27 พฤษภาคม 2556 TME ครั้งนี้มือถือต่ำหมื่นยอดตก!! (( แต่มือถึอเกินหมื่นได้รับความนิยม )) คนซื้อใช้งานจริงจัง ไม่ได้ซื้อทดลองใช้และให้ผู้สูงอายุ ยอดเงินสะพัด 1,360 ล้านบาท จากที่คาดไว้ 1,600 ล้านบาท
ประเด็นหลัก
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงาน "Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End" กล่าวว่า ปกติจะจัดงานเดือน มิ.ย.แต่เลื่อนจัดเร็วขึ้นจากกระแสการเปิดตัว 3G คลื่น 2.1 GHz และมีมือถือรุ่นใหม่ ๆ เยอะขึ้น คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงาน (23-26 พ.ค. 2556) 1,600 ล้านบาท ทำให้รู้ด้วยว่า 3G คลื่นใหม่ส่งผลต่อตลาดมากแค่ไหน
"ครั้งต่อไปเราเว้นยาวไป ต.ค. หากภาพรวมงานนี้ไม่ดีเท่าที่ควรก็อาจไปคึกคักอีกทีครั้งหน้า ช่วงต้นปียอดมือถือในตลาดรวมยังโตแต่น้อยเมื่อเทียบกับความนิยมทั่วโลกอาจเพราะมือถือรุ่นใหม่ปรับปรุงแค่สเป็กอาจต้องรอจุดเปลี่ยนอีกรอบ"
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2013 ไฮเอนด์ เปิดเผยว่า จากการจัดงานเมื่อวันที่ 23-26 พ.ค.ที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดติดต่อกันและมีฝนตก ทำให้มีผู้เข้าชมงานน้อยกว่าตั้งเป้าไว้ที่ 5 แสนราย โดยต่ำกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 18% ทั้งยังส่งผลให้ยอดเงินสะพัดภายในงานต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,360 ล้านบาท จากที่คาดไว้ 1,600 ล้านบาท
"ยอมรับว่าช่วงเวลาจัดงาน ประกอบกับในงานยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้มากนัก ทำให้จำนวนผู้เข้าชมงานและกำลังการซื้อภายในงานต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นราคาต่ำกว่า 6,000 บาท ซึ่งขายได้ค่อนข้างน้อย อาจเพราะผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มมองหาเครื่องสำหรับใช้งานจริงจัง ไม่ได้ซื้อเครื่องราคาถูกไปให้ลูกหลานหรือผู้สูงอายุ ทดลองใช้งานเหมือนการซื้อในช่วงที่ผ่านมา แต่จะหันไปเลือกซื้อเครื่องราคาตั้งแต่หมื่นบาทขึ้นไปเพื่อใช้งานอย่างจริงจังแทน" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าว
นายโอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับยอดจำหน่ายสินค้าภายในงานแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแก็ดเจ็ต-ไอที โดยมีสัดส่วนการจำหน่าย คือ สมาร์ทโฟน 80% แท็บเล็ต 10% และไอที 10% จากสัดส่วนการจำหน่ายในงานครั้งที่ผ่านมาซึ่งแบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 60% แท็บเล็ต 30% และแก็ดเจ็ต-ไอที 10% โดยสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมจะมีราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นจอใหญ่จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ส่วนแท็บเล็ตขายดีจะมีราคาตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป เนื่องจากพฤติกรรมผู้ซื้อที่เป็นคนกรุงเทพฯ จะนิยมใช้งานสินค้าระดับไฮเอนด์
______________________________________
"สมาร์ทดีไวซ์3G"แห่ลงตลาด ลุ้นยอดโมบายเอ็กซ์โปไฮเอนด์
วัดกำลังซื้อ "สมาร์ทดีไวซ์" 3G คลื่นใหม่ ประเดิม "ไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โป 2013 Hi-End" ลุ้นเงินสะพัด 1.6 พันล้าน ผู้ผลิตบิ๊กแบรนด์-เฮาส์แบรนด์ตบเท้าร่วมงานคึกคัก แบรนด์หน้าใหม่ "ทรู-เชอร์รี่โมบาย-ยูทูบายไอโกะ"
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงาน "Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End" กล่าวว่า ปกติจะจัดงานเดือน มิ.ย.แต่เลื่อนจัดเร็วขึ้นจากกระแสการเปิดตัว 3G คลื่น 2.1 GHz และมีมือถือรุ่นใหม่ ๆ เยอะขึ้น คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงาน (23-26 พ.ค. 2556) 1,600 ล้านบาท ทำให้รู้ด้วยว่า 3G คลื่นใหม่ส่งผลต่อตลาดมากแค่ไหน
"ครั้งต่อไปเราเว้นยาวไป ต.ค. หากภาพรวมงานนี้ไม่ดีเท่าที่ควรก็อาจไปคึกคักอีกทีครั้งหน้า ช่วงต้นปียอดมือถือในตลาดรวมยังโตแต่น้อยเมื่อเทียบกับความนิยมทั่วโลกอาจเพราะมือถือรุ่นใหม่ปรับปรุงแค่สเป็กอาจต้องรอจุดเปลี่ยนอีกรอบ"
นอกจากบรรดาค่ายมือถือทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟจะมากันครบเช่นกันกับบิ๊กแบรนด์มือถือ ซัมซุง, แอลจี, โนเกีย, เอชทีซี, แบล็คเบอร์รี่, ออปโป้ ไปจนถึง "ไอ-โมบาย" ที่นำ IQX สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ราคา 9,490 บาท กล้องหน้า 18 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ซีพียูคอร์ดคอร์ 1.2 Ghz จอ 4.7 นิ้ว เป็นต้น
ยังมีแบรนด์ใหม่ ได้แก่ "ทรู" ราคา 6,590 บาท มีทรูการ์ด และเปิดเบอร์ใหม่ลด1,000 บาท เปิดแพ็กเกจพร้อมเบอร์ได้เงินคืน 3,600 บาท คืน 200 บาท/เดือน เป็นค่าโทร. อีกรุ่นแท็บเลต ราคา 4,990 บาท ถัดมาเป็นเชอร์รี่โมบาย (cherry mobile) และยูทู (UTOO)
นางสาววชรพรรษ เอนกจินดารัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท คอสมิค โมบายล์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่าย "เชอร์รี่โมบาย" กล่าวว่า บริษัทมีผู้บริหารไทยถือหุ้น 60% ฟิลิปปินส์ 40% เพื่อขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตลาดไทยมีโอกาสเพราะอินเตอร์แบรนด์เน้นตลาดระดับกลางถึงไฮเอนด์
"ใช้เงินเป็นงบฯการตลาด 5 ล้าน เพื่อสร้างแบรนด์เน้นสื่อออนไลน์ ลูกค้าอายุ 15-35 ปี มีจุดเด่นที่ราคาย่อมเยามี 8 รุ่น แท็บเลต 3 รุ่น ราคา 2,399-7,999 บาท"
อีกแบรนด์ UTOO ชื่อเต็ม "ยูทู บาย ไอโกะ" แบรนด์ไอโกะโฉมใหม่ที่เปลี่ยนมาเจาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ
นายพัฒน์ โลท์รุจินันท์ ฝ่ายการตลาด บริษัท ยูทู ประเทศไทย กล่าวว่า เปลี่ยนชื่อแบรนด์เพื่อใช้เจาะตลาดในไทย, กัมพูชา และพม่า มีทั้งแท็บเลตและสมาร์ทโฟน โดยแท็บเลต มี 3 รุ่น หน้าจอ 8 นิ้ว และ 6 นิ้ว ราคา 1,699-6,499 บาท ส่วนสมาร์ทโฟน หน้าจอ 6 นิ้ว รองรับ 2 ซิม ราคา 5,999 บาท เน้นลูกค้าระดับกลางถึงล่าง มีจุดเด่นที่ราคาจับต้องได้สเป็กดีกว่าคู่แข่ง
"คนไทยมีกำลังซื้อและยินดีซื้อเฮาส์แบรนด์ที่ราคาต่ำกว่าหมื่นบาท"
แบรนด์ไอที "เอเซอร์" ก็ชัดเจนแล้วว่าบุกตลาดสื่อสารเต็มตัว มีทั้ง "สลิมโน้ต", ไฮบริดโน้ตบุ๊ก, แท็บเลตและสมาร์ทโฟน มาพร้อมโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 (ซื้อสมาร์ทโฟน S500 ราคา 10,900 บาท รับ
แท็บเลต ICONIA B1 ราคา 3,990 บาท) เช่นกันกับ "เอซุส" มีไฮบริดโน้ตบุ๊ก, แท็บเลต มีโมแพด และเน็กซัส 7 รวมถึงสมาร์ทโฟน และแพดโฟน 2 มีผ่อน 0% 10 เดือน
ฝั่ง "เลอโนโว" ขนสินค้าครอบคลุมทั้งโน้ตบุ๊ก, อัลตร้าบุ๊ก และออลอินวัน เดสก์ท็อป มีลดราคาหากซื้อเงินสด และผ่อน 0% นาน 10 เดือน
อีกสินค้ายอดนิยมคือบรรดาพาวเวอร์แบงก์ หรืออุปกรณ์สำรองไฟ ทั้งแบรนด์ใหญ่อย่างยูเบา (Yoobao) มีทั้งบูทเล็กบูทใหญ่ กับพาวเวอร์แบงก์ความจุ 4400 mAh ราคา 650 บาท ไปจนถึงความจุ 13000 mAh ราคา 1,550 บาท เช่นกันกับคอมมี่ มีพาวเวอร์แบงก์ราคา 490-2,190 บาท พร้อมอุปกรณ์เสริมไล่ไปตั้งแต่สายเคเบิลไปถึงฟิล์มกันรอย อีกแบรนด์ก็พาวเวอร์แม็กซ์ ราคา 690-1,990 บาท เป็นต้น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1369556067
_______________________________________
ผิดคาด! โมบายล์เอ็กซ์โปฯขายไม่ถึงเป้า แต่มือถือไฮเอนด์ยอดดีขึ้น
ผู้จัดงานโมบายล์ เอ็กซ์โป 2013 ไฮเอนด์ รับกระแสจัดงานครั้งนี้ไม่เป็นตามเป้า ทั้งยอดคนร่วมงานและยอดขาย เผยคนนิยมสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตตั้งแต่รุ่นกลางถึงแพง โน้ตบุ๊กวินโดวส์ RT ที่ลดราคาแหวกกระแสกลับขายดี...
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2013 ไฮเอนด์ เปิดเผยว่า จากการจัดงานเมื่อวันที่ 23-26 พ.ค.ที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดติดต่อกันและมีฝนตก ทำให้มีผู้เข้าชมงานน้อยกว่าตั้งเป้าไว้ที่ 5 แสนราย โดยต่ำกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 18% ทั้งยังส่งผลให้ยอดเงินสะพัดภายในงานต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,360 ล้านบาท จากที่คาดไว้ 1,600 ล้านบาท
"ยอมรับว่าช่วงเวลาจัดงาน ประกอบกับในงานยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้มากนัก ทำให้จำนวนผู้เข้าชมงานและกำลังการซื้อภายในงานต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นราคาต่ำกว่า 6,000 บาท ซึ่งขายได้ค่อนข้างน้อย อาจเพราะผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มมองหาเครื่องสำหรับใช้งานจริงจัง ไม่ได้ซื้อเครื่องราคาถูกไปให้ลูกหลานหรือผู้สูงอายุ ทดลองใช้งานเหมือนการซื้อในช่วงที่ผ่านมา แต่จะหันไปเลือกซื้อเครื่องราคาตั้งแต่หมื่นบาทขึ้นไปเพื่อใช้งานอย่างจริงจังแทน" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าว
นายโอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับยอดจำหน่ายสินค้าภายในงานแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแก็ดเจ็ต-ไอที โดยมีสัดส่วนการจำหน่าย คือ สมาร์ทโฟน 80% แท็บเล็ต 10% และไอที 10% จากสัดส่วนการจำหน่ายในงานครั้งที่ผ่านมาซึ่งแบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 60% แท็บเล็ต 30% และแก็ดเจ็ต-ไอที 10% โดยสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมจะมีราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นจอใหญ่จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ส่วนแท็บเล็ตขายดีจะมีราคาตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป เนื่องจากพฤติกรรมผู้ซื้อที่เป็นคนกรุงเทพฯ จะนิยมใช้งานสินค้าระดับไฮเอนด์
"ยอดขายแท็บเล็ตไม่สูงเท่าที่คาดการณ์ ส่วนหนึ่งอาจเพราะผู้บริโภคมีประสบการณ์จากการทดลองซื้อเครื่องราคาไม่กี่พันบาทไปทดลองใช้ หรือให้บุตรหลานใช้ ทำให้มีความเข้าใจในสินค้ามากขึ้น อีกทั้งกระแสโครงการแท็บเล็ตของรัฐบาลก็ลดลง แต่สินค้าที่สามารถขายได้เกิดคาดคือโน้ตบุ๊กที่ใช้ระบบวินโดวส์ อาร์ที (Windows RT) ซึ่งมีการนำมาจำหน่ายแบบลดราคาตั้งแต่ 30% ขึ้นไป โดยมีราคาถูกลงกว่าเมื่อช่วงต้นปีทำให้มีผู้สนใจซื้อเป็นจำนวนมาก" นายโอภาส กล่าว
