Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

24 พฤษภาคม 2556 ข่าวค่ำ!! TECHTVTHAILAND และ cybercityclub โทรคมนาคมและการสือสาร 3 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 27/05/2556 By So Magawn ( โส มกร )

ข่าวค่ำ!! TECHTVTHAILAND และ cybercityclub โทรคมนาคมและการสือสาร 3 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 27/05/2556 By So Magawn ( โส มกร )

1.... กสทช.เตรียมบังคับ1เดือน3G 2.1GHzความเร็วที่ต้องไม่ต่ำกว่า345Kbps(พร้อมออกราคากลางต้องต่ำกว่า)NET0.28ต่อMB/โทร0.97ต่อนาที
2.... ร้อนทุกค่าย!! ร้านค้าย่อยเหมาสต๊อกสินค้ามีตำหนิมาขายวางขายในราคาปกติ!! ซัมซุง ชี้ของทั้งหมดคืนบริษัทแม่หมด DTAC ที่ขาย ไอโฟน-ไอแพด" เกรดบี (ถ้าขายเอง เครื่องไม่ได้เปิดจริงๆ)
3.... (เกาะติดประมูลDigital TV) ตัดสินใจซื้อเวลาFREE TVเกาะติดการประมูล(ในรูปแบบราคาสดพร้อมกันทั่วประเทศ)รประมูลออกเป็น 4 วัน

_________________

27 พฤษภาคม 2556 (เกาะติดประมูลDigital TV) ตัดสินใจ ซื้อเวลา FREE TV เกาะติดการประมูล(ในรูปแบบราคาสดพร้อมกันทั่วประเทศ)กำหนดการประมูลออกเป็น 4 วัน แหล่งข่าวอ้างผู้ประมูลจะประมูลสูงกว่าราคาตั้งต้นประมาณ 10-20%



ประเด็นหลัก


การกำหนดให้เคาะเพิ่มราคารายครั้ง เพื่อให้ผู้ประมูลเสนอราคาเพิ่มแบบเกาะกลุ่ม ผู้ที่ชนะการประมูลจะมีต้นทุนค่าใบอนุญาตไม่ต่างกัน ซึ่งต่างจากวิธีการยื่นซองประมูล ที่ผู้ได้รับใบอนุญาตอาจเสนอราคาที่ต่างกันมาก เช่น การคัดเลือกผู้ได้รับใบอนุญาต 3 อันดับแรกแบบยื่นซอง รายแรกอาจเสนอราคาที่ 2,000 ล้านบาท ,รายที่สองราคา 1,000 ล้านบาท และรายที่สาม 500 ล้านบาท จะเห็นว่าทั้ง 3 รายมีต้นทุนค่าไลเซ่นที่ต่างกันในอัตราสูง ส่งผลต่อการบริหารช่องทีวีดิจิทัลแน่นอน และ กสท.ไม่ต้องการเห็นการ "ทุ่มประมูล" ที่เสนอราคาต่างกันมากนัก โดยต้องการให้ผู้ได้รับใบอนุญาตครั้งนี้ มีต้นทุนค่าไลเซ่นใกล้เคียงกัน ราคาไม่สูง ทั้งนี้เพื่อนำเงินไปพัฒนาการผลิตรายการที่มีคุณภาพ

"การเสนอราคาประมูลสูงต่ำ แตกต่างกันจนเกินไป จะทำให้ต้นทุนดำเนินการต่างกันมาก หากรายใดมีต้นทุนสูงเกินในที่สุด อาจทำให้ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่สามารถดำเนินการได้ หวังว่าต้นทุนค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัลครั้งนี้ แต่ละรายจะเสนอราคาต่างกัน 1-2%" พ.อ.นที กล่าว

ทั้งนี้ กรณีที่มีผู้เข้าประมูล"เท่ากับ"จำนวนใบอนุญาต กสท.จะพิจารณา "ขยาย" เวลาเปิดรับสมัครผู้สนใจซื้อซองประมูลเพิ่มอีก 30-60 วัน หลังครบกำหนดแล้ว "ไม่มี"ผู้มาสมัครเพิ่ม เทากับว่ามีผู้สนใจและศักยภาพลงทุน"เท่ากับ" จำนวนใบอนุญาต กสท.ก็จะเปิดประมูล เชื่อว่าจะมีผู้เคาะราคาเพิ่มด้วยเช่นกัน เพราะ "ผู้ชนะ"การประมูลจะได้รับสิทธิ 1.เป็นเจ้าของคลื่นฯทีวีดิจิทัล 15 ปี 2.สิทธิการเลือกเลขช่อง และสิทธิในการเลือกใช้บริการโครงข่าย (Mux)

หากมีการประมูลในราคาสูง แต่ในอนาคตหากผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ กสทช.มีเงื่อนไขชัดเจนว่า "ห้าม" ขายต่อหรือโอนใบอนุญาต แต่ต้องคืนคลื่นฯให้กสทช. ไปประมูลต่อ

แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมบรอดแคสติ้ง ประเมินการประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 24 ช่องธุรกิจ ของ กสทช.ครั้งนี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในกิจการบรอดแคสต์ โทรคมนาคม และคอนเทนท์ โปรวายเดอร์จำนวนมาก ทำให้เม็ดเงินการประมูลสูงกว่าราคาตั้งต้นประมาณ 10-20% จากราคาตั้งต้นรวมทั้ง 24 ช่อง ที่มูลค่า 15,190 ล้านบาท

ซื้อเวลาฟรีทีวียิงสดประมูล

การประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่องธุรกิจ ที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกๆ ในโลก กสท. ในฐานะผู้ดำเนินการจัดสรรคลื่นฯ และออกแบบการประมูล ได้กำหนดรูปแบบการประมูลเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกราย ถือเป็นการจัดสรรคลื่นฯ ที่อยู่ในความสนใจของประชาช

ขั้นตอนการประมูล กสท. ได้กำหนดการประมูลออกเป็น 4 วัน ในวันเสาร์-อาทิตย์ แบ่งตามประเภทช่องทีวีดิจิทัล ที่มี 4 ประเภท คือ เอชดี ,วาไรตี้ ,ข่าวและเด็ก โดยแยกประมูลวันละประเภท ส่วนประเภทใดจะเริ่มประมูลก่อนจะมีการประกาศอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ได้เช่าเวลาสถานีฟรีทีวี ปัจจุบันสลับการถ่ายทอดสดตลอดการประมูล โดยผู้ชมทางบ้านจะเห็นการเคลื่อนไหวของการเคาะเพิ่ม "ราคา" ประมูลตลอดระยะเวลา 60 นาที แต่ไม่เห็นว่าเป็นราคาของผู้ประมูลรายใด


http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130527/507581/%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%
80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%
B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94
%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5.html


______________________________________


27 พฤษภาคม 2556 ร้อนทุกค่าย!! ร้านค้าย่อยเหมาสต๊อกสินค้ามีตำหนิมาขายวางขายในราคาปกติ!! ซัมซุง ชี้ของทั้งหมดคืนบริษัทแม่หมด DTAC ที่ขาย ไอโฟน-ไอแพด" เกรดบี (ถ้าขายเอง เครื่องไม่ได้เปิดจริงๆ)


ประเด็นหลัก




ดูเหมือนเครื่อง "ย้อมแมว" กำลังกลายเป็นที่ถกเถียงในแวดวงมือถือ หลังจากมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า มีการนำเครื่องมีตำหนิ และถูกปฏิเสธภายหลังการแกะกล่องจากผู้ซื้อ มาวางขายในราคาปกติ ซึ่งที่ผ่านมามีเพียง "ดีแทค" รายเดียวที่ชัดเจนว่านำเครื่องเกรดบี "แอปเปิล" ทั้งไอโฟน และไอแพด มาลดราคาจากปกติ 4,500-7,500 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น เช่น ไอโฟน รุ่น 4s ขนาด 64 GB วางขายที่ 20,500 บาท จากปกติ 28,000 บาท, เดอะนิวไอแพด 32 GB ขาย 19,900 บาท จากปกติ 23,500 บาท เป็นต้น โดยจะมีวางจำหน่ายที่ศูนย์บริการลูกค้าดีแทค สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และเซ็นทรัลพลาซา บางนา เป็นต้น

สำหรับเครื่องเกรดบีของดีแทค คือเครื่องที่ลูกค้าแกะกล่องตรวจดูสินค้าภายนอกแล้วพบว่ามีตำหนิอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ยังไม่ได้มีการเปิดใช้เครื่อง

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ไอโฟนเกรดบีของดีแทคได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความเชื่อมั่นเพราะเป็นสินค้าที่ยังคงมีการรับประกัน แต่ที่นำมาทำเช่นนี้เพราะนโยบายของแอปเปิลจะขายขาดสินค้าและไม่รับเปลี่ยนกรณีที่ไอโฟนและไอแพดมีตำหนิ เนื่องจากมองว่าไม่ได้มีผลกับประสิทธิภาพและการใช้งานของเครื่องแต่อย่างใด

