20 พฤษภาคม 2556 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานสิงเทลทุ่มทุน4.8หมื่นล. ขอเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ค่ายมือถือ อีก 6 รายในเอเชียและแอฟริก มีลูกค้าทุกประเทศรวมกัน 468 ล้านราย // และสู้ศึกใบอนุญาติมือถือที่พม่า
ประเด็นหลัก
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า บริษัทสิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่น หรือ สิงเทล เตรียมเงินสำหรับการลงทุนจากช่วงนี้ไป 3 ปี 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 48,000 ล้านบาท) เพื่อซื้อกิจการเพิ่มและเพิ่มทุนบริษัทในเครือที่อยู่ในภูมิภาคอาเซียน ตามยุทธศาสตร์เพิ่มการเติบโตของรายได้ตั้งแต่ไตรมาสสี 4 ปีนี้ หลังจากกำไรหดในไตรมาสแรก
สิงเทล เป็นบริษัทเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากถือหุ้นใหญ่ในโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือหลายบริษัทในภูมิภาคนี้ ประกอบด้วยบริษัทเอไอเอส ในประเทศไทย บริษัท พีที เทเลโคมูนิคาซี เซลูลาร์ (PT Telekomunikasi Selular) ในอินโดนีเซีย และ โกร๊บเทเลคอม (GLO) ในประเทศฟิลิปปินส์ และยังเป็นเจ้าของ ออพตัส (Optus) ยักษ์เครือข่ายมือถืออันดับ 2 ในออสเตรเลีย และ ภารตีแอร์เทล (Bharti Airtel) ในอินเดีย
สื่อในสิงคโปร์รายงานว่า สิงเทล ยังเป็นถือหุ้นเสียงข้างน้อยของโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์ อีก 6 รายในเอเชียและแอฟริกา มีลูกค้าทุกประเทศรวมกัน 468 ล้านราย
ทั้งนี้การประมูลใบอนุญาตโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือในประเทศเมียนมาร์ มีการวิเคราะห์ว่าประเทศสิงคโปร์ มีโอกาสได้ใบอนุญาต 1 ใน 2 ใบ โดยมีคู่แข่งสำคัญคือเทเลนอร์จากนอร์เว และ Axiata จากมาเลเซีย
______________________________________
สิงเทลทุ่มทุน4.8หมื่นล. ขอใหญ่คับตลาดอาเซียน
‘สิงเทล’ โอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือใหญ่สุดในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ประกาศขอใหญ่เพิ่มอีก เตรียมเงินกว่า 4.8 พันล้านบาทซื้อกิจการเพิ่ม และเพิ่มทุนบริษัทในเครือภายใน 3 ปี เพื่อเพิ่มกำไร
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า บริษัทสิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่น หรือ สิงเทล เตรียมเงินสำหรับการลงทุนจากช่วงนี้ไป 3 ปี 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 48,000 ล้านบาท) เพื่อซื้อกิจการเพิ่มและเพิ่มทุนบริษัทในเครือที่อยู่ในภูมิภาคอาเซียน ตามยุทธศาสตร์เพิ่มการเติบโตของรายได้ตั้งแต่ไตรมาสสี 4 ปีนี้ หลังจากกำไรหดในไตรมาสแรก
สิงเทล เป็นบริษัทเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากถือหุ้นใหญ่ในโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือหลายบริษัทในภูมิภาคนี้ ประกอบด้วยบริษัทเอไอเอส ในประเทศไทย บริษัท พีที เทเลโคมูนิคาซี เซลูลาร์ (PT Telekomunikasi Selular) ในอินโดนีเซีย และ โกร๊บเทเลคอม (GLO) ในประเทศฟิลิปปินส์ และยังเป็นเจ้าของ ออพตัส (Optus) ยักษ์เครือข่ายมือถืออันดับ 2 ในออสเตรเลีย และ ภารตีแอร์เทล (Bharti Airtel) ในอินเดีย
สื่อในสิงคโปร์รายงานว่า สิงเทล ยังเป็นถือหุ้นเสียงข้างน้อยของโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์ อีก 6 รายในเอเชียและแอฟริกา มีลูกค้าทุกประเทศรวมกัน 468 ล้านราย
นอกจากนี้ยังเป็น 1 ใน 12 ผู้ยื่นประมูลเป็นโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือในเมียนมาร์ ซึ่งจะมีการประกาศผู้ชนะการประมูลในเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยการประมูลครั้งนี้รัฐบาลเมียนมาร์จะให้ใบอนุญาตโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือเพียง 2 ราย
ในการประมูลที่เมียนมาร์นี้นอกจาก สิงเทล จะยื่นประมูลร่วมกับพันธมิตรแล้ว ยังมีอีกหนึ่งบริษัทจากสิงคโปร์คือบริษัท เอสที เทเลมีเดีย ซึ่งเป็นเจ้าของกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมใหญ่อันดับ 2 ของสิงคโปร์ที่มีหุ้นใหญ่ในโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์ในมาเลเซียและเวียดนาม รวมทั้งเคเบิลทีวีในฟิลิปปินส์และเป็นบริษัทในเครือของเทมาเสกโฮลดิ้ง เช่นเดียวกับสิงเทล
ทั้งนี้การประมูลใบอนุญาตโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือในประเทศเมียนมาร์ มีการวิเคราะห์ว่าประเทศสิงคโปร์ มีโอกาสได้ใบอนุญาต 1 ใน 2 ใบ โดยมีคู่แข่งสำคัญคือเทเลนอร์จากนอร์เว และ Axiata จากมาเลเซีย
วงการหุ้น เชื่อว่าการเพิ่มทุนบริษัทในเครือในภูมิภาคอาเซียนจะทำให้ สิงเทล มีรายได้เพิ่มขึ้นโดย นาย เคลวิน โก๊ะห์ นักวิเคราะห์หุ้นจาก บริษัทซีไอเอ็มบี เซคเคียวริตี้ ในกัวลาลัมเปอร์กล่าวว่า “ตลาดในอินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ เป็นตลาดที่กำลังขยายตัว การถือหุ้นในบริษัทที่อยู่ในประเทศเหล่านี้จะทำให้ตลาดของสิงเทลเติบโตขึ้นไปด้วย”
ทั้งนี้มีรายงานว่า รายได้ของสิงเทล จากกิจการในต่างประเทศส่วนใหญ่ลดลงยกเว้น กิจการที่ถือหุ้นอยู่ในไทย และอินโดนีเซีย ที่เพิ่มขึ้นทำให้คาดเดากันว่าสิงเทล อาจจะลงทุนเพิ่มในประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ตลาดกำลังขยายตัว มากกว่าประเทศที่ตลาดอิ่มตัวแล้วหรือมีการแข่งขันสูง
■ คอลัมน์ : AEC News / ■ THAN AEC
■ จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ AEC world ปีที่33 (1) ฉบับที่ 2,845 (12) วันที่ 19 - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=183607:48-&catid=231:aec-news&Itemid=621
ไม่มีความคิดเห็น: