Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 มิถุนายน 2556 APPLE ปรับแรงสุดใจ++ ยกเครื่อง iOS7 เอียงไปตามมือของผู้ใช้ ภาพกราฟฟิกเคลื่อนไหวแสดงภาพอากาศ (ทิม คุก รู้ดี 7 ใน 10 เป็นแอนดรอยด์ แต่มั่นใจความพึงพอใจไม่ตก)



ประเด็นหลัก




"ทิม คุก" ระบุว่า จากสถิติยอดขายอาจชี้ให้เห็นว่า สมาร์ทโฟนและแท็บเลตของแอปเปิลสูญเสียพื้นที่ในตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่แอปเปิลเชื่อเรื่องการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าของตนเอง เพื่อให้มีประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่ากลุ่มผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแบ รนด์อื่นที่ทำออกมาเพื่อเน้นการแข่งขันในตลาด ทั้งมองว่าชัยชนะในวงการนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า มีจำนวนฐานผู้ใช้มากแค่ไหน

แม้กระนั้น สถิติยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกจากบริษัทการ์ตเนอร์ระบุว่า 7 ใน 10 ของสมาร์ทโฟนที่ขายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ "แอนดรอยด์" ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกของแอปเปิล ลดลงเหลือ 18.2% จาก 22.5% ในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามคำถามที่สำคัญที่สุด คงไม่พ้นเรื่องที่ว่า "แอปเปิล" จะยังคงสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมต่อไปเหมือนผลงานในอดีตได้หรือไม่ ซึ่งความกังวลดังกล่าวนี้ส่งผลต่อมูลค่าหุ้นในปัจจุบันของบริษัทที่ตกลง ประมาณ 37% จากช่วงกันยายนปีที่แล้ว โดย "ทิม คุก" ยอมรับว่า ราคาหุ้นของแอปเปิลตอนนี้น่าผิดหวัง ทำให้บุคลากรในองค์กรรวมถึงนักลงทุนทั้งหลายเกิดความไม่พอใจ



เปิดฉากเวทีประชุมนักพัฒนาประจำปี (Worldwide Developers Conference)บริษัทแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ หนึ่งในเทรนด์ เซตเตอร์ของวงการเทคโนโลยีเป็นไปตามกระแสข่าวแพร่สะพัดก่อนหน้านี้ โดย "แอ๊ปเปิ้ล" ใช้เวทีครั้งนี้เปิดตัวบริการ "ไอทูนส์ เรดิโอ" บริการสตรีมมิ่งเพลงที่รอคอย รวมถึงการปรับปรุงดีไซน์ระบบปฏิบัติการมือถือครั้งใหญ่นับตั้งแต่เปิดตัวพร้อมไอโฟนรุ่นแรกเมื่อปี 2550

โดยซอฟต์แวร์ใหม่หรือ "ไอโอเอส7" มีหน้าตาที่ดูเรียบง่ายมากขึ้น และมีสีสันมากกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า เน้นให้ผู้ใช้งานดูสบายตามากขึ้น และดีไซน์คีย์บอร์ดแบบใหม่ และเปลี่ยนรูปลักษณ์ของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีพื้นหลังเป็นสีขาว และโปร่งแสง รวมถึงการเปิดตัว "คอนโทรล เซ็นเตอร์" สำหรับการจัดการเมนูต่างๆ และวิธีการแชร์ภาพที่ง่ายและมีลูกเล่นสำหรับการแต่งภาพมากขึ้น

รวมทั้งการใช้ "บิง" เป็นเสิร์ช เอ็นจิ้นที่ตั้งค่าเริ่มต้นมาให้แทนกูเกิลสำหรับระบบการค้นหาด้วยเสียง "สิรี" โดยจะเริ่มเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ "ไอทูนส์ เรดิโอ" หนึ่งในฟีเจอร์ที่มีการคาดการณ์กันมากก่อนหน้านี้โดยให้บริการฟรี โดยมีคุณลักษณะที่คล้ายกับบริการวิทยุอินเทอร์เน็ตของ "แพนโดร่า มีเดีย อิงค์" ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรายการวิทยุได้เหมือนเป็นรายการของตัวเอง

งานเดียวกันนี้ผู้บริหารแอ๊ปเปิ้ลยังได้เปิดโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม "แมคบุ๊ค แอร์" ที่มีจุดเด่นที่การใช้หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ "แฮสเวลล์" ของอินเทล ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่นานเกือบเท่าตัวจากรุ่นก่อนหน้ารวมทั้งการพรีวิว "แมคโปร" ที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน





ภายในงานทิม คุก เปิด วิดีโอแนะนำ ฟีเจอร์ต่างๆ ของ iOS7 (ไอโอเอส 7) ก่อนที่ คลาก เฟเดริกี รองประธานฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล ซึ่งเป็นผู้บรรยายในงาน จะแสดงให้เห็นอินเตอร์เฟซโฉมใหม่ ทั้งไอคอน ลูกเล่นใหม่ 'พาเรลแลกซ์ เอฟเฟกต์' ของไอโอเอส 7 ซึ่งจะทำให้มองเห็นเหมือนไอคอน แอพพลิเคชั่นลอยขึ้นเหนือภาพพื้นหลัง และเอียงไปตามมือของผู้ใช้ การใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ไหลลื่นมากขึ้น การปรับปรุงพยากรณ์อากาศที่มีภาพกราฟฟิกเคลื่อนไหวแสดงภาพอากาศ เช่น ฝนตก ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า และนาฬิกาใหม่ ระบบเข็มทิศนำทาง รวมถึงการทำงานที่เป็นมัลติทาส์กกิ้งมากขึ้น ผู้ใช้สามารถเลื่อนแอพที่ใช้ประจำเรียกขึ้นมาจากเมนูทาส์กบาร์ได้ทันที ขณะที่ แอพฯ ที่ใช้ประจำยังอัพเดทอัตโนมัติอยู่เบื้องหลังการทำงานแม้จะปิดหน้าจอ หรือพักเครื่องไว้

การมาของ iOS7 ยังมาพร้อมกับเบราว์เซอร์ซาฟารีใหม่ ที่มีสมาร์ท เสิร์ช แท็บ เหมือนกับ OSX มาเวอริกส์ รวมทั้ง ไอคลาวด์ คีย์เชน ที่เป็นตัวช่วยจดจำพาสเวิร์ด และรหัสบัตรเครดิตของผู้ใช้งานบนไอโฟน และไอแพด ขณะที่ ไอโอเอส 7 ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การอัพเดทแอพพลิเคชั่นอัตโนมัติ สามารถเข้าถึงคอนโทรลเซ็นเตอร์ได้ทุกที่ แม้แต่จากหน้าจอล็อก ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งความสว่างของเครื่อง เสียง เปิด-ปิด ฟังก์ชั่น แอร์ดร็อป ที่ทำมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้แบ่งปันข้อมูล รูปภาพ กับเพื่อนๆ แบบไร้สาย โดยไม่จำเป็นต้องเอาเครื่องไปชนกัน ระบบจัดการรูปภาพใหม่ กล้องที่สามารถถ่ายภาพแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส เพื่ออัพขึ้นเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างอินสตาแกรม ได้พอดี หรือจะเปิดการทำงานของโหมดบนเครื่องบิน และอื่นๆ ได้อย่างไม่ยุ่งยาก









______________________________________






แผนอนาคตยักษ์ "แอปเปิล" ยกเครื่อง 360 องศารักษาเก้าอี้ผู้นำ


ไม่บ่อยนักที่ "แอปเปิล" จะออกมาเปิดเผยวิสัยทัศน์ แผนงาน หรือกลยุทธ์ธุรกิจในอนาคต แต่ในงานสัมมนา D11 : All Things Digital ประจำปี 2556 "ทิม คุก" ซีอีโอ "แอปเปิล" กลับเลือกใช้เวทีนี้เปิดอกทุกประเด็น

"เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัล" รายงานว่า ซีอีโอ "แอปเปิล" ให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนา D11 : All Things Digital เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องที่แอปเปิลยังเป็นบริษัทผู้สร้างเทรนด์ในวงการเทคโนโลยี และบอกเป็นนัยว่าอุปกรณ์ไอทีสำหรับใช้สวมใส่ทั้งหลายอาจมีบทบาทให้เห็นในสาย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทในอนาคต พร้อมกับเปิดเผยด้วยว่า อยู่ระหว่างปรับบุคลากรภายในองค์กร โดยว่าจ้าง "ลิซ่า แจ็กสัน" อดีตหัวหน้าองค์กรกำกับดูแลสภาพแวดล้อม (Environmental Protection Agency) ของสหรัฐอเมริกา เข้ามาดูแลนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม

คำพูดของ "ทิม คุก" ส่วนใหญ่เป็นการปกป้องชื่อเสียงของบริษัทแอปเปิลในแง่ของการยังคงเป็นผู้นำ ในวงการเทคโนโลยี เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีหลายฝ่ายออกมาบ่นว่า บริษัทยักษ์แห่งซิลิกอนวัลเลย์รายนี้ล้มเหลวเรื่องการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่สามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้วงการ โดย "ทิม คุก" ให้สัมภาษณ์ว่า แอปเปิลมีลูกไม้เด็ดที่จะเปลี่ยนภาพรวมการแข่งขันในตลาดไอทีอยู่หลายตัวด้วย กัน ซึ่งบริษัทซุ่มพัฒนามาสักพักหนึ่งแล้ว

เขากล่าวชมเชยผลิตภัณฑ์ FuelBand ของบริษัทผลิตรองเท้ากีฬาชื่อดัง "Nike" ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับติดตามข้อมูลการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้สวมใส่จาก

ข้อ มือและว่า อุปกรณ์สำหรับการสวมใส่รูปแบบนี้อาจเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับวงการ เทคโนโลยี และอุปกรณ์ประมวลผลคอมพิวเตอร์ที่สามารถสวมอยู่บนร่างกายผู้ใช้ได้ มีแนวโน้มเป็นอีกหนึ่งสายผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล

อย่าง ไรก็ตามเขามองว่า แว่นตา "Google Glass" ไม่น่าตื่นเต้นเท่าใดนัก แม้จะเป็นแว่นตาไฮเทคที่ทำให้ผู้ใช้มองเห็นคอนเทนต์จากอินเทอร์เน็ตได้ในทุก ช่วงเวลา และว่าคงเป็นการยากที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์รูปแบบนี้ได้รับความสนใจจากตลาดทั่ว ไป

ก่อนหน้านี้ "เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัล" นำเสนอข้อมูลจากแหล่งข่าววงในตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า แอปเปิลกำลังอยู่ในช่วงคิดค้นรูปแบบดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้าย นาฬิกาข้อมือ ซึ่งมีความสามารถในการทำงานบางอย่างได้เหมือนสมาร์ทโฟน

"ซีอีโอ" แอปเปิลนำข้อมูลสถิติผลประกอบการของบริษัทและความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ "ไอโฟนและ ไอแพด" มาโชว์ และบอกใบ้ว่า บริษัทเตรียมนำเสนอสายผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับโทรทัศน์ในอนาคต แต่เวลาส่วนใหญ่ของการตอบคำถามหนักไปในเรื่องการแก้ต่างในประเด็นการเสีย ภาษีของบริษัทที่ผู้ตรวจสอบภาครัฐของสหรัฐอเมริกามองว่า แม้ไม่ทำผิดกฎหมายแต่พยายามเลี่ยงด้วยสารพัดวิธีที่เป็นไปได้ รวมถึงเรื่องการแข่งขันกับคู่แข่งอย่างซัมซุงมากกว่า

"ทิม คุก" ระบุว่า จากสถิติยอดขายอาจชี้ให้เห็นว่า สมาร์ทโฟนและแท็บเลตของแอปเปิลสูญเสียพื้นที่ในตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่แอปเปิลเชื่อเรื่องการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าของตนเอง เพื่อให้มีประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่ากลุ่มผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแบ รนด์อื่นที่ทำออกมาเพื่อเน้นการแข่งขันในตลาด ทั้งมองว่าชัยชนะในวงการนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า มีจำนวนฐานผู้ใช้มากแค่ไหน

แม้กระนั้น สถิติยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกจากบริษัทการ์ตเนอร์ระบุว่า 7 ใน 10 ของสมาร์ทโฟนที่ขายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ "แอนดรอยด์" ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกของแอปเปิล ลดลงเหลือ 18.2% จาก 22.5% ในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามคำถามที่สำคัญที่สุด คงไม่พ้นเรื่องที่ว่า "แอปเปิล" จะยังคงสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมต่อไปเหมือนผลงานในอดีตได้หรือไม่ ซึ่งความกังวลดังกล่าวนี้ส่งผลต่อมูลค่าหุ้นในปัจจุบันของบริษัทที่ตกลง ประมาณ 37% จากช่วงกันยายนปีที่แล้ว โดย "ทิม คุก" ยอมรับว่า ราคาหุ้นของแอปเปิลตอนนี้น่าผิดหวัง ทำให้บุคลากรในองค์กรรวมถึงนักลงทุนทั้งหลายเกิดความไม่พอใจ

เขา กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทแอปเปิลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคย มีมา ไม่ว่าจะเป็นไอแพดขนาดเล็ก, เครื่องแล็ปทอปของแมคที่มาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูง และซอฟต์แวร์ "ไอทูนส์" ที่มีการยกเครื่องครั้งใหญ่ ซึ่งในปีนี้บริษัทเตรียมพัฒนาซอฟต์แวร์

"ไอโอเอส" สำหรับไอโฟนกับไอแพด รวมถึงระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับเครื่องแมคครั้งใหญ่อีกครั้ง

นอกจากการปรับบุคลากรภายใน และการเตรียมความพร้อมยกเครื่องซอฟต์แวร์ครั้งใหญ่ "แอปเปิล" ยังตัดสินใจปรับโครงสร้างซัพพลายเชนขนานใหญ่

ซี อีโอ "แอปเปิล" ตัดสินใจแบ่งสัดส่วนการผลิตไปให้ซัพพลายเออร์ 2 ราย ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยบริษัทหน้าใหม่ที่จะเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าให้แอปเปิล ชื่อ "เพกาทรอน คอร์ป" (Pegatron Corp) จะรับผิดชอบผลิต "ไอโฟน" ราคาถูกที่น่าจะออกวางตลาดในปลายปีนี้

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ รูปแบบความร่วมมือระหว่างแอปเปิล และบริษัทฟอกซ์คอนน์ เทคโนโลยี ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตผูกขาดเพียงรายเดียวต้องสิ้นสุดลง

แหล่งข่าวที่ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ข้อมูลว่า เหตุผลหลักที่ทำให้แอปเปิลตัดสินใจเปลี่ยนระบบซัพพลาย เพราะบริษัทต้องการกระจายความเสี่ยง หลังจากโรงงานของฟอกซ์คอนน์เกิดปัญหาในปีที่แล้ว จนทำให้ "ไอโฟน 5" จำนวนมากมีตำหนิตั้งแต่เปิดกล่อง

อีกประเด็นมาจากการที่ "แอปเปิล" ต้องการขยายสายผลิตภัณฑ์ของตนเองเพื่อรองรับกับการแข่งขันที่สูงขึ้น จากบริษัทคู่แข่งอย่างซัมซุงและรายอื่น ๆ

"นักวิเคราะห์" กล่าวว่า เพกาทรอนยินยอมรับผลกำไรน้อยกว่าโรงงานคู่แข่ง แต่บริษัทและแอปเปิลเองต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

โดยก่อนหน้านี้ "เพกาทรอน คอร์ป" เริ่มต้นเข้ามาเป็นซัพพลายเออร์ให้ "แอปเปิล" ด้วยการเป็นผู้ผลิตไอโฟนรายย่อยตั้งแต่

ปี 2554 และเริ่มผลิตแท็บเลตไอแพด มินิ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีบุคลากรประมาณ 100,000 คน อยู่ในไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มบุคลากร 40% ในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการปรับตัวรองรับการผลิตไอโฟนราคาถูก

สำหรับ รายได้ของเพกาทรอนในไตรมาสแรกปี 2556 อยู่ที่ 7,400 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราส่วนกำไรที่ 0.8% ค่อนข้างห่างชั้นกับโรงงานรุ่นพี่อย่าง "ฟอกซ์คอนน์" ที่มีรายได้ในไตรมาสแรก 27,300 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีผลกำไร 1.7%



http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1370935695



__________________________




ตามคาดแอ๊ปเปิ้ลปรับดีไซน์ 'ไอโอเอส7' ครั้งใหญ่รอบ 6 ปี


แอ๊ปเปิ้ลจัดชุดใหญ่หวังเรียกเสียงฮือฮา ส่งโฉมใหม่ "ไอโอเอส7" ปรับใหญ่รอบ 6 ปี พร้อมบริการ"ไอทูนส์ เรดิโอ" เจาะคอเพลงและ "แมคบุ๊คแอร์" แบตอึด

เปิดฉากเวทีประชุมนักพัฒนาประจำปี (Worldwide Developers Conference)บริษัทแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ หนึ่งในเทรนด์ เซตเตอร์ของวงการเทคโนโลยีเป็นไปตามกระแสข่าวแพร่สะพัดก่อนหน้านี้ โดย "แอ๊ปเปิ้ล" ใช้เวทีครั้งนี้เปิดตัวบริการ "ไอทูนส์ เรดิโอ" บริการสตรีมมิ่งเพลงที่รอคอย รวมถึงการปรับปรุงดีไซน์ระบบปฏิบัติการมือถือครั้งใหญ่นับตั้งแต่เปิดตัวพร้อมไอโฟนรุ่นแรกเมื่อปี 2550

โดยซอฟต์แวร์ใหม่หรือ "ไอโอเอส7" มีหน้าตาที่ดูเรียบง่ายมากขึ้น และมีสีสันมากกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า เน้นให้ผู้ใช้งานดูสบายตามากขึ้น และดีไซน์คีย์บอร์ดแบบใหม่ และเปลี่ยนรูปลักษณ์ของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีพื้นหลังเป็นสีขาว และโปร่งแสง รวมถึงการเปิดตัว "คอนโทรล เซ็นเตอร์" สำหรับการจัดการเมนูต่างๆ และวิธีการแชร์ภาพที่ง่ายและมีลูกเล่นสำหรับการแต่งภาพมากขึ้น

รวมทั้งการใช้ "บิง" เป็นเสิร์ช เอ็นจิ้นที่ตั้งค่าเริ่มต้นมาให้แทนกูเกิลสำหรับระบบการค้นหาด้วยเสียง "สิรี" โดยจะเริ่มเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ "ไอทูนส์ เรดิโอ" หนึ่งในฟีเจอร์ที่มีการคาดการณ์กันมากก่อนหน้านี้โดยให้บริการฟรี โดยมีคุณลักษณะที่คล้ายกับบริการวิทยุอินเทอร์เน็ตของ "แพนโดร่า มีเดีย อิงค์" ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรายการวิทยุได้เหมือนเป็นรายการของตัวเอง

งานเดียวกันนี้ผู้บริหารแอ๊ปเปิ้ลยังได้เปิดโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม "แมคบุ๊ค แอร์" ที่มีจุดเด่นที่การใช้หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ "แฮสเวลล์" ของอินเทล ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่นานเกือบเท่าตัวจากรุ่นก่อนหน้ารวมทั้งการพรีวิว "แมคโปร" ที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน



http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130611/510548/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%
B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%8A%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%9
B%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0
%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B9%8C-
%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA7-
%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%
E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A-6-%E0%B8%9B%E0%B8%B5.html


_______________________________________________


ตามไปดู iOS 7 ใหม่ชัวร์หรือมั่ว?




       หลังจากเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน WWDC 2013 สำนักข่าว Cnet นำภาพหน้าจอของระบบปฏิบัติการไอโอเอสเซเว่น (iOS 7) มาตั้งคำถามว่ารูปลักษณ์ของ iOS 7 นั้นสดใหม่จริงหรือ? โดยนำมาเทียบกับระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์อย่างวินโดวส์โฟน 8 (Windows Phone 8), แอนดรอยด์เจลลีบีน (Android Jelly Bean) รวมถึงระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่เท็น (BlackBerry 10) เพื่อให้ผู้ชมทุกคนตอบคำถามนี้ด้วยสายตาของตัวเอง



       รูปแบบการใช้งาน iOS 7 ในรูปซ้ายมือ แสดงให้เห็นความสามารถจัดการงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันหรือ multitasking ได้เหมือนกับวิธีที่ Windows Phone 8 และ BlackBerry 10 นำไปใช้ โดยใช้กรอบ 4 เหลี่ยมผืนผ้าเรียงติดกันในการแสดงแอปพลิเคชันที่กำลังเปิดอยู่



       สิ่งที่หายไปจากกล้อง iOS คือปุ่มชัตเตอร์สีเทาขนาดใหญ่ที่มีรูปสัญลักษณ์กล้องถ่ายรูปอยู่ภายใน รวมถึงปุ่มจำลองที่ชาวไอโฟนสามารถเลื่อนเพื่อเลือกถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ คราวนี้ iOS 7 (ภาพซ้าย) ใช้วงกลมเรียบเกลี้ยง และไอคอนกล้องถ่ายภาพไว้ที่ด้านบนของจอ ชวนให้นึกถึงดีไซน์ของ Android ที่ใช้วงกลมสีฟ้าเรียบ คู่กับสัญลักษณ์กล้องโปร่งใสที่ลอยอยู่บนภาพ



       iOS 7 ยังเพิ่มคุณภาพสมบัติสีให้ผู้ใช้แต่งภาพได้ทันทีที่ถ่ายภาพบนแอปพลิเคชัน (ภาพซ้าย) โดยไอคอนแสดงเอฟเฟ็กต์สีสดวงกลม 3 วงสไตล์ช่อง 7 สี กลับถอดแบบไอคอนรูปเดียวกันที่มีอยู่แล้วใน Android Jelly Bean ซึ่งแสดงที่มุมจอด้านล่างซ้าย



       ผู้ใช้หลายคนดีใจว่า iOS 7 จะเปิดให้การตั้งค่าไอโฟนสามารถทำได้ด้วยการ swipe หรือการเลื่อนบนแถบแสนสะดวก (ภาพซ้าย) แต่ขอโทษด้วย คุณสมบัตินี้มีมานานมากแล้วบน Android จุดนี้ทำให้ iOS 7 ถูกมองว่ามีรูปลักษณ์บางส่วนเหมือนส่วนติดต่อผู้ใช้ของซัมซถง Samsung TouchWiz



       นานมาแล้วที่แอป iPhoto บนคอมพิวเตอร์แมคอินทอชนั้นสามารถจับกลุ่มภาพที่ถ่ายในวันเวลาเดียวกันแบบอัตโนมัติ แต่ iOS 7 ถือเป็นระบบปฏิบัติการอุปกรณ์โมบายแรกของแอปเปิลที่สามารถทำงานในลักษณะนั้น ทั้งหมดนี้ผู้ใช้ HTC One ที่มาพร้อมส่วนติดต่อผู้ใช้ใหม่ Sense UI (ภาพขวา) คงจะไม่ตื่นเต้นเพราะสามารถทำได้มานานแล้ว



       ภาพซ้ายคือแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศใหม่บน iOS 7 ซึ่งเห็นชัดเจนว่ารูปแบบสะอาดตาและเรียบง่ายกว่าเวอร์ชันเดิม อย่างไรก็ตาม หากนำไปเปรียบเทียบแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศของ Yahoo จะพบว่ามีส่วนคล้ายกันมาก



       iOS 7 แสดงหน้าโทรเข้าโดยใช้กราฟฟิกน้อยแต่มาก (ภาพซ้าย) ซึ่งมองแล้วให้ความรู้สึกไม่ต่างจากกราฟฟิกโทรเข้าของ Windows Phone 8 ผู้ใช้จะได้เห็นภาพคนโทรเข้าเต็มตา ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตอบกลับสายนี้ด้วยการส่งข้อความ



       วันนี้ iOS 7 ออกแบบ Notification Center หรือศูนย์แจ้งเตือนข้อมูลรูปแบบใหม่โดยใช้แท็บ today และแท็บ all รวมถึง missed เพื่อแบ่งการแจ้งเตือนข้อมูลใหม่, ข้อมูลทั้งหมด และข้อมูลที่พลาดไปอย่างเป็นหมวดหมู่ (ภาพซ้าย) แต่ดีไซน์นี้มองแล้วคล้ายกับรูปแบบ Windows Phone 8 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรูปแบบตัวอักษรที่แทบจะแยกไม่ออก
     
       สรุปแล้ว คุณว่า iOS 7 ดีไซน์ใหม่ชัวร์หรือมั่ว?

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000070273

__________________________________


ตามคาด! แอปเปิลเปิดตัว 'iOS 7' ที่งาน 'WWDC 2013'


แอปเปิล เปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด OSX Mavericks และ iOS7 ในงานประชุมนักพัฒนา WWDC 2013 ตามคาด และจะเปิดให้ดาวน์โหลดช่วงฤดูใบไม้ร่วง ขณะที่ยังเผยโฉมแมคบุ๊ก แอร์ ตัวใหม่ที่เน้นแบตเตอรี่อึด และแมคโปร ดีไซน์เหมือนปิ่นโต เล็กแต่แรงขั้นเทพ...

บริษัท แอปเปิล เปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด ไอโอเอส 7 ในงานประชุมนักพัฒนา WWDC 2013 ในนครซานฟรานซิสโกตามคาด โดยจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอินเตอร์เฟซของอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการไอโอเอสให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น ออกแบบโดย โจนี ไอฟ์ หัวหน้าฝ่ายออกแบบของแอปเปิล โดยเขากล่าวว่า ต้องการให้ระบบดูสะอาดและน่าใช้ขึ้น






ภายในงานทิม คุก เปิด วิดีโอแนะนำ ฟีเจอร์ต่างๆ ของ iOS7 (ไอโอเอส 7) ก่อนที่ คลาก เฟเดริกี รองประธานฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล ซึ่งเป็นผู้บรรยายในงาน จะแสดงให้เห็นอินเตอร์เฟซโฉมใหม่ ทั้งไอคอน ลูกเล่นใหม่ 'พาเรลแลกซ์ เอฟเฟกต์' ของไอโอเอส 7 ซึ่งจะทำให้มองเห็นเหมือนไอคอน แอพพลิเคชั่นลอยขึ้นเหนือภาพพื้นหลัง และเอียงไปตามมือของผู้ใช้ การใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ไหลลื่นมากขึ้น การปรับปรุงพยากรณ์อากาศที่มีภาพกราฟฟิกเคลื่อนไหวแสดงภาพอากาศ เช่น ฝนตก ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า และนาฬิกาใหม่ ระบบเข็มทิศนำทาง รวมถึงการทำงานที่เป็นมัลติทาส์กกิ้งมากขึ้น ผู้ใช้สามารถเลื่อนแอพที่ใช้ประจำเรียกขึ้นมาจากเมนูทาส์กบาร์ได้ทันที ขณะที่ แอพฯ ที่ใช้ประจำยังอัพเดทอัตโนมัติอยู่เบื้องหลังการทำงานแม้จะปิดหน้าจอ หรือพักเครื่องไว้

การมาของ iOS7 ยังมาพร้อมกับเบราว์เซอร์ซาฟารีใหม่ ที่มีสมาร์ท เสิร์ช แท็บ เหมือนกับ OSX มาเวอริกส์ รวมทั้ง ไอคลาวด์ คีย์เชน ที่เป็นตัวช่วยจดจำพาสเวิร์ด และรหัสบัตรเครดิตของผู้ใช้งานบนไอโฟน และไอแพด ขณะที่ ไอโอเอส 7 ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การอัพเดทแอพพลิเคชั่นอัตโนมัติ สามารถเข้าถึงคอนโทรลเซ็นเตอร์ได้ทุกที่ แม้แต่จากหน้าจอล็อก ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งความสว่างของเครื่อง เสียง เปิด-ปิด ฟังก์ชั่น แอร์ดร็อป ที่ทำมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้แบ่งปันข้อมูล รูปภาพ กับเพื่อนๆ แบบไร้สาย โดยไม่จำเป็นต้องเอาเครื่องไปชนกัน ระบบจัดการรูปภาพใหม่ กล้องที่สามารถถ่ายภาพแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส เพื่ออัพขึ้นเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างอินสตาแกรม ได้พอดี หรือจะเปิดการทำงานของโหมดบนเครื่องบิน และอื่นๆ ได้อย่างไม่ยุ่งยาก

ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาสิ่งต่างๆ ผ่านเสิร์จเอนจิน บิง (Bing) ด้วยคำสั่งเสียงของสิริ (Siri) ซึ่งถูกพัฒนาให้เลือกเสียงเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ สามารถตอบโต้ทวิตเตอร์ได้ รวมถึงเปลี่ยนภาษาที่ใช้เป็นภาษาอื่นๆ เช่น เยอรมนี หรือฝรั่งเศสได้ ที่มากไปกว่านั้น iOS7 ยังมากับ iTunes Radio ที่เป็นการค้นหาเพลงจากเพลย์ลิสต์ของคนรอบข้างผ่านไอคลาวด์ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกแนวเพลงที่ต้องการฟัง ระบบก็จะเลือกเพลงที่เป็นแนวดนตรีแบบเดียวกันเปิดให้ต่อเนื่อง โดยหากเลือกแพ็กเกจจ่ายเงินรายปี หน้าจอการใช้งานจะไม่มีโฆษณาโผล่มาให้รำคาญใจเลย

ในด้านความปลอดภัยบน iOS7 นอกเหนือจากฟังก์ชั่น Find My iPhone ที่ใช้ตามหาเครื่อง และส่งข้อความไปยังเครื่องเราได้แล้ว ผู้ใช้งานยังจะได้ฟังก์ชั่น Activation Lock ที่สามารถสั่งงานให้เครื่องจัดการล็อกตัวเองไม่ให้ผู้อื่นใช้งานไอโฟนของเราได้ และสามารถแบ็กอัพข้อมูลในเครื่องกลับมาทางไอคลาวด์ได้อีกด้วย หรือใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว สามารถบล็อกเบอร์โทรศัพท์ และเฟซไทม์บนไอโฟน5 ได้แล้ว ทั้งนี้เครื่องที่สามารถอัพเดท iOS7 ได้ คือ ไอโฟนตั้งแต่ ไอโฟน4 ขึ้นไป ไอแพดมินิ ไอแพดตั้งแต่ไอแพด2 ขึ้นไป และไอพอดทัช Gen5 อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางตัวใน iOS7 อาจไม่สามารถใช้งานได้ในอุปกรณ์รุ่นเก่าบางรุ่น






แอปเปิลยังเปิดตัว ระบบปฏิบัติการ OS X Mavericks (มาเวอริกส์) โดยแอปเปิลตัดสินใจเลิกที่จะยึดติดชื่อระบบปฏิบัติการที่เป็นชื่อแมว หรือ สัตว์ตระกูลเสือ สำหรับ OS X Mavericks ประสิทธิภาพการทำงานจะรวดเร็วกว่าเวอร์ชั่นเดิม แอพพลิเคชั่นไม่หน่วงการทำงานซีพียู และเปิดทำงานเร็วขึ้น 72% สำหรับเครื่องไอแมค และแมคบุ๊ก มีความสามารถในการเข้าถึงซอฟต์แวร์แผนที่ของแอปเปิล ผ่านแอพพลิเคชั่นใหม่ สามารถอ่านหนังสือที่ซื้อจากไอบุ๊ก และแท็กไฟล์ได้เพื่อเก็บและจัดการไฟล์ได้อย่างเป็นระบบ รองรับการทำงานแบบมัลติทาส์กดิสเพลย์ ที่ผู้ใช้งานสามารถโยนงาน หรือไฟล์เอกสารไปมาระหว่างหน้าจอได้ รวมทั้งการอัพเกรดประสิทธิภาพของเบราว์เซอร์ซาฟารี ที่กินแรมน้อยลง และทำงานเร็วกว่าโครมและไฟร์ฟ็อกซ์ถึง 3 เท่า

แอปเปิลยังเปิดตัว แมคบุ๊กแอร์ รุ่นใหม่ โดย ฟิล ชิลเลอร์ รองประธานฝ่ายการตลาดโลก ระบุว่า แมคบุ๊กแอร์ใหม่นี้มีจอ 2 ขนาด คือ 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ใช้โปรเซสเซอร์อินเทล คอร์ เจนเนอเรชั่น 4 แบบประหยัดพลังงาน และฮาร์ดดิสก์แบบแฟลชรุ่นใหม่ที่ความจุมากกว่ารุ่นเดิม 2 เท่า ช่วยให้แบตเตอรี่ของเครื่องสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นเป็น 9 และ 12 ชม.ตามลำดับ มีความจุให้เลือก 2 ขนาด คือ 128GB และ 256GB โดยสำหรับรุ่น 11 นิ้ว ราคาอยู่ที่ 999 และ 1,199 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ ที่ 1,099 และ 1,299 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น 13 นิ้ว

ก่อนลงจากเวที ชิลเลอร์ยังเปิดตัว แมคโปร รุ่นใหม่มีรูปทรงกระบอก สีดำมันวาว ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลผล ซีออน อี5 ของอินเทล 12 แกนประมวลผล และใช้ชิปประมวลผลกราฟิก ไฟร์โปร ของ เอเอ็มดี (AMD) 2 ตัว แอปเปิลเน้นว่า สามารถรองรับการแสดงภาพความละเอียดระดับ 4K และสามารถต่อกับจอแสดงผลพร้อมกัน 3 จอ อีกทั้งยังมากับพอร์ตเชื่อมต่อแบบใหม่ "ธันเดอร์โบลต์2" ที่ให้อัตราการเชื่อมต่อข้อมูลเร็วกว่าเดิม









โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/350482


________________________________



แอปเปิลส่ง OS X Mavericks ลงแมค พร้อมปรับโฉม iOS 7 ใหม่หมด



     
       แอปเปิลจุดพลุ OS X Mavericks พร้อมปล่อยให้ดาวน์โหลดในช่วงกันยายน ส่วนเวอร์ชันทดสอบสำหรับนักพัฒนาดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
     
       โดย OS X Mavericks มีสิ่งที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
     
       Finder Tabs ในส่วนของ Finder จะมาพร้อม Tab ด้านบนเหมือนใน Safari เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน Finder หลายหน้าต่าง (หมดปัญหาเวลาก๊อบปี้ไฟล์งานแล้วต้องเปิด Finder หลายหน้าต่างให้สับสน Tab จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้)
     
       Tags สามารถติดแท็กให้ไฟล์เอกสารต่างๆ ทั้งจากแอปฯ Pages ไฟล์วิดีโอ รูปภาพ เพื่อแยกหมวดหมู่ได้ชัดเจน และการค้นหาเอกสารจะทำได้ง่ายขึ้น
     
       Multiple Displays ผู้ใช้สามารถใช้ OS X Mavericks บนหลายหน้าจอได้ ซึ่งแตกต่างจากการโคลนหน้าจอปกติตรงที่ Multiple Displays จะทำงานแยกกันชัดเจน เช่นหน้าหนึ่งเปิดแอปฯ และเอกสารหนึ่งอยู่ อีกหน้าหนึ่งสามารถเปิดอีกแอปฯ และขยายแบบ Full Screen ได้ โดยการทำงานทั้งหมดจะแยกออกจากกันและผู้ใช้สามารถสั่งงานได้อย่างอิสระ และการเชื่อมต่อ Multiple Displays สามารถทำผ่าน AirPlay
     
       Safari จะมีการปรับปรุงหน้าตาของ Sidebar ส่วนของ Bookmarks, Reading List ใหม่ พร้อมผนวกการแชร์ลิงก์ไปยัง Twitter และ LinkedIN และปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ในขณะที่การบริโภคซีพียูจะต่ำลง
     
       Mailbox มีการปรับปรุงให้รองรับจดหมายสูงสุด 100,000 ฉบับและใช้งานได้รวดเร็วขึ้น
     
       iBook ใน OS X Mavericks จะมีการเพิ่ม iBook ลงไปแบบเดียวกับบน iOS Device และสามารถเรียกหนังสือมาอ่านข้าม Device กันได้
     
       Calendar and Maps แผนที่ Apple Maps จะมาปรากฏบน OS X Mavericks สามารถใช้งาน flyover 3D อีกทั้งแผนที่จะมีการผูกกับปฏิทินเพื่อใช้กำหนดสถานที่ในการนัดหมาย รวมถึงตรวจดูสภาพอากาศในวันนัดหมายได้ด้วย
     
       นอกจากนั้น OS X Mavericks ยังบริโภคซีพียูน้อยลงถึง 72% และมีประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้น
     
       **รวมไอโฟนกับ OS X Mavericks ให้เป็นหนึ่ง**
     
       หลายฟีเจอร์ที่มีใน OS X Mavericks ชี้ให้เห็นว่าถึงยุคที่แอปเปิลจะทำให้ไอโฟนเป็นหนึ่งเดียวกับ OS X อย่างเช่นระบบ Notifications ที่สามารถดึงระบบแจ้งเตือนบนไอโฟนให้มาปรากฏบน OS X Mavericks ผ่าน iCloud ได้ นอกจากนั้นแอปเปิลยังได้เปิดตัวแอปฯ Maps บน OS X Mavericks ที่จะช่วยผู้ใช้สามารถค้นหาสถานที่ผ่าน Apple Maps และซิงค์กับ Maps บน iOS Deivce ได้ผ่าน iCloud
     
       **iCloud Keychain**
     
       ในส่วนบริการ iCloud ทางแอปเปิลได้มีการพัฒนาเพิ่มความสามารถใหม่ในชื่อ iCloud Keychain ที่จะช่วยเก็บ Password เว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึงบัตรเครดิตไว้บน iCloud ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ OS X Mavericks จะได้ไม่ต้องจดจำ Password และเผลอลืมอีกต่อไป
     
       **iWork for iCloud ปรับโฉมใช้ข้ามระบบปฏิบัติการได้**
     
       มาถึงบริการ www.icloud.com กับการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้งในชุด iWork for iCloud (Pages, Keynote, Numbers) ที่ขยายขีดความสามารถในการแก้ไข ปรับแต่ง ใส่เอฟเฟกต์ในเอกสาร รวมไปถึง Upload ไฟล์จาก Mac หรือพีซีเข้ามาไว้บน iWork for iCloud และสามารถทำงานข้ามระบบได้ทั้งจาก Safari ไป IE บน Windows 8 หรือ Google Chrome ก็สามารถใช้งาน iWork for iCloud ได้อย่างไม่มีปัญหา
     

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000070056


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.