"เครื่องเกรดบีที่เราจะนำมาจำหน่ายราคาจะแตกต่างกันไปแต่ละรุ่น บางส่วนอาจนำมาขายให้พนักงานก่อนในราคาพิเศษ จากนั้นจึงนำมาขายให้ผู้บริโภคทั่วไป ส่วนสมาร์ทโฟนที่รองรับแอนดรอยด์ ดีแทคไม่ได้นำมาทำตลาด เพราะแบรนด์ผู้ผลิตมีนโยบายรับคืนสินค้าอยู่แล้ว กรณีเครื่องนั้น ๆ มีตำหนิ โดยส่วนตัวไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นมีการนำเครื่องมีตำหนิไปทำตลาดในรูปแบบใดหรือไม่ แต่ที่บอกกันว่าร้านตู้บางแห่งซื้อเครื่องมีตำหนิต่อมาจากผู้ค้าส่งแล้วนำมาขายราคาถูกกว่าปกติ แต่ไม่ได้บอกความจริงกับลูกค้าว่ามีตำหนิก็เป็นไปได้ แต่คิดว่าผู้บริโภคคงรู้อยู่ว่าซื้อเครื่องจากร้านตู้มีความเสี่ยงมากกว่าซื้อจากศูนย์" นายปกรณ์กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีจี เซลลูล่าร์ เวิลด์ จำกัด เจ้าของร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ "ทีจีโฟน" เปิดเผยว่า ปกติเมื่อลูกค้าตรวจสภาพเครื่องเบื้องต้นแล้วไม่ซื้อ เช่น มีรอยเล็กน้อย หรือเปิดใช้งานไม่ได้ ร้านค้าจะส่งคืนไปยังเจ้าของแบรนด์ อาจมีบางส่วนที่ต้องเก็บไว้เพราะเลยกำหนดส่งคืน แต่จะไม่มีการนำมาวางขายใหม่แต่อย่างใด ซึ่งเครื่องประเภทนี้มีประมาณ 2-4% โดยที่แต่ละแบรนด์มีนโยบายแตกต่างกันในการจัดการกับเครื่องประเภทนี้





ด้านนายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ซัมซุงไม่มีนโยบายนำเครื่องสมาร์ทโฟนที่มีตำหนิกลับมาขายใหม่ในราคาถูก แต่มีมาตรการในการดูแลลูกค้า ดังนี้เริ่มจากกรณีเปิดกล่องสินค้ามาแล้วไม่พอใจเพราะสินค้ามีตำหนิก็จะเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ให้ทันที แต่ถ้านำสินค้าออกจากร้านไปแล้วไม่สามารถขอคืนสินค้าได้ นอกจากมีปัญหากับฮาร์ดแวร์ภายใน 7 วัน จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทันทีเช่นกัน หากเกินกว่านั้นจะรับซ่อมให้ตามระยะเวลาประกัน

สำหรับเครื่องที่มีตำหนิ ซัมซุงประเทศไทยจะนำกลับไปให้บุคลากรในองค์กรใช้เป็นเครื่องสำหรับฝึกอบรมการใช้งานแก่ผู้บริโภค รวมถึงนำไปใช้เป็นสินค้าตั้งโชว์หน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้งาน อีกบางส่วนจะนำไปใช้เป็นเครื่องสำรองให้ลูกค้ายืมใช้ระหว่างที่นำโทรศัพท์ของตนส่งซ่อม หากสินค้ามีตำหนิมีจำนวนมากกว่าความต้องการในการใช้งานดังกล่าวของบริษัท ซัมซุงประเทศไทยจะใช้วิธีส่งเครื่องคืนให้บริษัทแม่ในต่างประเทศ แต่ที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนที่มีตำหนิมีจำนวนน้อยมากไม่พอต่อการนำไปให้บุคลากรใช้ด้วยซ้ำ

"เราไม่มีมาตรการนำเครื่องที่มีตำหนิมาวางจำหน่ายใหม่ในราคาถูก แต่ผู้ประกอบกิจการบางรายอาจมีวิธีทำธุรกิจของเขา ซึ่งเราไม่รู้เรื่อง ถามว่าเครื่องมีตำหนิที่อาจมีการนำไปจำหน่ายต่อให้ร้านตู้รายย่อยเป็นเครื่องในประเทศไทยหรือเปล่าไม่ทราบได้ แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าลูกค้าเป็นคนตัดสินใจได้เองว่าพึงพอใจซื้อเครื่องในรูปแบบไหน"





http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1369560882





______________________________________

27 พฤษภาคม 2556 (กสทช.ผมชมจากใจ) กสทช.เตรียมบังคับ1เดือน 3G 2.1 GHz ความเร็วที่ต้องไม่ต่ำกว่า 345 Kbps (พร้อมออกราคากลางต้องต่ำกว่า) NET 0.28ต่อMB // โทร 0.97ต่อนาที


ประเด็นหลัก


นายก่อกิจ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมองว่า กลไกตลาดมีความสัมพันธ์ทั้งกับผู้ประกอบการและผู้บริโภค และมีข้อกังวลในเรื่องการลดอัตราลงไม่น้อยกว่า 15% มี 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ประชาชนตามต่างจังหวัดยังไม่ทราบเรื่องอัตราค่าบริการ 3จี ใหม่ ที่กำหนดให้ลดลงไม่น้อยกว่า 15% ขณะที่คนในเมืองทราบเป็นส่วนใหญ่ และ 2.จำนวนประชาชนที่ยังใช้บริการ 2จี อยู่ เนื่องจากอัตราการใช้โทรศัพท์ในประเทศไทยมีจำนวน 85 ล้านเลขหมาย แต่มีจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนไม่ถึง 10 ล้านเครื่อง จึงอยากให้ 3จี กระจายไปทั่วทั้งประเทศ

สำหรับเรื่องที่ผู้บริโภคร้องเรียนมายัง กสทช.มีประมาณ 20 เรื่อง โดยค่าใช้บริการที่ยังไม่ปรับลดลงร้อยละ 15 ถูกร้องเรียนมากที่สุด ปัญหาการถูกจำกัดความเร็ว การดาวน์โหลด และอัพโหลดข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งลูกค้าในระบบเติมเงินไม่สามารถขอเงินสดคืนได้ เมื่อย้ายไปใช้โครงข่าย 3 จี คลื่นความถี่ 2,100 โดย กสทช.จะหารือร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อหาทางออกร่วมกันบ่ายวันนี้ ซึ่งปัจจุบันระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดมีผู้ใช้บริการ 88 ล้านเลขเครื่อง และในจำนวนนี้มากถึงร้อยละ 90 เป็นระบบเติมเงิน

ล่าสุด


กสทช. เปิดราคากลางค่าบริการโทร.มือถือ 3G ที่ต้องลดลง 15% คือ ค่าโทร.ต้องอยู่ที่ 82 สตางค์ต่อนาที อินเทอร์เน็ต 28 สตางค์ต่อMB, SMS 1.33 บาทต่อข้อความ และMMS 3.32 บาทต่อข้อความ ส่วนเงินคงเหลือในระบบพรีเพด หากย้ายมา 3G 2.1 GHz ต้องคืนลูกค้า ด้านความเร็วที่ต้องไม่ต่ำกว่า 345 Kbps 'ฐากร' ย้ำขอเวลา 1 เดือนศึกษาประกาศฯ ทุกเม็ดก่อนตรวจสอบผู้ประกอบการว่าทำตามหรือไม่

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ภายหลังสำนักงานกสทช.เรียกผู้ประกอบการทั้ง 3 รายประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค ,บริษัท เรียลฟิวเจอร์ และบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค เข้าหารือกรณีเกี่ยวกับการเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz โดยเฉพาะในประเด็นอัตราค่าบริการโทรศัทพ์มือถือ 3G ที่ต้องลดราคาลง 15% โดยได้ข้อสรุปว่าตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.นี้เป็นต้นไป หากผู้ประกอบทั้ง 3 รายจะออกโปรโมชันใหม่จะต้องใช้เกณฑ์


((((ราคาค่าเฉลี่ยที่ลดลง 15% เทียบจากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2555 เป็นเกณฑ์ราคาในการออกโปรโมชันใหม่ทั้งหมด คือ อัตราค่าโทร.ต้องอยู่ที่ 82 สตางค์ต่อนาที อินเทอร์เน็ต 28 สตางค์ต่อMB, SMS 1.33 บาทต่อข้อความ และMMS 3.32 บาทต่อข้อความ จากที่ราคาค่าบริการเฉลี่ยในตลาดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2555 ค่าโทร.อยู่ที่ 97 สตางค์ต่อนาที อินเทอร์เน็ต 33 สตางค์ต่อMB ,SMS 1.56 บาทต่อข้อความ และ MMS 3.90บาทต่อข้อความ)))


http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063325&Keyword=%A1%CA%B7
http://m.thairath.co.th/content/tech/347160
http://www.thaipost.net/news/280513/74165
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063580
http://m.thairath.co.th/content/tech/347449

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.