Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

27 พฤษภาคม 2556 TME ครั้งนี้มือถือต่ำหมื่นยอดตก!! (( แต่มือถึอเกินหมื่นได้รับความนิยม )) คนซื้อใช้งานจริงจัง ไม่ได้ซื้อทดลองใช้และให้ผู้สูงอายุ ยอดเงินสะพัด 1,360 ล้านบาท จากที่คาดไว้ 1,600 ล้านบาท



ประเด็นหลัก


นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงาน "Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End" กล่าวว่า ปกติจะจัดงานเดือน มิ.ย.แต่เลื่อนจัดเร็วขึ้นจากกระแสการเปิดตัว 3G คลื่น 2.1 GHz และมีมือถือรุ่นใหม่ ๆ เยอะขึ้น คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงาน (23-26 พ.ค. 2556) 1,600 ล้านบาท ทำให้รู้ด้วยว่า 3G คลื่นใหม่ส่งผลต่อตลาดมากแค่ไหน

"ครั้งต่อไปเราเว้นยาวไป ต.ค. หากภาพรวมงานนี้ไม่ดีเท่าที่ควรก็อาจไปคึกคักอีกทีครั้งหน้า ช่วงต้นปียอดมือถือในตลาดรวมยังโตแต่น้อยเมื่อเทียบกับความนิยมทั่วโลกอาจเพราะมือถือรุ่นใหม่ปรับปรุงแค่สเป็กอาจต้องรอจุดเปลี่ยนอีกรอบ"




นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2013 ไฮเอนด์ เปิดเผยว่า จากการจัดงานเมื่อวันที่ 23-26 พ.ค.ที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดติดต่อกันและมีฝนตก ทำให้มีผู้เข้าชมงานน้อยกว่าตั้งเป้าไว้ที่ 5 แสนราย โดยต่ำกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 18% ทั้งยังส่งผลให้ยอดเงินสะพัดภายในงานต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,360 ล้านบาท จากที่คาดไว้ 1,600 ล้านบาท

"ยอมรับว่าช่วงเวลาจัดงาน ประกอบกับในงานยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้มากนัก ทำให้จำนวนผู้เข้าชมงานและกำลังการซื้อภายในงานต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นราคาต่ำกว่า 6,000 บาท ซึ่งขายได้ค่อนข้างน้อย อาจเพราะผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มมองหาเครื่องสำหรับใช้งานจริงจัง ไม่ได้ซื้อเครื่องราคาถูกไปให้ลูกหลานหรือผู้สูงอายุ ทดลองใช้งานเหมือนการซื้อในช่วงที่ผ่านมา แต่จะหันไปเลือกซื้อเครื่องราคาตั้งแต่หมื่นบาทขึ้นไปเพื่อใช้งานอย่างจริงจังแทน" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าว

นายโอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับยอดจำหน่ายสินค้าภายในงานแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแก็ดเจ็ต-ไอที โดยมีสัดส่วนการจำหน่าย คือ สมาร์ทโฟน 80% แท็บเล็ต 10% และไอที 10​% จากสัดส่วนการจำหน่ายในงานครั้งที่ผ่านมาซึ่งแบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 60% แท็บเล็ต 30% และแก็ดเจ็ต-ไอที 10% โดยสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมจะมีราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นจอใหญ่จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ส่วนแท็บเล็ตขายดีจะมีราคาตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป เนื่องจากพฤติกรรมผู้ซื้อที่เป็นคนกรุงเทพฯ จะนิยมใช้งานสินค้าระดับไฮเอนด์






______________________________________





"สมาร์ทดีไวซ์3G"แห่ลงตลาด ลุ้นยอดโมบายเอ็กซ์โปไฮเอนด์


วัดกำลังซื้อ "สมาร์ทดีไวซ์" 3G คลื่นใหม่ ประเดิม "ไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โป 2013 Hi-End" ลุ้นเงินสะพัด 1.6 พันล้าน ผู้ผลิตบิ๊กแบรนด์-เฮาส์แบรนด์ตบเท้าร่วมงานคึกคัก แบรนด์หน้าใหม่ "ทรู-เชอร์รี่โมบาย-ยูทูบายไอโกะ"

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงาน "Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End" กล่าวว่า ปกติจะจัดงานเดือน มิ.ย.แต่เลื่อนจัดเร็วขึ้นจากกระแสการเปิดตัว 3G คลื่น 2.1 GHz และมีมือถือรุ่นใหม่ ๆ เยอะขึ้น คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงาน (23-26 พ.ค. 2556) 1,600 ล้านบาท ทำให้รู้ด้วยว่า 3G คลื่นใหม่ส่งผลต่อตลาดมากแค่ไหน

"ครั้งต่อไปเราเว้นยาวไป ต.ค. หากภาพรวมงานนี้ไม่ดีเท่าที่ควรก็อาจไปคึกคักอีกทีครั้งหน้า ช่วงต้นปียอดมือถือในตลาดรวมยังโตแต่น้อยเมื่อเทียบกับความนิยมทั่วโลกอาจเพราะมือถือรุ่นใหม่ปรับปรุงแค่สเป็กอาจต้องรอจุดเปลี่ยนอีกรอบ"

นอกจากบรรดาค่ายมือถือทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟจะมากันครบเช่นกันกับบิ๊กแบรนด์มือถือ ซัมซุง, แอลจี, โนเกีย, เอชทีซี, แบล็คเบอร์รี่, ออปโป้ ไปจนถึง "ไอ-โมบาย" ที่นำ IQX สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ราคา 9,490 บาท กล้องหน้า 18 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ซีพียูคอร์ดคอร์ 1.2 Ghz จอ 4.7 นิ้ว เป็นต้น

ยังมีแบรนด์ใหม่ ได้แก่ "ทรู" ราคา 6,590 บาท มีทรูการ์ด และเปิดเบอร์ใหม่ลด1,000 บาท เปิดแพ็กเกจพร้อมเบอร์ได้เงินคืน 3,600 บาท คืน 200 บาท/เดือน เป็นค่าโทร. อีกรุ่นแท็บเลต ราคา 4,990 บาท ถัดมาเป็นเชอร์รี่โมบาย (cherry mobile) และยูทู (UTOO)

นางสาววชรพรรษ เอนกจินดารัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท คอสมิค โมบายล์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่าย "เชอร์รี่โมบาย" กล่าวว่า บริษัทมีผู้บริหารไทยถือหุ้น 60% ฟิลิปปินส์ 40% เพื่อขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตลาดไทยมีโอกาสเพราะอินเตอร์แบรนด์เน้นตลาดระดับกลางถึงไฮเอนด์

"ใช้เงินเป็นงบฯการตลาด 5 ล้าน เพื่อสร้างแบรนด์เน้นสื่อออนไลน์ ลูกค้าอายุ 15-35 ปี มีจุดเด่นที่ราคาย่อมเยามี 8 รุ่น แท็บเลต 3 รุ่น ราคา 2,399-7,999 บาท"

อีกแบรนด์ UTOO ชื่อเต็ม "ยูทู บาย ไอโกะ" แบรนด์ไอโกะโฉมใหม่ที่เปลี่ยนมาเจาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ

นายพัฒน์ โลท์รุจินันท์ ฝ่ายการตลาด บริษัท ยูทู ประเทศไทย กล่าวว่า เปลี่ยนชื่อแบรนด์เพื่อใช้เจาะตลาดในไทย, กัมพูชา และพม่า มีทั้งแท็บเลตและสมาร์ทโฟน โดยแท็บเลต มี 3 รุ่น หน้าจอ 8 นิ้ว และ 6 นิ้ว ราคา 1,699-6,499 บาท ส่วนสมาร์ทโฟน หน้าจอ 6 นิ้ว รองรับ 2 ซิม ราคา 5,999 บาท เน้นลูกค้าระดับกลางถึงล่าง มีจุดเด่นที่ราคาจับต้องได้สเป็กดีกว่าคู่แข่ง

"คนไทยมีกำลังซื้อและยินดีซื้อเฮาส์แบรนด์ที่ราคาต่ำกว่าหมื่นบาท"

แบรนด์ไอที "เอเซอร์" ก็ชัดเจนแล้วว่าบุกตลาดสื่อสารเต็มตัว มีทั้ง "สลิมโน้ต", ไฮบริดโน้ตบุ๊ก, แท็บเลตและสมาร์ทโฟน มาพร้อมโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 (ซื้อสมาร์ทโฟน S500 ราคา 10,900 บาท รับ

แท็บเลต ICONIA B1 ราคา 3,990 บาท) เช่นกันกับ "เอซุส" มีไฮบริดโน้ตบุ๊ก, แท็บเลต มีโมแพด และเน็กซัส 7 รวมถึงสมาร์ทโฟน และแพดโฟน 2 มีผ่อน 0% 10 เดือน

