Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

12 กุมภาพันธ์ 2556 (เจาะโรงเรียนไทยจริงจัง) เอาตำราเรียน ลง ไอแพด เรียก"ไอบุ๊กส์" (((( ประเดิม 500 โรงเรียนปีแรก )))


ประเด็นหลัก



นายวิโรจน์ อัศวรังสี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ แอสไพเรอร์ส กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายระบบด้านการศึกษาของบริษัท แอปเปิล ประเทศไทย เปิดเผยว่า รูปแบบการเรียนการสอนทั่วโลกเริ่มมีการใช้แท็บเล็ตทดแทนหนังสือเรียนบางส่วนมาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน การที่ประเทศไทยมีโครงการแท็บเล็ต ป.1 เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา ทำให้มีการใช้งานกว้างขวางมากขึ้น และยังส่งผลให้ตลาดคอนเทนต์มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาทที่เป็นรูปหนังสือ เริ่มปรับมาเป็นระบบดิจิตอลมากขึ้นตามไปด้วย




นายวรชัย จงพิพัฒนสุข กรรมการ บริหาร สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช กล่าวว่า ต้นทุนคอนเทนต์ต่อชิ้นจะใกล้เคียงกับหนังสือเรียน คือ ราคาไม่เกิน 100 บาท แต่คอนเทนต์บนไอแพดจะสวยงามกว่า ครบถ้วนสมบูรณ์ ส่งเสริมการเรียนรู้มากกว่า แม้จะมีต้นทุนฮาร์ดแวร์คือ ไอแพด เพิ่มขึ้นมา แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า






___________________________





แอปเปิลส่งตำรา"ไอบุ๊กส์"เจาะโรงเรียนไทย


แอสไพเรอร์ส ผนึกวัฒนาพานิช พัฒนา ไอบุ๊กส์ รับยุคดิจิตอล ประเดิม 500 โรงเรียนปีแรก

นายวิโรจน์ อัศวรังสี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ แอสไพเรอร์ส กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายระบบด้านการศึกษาของบริษัท แอปเปิล ประเทศไทย เปิดเผยว่า รูปแบบการเรียนการสอนทั่วโลกเริ่มมีการใช้แท็บเล็ตทดแทนหนังสือเรียนบางส่วนมาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน การที่ประเทศไทยมีโครงการแท็บเล็ต ป.1 เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา ทำให้มีการใช้งานกว้างขวางมากขึ้น และยังส่งผลให้ตลาดคอนเทนต์มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาทที่เป็นรูปหนังสือ เริ่มปรับมาเป็นระบบดิจิตอลมากขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ แอสไพเรอร์ส ได้ร่วมมือกับสำนักพิมพ์วัฒนาพานิช ซึ่งมีตำราเรียนมากที่สุด ได้ร่วมกันพัฒนาโซลูชันตำราเรียนดิจิตอลบนเทคโนโลยีไอบุ๊กส์ของแอปเปิล ทำให้นักเรียนได้ใช้หนังสือเรียนยุคใหม่บนไอแพด สามารถดูรูปภาพและวิดีโอ และเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ได้ทั่วโลก โดยได้พัฒนาครบทั้ง 8 สาระวิชาสำหรับนักเรียน ม.1 แล้ว และกำลังเดินหน้าพัฒนาสำหรับระดับชั้นอื่นๆ ต่อไป

สำหรับในปีแรก แอสไพเรอร์ส ตั้งเป้ามีโรงเรียนที่นำระบบดังกล่าวไปใช้งานประมาณ 500 โรงเรียน จากโรงเรียนในประเทศไทยที่มีกว่า 3.9 หมื่นโรงเรียน โดยล่าสุดมี 20 โรงเรียนแสดงความสนใจเข้ามาแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาโซลูชันให้รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และวินโดวส์ 8 ในปีนี้ เพื่อขยายตลาดในอนาคต

“หากต้องการลงทุนโซลูชันสมบูรณ์ทั้งระบบ 1 ห้องเรียน สำหรับนักเรียน 40 คน ใช้เงินประมาณ 7-8 แสนบาท ถือว่าใกล้เคียงกับห้องโสตทัศนศึกษา” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวรชัย จงพิพัฒนสุข กรรมการ บริหาร สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช กล่าวว่า ต้นทุนคอนเทนต์ต่อชิ้นจะใกล้เคียงกับหนังสือเรียน คือ ราคาไม่เกิน 100 บาท แต่คอนเทนต์บนไอแพดจะสวยงามกว่า ครบถ้วนสมบูรณ์ ส่งเสริมการเรียนรู้มากกว่า แม้จะมีต้นทุนฮาร์ดแวร์คือ ไอแพด เพิ่มขึ้นมา แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าสุดท้ายแล้วในอีก 3 ปีข้างหน้า ไอแพดและแท็บเล็ตจะเป็นอุปกรณ์หลักในการเรียนรู้ของเด็ก ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น

“หนังสือเรียนดิจิตอล ส่วนใหญ่เป็นไฟล์พีดีเอฟเท่านั้น อาจจะมีสอดแทรกแฟลช หรืออินเตอร์แอ็กทีฟ แต่ที่ทำเต็มรูปแบบเป็นโซลูชันการเรียนรู้ ต้องบอกว่าแอสไพเรอร์ส และวัฒนาพานิช ทำเป็นแห่งแรกในอาเซียน และอนาคตมีโอกาสไปขยายตลาดต่างประเทศ แต่จะเน้นในไทยก่อน” นายวรชัย กล่าว

ด้านนายวรพันธ์ โลกิตสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปลี่ยนผ่านจากหนังสือไปสู่หนังสือดิจิตอล ทางสมาคมได้ประเมินแล้วคาดว่าในเวลา 3 ปีนี้จะยังไม่ถือเป็นนัยสำคัญต่อตลาด และไม่น่ากระทบต่อหนังสือปกติ

ขณะเดียวกัน เมื่อประเมินจากมูลค่าตลาดรวมหนังสือปกติกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท พบว่ามีสัดส่วนยอดจำหน่ายหนังสือดิจิตอลประมาณ 1% เท่านั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ระบบซื้อขายคอนเทนต์หนังสือบนอุปกรณ์|แท็บเล็ตยังไม่ชัดเจน การแบ่งรายได้ระหว่างผู้ผลิต ผู้พัฒนาระบบ สำนักพิมพ์ และผู้ให้บริการแอพสโตร์ยังไม่ลงตัว

นอกจากนี้ ยังเห็นได้ว่าปัจจุบันจำนวนผู้ใช้แท็บเล็ตในประเทศไทยยัง|ไม่กว้างพอ รวมทั้งโครงข่ายยังไม่พร้อมสำหรับให้ดาวน์โหลด และราคาหนังสือดิจิตอลยังไม่จูงใจมากนัก เมื่อเทียบกับราคาหนังสือปกติ

อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมก็เตรียมความพร้อมให้กับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรับมือความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหากหนังสือดิจิตอลจะเกิดขึ้น มีโอกาสที่จะเกิดกับหนังสือเรียนก่อน เนื่องจากมีกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ และมีการพัฒนาหนังสือเรียนดิจิตอลเพื่อใช้งานบนแท็บเล็ต ป.1 ได้

“ต่างประเทศจะเห็นหนังสือดิจิตอลเริ่มแพร่หลายขึ้น เพราะปริมาณผู้ใช้มีมากพอ ทำให้คุ้มค่ากับการผลิตพัฒนา แต่ในประเทศไทยยังต้องใช้เวลา” นายวรพันธ์ กล่าว

สำหรับในส่วนของการเรียนการสอนนั้น จากนโยบายรัฐบาลให้ใช้แท็บเล็ต เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บความรู้และเข้าถึงความรู้ ซึ่งมีส่วนสนับสนุนหนังสือเรียนดิจิตอล แต่ที่สำคัญคือต้องดูระดับอายุของผู้ใช้ หากผู้ใช้ยังอายุน้อย หรือเด็กเกินไปก็ไม่มีประโยชน์ และต้องมีระบบควบคุมที่ดีด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการใช้ที่ส่งผลเสียต่อเยาวชน

http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8
%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/204277/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%
B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B3
%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%
B8%AA%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87
%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.