ขั้นตอน คือ 1. ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ หากมั่นใจว่าการเรียกเก็บไม่ถูกต้อง 2. สอบถามไปยังศูนย์ให้บริการทีโอทีใกล้บ้าน และขอให้ทีโอทีตรวจสอบการเก็บค่าบริการทันที
ทั้งนี้ ตามประกาศของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) ตามมาตรฐานสัญญาให้บริการ หากมีลูกค้าเชื่อว่า การเรียกเก็บค่าบริการไม่ถูกต้อง ผู้ให้บริการจำเป็นต้องเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้เสร็จภายใน 60 วัน หากระหว่างนั้น ผู้ให้บริการไม่ได้แจ้งกลับมาว่าผลสรุป หรือการสอบสวนเป็นอย่างไร ตามประกาศของ กทช. กำหนดให้หนี้จำนวนดังกล่าวกลายเป็นศูนย์ทันที แต่หากผู้ให้บริการยังยืนยันว่า การคิดค่าบริการเป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว ก็นำหลักฐานข้อมูลมาคัดค้านกันได้ ซึ่งสถาบันคุ้มครองผู้บริโภค (สบท.) ยินดีเป็นตัวกลางหาข้อเท็จจริง และไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ
แต่ เขายอมรับว่า เบื้องต้น สบท. ดำเนินการเอาผิดกับทีโอทีกรณีเรียกเก็บค่าบริการซ้ำ หรือเรียกเก็บทั้งๆ ที่ใช้งานไม่ได้ ทำโดยตรงไม่ได้ เพราะ สบท. ไม่มีต้นเรื่อง และไม่มีหลักฐานยันว่าทีโอทีกระทำผิดจริง ดังนั้น หากมีผู้ได้รับผลกระทบ ก็ส่งเรื่องมายังสำนักงานกสทช. หรือสบท. ได้เลย
"กรณีของทีโอทีไม่ เหมือนดีแทคที่สัญญาณล่มก็มีหลักฐานชัดเจน แต่ประเด็นนี้ผู้บริโภคควรส่งเรื่องมายังเราโดยตรง หากสุดท้ายเราสอบแล้วพบว่าทีโอทีกระทำผิดจริง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางเทคนิค หรืออะไรก็ตาม กสทช. มีอำนาจที่จะสั่งให้ทีโอทีหยุดดำเนินการเก็บเงินลูกค้า หรือให้คืนเงินลูกค้าไป ซึ่งต้องชดเชยลูกค้า พร้อมด้วยดอกเบี้ยด้วย"
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที ได้ออกหนังสือปกขาวถึงสาเหตุทีโอทีเก็บบิลลิ่งผิดพลาด จากเปิดให้บริการระบบจัดพิมพ์ใบแจ้งหนี้ (บิลลิ่ง) ระบบดูแลลูกค้า (ซีอาร์เอ็ม) วันที่ 11 ต.ค.2554 ทั้งที่ระบบยังไม่ได้สมบูรณ์ แต่บมจ.แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (เอไอที) ผู้ชนะการประมูลโครงการบิลลิ่งด้วยวิธีพิเศษราคา 779 ล้านบาท ยืนยันและแจ้งความพร้อมในการตัดถ่ายระบบ (คัท โอเวอร์) แล้ว พร้อมเปิดให้บริการทันที หากยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบของทีโอที
ทั้งนี้ หลังลงนามสัญญาว่าจ้างเอไอที สหภาพทีโอทีพบบริษัทรับงานประมูลดำเนินการไม่ปกติ เช่น คู่สัญญาว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญชาวอินเดียมาเขียนโปรแกรม โดยไม่ขอใบอนุญาตทำงานในไทย ต่อมาชาวอินเดียที่เป็นผู้เขียนโปรแกรมถูกจับกุมตัว ถึงเดือนก.ค. - ต.ค.2554 ระบบ User Acceptannce Test (UAT) ได้ป้อนรหัสคำสั่ง และตั้งค่าไม่ถูกต้อง ทำให้จัดพิมพ์บิลลิ่งผิดพลาด ระบบเกิดคั่งค้างของการใส่ข้อความตามความต้องการของลูกค้า เกิดหนี้ค้างชำระสะสม แม้จะจ่ายแล้วแต่ระบบไม่อัพเดท
กรุงเทพธุรกิจ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20120121/431
197/%A1%CA%B7%AA.%E1%B9%D0%BC%D9%E9%BA%C3%D4
%E2%C0%A4%CD%C2%E8%D2%A8%E8%D2%C2%B7%D5%E2
%CD%B7%D5%BA%D4%C5%C5%D4%E8%A7%BC%D4%B4.html
ประเด็นหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที ได้ออกหนังสือปกขาวถึงสาเหตุทีโอทีเก็บบิลลิ่งผิดพลาด จากเปิดให้บริการระบบจัดพิมพ์ใบแจ้งหนี้ (บิลลิ่ง) ระบบดูแลลูกค้า (ซีอาร์เอ็ม) วันที่ 11 ต.ค.2554 ทั้งที่ระบบยังไม่ได้สมบูรณ์ แต่บมจ.แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (เอไอที) ผู้ชนะการประมูลโครงการบิลลิ่งด้วยวิธีพิเศษราคา 779 ล้านบาท ยืนยันและแจ้งความพร้อมในการตัดถ่ายระบบ (คัท โอเวอร์) แล้ว พร้อมเปิดให้บริการทันที หากยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบของทีโอที
ทั้งนี้ ตามประกาศของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) ตามมาตรฐานสัญญาให้บริการ หากมีลูกค้าเชื่อว่า การเรียกเก็บค่าบริการไม่ถูกต้อง ผู้ให้บริการจำเป็นต้องเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้เสร็จภายใน 60 วัน หากระหว่างนั้น ผู้ให้บริการไม่ได้แจ้งกลับมาว่าผลสรุป หรือการสอบสวนเป็นอย่างไร ตามประกาศของ กทช. กำหนดให้หนี้จำนวนดังกล่าวกลายเป็นศูนย์ทันที แต่หากผู้ให้บริการยังยืนยันว่า การคิดค่าบริการเป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว ก็นำหลักฐานข้อมูลมาคัดค้านกันได้ ซึ่งสถาบันคุ้มครองผู้บริโภค (สบท.) ยินดีเป็นตัวกลางหาข้อเท็จจริง และไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ
________________________________________________________
กสทช.แนะผู้บริโภคอย่าจ่ายทีโอทีบิลลิ่งผิด
สหภาพทีโอที แฉระบบบิลลิ่งไม่ผ่านกรรมการตรวจ ชิงปล่อยบริการช่วงน้ำท่วม
กสทช. แนะลูกค้าอย่าจ่ายค่าโทรศัพท์ทีโอที หากโดนเรียกเก็บซ้ำ หรือพื้นที่น้ำท่วมไม่ได้ใช้บริการกลับโดนเรียกเก็บเงิน แนะร้องศูนย์บริการลูกค้าทันที ซึ่งต้องสอบข้อมูลภายใน 60 วัน หากยังนิ่งให้ยกหนี้เป็นประโยชน์ของลูกค้า เผยหากมีผู้ร้อง สบท. ยินดีเดินเรื่องให้ ชี้ถ้าพบเก็บเงินผิดสั่งคืนลูกค้า พร้อมดอกเบี้ย ด้านสหภาพทีโอที แฉระบบบิลลิ่งยังไม่ผ่านกรรมการตรวจ ชิงปล่อยบริการช่วงน้ำท่วม
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะกรรมการในด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ผู้บริโภคร้องเรียนเรื่องการจัดเก็บค่าบริการ (บิลลิ่ง) ของบมจ.ทีโอที ว่า เก็บซ้ำติดต่อกัน ทั้งที่ชำระค่าบริการแล้ว อีกทั้งพื้นที่น้ำท่วมใช้บริการไม่ได้ เช่น อยุธยา กลับถูกทีโอทีส่งบิลเรียกเก็บค่าบริการ หากไม่ชำระตามกำหนดโดนตัดสายทันที ผู้บริโภคดำเนินการได้ 2 ขั้นตอน คือ 1. ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ หากมั่นใจว่าการเรียกเก็บไม่ถูกต้อง 2. สอบถามไปยังศูนย์ให้บริการทีโอทีใกล้บ้าน และขอให้ทีโอทีตรวจสอบการเก็บค่าบริการทันที
