Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

26 มีนาคม 2556 ((ชงพร้อมปรับและริบทรัพย์))!! หมอลี่.กสทช.(กทค. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค) ประกาศ ถ้าค่าบริการAIS DTACไม่ต่ำกว่า99สตาค์


ประเด็นหลัก

นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. และกรรมการ กทค. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า การที่เอไอเอสและดีแทคไม่ปฏิบัติตามเรื่องค่าบริการด้านเสียงขั้นต่ำ 99 สตางค์นั้น กสทช.สามารถเรียกให้จ่ายค่าปรับทางปกครองได้ โดยคำนวณค่าปรับจากรายได้ที่ได้รับเกินค่าบริการขั้นต่ำ และหากบริษัทไม่ยินยอมจ่ายค่าปรับ กสทช.มีสิทธิอายัดทรัพย์ได้ทันที



ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-25 มี.ค. มีผู้บริโภคที่ประสบปัญหาแพ็กเกจค่าบริการ 99 สตางค์ ร้องเรียนอนุกรรมการฯ รวม 305 เรื่อง เช่น ทั้งสองบริษัทยังเรียกเก็บค่าบริการเกิน 99 สตางค์ หากโทรนอกเครือข่ายและนอกเวลาส่งเสริมการขาย 1.25 บาทต่อนาที โดยอ้างว่าต้องเรียกเก็บจนกว่าระยะเวลาส่งเสริมเดิมจะสิ้นสุด หรือถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนมาใช้แพ็กเกจ 99 สตางค์ อัตรา 10-30 บาท รวมทั้งเงื่อนไขส่งเสริมการขายใหม่มีค่าบริการสูงขึ้น และไม่มีทางเลือกให้ผู้บริโภค เป็นต้น

นอกจากนี้ กสทช.ควรกำหนดนิยามคำว่ารายการส่งเสริมการขาย และกำหนดเงื่อนไขการคิดค่าบริการให้ชัดเจนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ควรนำเรื่องแพ็กเกจพื้นฐานมารวมกับการส่งเสริมการขายแบบเหมาจ่าย เพราะทำให้บริษัทหลีกเลี่ยงกฎหมายได้

สำหรับกรณีที่เอไอเอสส่งหนังสือร้องเรียนบอร์ด กทค.และ กสทช. เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ให้กำกับการเปิดเผยข้อมูลความลับทางการค้า ในกรณีที่คณะอนุกรรมการฯ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอไอเอสเก็บค่าบริหารจัดการเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพรีเพดนั้น ปรากฏว่าระเบียบที่เอไอเอสอ้างนั้น กสทช. ได้ยกเลิกตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2556



____________________________________________________




ชง กทค.ฟันเอไอเอส-ดีแทค ไม่เก็บค่าโทร99สต./นาที


26 มี.ค.56 น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ประธานอนุกรรมการการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ จะเสนอบอร์ด กทค.กรณีผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ 2 ราย คือ เอไอเอส และดีแทค ไม่สามารถทำตามประกาศของ กสทช.และ กทค. เรื่องคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที โดยคณะอนุกรรมการฯ ต้องการให้บอร์ด กทค.ใช้มาตรการฝ่าฝืนคำสั่งทางปกครอง หลังครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 31 มี.ค.นี้


ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-25 มี.ค. มีผู้บริโภคที่ประสบปัญหาแพ็กเกจค่าบริการ 99 สตางค์ ร้องเรียนอนุกรรมการฯ รวม 305 เรื่อง เช่น ทั้งสองบริษัทยังเรียกเก็บค่าบริการเกิน 99 สตางค์ หากโทรนอกเครือข่ายและนอกเวลาส่งเสริมการขาย 1.25 บาทต่อนาที โดยอ้างว่าต้องเรียกเก็บจนกว่าระยะเวลาส่งเสริมเดิมจะสิ้นสุด หรือถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนมาใช้แพ็กเกจ 99 สตางค์ อัตรา 10-30 บาท รวมทั้งเงื่อนไขส่งเสริมการขายใหม่มีค่าบริการสูงขึ้น และไม่มีทางเลือกให้ผู้บริโภค เป็นต้น

นอกจากนี้ กสทช.ควรกำหนดนิยามคำว่ารายการส่งเสริมการขาย และกำหนดเงื่อนไขการคิดค่าบริการให้ชัดเจนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ควรนำเรื่องแพ็กเกจพื้นฐานมารวมกับการส่งเสริมการขายแบบเหมาจ่าย เพราะทำให้บริษัทหลีกเลี่ยงกฎหมายได้

สำหรับกรณีที่เอไอเอสส่งหนังสือร้องเรียนบอร์ด กทค.และ กสทช. เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ให้กำกับการเปิดเผยข้อมูลความลับทางการค้า ในกรณีที่คณะอนุกรรมการฯ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอไอเอสเก็บค่าบริหารจัดการเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพรีเพดนั้น ปรากฏว่าระเบียบที่เอไอเอสอ้างนั้น กสทช. ได้ยกเลิกตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2556

นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. และกรรมการ กทค. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า การที่เอไอเอสและดีแทคไม่ปฏิบัติตามเรื่องค่าบริการด้านเสียงขั้นต่ำ 99 สตางค์นั้น กสทช.สามารถเรียกให้จ่ายค่าปรับทางปกครองได้ โดยคำนวณค่าปรับจากรายได้ที่ได้รับเกินค่าบริการขั้นต่ำ และหากบริษัทไม่ยินยอมจ่ายค่าปรับ กสทช.มีสิทธิอายัดทรัพย์ได้ทันที

อย่างไรก็ตาม กสทช.ต้องใช้มาตรการฝ่าฝืนคำสั่งทางปกครองอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมา กสทช.ยังไม่สามารถเรียกค่าปรับได้ เช่น กรณีพรีเพดห้ามกำหนดวันหมดอายุ ต้องจ่ายค่าปรับวันละ 1 แสนบาท เป็นต้น

แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1617653

_____________________________________________


ชงฟันแพ็กเกจมือถือ99สต.

จี้บอร์ด กทค.ฟันเอไอเอส-ดีแทค หลังผู้บริโภคร้องแพ็กเกจค่าโทร 99 สตางค์ไม่จริง

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ประธานอนุกรรมการการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ จะเสนอคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (บอร์ด กทค.) กรณีผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ 2 ราย คือ เอไอเอส และดีแทค ไม่สามารถทำตามประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ กทค. เรื่องคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที โดยคณะอนุกรรมการฯ ต้องการให้บอร์ด กทค.ใช้มาตรการฝ่าฝืนคำสั่งทางปกครอง หลังครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 31 มี.ค.นี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-25 มี.ค. มีผู้บริโภคที่ประสบปัญหาแพ็กเกจค่าบริการ 99 สตางค์ ร้องเรียนอนุกรรมการฯ รวม 305 เรื่อง เช่น ทั้งสองบริษัทยังเรียกเก็บค่าบริการเกิน 99 สตางค์ หากโทรนอกเครือข่ายและนอกเวลาส่งเสริมการขาย 1.25 บาทต่อนาที โดยอ้างว่าต้องเรียกเก็บจนกว่าระยะเวลาส่งเสริมเดิมจะสิ้นสุด หรือถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนมาใช้แพ็กเกจ 99 สตางค์ อัตรา 10-30 บาท รวมทั้งเงื่อนไขส่งเสริมการขายใหม่มีค่าบริการสูงขึ้น และไม่มีทางเลือกให้ผู้บริโภค เป็นต้น

นอกจากนี้ กสทช.ควรกำหนดนิยามคำว่ารายการส่งเสริมการขาย และกำหนดเงื่อนไขการคิดค่าบริการให้ชัดเจนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ควรนำเรื่องแพ็กเกจพื้นฐานมารวมกับการส่งเสริมการขายแบบเหมาจ่าย เพราะทำให้บริษัทหลีกเลี่ยงกฎหมายได้

สำหรับกรณีที่เอไอเอสส่งหนังสือร้องเรียนบอร์ด กทค.และ กสทช. เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ให้กำกับการเปิดเผยข้อมูลความลับทางการค้า ในกรณีที่คณะอนุกรรมการฯ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอไอเอสเก็บค่าบริหารจัดการเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพรีเพดนั้น ปรากฏว่าระเบียบที่เอไอเอสอ้างนั้น กสทช. ได้ยกเลิกตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2556

นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. และกรรมการ กทค. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า การที่เอไอเอสและดีแทคไม่ปฏิบัติตามเรื่องค่าบริการด้านเสียงขั้นต่ำ 99 สตางค์นั้น กสทช.สามารถเรียกให้จ่ายค่าปรับทางปกครองได้ โดยคำนวณค่าปรับจากรายได้ที่ได้รับเกินค่าบริการขั้นต่ำ และหากบริษัทไม่ยินยอมจ่ายค่าปรับ กสทช.มีสิทธิอายัดทรัพย์ได้ทันที

อย่างไรก็ตาม กสทช.ต้องใช้มาตรการฝ่าฝืนคำสั่งทางปกครองอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมา กสทช.ยังไม่สามารถเรียกค่าปรับได้ เช่น กรณีพรีเพดห้ามกำหนดวันหมดอายุ ต้องจ่ายค่าปรับวันละ 1 แสนบาท เป็นต้น

http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%
B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/212387/%E0%B8%8A%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0
%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%8
8%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD99%E0%B8%AA%E0%B8%95-

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.