ฝั่ง "เลอโนโว" ขนสินค้าครอบคลุมทั้งโน้ตบุ๊ก, อัลตร้าบุ๊ก และออลอินวัน เดสก์ท็อป มีลดราคาหากซื้อเงินสด และผ่อน 0% นาน 10 เดือน

อีกสินค้ายอดนิยมคือบรรดาพาวเวอร์แบงก์ หรืออุปกรณ์สำรองไฟ ทั้งแบรนด์ใหญ่อย่างยูเบา (Yoobao) มีทั้งบูทเล็กบูทใหญ่ กับพาวเวอร์แบงก์ความจุ 4400 mAh ราคา 650 บาท ไปจนถึงความจุ 13000 mAh ราคา 1,550 บาท เช่นกันกับคอมมี่ มีพาวเวอร์แบงก์ราคา 490-2,190 บาท พร้อมอุปกรณ์เสริมไล่ไปตั้งแต่สายเคเบิลไปถึงฟิล์มกันรอย อีกแบรนด์ก็พาวเวอร์แม็กซ์ ราคา 690-1,990 บาท เป็นต้น

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1369556067

_______________________________________


ผิดคาด! โมบายล์เอ็กซ์โปฯขายไม่ถึงเป้า แต่มือถือไฮเอนด์ยอดดีขึ้น


ผู้จัดงานโมบายล์ เอ็กซ์โป 2013 ไฮเอนด์ รับกระแสจัดงานครั้งนี้ไม่เป็นตามเป้า ทั้งยอดคนร่วมงานและยอดขาย เผยคนนิยมสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตตั้งแต่รุ่นกลางถึงแพง โน้ตบุ๊กวินโดวส์ RT ที่ลดราคาแหวกกระแสกลับขายดี...

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2013 ไฮเอนด์ เปิดเผยว่า จากการจัดงานเมื่อวันที่ 23-26 พ.ค.ที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดติดต่อกันและมีฝนตก ทำให้มีผู้เข้าชมงานน้อยกว่าตั้งเป้าไว้ที่ 5 แสนราย โดยต่ำกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 18% ทั้งยังส่งผลให้ยอดเงินสะพัดภายในงานต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,360 ล้านบาท จากที่คาดไว้ 1,600 ล้านบาท

"ยอมรับว่าช่วงเวลาจัดงาน ประกอบกับในงานยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้มากนัก ทำให้จำนวนผู้เข้าชมงานและกำลังการซื้อภายในงานต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นราคาต่ำกว่า 6,000 บาท ซึ่งขายได้ค่อนข้างน้อย อาจเพราะผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มมองหาเครื่องสำหรับใช้งานจริงจัง ไม่ได้ซื้อเครื่องราคาถูกไปให้ลูกหลานหรือผู้สูงอายุ ทดลองใช้งานเหมือนการซื้อในช่วงที่ผ่านมา แต่จะหันไปเลือกซื้อเครื่องราคาตั้งแต่หมื่นบาทขึ้นไปเพื่อใช้งานอย่างจริงจังแทน" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าว

นายโอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับยอดจำหน่ายสินค้าภายในงานแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแก็ดเจ็ต-ไอที โดยมีสัดส่วนการจำหน่าย คือ สมาร์ทโฟน 80% แท็บเล็ต 10% และไอที 10​% จากสัดส่วนการจำหน่ายในงานครั้งที่ผ่านมาซึ่งแบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 60% แท็บเล็ต 30% และแก็ดเจ็ต-ไอที 10% โดยสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมจะมีราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นจอใหญ่จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ส่วนแท็บเล็ตขายดีจะมีราคาตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป เนื่องจากพฤติกรรมผู้ซื้อที่เป็นคนกรุงเทพฯ จะนิยมใช้งานสินค้าระดับไฮเอนด์

"ยอดขายแท็บเล็ตไม่สูงเท่าที่คาดการณ์ ส่วนหนึ่งอาจเพราะผู้บริโภคมีประสบการณ์จากการทดลองซื้อเครื่องราคาไม่กี่พันบาทไปทดลองใช้ หรือให้บุตรหลานใช้ ทำให้มีความเข้าใจในสินค้ามากขึ้น อีกทั้งกระแสโครงการแท็บเล็ตของรัฐบาลก็ลดลง แต่สินค้าที่สามารถขายได้เกิดคาดคือโน้ตบุ๊กที่ใช้ระบบวินโดวส์ อาร์ที (Windows RT) ซึ่งมีการนำมาจำหน่ายแบบลดราคาตั้งแต่ 30% ขึ้นไป โดยมีราคาถูกลงกว่าเมื่อช่วงต้นปีทำให้มีผู้สนใจซื้อเป็นจำนวนมาก" นายโอภาส กล่าว

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าวด้วยว่า นอกจากการซื้อและชมสินค้าภายในงานฯ ผู้เข้าร่วมงานยังให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน แสดงถึงความตื่นตัวและสนใจเทคโนโลยี ทั้งหัวข้อเกี่ยวกับการการใช้งานอุปกรณ์และการใช้ 3จี

นายโอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดงานครั้งต่อไป เชื่อว่าจะสามารถเรียกความสนใจและกำลังซื้อจากผู้บริโภคได้มากกว่าการจัดงานครั้งนี้ เนื่องจากในช่วงเดือน ต.ค.นั้นเป็นช่วงที่ผู้ผลิตหลายค่ายนั้นทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ลงสู่ตลาด ทั้งยังเป็นรุ่นแฟลกชิปของหลายแบรนด์อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีสินค้าพร้อมจำหน่ายภายในงานฯ ครั้งต่อไปได้ทันที.

โดย: ไทยรัฐออนไลน์


http://m.thairath.co.th/content/tech/347388

__________________________________




______________________________________





ไร้เทคโนฯใหม่ - หยุดยาว ทำยอด TME หด 15%


ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป เผย ยอดเงินสะพัดในงานลดลงจากครั้งที่ผ่านมากว่า 15% เหลือ 1.36 พันล้านบาท ชี้ 3 ปัจจัยไร้เทคโนโลยีใหม่ ติดวันหยุดยาว และเป็นสัปดาห์ก่อนเงินเดือนออก ส่งผลกระทบยอดไม่เติบโตตามคาด
   
       นาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด กล่าวสรุปถึงยอดเงินสะพัดภายในงาน 'ไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซโป 2013 ไฮเอนด์' ว่าอยู่ที่ 1,360 ล้านบาท พลาดจากเป้าหมายที่วางไว้ 1,600 ล้านบาท ลดลงจากงานครั้งที่ผ่านมา 15% เช่นเดียวกับปริมาณยอดผู้เข้าชมงานลดลงกว่า 18%
   
       "การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จัดในช่วงวันหยุดยาว ประกอบกับในงานยังไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเข้ามา และยังเป็นช่วงสัปดาห์ก่อนเงินเดือนออก ส่งผลให้ยอดรายได้ภายในงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"
   
       อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์เสริม และสินค้า IT กลับมียอดขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องด้วยการปรับลดราคาลงอย่างมากเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนรายได้ภายในงานเพิ่มขึ้นมาเป็น 15% จากเดิมที่อยู่ราว 10% ขณะที่สมาร์ทโฟนยังครองส่วนแบ่งมากที่สุดในงานกว่า 75% สุดท้ายเป็นแท็บเล็ตที่ปรับสัดส่วนลดลงเหลือ 10%
   
       นาย โอภาส กล่าวต่อว่า ในงานครั้งนี้แท็บเล็ตราคาต่ำกว่า 6,000 บาท ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร อาจเนื่องจากในงานครั้งที่ผ่านมาผู้บริโภคส่วนใหญ่มีประสบการณ์กับเครื่องในระดับราคาดังกล่าวแล้วไม่พึงพอใจ ทำให้เลือกที่จะซื้อสินค้าในระดับราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อแลกกับประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีขึ้น
   
       นอกจากนี้ในส่วนของห้อง Ballroom ที่จัดนิทรรศการให้ความรู้ เทคโนโลยี 3G รวมไปถึงการจัดงานสัมมนา "เปิดโลกไอที พลิกสู่ชีวิตที่ดีกว่า" โดย คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ร่วมกับทีมงานไอที 24 ชั่วโมงและครอบครัวข่าว 3 ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มียอดผู้เข้าร่วมสัมมนาตลอด 4 วันงาน กว่า 4,000 คน
   
       ส่วนงาน “Thailand Mobile Expo 2013 ปลายปี” ครั้งที่ 16 จะจัดขึ้นในวันที่ 3 - 6 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. เป็นต้นไป

http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063318

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.