Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

9 เมษายน 2556 HTC กำไรลงแหว++ โดนพิษเลื่อนวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่น HTC One กำไรหักค่าใช้จ่ายเหลือเพียง85ล้านดอลลาร์ไต้หวัน


ประเด็นหลัก

สื่อต่างประเทศรายงานสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรของเอชทีซีหดตัวเช่นนี้เป็นเพราะการเลื่อนวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่น HTC One สมาร์ทโฟนเรือธงที่เอชทีซีเพิ่งเปิดตัวนั้นประสบปัญหาด้านการผลิตจนทำให้ไม่สามารถวางขายในตลาดหลักของโลกได้นานนับเดือน ล่าสุด เอชทีซีคาดการณ์ว่าจะสามารถวางขาย HTC One ได้ทั่วโลกภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ทั้งที่เอชทีซีสามารถเปิดตัว HTC One ก่อนหน้า Galaxy S4 คู่แข่งในตลาดที่มีแผนจะวางขายในสหรัฐฯวันที่ 26 เมษายน



 สถานการณ์ความไม่พร้อมทั้งหมดกำลังส่งให้เอชทีซีตกเป็นรองในการแข่งขันบนตลาดโลก โดยปัจจุบัน เอชทีซีสามารถวางจำหน่าย HTC One ได้เพียง 3 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ อังกฤษ เยอรมนี และไต้หวัน จากที่วางแผนว่าจะจำหน่ายใน 80 ประเทศ ส่งให้รายได้รวมของเอชทีซีในไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่าเพียง 4.28 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่มีรายได้ 6 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน คิดเป็นสัดส่วนลดลงมากกว่า 37%
     
       ที่น่าสนใจคือสัดส่วนกำไรจากการดำเนินงานของเอชทีซี (Operating margin) ในไตรมาสที่ผ่านมานั้นอยู่ที่เพียง 0.1% เทียบกับที่เอชทีซีเคยประเมินตัวเองว่าจะมีอัตราส่วนที่ 0.5-1%


ในส่วนกำไรเมื่อหักค่าใช้จ่ายนั้น ไตรมาส 1 ปี 2013 ทาง HTC มีกำไรแค่ 85 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนไตรมาส 1 ปี 2012 ทาง HTC มีกำไร 10.9 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน และถ้าเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2012 ที่ HTC ทำกำไร 1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2013 นับเป็นผลประกอบการที่แย่ที่สุด นับตั้งแต่ HTC ประการผลประกอบการมา







_______________________________________




เอชทีซีคางเหลือง กำไรหดต่ำสุดหลัง HTC One เจอโรคเลื่อน

สาเหตุหลักที่ทำให้กำไรของเอชทีซีหดตัวเช่นนี้เป็นเพราะการเลื่อนวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่น HTC One
เอชทีซี (HTC) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่จากไต้หวันประกาศผลประกอบการตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ผลจาก HTC One สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของเอชทีซีเจอโรคเลื่อนจนไม่สามารถวางจำหน่ายได้ทัน ทำให้ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของเอชทีซีพลาดเป้าที่บริษัทวางเป้าไว้ ส่งให้กำไรที่เอชทีซีทำได้ในเดือนธันวาคม 2012 ถึงกุมภาพันธ์ 2013 อยู่ในภาวะตกต่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
     
       ช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานับเป็นไตรมาสแรกของปีการเงิน 2013 ของเอชทีซี ปรากฏว่าเอชทีซีประกาศกำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าวว่าลดลงถึง 98% คิดเป็นมูลค่า 85 ล้านเหรียญไต้หวัน (ราว 82 ล้านบาท)
     
       กำไร 85 ล้านเหรียญไต้หวันของเอชทีซีถือว่าลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ทำได้ 1 พันล้านเหรียญไต้หวัน จุดนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่ากำไร 85 ล้านเหรียญนี้เป็นการตกต่ำแบบหักปากกาเซียน เนื่องจากค่าเฉลี่ยกำไรเอชทีซีที่นักวิเคราะห์ในตลาด 19 คนประเมินไว้คือ 600 ล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งเอชทีซียังทำได้ไม่ถึงหลัก 100 ล้านเหรียญด้วยซ้ำ
     
       หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เอชทีซีเคยมีกำไรมากถึง 1.09 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน ทั้งหมดนี้ส่งให้ไตรมาสที่ผ่านมาเป็นไตรมาสที่เอชทีซีมีรายได้ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท โดยนับตั้งแต่บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1997 เอชทีซียังไม่เคยประกาศภาวะขาดทุนอีกเลยตั้งแต่เคยประกาศไว้ในเดือนมีนาคม 2002 หรือเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

HTC First ที่เอชทีซีจะทำตลาดพร้อมระบบ Facebook Home เพื่อให้ผู้ใช้เล่นเฟซบุ๊กได้ตลอดเวลา