ทั้งนี้ ตามประกาศของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) ตามมาตรฐานสัญญาให้บริการ หากมีลูกค้าเชื่อว่า การเรียกเก็บค่าบริการไม่ถูกต้อง ผู้ให้บริการจำเป็นต้องเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้เสร็จภายใน 60 วัน หากระหว่างนั้น ผู้ให้บริการไม่ได้แจ้งกลับมาว่าผลสรุป หรือการสอบสวนเป็นอย่างไร ตามประกาศของ กทช. กำหนดให้หนี้จำนวนดังกล่าวกลายเป็นศูนย์ทันที แต่หากผู้ให้บริการยังยืนยันว่า การคิดค่าบริการเป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว ก็นำหลักฐานข้อมูลมาคัดค้านกันได้ ซึ่งสถาบันคุ้มครองผู้บริโภค (สบท.) ยินดีเป็นตัวกลางหาข้อเท็จจริง และไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ
แต่ เขายอมรับว่า เบื้องต้น สบท. ดำเนินการเอาผิดกับทีโอทีกรณีเรียกเก็บค่าบริการซ้ำ หรือเรียกเก็บทั้งๆ ที่ใช้งานไม่ได้ ทำโดยตรงไม่ได้ เพราะ สบท. ไม่มีต้นเรื่อง และไม่มีหลักฐานยันว่าทีโอทีกระทำผิดจริง ดังนั้น หากมีผู้ได้รับผลกระทบ ก็ส่งเรื่องมายังสำนักงานกสทช. หรือสบท. ได้เลย
"กรณีของทีโอทีไม่ เหมือนดีแทคที่สัญญาณล่มก็มีหลักฐานชัดเจน แต่ประเด็นนี้ผู้บริโภคควรส่งเรื่องมายังเราโดยตรง หากสุดท้ายเราสอบแล้วพบว่าทีโอทีกระทำผิดจริง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางเทคนิค หรืออะไรก็ตาม กสทช. มีอำนาจที่จะสั่งให้ทีโอทีหยุดดำเนินการเก็บเงินลูกค้า หรือให้คืนเงินลูกค้าไป ซึ่งต้องชดเชยลูกค้า พร้อมด้วยดอกเบี้ยด้วย"
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที ได้ออกหนังสือปกขาวถึงสาเหตุทีโอทีเก็บบิลลิ่งผิดพลาด จากเปิดให้บริการระบบจัดพิมพ์ใบแจ้งหนี้ (บิลลิ่ง) ระบบดูแลลูกค้า (ซีอาร์เอ็ม) วันที่ 11 ต.ค.2554 ทั้งที่ระบบยังไม่ได้สมบูรณ์ แต่บมจ.แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (เอไอที) ผู้ชนะการประมูลโครงการบิลลิ่งด้วยวิธีพิเศษราคา 779 ล้านบาท ยืนยันและแจ้งความพร้อมในการตัดถ่ายระบบ (คัท โอเวอร์) แล้ว พร้อมเปิดให้บริการทันที หากยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบของทีโอที
ทั้งนี้ หลังลงนามสัญญาว่าจ้างเอไอที สหภาพทีโอทีพบบริษัทรับงานประมูลดำเนินการไม่ปกติ เช่น คู่สัญญาว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญชาวอินเดียมาเขียนโปรแกรม โดยไม่ขอใบอนุญาตทำงานในไทย ต่อมาชาวอินเดียที่เป็นผู้เขียนโปรแกรมถูกจับกุมตัว ถึงเดือนก.ค. - ต.ค.2554 ระบบ User Acceptannce Test (UAT) ได้ป้อนรหัสคำสั่ง และตั้งค่าไม่ถูกต้อง ทำให้จัดพิมพ์บิลลิ่งผิดพลาด ระบบเกิดคั่งค้างของการใส่ข้อความตามความต้องการของลูกค้า เกิดหนี้ค้างชำระสะสม แม้จะจ่ายแล้วแต่ระบบไม่อัพเดท
กรุงเทพธุรกิจ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20120121/431
197/%A1%CA%B7%AA.%E1%B9%D0%BC%D9%E9%BA%C3%D4
%E2%C0%A4%CD%C2%E8%D2%A8%E8%D2%C2%B7%D5%E2
%CD%B7%D5%BA%D4%C5%C5%D4%E8%A7%BC%D4%B4.html
ไม่มีความคิดเห็น: