30 กรกฎาคม 2555 จี้‘CAT เร่งแก้สัญญามือถือ3G กับTRUE ก่อนติดร่างแหผิดพรบ.วิทยุคมนาคม(โดยเฉพาะBFKTไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ให้เช่าได้)
จี้‘CAT เร่งแก้สัญญามือถือ3G กับTRUE ก่อนติดร่างแหผิดพรบ.วิทยุคมนาคม(โดยเฉพาะBFKTไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ให้เช่าได้)
ประเด็นหลัก
สำหรับสัญญา เช่าเครื่อง และอุปกรณ์ระหว่าง กสท กับ BFKT (ผู้ให้เช่า)นั้น มีการกล่าวหาว่า BFKT ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ให้เช่าได้ เนื่องจากการประกอบกิจการให้เช่าโครงข่ายโทรคมนาคมจะต้องได้รับใบอนุญาตการ ประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามจากสำนักงานกสทช. ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และประกาศกทช. เรื่อง ลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทร คมนาคมข้อ 1.1 การประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยมิได้รับใบอนุญาต ซึ่งหากพบว่าเป็นความผิดจะต้องได้รับโทษอาญาตามมาตรา 67 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลมีอำนาจสั่งริบเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้การนั้นเสียทั้งสิ้น
__________________________________________________
จี้‘กสท’เร่งแก้สัญญามือถือ‘3จีทรู’ ก่อนติดร่างแหผิดพรบ.วิทยุคมนาคม
แหล่ง ข่าวในวงการโทรคมนาคม รายหนึ่งเปิดเผยว่า การทำสัญญาร่วมธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่ 3G HSPA(3จี เอชเอสพีเอ)ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับ กลุ่มทรู บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้ว่า มีความไม่ถูกต้องของกฎหมายหลายฉบับ โดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) มีมติว่าสัญญาดังกล่าวไม่ถูกต้องตามองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ มาตรา 46 เพราะ กสท มิได้เป็นผู้มีอำนาจบริหารจัดการคลื่นความถี่ จึงสั่งให้กสทไปเจรจาแก้ไขสัญญากับทรู
นอกจากนี้ มีการระบุว่า บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BFKT (บริษัทในกลุ่มทรู) ให้เช่าโครงข่ายโดยไม่มีใบอนุญาต ก็ให้ไปดำเนินการตรวจสอบ และแก้ไขสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ได้ครบกำหนดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา
สำหรับสัญญา เช่าเครื่อง และอุปกรณ์ระหว่าง กสท กับ BFKT (ผู้ให้เช่า)นั้น มีการกล่าวหาว่า BFKT ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ให้เช่าได้ เนื่องจากการประกอบกิจการให้เช่าโครงข่ายโทรคมนาคมจะต้องได้รับใบอนุญาตการ ประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามจากสำนักงานกสทช. ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และประกาศกทช. เรื่อง ลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทร คมนาคมข้อ 1.1 การประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยมิได้รับใบอนุญาต ซึ่งหากพบว่าเป็นความผิดจะต้องได้รับโทษอาญาตามมาตรา 67 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลมีอำนาจสั่งริบเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้การนั้นเสียทั้งสิ้น
ทั้ง นี้การดำเนินการของ BFKT อาจทำให้ กสท ตกเป็นผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498?ฐานไม่มีใบอนุญาตใช้เครื่องวิทยุคมนาคม และใบอนุญาตตั้งสถานีวิทยุคมนาคมใน การที่ กสท จะนำเครื่องและอุปกรณ์ที่ BFKT เป็นผู้ให้เช่าออกให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ HSPA นั้นทางออกคือ กสท จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตต่างๆ ตามพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 จากกสทช.เสียก่อน
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1455757
ประเด็นหลัก
สำหรับสัญญา เช่าเครื่อง และอุปกรณ์ระหว่าง กสท กับ BFKT (ผู้ให้เช่า)นั้น มีการกล่าวหาว่า BFKT ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ให้เช่าได้ เนื่องจากการประกอบกิจการให้เช่าโครงข่ายโทรคมนาคมจะต้องได้รับใบอนุญาตการ ประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามจากสำนักงานกสทช. ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และประกาศกทช. เรื่อง ลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทร คมนาคมข้อ 1.1 การประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยมิได้รับใบอนุญาต ซึ่งหากพบว่าเป็นความผิดจะต้องได้รับโทษอาญาตามมาตรา 67 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลมีอำนาจสั่งริบเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้การนั้นเสียทั้งสิ้น
__________________________________________________
จี้‘กสท’เร่งแก้สัญญามือถือ‘3จีทรู’ ก่อนติดร่างแหผิดพรบ.วิทยุคมนาคม
แหล่ง ข่าวในวงการโทรคมนาคม รายหนึ่งเปิดเผยว่า การทำสัญญาร่วมธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่ 3G HSPA(3จี เอชเอสพีเอ)ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับ กลุ่มทรู บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้ว่า มีความไม่ถูกต้องของกฎหมายหลายฉบับ โดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) มีมติว่าสัญญาดังกล่าวไม่ถูกต้องตามองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ มาตรา 46 เพราะ กสท มิได้เป็นผู้มีอำนาจบริหารจัดการคลื่นความถี่ จึงสั่งให้กสทไปเจรจาแก้ไขสัญญากับทรู
นอกจากนี้ มีการระบุว่า บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BFKT (บริษัทในกลุ่มทรู) ให้เช่าโครงข่ายโดยไม่มีใบอนุญาต ก็ให้ไปดำเนินการตรวจสอบ และแก้ไขสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ได้ครบกำหนดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา
สำหรับสัญญา เช่าเครื่อง และอุปกรณ์ระหว่าง กสท กับ BFKT (ผู้ให้เช่า)นั้น มีการกล่าวหาว่า BFKT ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ให้เช่าได้ เนื่องจากการประกอบกิจการให้เช่าโครงข่ายโทรคมนาคมจะต้องได้รับใบอนุญาตการ ประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามจากสำนักงานกสทช. ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และประกาศกทช. เรื่อง ลักษณะและประเภทของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทร คมนาคมข้อ 1.1 การประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยมิได้รับใบอนุญาต ซึ่งหากพบว่าเป็นความผิดจะต้องได้รับโทษอาญาตามมาตรา 67 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลมีอำนาจสั่งริบเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้การนั้นเสียทั้งสิ้น
ทั้ง นี้การดำเนินการของ BFKT อาจทำให้ กสท ตกเป็นผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498?ฐานไม่มีใบอนุญาตใช้เครื่องวิทยุคมนาคม และใบอนุญาตตั้งสถานีวิทยุคมนาคมใน การที่ กสท จะนำเครื่องและอุปกรณ์ที่ BFKT เป็นผู้ให้เช่าออกให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ HSPA นั้นทางออกคือ กสท จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตต่างๆ ตามพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 จากกสทช.เสียก่อน
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1455757
ไม่มีความคิดเห็น: