Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

27 มิถุนายน 2555 ชัดเจน! “สัญญา 3G CAT TRUE ขัดม.46 พ.ร.บ.กสทช. // มติของ กทค. ( กสทช. ) มั้นใจไม่โมฆะ เพราะเป็นสัญญามีผลกระทบต่

ชัดเจน! “สัญญา 3G CAT TRUE ขัดม.46 พ.ร.บ.กสทช. // มติของ กทค. ( กสทช. ) มั้นใจไม่โมฆะ เพราะเป็นสัญญามีผลกระทบต่


ประเด็นหลัก

ทั้งนี้ มติของ กทค. เป็นการใช้คำสั่งทางปกครอง ดังนั้นสัญญาจึงไม่มีการทำให้เป็นโมฆะ เพราะเป็นสัญญาที่มีผลกระทบต่อประโยชน์ของสาธารณะ และระหว่างที่มีการแก้ไขสัญญาดังกล่าวตามมติของ กทค. นั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ 3จีของ กสท และทรู หรือลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ

ที่สุดแล้วเรื่องสัญญาที่ต้องแก้ไขเป็น หน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ส่วนผู้บริโภคผู้ใช้เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงใช้งานได้อย่างปกติและ สบายใจ.



_________________________________________________


ชัดเจน! “สัญญา 3จี กสท-ทรู” ขัดม.46 พ.ร.บ.กสทช.


ลูกค้าไม่กระทบใช้งานได้ปกติ-สัญญาไม่เป็นโมฆะ

สัปดาห์ ที่ผ่านมาคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) มีมติเกี่ยวกับสัญญา 3จีระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ลงนามในสัญญาตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2554

โดย ได้ข้อสรุป ว่า สัญญาการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ 3จี แบบเอชเอสพีเอ ระหว่างกสท-ทรู มีความไม่ชอบตามมาตรา 46 พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจาย เสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 หรือ (พ.ร.บ.กสทช.) ที่ห้ามโอนสิทธิ์การใช้คลื่นความถี่ไปให้บุคคลอื่น โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย

ประเด็นที่ 1. การทำสัญญาระหว่าง กสท กับกลุ่มบริษัท ทรู ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่บนคลื่นความถี่ 800 เมกะเฮิร์ตซ เป็นสัญญาปกครองที่การกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมต้องคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ เป็นสำคัญ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 47 และมาตรา 27 (4) และ (6) ประกอบมาตรา 40 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 มีคำสั่งให้ กสท ในฐานะผู้ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 โดยดำเนินการเพื่อให้มีการแก้ไขข้อสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่บนคลื่นความถี่ 800 เมกะเฮิร์ตซ ให้สอดคล้องกับมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ทั้งหมด 6 ข้อ ดังนี้

1.กสท ต้องสามารถนำคลื่นความถี่ย่าน 800 เมกะเฮิร์ตซ ไปใช้กับเครื่องและอุปกรณ์ของกสท หรือของบริษัทอื่นได้ 2. กสท ต้องควบคุมดูแลและบริหารจัดการ หรือ เน็ตเวิร์ก โอปอเรเตอร์ เซ็นเตอร์ อย่างสมบูรณ์ 3. ข้อมูลการใช้งาน ต้องอยู่ในความครอบครองของ กสท 4. อำนาจของคณะกรรมการควบคุมการปฏิบัติงานตามสัญญาต้องมีความชัดเจน โดยแสดงให้เห็นถึงอำนาจในการบริหารจัดการคลื่นความถี่ของ กสท 5. กระบวนการสร้างและจัดหาความจุของ บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จะต้องแสดงให้เห็นว่า กสท เป็นผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการตัดสินใจในเรื่องแผนคลื่นความถี่ แผนการขยายโครงข่าย และการปฏิบัติงานอย่างสมบูรณ์ และ6. กสท ต้องเป็นผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการเจรจาการให้บริการข้ามโครงข่ายภาย ในประเทศ และการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมกับผู้ประกอบการรายอื่น

