Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

27 พฤษภาคม 2556 กสทช. ฟัน รายการปากโป้ง ช่อง8 นื้อหารายการขัดศีลธรรม (ตักเตือนก่อน) ชี้พูดไม่สุภาพและเหมาะสม ให้คำนึงถึงหลักวิชาชีพและสื่อสารมวลชน



ประเด็นหลัก



เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 56 พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า กรณีของการให้สัมภาษณ์รายการ "ปากโป้ง" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวหลังจากที่ได้มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนโดยคณะอนุกรรมการเนื้อหารายการและผังรายการของ กสท.แล้ว คณะกรรมการ กสท.ได้มีมติเห็นชอบในหลักการการพิจารณาการกระทำของผู้อำนวยการสถานีและผู้รับใบอนุญาต คือ อาร์เอส ว่ามีการกระทำและพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มาตรา 37 วรรค 1 ที่มีการแพร่ภาพรายการซึ่งมีเนื้อหารายการขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน

ประธาน กสท. กล่าวต่อว่า ส่วนการกำหนดโทษความผิดดังกล่าวนั้น ให้สำนักงาน กสทช.พิจารณาทบทวน โดยให้คำนึงถึงพฤติกรรมแห่งการกระทำ ผลกระทบ และความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง จากกระทำความผิดของผู้ถูกร้องเรียนตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการ การรวบรวมข้อเท็จจริงการกระทำความผิด ที่มีโทษตามปกครอง พ.ศ.2556 โดยให้นำเสนอที่ประชุมในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังให้ผู้อำนวยการสถานีและผู้รับใบอนุญาตดำเนินการลงโทษ หรือตักเตือนผู้ดำเนินรายการและพิธีกร โดยให้คำนึงถึงหลักวิชาชีพและสื่อสารมวลชน ที่จะต้องมีความเป็นกลาง ใช้ภาษาสุภาพและเหมาะสม โดยให้รายงานผลการลงโทษ หรือตักเตือนดังกล่าวให้ กสทช.รับทราบด้วย




______________________________________





'อาร์เอส'หนาว กสทช.ฟัน'ปากโป้ง' เนื้อหารายการขัดศีลธรรม


บอร์ด กสท.ชี้ การสัมภาษณ์รายการ "ปากโป้ง" ช่อง 8 อาร์เอส มีการกระทำและพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มาตรา 37 วรรค 1 คาดโทษตักเตือน ปรับ พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต...

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 56 พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า กรณีของการให้สัมภาษณ์รายการ "ปากโป้ง" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวหลังจากที่ได้มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนโดยคณะอนุกรรมการเนื้อหารายการและผังรายการของ กสท.แล้ว คณะกรรมการ กสท.ได้มีมติเห็นชอบในหลักการการพิจารณาการกระทำของผู้อำนวยการสถานีและผู้รับใบอนุญาต คือ อาร์เอส ว่ามีการกระทำและพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มาตรา 37 วรรค 1 ที่มีการแพร่ภาพรายการซึ่งมีเนื้อหารายการขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน

ประธาน กสท. กล่าวต่อว่า ส่วนการกำหนดโทษความผิดดังกล่าวนั้น ให้สำนักงาน กสทช.พิจารณาทบทวน โดยให้คำนึงถึงพฤติกรรมแห่งการกระทำ ผลกระทบ และความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง จากกระทำความผิดของผู้ถูกร้องเรียนตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการ การรวบรวมข้อเท็จจริงการกระทำความผิด ที่มีโทษตามปกครอง พ.ศ.2556 โดยให้นำเสนอที่ประชุมในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังให้ผู้อำนวยการสถานีและผู้รับใบอนุญาตดำเนินการลงโทษ หรือตักเตือนผู้ดำเนินรายการและพิธีกร โดยให้คำนึงถึงหลักวิชาชีพและสื่อสารมวลชน ที่จะต้องมีความเป็นกลาง ใช้ภาษาสุภาพและเหมาะสม โดยให้รายงานผลการลงโทษ หรือตักเตือนดังกล่าวให้ กสทช.รับทราบด้วย

พ.อ.นที กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือน ม.ค.2556 ที่ผ่านมา เป็นกรณีที่รายการ "ปากโป้ง" มีการนำเอาเด็กที่เป็นออทิสติกมาออกรายการ และสัมภาษณ์ถึงกรณีที่เด็กคนดังกล่าวโดนกระทำชำเราในลักษณะที่ผิดศีลธรรมตามมาตรา 37 คือเป็นการสอบถามในรายการค่อนข้างที่จะยาวนานและลงในรายละเอียดค่อนข้างมาก โดยคณะอนุกรรมการได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาสอบถามความเห็นในประเด็นเหล่านี้ และท้ายที่สุดก็ได้นำผลสรุปต่อคณะกรรมการ กสท.

ประธาน กสท. กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นคณะกรรมการเห็นชอบในหลักการว่ากรณีนี้เข้าข่าย แต่ในเรื่องของความผิดต่างๆ ให้เป็นไปตามประกาศของ กสทช. โดยรวบรวมข้อเท็จจริงและกระบวนการให้ถูกต้องก่อนที่จะตัดสินต่อไป ซึ่งทางอาร์เอสได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว และมีการประชุมคณะอนุกรรมการไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง ซึ่งการลงโทษเป็นไปได้ตั้งแต่การตักเตือน ปรับ พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต.

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/347453

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.