สื่อต่างประเทศรายงานสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรของเอชทีซีหดตัวเช่นนี้เป็นเพราะการเลื่อนวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่น HTC One สมาร์ทโฟนเรือธงที่เอชทีซีเพิ่งเปิดตัวนั้นประสบปัญหาด้านการผลิตจนทำให้ไม่สามารถวางขายในตลาดหลักของโลกได้นานนับเดือน ล่าสุด เอชทีซีคาดการณ์ว่าจะสามารถวางขาย HTC One ได้ทั่วโลกภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ทั้งที่เอชทีซีสามารถเปิดตัว HTC One ก่อนหน้า Galaxy S4 คู่แข่งในตลาดที่มีแผนจะวางขายในสหรัฐฯวันที่ 26 เมษายน
     
       สถานการณ์ความไม่พร้อมทั้งหมดกำลังส่งให้เอชทีซีตกเป็นรองในการแข่งขันบนตลาดโลก โดยปัจจุบัน เอชทีซีสามารถวางจำหน่าย HTC One ได้เพียง 3 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ อังกฤษ เยอรมนี และไต้หวัน จากที่วางแผนว่าจะจำหน่ายใน 80 ประเทศ ส่งให้รายได้รวมของเอชทีซีในไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่าเพียง 4.28 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่มีรายได้ 6 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน คิดเป็นสัดส่วนลดลงมากกว่า 37%
     
       ที่น่าสนใจคือสัดส่วนกำไรจากการดำเนินงานของเอชทีซี (Operating margin) ในไตรมาสที่ผ่านมานั้นอยู่ที่เพียง 0.1% เทียบกับที่เอชทีซีเคยประเมินตัวเองว่าจะมีอัตราส่วนที่ 0.5-1%
     
       สถิติเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายของเอชทีซี ที่ต้องสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 70% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จุดนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่าปัญหาโรคเลื่อนของ HTC One จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์เอชทีซี ซึ่งอาจทำให้การเปิดตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางและล่างเป็นไปได้ยากขึ้น ทั้ง HTC First ที่เอชทีซีจะทำตลาดพร้อมระบบ Facebook Home เพื่อให้ผู้ใช้เล่นเฟซบุ๊กได้ตลอดเวลา รวมถึงสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่มีกำหนดเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ปีนี้
     
       เบื้องต้น นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายของเอชทีซีในไตรมาสที่ 2 จะฟื้นตัวกลับมาดีกว่าเดิม ส่งให้มูลค่าหุ้นของเอชทีซีลดลงเพียง 2.2% เท่านั้นหลังการประกาศ

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000043039


_________________________________________________


อาการหนักมาก…ผลประกอบการ HTC ไตรมาส 1 ปี 2013 ดิ่งหนัก
โดย zipboy


อย่างที่ทราบกันดีว่า ปี 2012 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ HTC เข้าสู่ภาวะยากลำบากเป็นพิเศษ ทั้งที่ช่วงปี 2011-2012 ถือเป็นปีขาขึ้นของ Android แต่ HTC กลับเป็นผู้ผลิต Android ที่ไม่ได้บุญขาขึ้นของ Android ความลำบากของ HTC ยังคงไม่หมดสิ้น เพราะผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2013 นี้ ทำรายได้ไป 42,789 ดอลลาร์ไต้หวัน หากเทียบกับไตรมาสแรกปี 2012 ที่ทำรายได้ไป 67,790 ดอลลาร์ไต้หวัน พบว่ารายได้ของ HTC ลดไปถึง 36.88%

ในส่วนกำไรเมื่อหักค่าใช้จ่ายนั้น ไตรมาส 1 ปี 2013 ทาง HTC มีกำไรแค่ 85 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนไตรมาส 1 ปี 2012 ทาง HTC มีกำไร 10.9 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน และถ้าเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2012 ที่ HTC ทำกำไร 1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2013 นับเป็นผลประกอบการที่แย่ที่สุด นับตั้งแต่ HTC ประการผลประกอบการมา

งานนี้นักวิเคราะห์หลายเจ้าต่างลงความเห็นตรงกันว่า สาเหตุของผลประกอบการที่ย่ำแย่ตรงนี้ เกิดจากการวางตลาดล่าช้าของ HTC One ที่มาไม่ทันในเวลาที่เหมาะสม ส่วน HTC First ที่พึ่งเปิดตัวไป ถือว่ายังไม่มีผลอะไรที่ช่วยกับไตรมาสนี้เช่นกัน

งานนี้ CEO คุณ Peter Chou จะได้ลาออกหรือไม่ ลางเริ่มชัดเจนแบบนี้ น่าจะทายกันไม่ยากแล้ว

ที่มา: GSMArena, Reuters
http://www.mxphone.net/090413-htc-profit-q1-2013/

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.