ทางออก ของการแก้ไขปัญหาในประเด็นนี้ คือ กทค. สั่งให้ กสท ในฐานะผู้ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 โดยดำเนินการแก้ไขสัญญาให้สอดคล้องกับมาตรา 46 และรายงานผลการดำเนินงานต่อ กทค. ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ กสท ได้รับหนังสือคำสั่ง

ประเด็นที่ 2. กรณีความชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับโทรคมนาคมอื่นๆ โดยเฉพาะประเด็นด้านการแข่งขัน กทช.ปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช. เคยมีมติแล้วเมื่อ 28 ก.ย.55 โดยมีคำสั่งให้คู่สัญญาดำเนินการแก้ไขปรับปรุงข้อกำหนดในสัญญาให้ถูกต้องตาม กฎหมาย ซึ่งปัจจุบันคู่สัญญาได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้เพิกถอนมติหรือคำ สั่งที่พิพาทดังกล่าว และอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาลปกครอง จึงไม่สมควรหรือมีมติหรือออกคำสั่งซ้ำ

ประเด็นที่ 3. กรณีการดำเนินการของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด ที่คณะอนุกรรมการฯมีความเห็นว่าอาจเข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดย ไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 67 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 คณะอนุกรรมการฯ เสนอให้กสทช.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลใช้อำนาจตามมาตรา 47 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 มีคำสั่งเร่งรัดให้กสท ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาตดำเนินการแก้ไขข้อสัญญาให้สอดคล้องกับมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 โดยต้องทำให้กสท ควบคุมดูแลและบริหารจัดการคลื่นได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าไม่ดำเนินการจะถือว่า บีเอฟเคที เข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมบางส่วนของ กสท ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 67 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544

สำหรับประเด็นที่ 3 กทค.มีมติ ให้สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงและกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินงานของ บีเอฟเคที ตั้งแต่วันที่ทำสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่บนคลื่นความ ถี่ 800 เมกะเฮิร์ตซ กับ กสท ว่าเข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมบางส่วนของ กสท ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตหรือไม่ โดยให้เวลาดำเนินงาน 30 วันนับตั้งแต่วันที่มีมติ (20 มิ.ย.)

ทั้งนี้ มติของ กทค. เป็นการใช้คำสั่งทางปกครอง ดังนั้นสัญญาจึงไม่มีการทำให้เป็นโมฆะ เพราะเป็นสัญญาที่มีผลกระทบต่อประโยชน์ของสาธารณะ และระหว่างที่มีการแก้ไขสัญญาดังกล่าวตามมติของ กทค. นั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ 3จีของ กสท และทรู หรือลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ

ที่สุดแล้วเรื่องสัญญาที่ต้องแก้ไขเป็น หน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ส่วนผู้บริโภคผู้ใช้เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงใช้งานได้อย่างปกติและ สบายใจ.

กสท-ทรู พ้อมแก้ไขสัญญาตามมติ กทค.

นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กสท พร้อมและยินดีปฏิบัติตามมติของบอร์ด กทค. ทุกประการ หากได้รับคำสั่งจาก กสทช. อย่างเป็นทางการแล้ว จะเร่งดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะถือว่า กสทช.เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล และ กสท ก็เป็นหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจก็ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว ส่วนการเจรจากับกลุ่มทรู ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องที่ทรู จะเห็นด้วยและปฏิบัติตามมติหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มทรู.

ด้าน นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทฯ ยินดีให้ความร่วมมือกับ บมจ. กสท โทรคมนาคม ในการดำเนินการปรับปรุงรายละเอียดข้อสัญญาให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น และให้สอดคล้องกับมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ตามมติของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม โดยประเด็นต่างๆ ที่ กทค. มีคำสั่งให้ กสท. ดำเนินการแก้ไขนั้น เป็นข้อปฏิบัติที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด บริษัทฯ จึงมั่นใจว่า กสท. และทรู จะสามารถร่วมมือกันในการดำเนินการดังกล่าวให้เรียบร้อยได้ด้วยดี และบริษัทฯ ขอยืนยันกับลูกค้าว่า การให้บริการทรูมูฟ เอช ยังคงเป็นไปตามปกติ ขอให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

@phetchan
เดลินิวส์
http://www.dailynews.co.th/technology/121626

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.