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าวด้วยว่า นอกจากการซื้อและชมสินค้าภายในงานฯ ผู้เข้าร่วมงานยังให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน แสดงถึงความตื่นตัวและสนใจเทคโนโลยี ทั้งหัวข้อเกี่ยวกับการการใช้งานอุปกรณ์และการใช้ 3จี
นายโอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดงานครั้งต่อไป เชื่อว่าจะสามารถเรียกความสนใจและกำลังซื้อจากผู้บริโภคได้มากกว่าการจัดงานครั้งนี้ เนื่องจากในช่วงเดือน ต.ค.นั้นเป็นช่วงที่ผู้ผลิตหลายค่ายนั้นทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ลงสู่ตลาด ทั้งยังเป็นรุ่นแฟลกชิปของหลายแบรนด์อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีสินค้าพร้อมจำหน่ายภายในงานฯ ครั้งต่อไปได้ทันที.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/347388
__________________________________
______________________________________
ไร้เทคโนฯใหม่ - หยุดยาว ทำยอด TME หด 15%
ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป เผย ยอดเงินสะพัดในงานลดลงจากครั้งที่ผ่านมากว่า 15% เหลือ 1.36 พันล้านบาท ชี้ 3 ปัจจัยไร้เทคโนโลยีใหม่ ติดวันหยุดยาว และเป็นสัปดาห์ก่อนเงินเดือนออก ส่งผลกระทบยอดไม่เติบโตตามคาด
นาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด กล่าวสรุปถึงยอดเงินสะพัดภายในงาน 'ไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซโป 2013 ไฮเอนด์' ว่าอยู่ที่ 1,360 ล้านบาท พลาดจากเป้าหมายที่วางไว้ 1,600 ล้านบาท ลดลงจากงานครั้งที่ผ่านมา 15% เช่นเดียวกับปริมาณยอดผู้เข้าชมงานลดลงกว่า 18%
"การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จัดในช่วงวันหยุดยาว ประกอบกับในงานยังไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเข้ามา และยังเป็นช่วงสัปดาห์ก่อนเงินเดือนออก ส่งผลให้ยอดรายได้ภายในงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์เสริม และสินค้า IT กลับมียอดขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องด้วยการปรับลดราคาลงอย่างมากเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนรายได้ภายในงานเพิ่มขึ้นมาเป็น 15% จากเดิมที่อยู่ราว 10% ขณะที่สมาร์ทโฟนยังครองส่วนแบ่งมากที่สุดในงานกว่า 75% สุดท้ายเป็นแท็บเล็ตที่ปรับสัดส่วนลดลงเหลือ 10%
นาย โอภาส กล่าวต่อว่า ในงานครั้งนี้แท็บเล็ตราคาต่ำกว่า 6,000 บาท ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร อาจเนื่องจากในงานครั้งที่ผ่านมาผู้บริโภคส่วนใหญ่มีประสบการณ์กับเครื่องในระดับราคาดังกล่าวแล้วไม่พึงพอใจ ทำให้เลือกที่จะซื้อสินค้าในระดับราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อแลกกับประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนของห้อง Ballroom ที่จัดนิทรรศการให้ความรู้ เทคโนโลยี 3G รวมไปถึงการจัดงานสัมมนา "เปิดโลกไอที พลิกสู่ชีวิตที่ดีกว่า" โดย คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ร่วมกับทีมงานไอที 24 ชั่วโมงและครอบครัวข่าว 3 ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มียอดผู้เข้าร่วมสัมมนาตลอด 4 วันงาน กว่า 4,000 คน
ส่วนงาน “Thailand Mobile Expo 2013 ปลายปี” ครั้งที่ 16 จะจัดขึ้นในวันที่ 3 - 6 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. เป็นต้นไป
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063318
ไม่มีความคิดเห็น: